(คัดลอกเนื้อความบางส่วนมาตรงๆ โดยไม่ได้แก้ไข ต้องการอ่านฉบับเต็ม ดูได้จากลิงก์ข้างล่าง)
ดร. บอนนี่ ดอคเฮอตี้ อาจารย์ผู้ดูแลประจำแผนงานสิทธิมนุษยชน ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด จะเป็นผู้นำทีมคณะนักวิจัยมายังประเทศไทยในช่วงต้นเดือนมกราคม
...ทีมงานจะพิจารณาการปิดกั้นและคัดกรองเว็บในปัจจุบัน ซึ่งกระทำโดยหน่วยงานรัฐบาลไทยจำนวนหนึ่ง ที่เด่นชัดก็คือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร, และการสื่อสารแห่งประเทศไทย ทีมงานจะสืบสวนหาความจริงเกี่ยวกับสถานการณ์อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการแสดงออกอย่างเสรี และจะใช้ข้อมูลเหล่านี้ในบริบทที่กว้างกว่า เกี่ยวกับประเด็นสิทธิมนุษยชน
เนื่องจากการเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ตในประเทศไทยทั้งหมดนั้น กระทำอย่างปกปิดเป็นความลับ เราจึงตั้งใจอย่างจดจ่อที่จะรอรับฟังเสียงตอบรับจากรัฐบาลไทย ต่อการพิจารณาอย่างละเอียดระหว่างประเทศ จากมหาวิทยาลัยที่เป็นที่เคารพนับถืออย่างฮาร์วาร์ด...
Comments
จุดจบแห่งโครงการตาวิเศษ?
เป็นการเป็นงานสักที หึหึ
สาธุ
เรื่องการเซ็นเซอร์ข้อความ อาจจะไม่ได้ผิดกฏหมายระหว่างประเทศ แต่ค่อนข้างคาบลูกคาบดอกเกี่ยวกับปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ข้อ 18 19 20 22 27 28 และ 30
ถ้าถามว่าการเซ็นเซอร์ผิดกฏหมายไทยไหม ตอบว่าไม่รู้ (เคยคิดว่าผิดเพราะขัดรัฐธรรมนูญปี 2540 มาตรา 39 40 และ 41 แต่รัฐธรรมนูญตอนนี้ไปพักผ่อน) มีความเห็นซึ่งต้องอธิบายยาวหน่อย คือมีบางอย่างทำให้บางคนไม่สบายใจ บางอย่างอันนั้นบางทีอาจผิดกฏหมายด้วยซ้ำไป แต่การเลือกที่จะเซ็นเซอร์เหมือนเป็นการซุกขยะไว้ใต้พรม ทำเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น หากบางอย่างนั้นเป็นการละเมิดกฏหมาย แทนที่จะปฏิบัติให้เป็นไปตามกฏหมาย กลับเลือกที่จะปิดบังไม่ให้คนรู้เห็น-แล้วปล่อยให้การกระทำผิดดำเนินต่อไป ผมว่าอย่างนี้แหละผิด...แต่มันก็แค่ความเห็นนะ
จุดจบของ favicon.ico not found แหกตาเด็ก
^^
ตลกดี จริง ๆ แล้วหลาย ๆ ประเทศก็มีการปิดกั้นอินเทอร์เน็ตอยู่แล้ว เพื่อความมั่นคงของประเทศหรือเพื่ออะไรหลาย ๆ อย่างซึ่งบางเหตุผล คิดว่ามีนสมเหตุสมผลอยู่พอสมควร เช่น ดูหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ยุยงส่งเสริมให้เกิดการแตกแยกระหว่างประเทศหรือภายในประเทศเอง สมควรที่จะัปิดกั้นเป็นอย่างยิ่ง ให้ประเทศที่พูดภาษาไทยอ่านภาษาไทย ไม่คล่องหรือว่าไม่แตกฉานมาพิจารณาว่าอันไหนควรหรือไม่ควร ผมไม่เห็นด้วยเท่าไหร่
กรณีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพก็ผิดกฏหมาย เรื่องของความมั่นคงก็มีกฏหมายเกี่ยวกับความมั่นคง ก็ทำไปตามนั้นซิครับ ไม่ได้ว่าอะไรเลย
เมืองไทยมีกฏหมายไทยเป็นกติกาสังคม ที่รับไม่ได้คือการที่เห็นสิ่งผิดกฏหมายแล้วไม่ทำให้เป็นไปตามกฏหมาย แต่เลือกใช้วิธีซุกไว้ แล้วหลอกตัวเองว่าแก้ปัญหาไปแล้วต่างหาก
* "ไทย"อันดับ 5 โลกแพร่เว็บ"ลามก" -- ข่าวมติชน * นายตำรวจวิจารณ์การปิดกั้นเว็บ -- ข่าวไทยโพสต์
ได้ยินกับหู เมื่อครั้งไปสัมมนาร่างพรบ.ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ท่าน ญาณพล ยั่งยืน ผู้บัญชาการสำนักคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ยังยอมรับเองเลย ว่าการเซ็นเซอร์เว็บทุกวันนี้ ไม่มีกฎหมายรองรับ -- เลยจำเป็นต้องมีพรบ.ที่่ว่าออกมา จะได้ทำได้อย่างถูกกฎหมาย ... พูดง่าย ๆ ทุกวันนี้ที่ทำ ทำเกินอำนาจ เกินกว่าที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้
รัฐบาลคงไม่ตอบรับมั๊ง ไม่งั้นเดี๋ยวทำอะไรไว้โดนแฉหมด หน้าแตกหมอไม่รับเย็บอีก :p
หมายความว่าหากว่ากฎหมายยังไม่รองรับ เราไม่สามารถจะจัดการอะไรได้เลย รอจนกระทั่งกฎหมายออกมาก่อนค่อยว่ากัน ผมว่าแบบนี้มันเป็นการทำแบบวัวหายล้อมคอกมากกว่า สิ่งไหนที่ไม่ดีก็กันไว้ก่อนไม่ดีกว่าหรือแล้วค่อยเอากฎหมายมาว่ากัน มันจะดีกับคนทั้งประเทศมากกว่า ไม่ใช่เอะอะอะไรก็เสรีภาพ มันน่าจะมีขอบเขตที่เหมาะสมมากกว่า ถ้าพูดถึงอินเทอร์เน็ตไม่ใช่ว่าเด็กทุกคนจะคิดได้ หรือว่าคิดเป็นว่าอันไหนดีไม่ดีเมือน ๆ กันหมด ผู้ใหญ่ต้องคอยสอดส่องดูแลร่วมด้วยเพื่อให้เด็ก ๆ นั้นปลอดภัยจากการใช้อินเทอร์เน็ต แล้วจะแน่ใจได้อย่างไรว่าคนที่มาตรวจสอบนั้นมาด้วยจิตใจที่มีความเที่ยงตรงหรือว่ามีเลศนัยแอบแฝงอยู่
prugsadee - แล้วอะไรคือสิ่งที่ดี อะไรคือสิ่งที่ไม่ดีล่ะครับ ใครเป็นคนติดสินใจในเรื่องนี้หรือ ครึ่งปีก่อนเราโวยวายว่ารัฐบาลแทรกแซงสื่อ วันนี้เราก็มองเห็นว่ามันเป็นความชอบธรรม แล้วรอให้อีกสามสี่ปีเราออกมาโวยวายรัฐบาลอีกครั้งเป็นวนเวียนอย่างนี้ไปเรื่อยๆ น่ะหรือครับ
คุณบอกว่าจะแน่ใจได้ยังไงว่าคนตรวจสอบนั้นเที่ยงตรง แต่ตอนนี้น่ะไม่มีใครรู้กระทั่งว่าคนตรวจสอบเป็นใคร ไม่มีใครรับผิดชอบอะไรเมื่อเกิดความผิดพลาดและความเสียหายจากการบล็อกแบบเหมารวม
ถ้ารัฐเองมีข้ออ้างจะทำโน่นทำนี่เกินกฏหมายได้เรื่อยๆ แล้วเราจะมีกฏหมายไปทำไมกันล่ะครับ ------ LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
