เพิ่งมีข่าวลือไปว่า Galaxy S III จะได้อัพเดตเป็น Jelly Bean ภายในสิ้นเดือนนี้ ก็มีตัวรอมหลุดมายืนยันว่าซัมซุงทำเสร็จแล้วจริงๆ
ตัวรอมที่ SamMobile เอามาให้ดูนั้นเป็นรหัส I9300XXDLG4 ที่บิลด์ไปเมื่อวันที่ 31 กรกฏาคม ซึ่งยังเป็นตัวก่อนปล่อยจริง
สำหรับฟีเจอร์ที่เพิ่มขึ้นมามีดังนี้
ใครที่มีเครื่องอยู่ในมือสามารถหาตัวเฟิร์มแวร์ลองได้ตอนนี้เลย แต่ SamMobile แนะนำให้รอตัวจริงที่จะปล่อยในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้าจะดีกว่า
ที่มา - SamMobile
Comments
"จับภาพหน้าจอด้วยการใช้ฝ่ามือปาด"
อันนี้ S III ROM ICS ตอนนี้ก็ใช้ได้อยู่แล้วนะครับ
+1 ใช้ได้เหมือนกัน
I need healing.
นึกว่า S3 ICS ใช้ข้อมือปาดไม่ใช่เหรอครับ ลองใช้ฝ่ามือปาด นิ้วทั้งหมดปาดก็ไม่ได้ ต้องข้อมือปาด
สันมือครับ
มีตั้งแต่แรกแล้วดังทุกท่านว่ามา
Built น่าจะอ่านว่าบิวท์นะ
นั่นมันช่องสองนิ
ผมว่าวิธีการประชาสัมพันธ์แนว "หลุด" "ลือ" "มือดีปล่อยข่าว" มันกลายเป็นวิธีหลักในการประชาสัมพันธ์ไปแล้วมั้ง
เดาว่าวิธีนี้มีประโยชน์ตรงที่ไม่ต้องรับผิดชอบคำพูดตัวเอง ... ทำไม่เสร็จตรงเวลาก็ไม่เป็นไร ... บอกแล้วว่ามันเป็นข่าว "หลุด"
ใช่ครับ ว่ากันง่ายๆ sammobile (samfirmware) ก็คือที่ปล่อยรอม beta test เอาให้ dev ไปเล่นกันนั่นเอง
another leak : I9300XXBLH4
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ตั้งใจหลุดบ่อยจัง
Google Now มีประโยชน์อย่างไรหรือครับ แล้วตัวเจ้า 4.1 นี่จะทำให้เครื่องเร็วขึ้นหรอครับ
another leak : I9300XXDLH6 dated 2012.08.21
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ใช้ Galaxy S III อยู่แน่ๆ lol
ใช่ครับ xD
Android ใช้ 2 ตัวคือ XS กับ S3 บอกตามตรงว่าชอบ S3 มากกว่าแฮะ > <"
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
เพราะ?
อยากฟังจากผู้ใช้งานที่มีความ geek พอตัวครับ (เดาว่าน่าจะคล้ายๆ ตัวผมเอง)
เปรียบเทียบเป็นส่วนๆนะครับ ต้องบอกก่อนว่าผมใช้ stock kernel/ROM ICS ทั้งคู่
build quality: ทั้งคู่เป็นพลาสติกครับ แต่น่าจะเป็นพลาสติกคนละชนิดกัน ผมชอบพลาสติกด้านๆของ XS มากกว่า และตัวกระจกหน้าจอของ XS นั้นมีความหนามากกว่า(รวมถึงเล็กกว่าด้วย) ทำให้กันแตกได้ดีกว่า ผมเคยทำเจ้า XS ตกโดยตกโดนมุม พบว่ากระจกไม่แตกครับ แต่พลาสติกมุมที่ตกนั้นเป็นรอยบุบแทน(ถ้าสนใจจะถ่ายรูปมาให้ดูครับ) จากนั้นเลยเข็ดซื้อ flipcase มาใส่ทั้ง XS และ S3 ครับ แต่ถ้าใช้เปลือยๆและไม่กลัวตกแตก S3 เป็นมือถือที่ยิ่งจับก็ยิ่งชอบครับเพราะมันได้ฟีลนุ่มนวลดี (ต่างจาก i4/i4s ที่ออกแนวแข็งๆ อันนี้คงแล้วแต่คนชอบ) แต่หลังจาก XS ตกผมก็ไม่กล้าใช้มันแบบเปลือยๆอีกหล่ะครับ เสียวตกแตก
ปุ่มสัมผัสแบบ capacitive นั้น S3 มี responesive ที่ดีกว่า XS มากครับ คือแตะทีเดียวแล้วได้เลย ในขณะที่ XS นั้นแปลกๆคือบางทีก็กดติดบางทีก็กดไม่ติดโดยเฉพาะปุ่ม back ที่ต้องกดกันหลายที(มาก) ในขณะเดียวกัน ผมไม่ชอบปุ่ม home แบบ S3 ที่เป็น analog button และต้องออกแรงกดเหมือน i4/4s และทำให้ใช้งานมือเดียวยากด้วย เวลาใช้งานจริงของ S3 ผมมักจะกด back รัวๆเพื่อกลับไป homescreen มากกว่าในกรณีที่ไม่ต้องการใช้งาน multitask
เรื่องอื่นเช่นถาดใส่ซิม ตำแหน่งต่างๆ ผมถือว่าเป็นความชอบส่วนตัวและขอไม่พูดถึงละกันครับ