ผมค่อนข้างเห็นด้วยกับคุณ prugsadee นะ อาจเป็นเพราะผมไม่ได้รับความเสียหายจาก มาตรการ ที่รัฐทำอยู่ แต่รัฐก็ควรทำให้เปิดเผย หรือมีช่องทางในการให้ผู้ใช้บริการเวบไซต์นั้น หรือผู้ที่รับผิดชอบได้มีโอกาสได้ อธิบายหรือ ชี้แจง ก่อน ส่วนประเด็นการเข้ามาตรวจสอบของ ฮาร์วาร์ด นั้น ขอถามว่า ได้รับมอบอำนาจ จากหน่วยงานใด
prugsadee: โดยส่วนตัวผมก็เห็นด้วยนะครับ ว่าเนื้อหาบางส่วนควรจะเซ็นเซอร์ (ตัวอย่างง่ายๆ ที่ทุกคนเห็นตรงกันเกือบหมดคือการทำอนาจารเด็ก) เพียงแต่วิธีการของรัฐบาลไทย (ในที่นี้คงเป็นกระทรวง ICT) ทำมันไม่โปร่งใสเท่านั้นเอง ถ้าอธิบายได้ว่าทำไมต้องเซ็นเซอร์เว็บนั้นเว็บนี้ ผมเชื่อว่าไม่มีปัญหา อันที่มีปัญหาคือโมเมเอาเว็บอื่นๆ ไปเซ็นเซอร์ด้วยต่างหาก
freeman: คิดว่าคงออกมาในรูปการวิจัยครับ เผอิญมีชื่อฮาวาร์ดแปะมาด้วย เลยทำให้มันมีน้ำหนักในวงกว้างเท่านั้นเอง
freeman - ผมไม่เชื่อว่านี่เป็นเรื่องที่ "ควร" ทำให้เปิดเผยนะครับ แต่มันเป็นเรื่องที่ "ต้อง" ทำให้เปิดเผย ต้องมีช่องทางและกระบวนการในการตวจสอบที่ชัดเจน และเชื่อถือได้
ผมไม่เชื่อในกระบวนการของ ICT ทุกวันนี้ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง ในเชิงเทคนิคแล้วผมเชื่อว่าคนที่รับผิดชอบเรื่องนี้ขาดความรู้ความสามารถในเชิงเทคนิคอย่างรุนแรง เคยมีการบล็อกจนสร้างความเสียหายให้กับผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องหลายต่อหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการบล็อกเซิร์ฟเวอร์บางตัวของกูเกิล หรือจะเป็นการใช้คำสำคัญที่ทำให้เว็บที่ไม่เกี่ยวข้องถูกบล็อกไปเป็นจำนวนมาก
ในแง่ของการเมืองและประชาธิปไตยก็อย่างที่ผมบอกไป ว่าหากรัฐเพิ่มอำนาจให้ตัวเองได้ตามใจชอบอยู่เรื่อยๆ คงอีกไม่นานที่เราจะปกครองกันด้วยระบบเผด็จการ แล้วบอกว่านั่นคือประชาธิปไตย์เหมือนเมื่อหลายสิบปีก่อน
ในแง่ของสังคมแล้ว ผมว่าพ่อแม่ควรเข้าใจไว้ให้ชัดเจนว่าการที่ ICT บล็อกเว็บมันไม่ได้ทำให้ลูกของเขาไม่สามารถเข้าถึงสื่อลามกได้ มันอาจจะยากขึ้นอีกสักหน่อย แต่เทคนิคการเข้าถึงเว็บเหล่านั้นโดยหลบกระบวนการของ ICT ทั้งไม่ได้ยากเกินที่เด็กมัธยมจะทำได้ ไม่รู้ว่าเป็นผมคนเดียวรึเปล่าที่เคยได้เห็นเด็กตามร้านเน็ตบอกต่อๆ กันถึงวิธีการหลีกเลี่ยงกระบวนการพวกนี้ไปอย่างง่ายดาย ผมไม่เชื่อว่าการแก้ปัญหาแบบนี้จะช่วยอะไร ตรงข้ามมันไปสร้างความหวังลมๆ แล้งๆ ให้กับพ่อแม่ว่าปัญหานี้ได้รับการจัดการโดยรัฐไปเรียบร้อยแล้ว โดยที่พ่อแม่ไม่ต้องทำอะไร
ถ้าพ่อแม่จะกังวลเรื่องที่ว่าลูกดูสื่อลามก ผมว่ามันก็เป็นหน้าที่ของพ่อแม่เองล่ะครับที่จะต้องดูแลและตรวจสอบการใช้งานอินเทอร์เน็ตของลูกอย่างต่อเนื่อง ------ LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
ผมเห็นด้วยกับ lew ในเรื่องของวิธีการที่ ต้องทำให้เปิดเผย ช่องทางหรือกระบวนการที่ชัดเจน ครับ และ ประเด็นเรื่อง ฝีมือ ของคนที่รับผิดชอบ ใน กระทรวง ICT แต่ประเด็นเรื่องสังคมนั้น การที่รัฐได้สร้างเกราะหรือภูมิคุ้มกันให้เยาวชนของเรา ในการเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมกับตัวเค้านั้น เป็นเรื่องที่ผมคิดว่าควรทำครับ การที่เราจะบังคับให้พ่อแม่ ต้องเข้าใจหรือให้ตรวจสอบการใช้งานของบุตรหลานเองนั้น ผมคิดว่า ถ้าท่านเหล่านั้นทำได้ก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าเรายังมีช่องว่างระหว่างคนที่รู้ กับคนที่ไม่รู้เรื่องราวเกี่ยวกับเทคโนโลยี อยู่อีกมากพอสมควร ครับ
ในเรื่องของสื่อลามก (อบายมุข ฯลฯ) ผมก็ยังเชื่ออยู่ว่า การเปิดเผยในที่แจ้ง ดีกว่าปิดๆ ให้อยู่ในที่ลับ เพราะมันจะควบคุมไม่ได้เลย
---------- iPAtS
iPAtS
LewCPE ผมว่ารัฐมีหน้าที่ปกป้องประชาชนจากสิ่งที่อาจจะทำอันตรายหรืออะไรก็แล้วแต่ เพื่อความปลอดภัยของประชาชนส่วนมาก พูดง่าย ๆ คือยอมเสียส่วนน้อยเพื่อคนส่วนมาก มันอาจจะไม่ยุติธรรมสำหรับคนส่วนน้อยแต่ถ้าทำได้แล้วคนส่วนใหญ่ได้ประโยชน์คิดว่ามันคุ้มค่ามากกว่า ถูกผิดก็ว่ากันไปทางกระบวนการของศาล เพราะเราเองก็มีกฎหมายใครใช้อำนาจเกินขอบเขตก็ฟ้องร้องกันได้ บางครั้งข้ออ้างก็ฟังขึ้น ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่ากฎหมายไม่สามารถควบคุมทุกอย่างได้ คนออกกฎหมายอาจจะไม่สามารถแก้ไขหรือออกกฎหมายให้ืทันกับอินเทอร์เน็ต
เอาแค่ให้ยอมรับว่า ปิดกั้น ยังกระมิดกระเมี้ยนเลย ไม่งั้นคงไม่ต้องมีท่า favicon ออกมาหรอก - -"
ที่อพาร์ทเมนต์ผมบล๊อกเองเลยครับ เซ็งมาก... ขนาดใช้ google หาคำว่า bit ไม่ได้เลย
ใช้รู้โปรแกรมให้มัน bypass ออกไปได้มั่งมีไหมอ่ะครับ
คงถูกปฏิเสธด้วยเหตุผลเดิมๆ แน่นอน "ความมั่นคง" เห็นด้วยว่า "ต้อง" ทำให้โปร่งใส ตรวจสอบได้ ไม่ใช่ปกๆ ปิดๆ อยู่เหมือนปัจจุบันนี้ บาง link เป็น host ฝากรูปธรรมดาก็โดน ban ไปกับเค้าด้วย เศร้าจริงหนอ ICT กระทรวงอาถรรพ์จริงๆ
prugsadee, freeman - ประเด็นเรื่องการป้องกันเยาวชนนั้น อย่างที่ผมบอกในข้อความข้างบนนะครับ ว่าในเชิงเทคนิคแล้วไม่มีทางเลยที่ ICT จะป้องกันเยาวชนจากเว็บลามกได้เต็มร้อย ผมบอกได้เลยว่าแม้มันจะเหลือช่องทางอีกแค่ 5 เปอร์เซนต์ เมื่อมีเด็กคนหนึ่งพบช่องทางการกระจายข่าวนั้นเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ และเด็กจำนวนมากจะใช้ช่องทางนั้นไปอีกพักใหญ่ๆ กว่า ICT จะรู้ตัว และแก้ไขได้