hardware: สำหรับ SoC นั้นผมให้ exynos4Q ของ S3 ชนะ QualcommS3 ในเกือบทุกๆด้านครับ 4 cores(ที่ใช้ได้จริงๆอันนั้นจะพูดในส่วนของ software) memory rate แบบ dual vs single channel เทคโนโลยีการผลิต 32nm vs 45nm และ Mali GPU ที่ต้องการ memory allocation/bandwidth ต่ำและยังสนับสนุน codec มากมายมหาศาลครับ ข้อเสียของ Mali ก็คือเป็น GPU ที่ undocumented, proprietary, closed source ทำให้ยากต่อการพัฒนาสำหรับนักพัฒนาภายนอกมากครับ สรุปว่า exynos เร็วกว่า ประหยัดไฟกว่า เย็นกว่า'มาก' และครอบคลุมมากกว่า
คุณภาพของกล้องในที่มืดนั้น XS ดีกว่าชัดเจนโดยผมสามารถถ่ายในที่ที่มีแสงน้อยมากๆได้โดยไม่ต้องเปิด flash/ปรับ exposure เพิ่ม ส่วนคุณภาพของภาพปกตินั้นใกล้เคียงกันครับ
ตัวจอที่เป็น LCD กับ pentile AMOLED นั้นผมมองแล้วความชัดเจนไม่มีความแตกต่างกัน(ตาอาจจะไม่ถึง) ที่ชัดเจนมากคืออุณหภูมิสีที่ค่า default ของ S3 นั้นจัดเกินไปมาก ตรงนี้พอเข้าใจได้อยู่ว่าสำหรับ AMOLED นั้นสีแนวสดจะประหยัดไฟกว่า ซึ่งใครไม่ชอบก็ปรับเป็นอุณหภูมิสีปกติได้ครับ
software: บอกตามตรงว่า นอกจากฟีเจอร์ที่มากับ ICS ปกติกับโปรแกรมที่ได้รับการปรับปรุงโดย Sony อย่าง Gallery, Movies(ซึ่งผมไม่ได้ใช้โปรแกรมสองตัวนี้อยู่แล้ว), Walkman(อันนี้ชอบมากจนต้องเอาไปใส่ S3) แล้ว Sony เป็นหนึ่งในบริษัทที่ทำ ICS ได้แย่ที่สุด(กลับกันจาก Gingerbread ที่ผมว่า Sony ทำได้ดีมาก) คือมันไม่มีการพัฒนาอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันคือมันเหมือน Gingerbread เกือบทุกอย่าง แม้แต่ launcher, TimeScape ยังเป็นแบบ gingerbread เลย(กระตุกนิดๆเหมือนกันด้วย เหมือนกับ port code มาใช้โดยที่ไม่ได้พัฒนาเพิ่ม) จนผมต้องย้ายไปใช้ Apex launcher แทน แถมยังมีปัญหา wake-lock ยุบยิบอีกด้วย
กลับกันกับ S3 (ผมไม่เคยใช้มือถือซัมซุงเครื่องอื่นมาก่อน เคยแตะเพื่อลง ROM/kernel ให้คนอื่นบ้างแต่ก็ไม่ได้ลองใช้งานเลยไม่รู้ว่ามีพัฒนาการอย่างไร) ICS ของ S3 นั้นแทบจะเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ ตั้งแต่ TW4 ที่ใช้เป็น launcher จริงได้เลย, power control ในแถบ notification, app shortcut บน lockscreen, การ optimization ต่างๆเช่น PegasusQ governor ที่ทำให้ลืม governor แบบเก่าๆอย่าง ondemand/conservative ไปได้เลย(เป็นเหตุผลที่ทำให้ multicore ใช้งานได้'ดี'จริง), Touch Boost ที่เร่งความเร็ว CPU จาก idle เป็นความเร็วที่กำหนด(800MHz) เมื่อแตะหน้าจอเพื่อเพิ่ม responsiveness โดยฟีเจอร์นี้จะมีใน JB แต่ซัมซุงพัฒนาเพื่อมาใช้ใน ICS ก่อน
นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆเช่น แบตเตอรี่,พื้นที่,ฟีเจอร์เฉพาะ,ความร้อน ที่ผมคิดว่าไม่สำคัญเท่าไหร่ โดยสรุปแล้วหากซื้อมือถือมา'เพื่อใช้งาน' S3 ดีกว่า XS มากครับ แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าราคาปัจจุบัน XS อยู่ที่ 15990 ส่วน S3 อยู่ถึง 21900 ครับ ต่างกันราว 6 พันเลยทีเดีย
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
อืม ... แสดงว่าชอบฟีลทั้งสัมผัสที่ได้และซอฟแวร์จริงๆ
คือผมไปลองใช้มาแล้ว ... เรื่องสัมผัสที่ได้นั้นมีข้อเสียอย่างเดียวคือ มันเบา ... ผมไม่ชอบของที่เบาขัดกับขนาด ... รู้สึกไม่แข็งแรง
อีกข้อที่สำคัญคือ มันเป็นของซัมซุง ... คือผมไม่ชอบจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจแบบซัมซุงมั้งครับ ... อธิบายไม่ถูกเหมือนกันแฮะ อันนี้ไม่ใช่เหตุผล แต่เป็นอารมณ์ล้วนๆ เลยครับ
ลืมบอก ... ตอบได้ละเอียดโดนใจมากครับ
เรื่องสัมผัสนั้นบอกตามตรงว่าจับครั้งแรกไม่ชอบเอา'มากๆ'เหมือนกันครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)