ตรงนี้คงไม่ถึงขนาดที่จะไปบังคับให้พ่อแม่มาเรียนรู้เทคโนโลยีกันหรอกครับ แต่ผมว่าเป็นเรื่องที่ควรทำความเข้าใจกับพ่อแม่ว่าถ้าเขาซีเรียสกับการที่ลูกของเขาอาจจะเข้าถึงสื่อลามกอย่างจริงจัง ก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ที่เขาจะต้องเรียนรู้เพื่อสอดส่องดูแลลูกของเขาเอง ตรงจุดนี้ผมเชื่อว่าพ่อแม่แต่ละคนก็มีความซีเรียสแตกต่างกันไป ขึ้นกับอายุของลูก พื้นฐานในบ้าน ฯลฯ ถ้าพ่อแม่คิดว่าปล่อยอิสระให้ลูกได้ เขาก็ไม่ต้องไปเรียนรู้อะไร
เรื่องการเรียนรู้นี่ผมว่ามันมีทางออกอื่นๆ อีกเยอะเช่นการบังคับให้ ISP ต้องส่งคู่มือกับโปรแกรมตรวจสอบ ป้องกัน หรือเก็บประวัติการใช้งาน ให้พ่อแม่สามารถตรวจสอบได้
การตรวจสอบการใช้งานจริงๆ อาจจะลำบากกับพ่อแม่ในทุกวันนี้หลายๆ คน แต่ประเด็นที่สำคัญกว่าคือ การที่พ่อแม่จะตระหนักว่าถ้าจะซีเรียสเรื่องนี้จริงๆ พ่อแม่เองต้องมีส่วนร่วม ไม่ใช่ว่าบอกว่า ICT บล็อกไปหมดแล้ว พ่อแม่ไม่ต้องทำอะไร
ที่สำคัญกว่าคือความรับผิดชอบครับ ICT "ต้อง" มีระบบการตรวจสอบที่แน่นอนว่าเว็บใดที่ไม่สามารถเข้าได้เนื่องจาก ICT การกระทำแบบกระมิดกระเมี้ยนแอบๆ เหมือนตัวเองเป็นโจรซะเองในทุกวันนี้ดูจะไร้ความรับผิดชอบไปซักหน่อย
สิ่งที่ตามมาจากการแสดงความรับผิดชอบเช่นนี้คือเมื่อ ICT มีการกระทำผิดพลาด เช่นไปบล็อกเอาเว็บที่ไม่เข้าข่าย จะเปิดโอกาสให้เอกชนที่ถูกการดำเนินงานของ ICT ที่ผิดพลาดสามารถฟ้องร้องเพื่อเอาผิดกับทาง ICT ได้อย่างเป็นรูปธรรม ตัว ICT เองระบบภายในหากมีความผิดพลาดก็สามารถเอาผิดทางวินัยกับคนของตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่เทคนิค หรือคนเซ็นคำสั่งบล็อกก็ตาม ไม่ใช่แบบทุกวันนี้ที่บล็อกกันแบบแอบๆ แล้วทำไม่รู้ไม่เห็นอย่างน่ารังเกียจ ------ LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
เคยส่งจดหมายไปที่ EFF.org แต่ว่าได้รับตอบกลับมาว่าไม่มีเจ้า่หน้าที่อยู่ในประเทศไทย คราวนี้อาจารย์จากฮาวาร์ดมาเองเลยแฮะ ^^" ดีมากๆเลย
ป.ล. แอบคิดว่าชุมชน B|N น่าจะทำอะไำรได้บ้างนะ??
> หมายความว่าหากว่ากฎหมายยังไม่รองรับ เราไม่สามารถจะจัดการอะไรได้เลย
"เรา"สามารถทำอะไรได้หลายอย่าง แต่ปัญหาคือแล้วเราได้ทำอะไรกันบ้างนอกเหนือจากการวิจารณ์ ถ้าจะให้สังคมดีก็ต้องช่วยกันทำให้มันดีครับ มัวแต่ชี้นิ้ว-ปัดให้คนอื่นรับผิดชอบนี่คงไม่ช่วยเท่าไหร่
แต่ถ้าคำว่าเราหมายถึงรัฐ รัฐไม่ได้มีอำนาจที่นึกจะทำอะไรก็ทำได้ รัฐมีอำนาจอยู่สองอย่างคืออำนาจที่จะเป็นตัวแทนของประชาชนในประชาคมระหว่างประเทศ อีกอย่างหนึ่งคืออำนาจทางการเมืองภายในสังคมหนึ่งๆ ซึ่งแยกเป็นสามส่วนย่อยๆคือ (1) อำนาจในการเปลี่ยนแปลงเชิงสังคม (2) อำนาจในการโนมน้าว-ชี้นำสังคม และ (3) อำนาจในการควบคุมสังคมให้อยู่ในระเบียบ คิดว่าประเด็นของฮาร์วาร์ดคือเรื่องหลังสุดนี้
มาตรการทางฝั่งรัฐมีได้หลายอย่าง แต่การงุบงิบทำโดยไม่มีกฏหมายรับรองนั้น ไม่ได้รวมอยู่ในสิ่งที่รัฐทำได้ (พอๆกับการเนรมิตให้คนหายตัวไปนั่นแหละ)
Conductor: แล้วถ้ารัฐทำ จะเกิดอะไรขึ้น
ทำผิดกฏหมายหรือครับ ก็ผิดกฏหมายนะซิ แล้วเมืองไทยก็จะมีลูกแพะเพิ่มขึ้นอีก ตัวใหญ่ๆรอดหมด
เราเป็นเจ้าของบ้าน รัฐเป็นแม่บ้าน รัฐบาลเป็นหัวหน้าแม่บ้าน เจ้าของบ้านจ้างแม่บ้านผ่านเงินภาษี เราจะเอาอะไรก็ต้องบอก-เรียกว่ามีส่วนร่วม บางทีแม่บ้านดันนึกว่าตัวเองเป็นเจ้าของบ้าน แล้วคิดว่าเจ้าของบ้านเป็นผู้อาศัย ก็เลยยุ่งกันใหญ่
หมายถึงทำนอกเหนืออำนาจหน้าที่ อย่างสั่งปิดเว๊บแบบนี้ ถามว่าผิดกฏหมายหรือไม่ ถ้าผิดฟ้องแพ่ง/อาญาได้หรือเปล่า
นี่เหมือนตีปิงปองกันเลยนะเนี่ย: ผมคิดว่าก่อนรัฐจะทำอะไรก็คงมั่นอกมั่นใจอยู่แล้วว่าทำได้ถูกต้อง (หรือไม่มีใครตรวจพบ) แต่ความมั่นใจก็ไม่ได้แปลว่าจะถูกเสมอไป
เรื่องการปิดกั้นเว็บ คลับคล้ายคลับคลาว่ามีมติ ครม.ของรัฐบาลที่แล้วอันนึงที่พูดเรื่องโครงการไซเบอร์คลีน หรืออะไรทำนองนั้น มติ ครม.มีความหมายต่อเจ้าหน้าที่รัฐ เหมือนกับเป็นทิศทาง บางทีก็เป็นคำสั่งอนุมัติ แต่การกระทำการใดๆของรัฐ และเจ้าหน้าที่ของรัฐ จะต้องอยู่ภายใต้กฏหมาย เพราะเป็นอำนาจที่ประชาชนให้ผ่านสภาไปเพื่อทำให้สังคมส่วนรวมสงบสุขอยู่ในระเบียบ
เรื่องการสั่งปิดเว็บ ผมไม่เคยเห็นคำสั่ง!!! แต่ยืนยันได้ว่าเจ้าหน้าที่รัฐมีมาตรการอื่นๆหลายอย่างที่ใช้ได้ผล การดูแลคนหมู่มาก ขืนใช้แต่คำสั่งอย่างเดียว ก็จะไปไม่รอด
การปฏิบัติเกินอำนาจก็ผิด การละเว้นการปฏิบัติก็ผิดเหมือนกัน
ด้วยความเคารพ ขอเสนอลบ ข้่อความ"ที่ซึ่งเชื้อพระวงศ์ไทยจำนวนมากเคยศึกษา"
การ block บางอย่าง มันก็เกินไป ลองอ่าน http://www.narisa.com/blog/patrickz/index.php?cmd=showentry&eid=320
Patrickz's blog|
linkedin
ม่อน: แก้ไขแล้วครับ
มีความเห็นนักกฏหมายชั้นผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ซึ่งผมได้ส่ง URL นี้ให้พิจารณา ซึ่งท่านได้กรุณาให้ความเห็นมาดังนี้ครับ
ย่อหน้าที่สอง+สาม+สี่ อาจจะโยงไปถึงเรื่อง ร่างพรบ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. .... ข่าวเก่า: 1 2 3 4
ไม่รู้นะ เรื่องปิดกั้นสื่อหรือดวงตามีก่อนรัฐบาลชุดนี้อีกนะถ้าจำไม่ผิด?? ใรมีอคติก็จะด่าว่าแต่รัฐบาลชุดนี้อย่างเดียว ?? ผมยังไม่ลากไปการเมืองเลยนะ?
fujitarc - ยังไม่มีใครระบุว่าเป็นเรื่องของรัฐบาลไหนนะครับ ยังไงอย่าลากประเด็นไปเรื่องการเมืองน่าจะดีกว่าครับ ------ LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw