จากมาตรฐานการออกแบบ IPv6 ที่ให้ความยาวของเลขที่อยู่ถึง 128 bit ที่หลายๆ คนบอกว่าสามารถจัดสรรให้กับ "อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชิ้น" บนโลกนี้ได้นั้น ยุคที่ว่าคงเริ่มใกล้ความเป็นจริงกันเข้ามาเรื่อยๆ แล้วครับ
ข่าวนี้ประกาศออกมาเมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมาจากบริษัทกรีนเวฟ ที่ก่อตั้งขึ้นมาโดยอดีตผู้บริหารบริษัทซิสโก้สำหรับผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าในครัวเรือนที่ช่วยอำนวยความสะดวกต่างๆ
หลอดไฟเป็นหลอด LED พลังงานต่ำ (บริษัทอ้างว่าสามารถประหยัดพลังงานได้ถึง 80%) ตัวหลอดสามารถปรับความสว่างได้ เชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายผ่านเทคโนโลยี 6LoWPAN ซึ่งเป็นมาตรฐานเครือข่ายไร้สายระยะสั้นผ่าน IPv6 แบบตาข่าย (Mesh networking) เพื่อเชื่อมต่อหลอดไฟที่อาจอยู่ห่างจากตัวเกทเวย์ผ่านหลอดไฟระหว่างทาง
นอกจากนี้ที่ตัวเกทเวย์ยังมีระบบต่างๆ ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้อย่างเช่นการตั้งค่ารูปแบบอัตโนมัติ ตั้งเวลา ระบบเปิดไฟตามการเคลื่อนไหว เชื่อมเข้ากับระบบคีย์การ์ด หรือแม้แต่หรี่หรือปรับแสงตามสภาพแสงแวดล้อมก็ได้ ตัวหลอดสามารถติดตั้งเข้ากับโคมไฟหัวเกลียวมาตรฐาน แล้วตัวเกทเวย์จะติดต่อกับหลอดไฟได้เองทันทีโดยไม่จำเป็นต้องเดินสายไฟหรือสายสัญญาณใดๆ เพิ่ม นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมผ่านสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตได้อีกด้วย
หลอดที่ว่านี้ถ้าซื้อเดี่ยวๆ จะมีราคาอยู่ที่ประมาณหกร้อยถึงเก้าร้อยบาท (20 - 30 ดอลลาร์สหรัฐ) และการจำหน่ายครบเซตทั้งอุปกรณ์เกทเวย์ รีโมทควบคุม และหลอดไฟอีกสี่หลอดจะมีราคาประมาณหกพันบาท (200 ดอลลาร์สหรัฐ) เริ่มจัดจำหน่ายในยุโรปบางประเทศ และได้รับใบรับรองการจัดจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาแล้วครับ
ถ้านึกภาพไม่ออก คลิปขายของอยู่หลังเบรกครับ
ที่มา: Engadget, Green Tech Media ผ่าน IPv6Thailand
Comments
ผมรอซื้อตัว LiFX อยู่น่ะครับ (แถม Lockitron ด้วยครับ) .... ตัวนี้ดูใช้ยากไปสำหรับผมมั้งครับ ฮาๆ
ขอบคุณครับ สวัสดีครับ
+1 ผมก็ back โปรเจค LiFX ไปเหมือนกันครับ ดูใช้ง่ายมากๆ รอรับของช่วง มีนา 2013 ฮ่าๆ
ขอบคุณครับ สวัสดีครับ
นี้ถ้าเอาของทุกอย่างมีระบบ IPv6 จะรับรองเป็นยังไง แบบว่า เครื่องทำน้ำร้อน หม้อหุงข้าว เครื่องดูดฝุ่น พัดลม ฯลฯ ทุกอย่างต้องมีการเชื่อมต่อเข้ากับ Network คงจะเป็นบ้านอัจฉริยะจริงๆ
แล้วถ้าเกิดการ Hack บ้านเกิดขึ้นก็จะ... บ้านผีสิงชัดๆ!!!
หรือถ้าหลอดไฟในข่าวเสียนี้เปลี่ยนใหม่คงเปลืองวัตถุดิบกับ IPv6 น่าดูต้องออกแบบให้เปลี่ยนแค่หลอดไฟภายในถึงจะแจ่ม
ดูแล้วอีกห้าปีคงเริ่มมีข่าว "IPv6 ถูกใช้ในอัตราสิ้นเปลืองจนเริ่มไม่พอกับความต้องการ"
จริิงครับ IPV6 มีหมายเลข ip ประมาณ 340,282,366,920,938,000,000,000,000,000,000,000,000 IP
หารด้วย 7,018,867,630 (คน:ประชากรโลก)
จะได้เพียง 48,481,091,945,160,200,000,000,000,000 (สี่หมื่นแปดพันสี่ร้อยแปดสิบเอ็ดล้านเก้าหมื่นหนึ่งพันเก้าร้อยสี่สิบห้าล้านหนึ่งแสนหกหมื่นสองร้อยล้านล้าน IP ต่อคน
ถ้าใช้แแบบสิ้่นเปลือง ก็หมดได้อ่ะครับ
ป.ลิง ข้างบนเขียนขำ ๆ นะ เท่่าที่ดู จะมาบางส่วนใช้ไปเป็น Header ปริมาณ IP ที่ได้คงจะลดลงไปเยอะเลย
ได้พล็อดเรื่องหนังเลย
ถ้าอีกหน่อยประชากรล้นโลก ยากแก่การควบคุม เลยฝังชิบไว้ที่ตัวแบบ 1 คน/1 ไอพี
นึกถึงคำบรรยายที่บอกว่าสามารถแจกให้เม็ดทรายได้ทุกเม็ด (-..-)
ต่อไปถ้าหลอดไฟเปิดไม่ติด อาจต้องนั่ง config กันยิบๆ
แต่ก็น่าจะนำไปประยุกต์ใช้งานได้ประโยชน์อย่างหลากหลาย
อีกหน่อยเกิดมาคงมี IP ประจำตัวเลยเอาไปคนละ 1000 IP เอาไปเลือกใช้เองว่าจะไปใส่คอมฯมือถือ หลอดไฟ หม้อหุงข้าว ตู้เย็น ทีวี รถยนต์ ฯลฯ อุปกรณ์ไหนเสียก็เปลี่ยนแค่อุปกรณ์ใส่ IP เดิมเข้าไป พอตายลูกหลานต้องทำเรื่องคืนไอพี โอ้ว ไปโน่นนนน อุปกรณ์ไหนถูกขโมยก็เข้ากูเกิลแมพไปดูว่าไอพีนี้ใช้งานอยู่ที่ไหน ตามไปเอาคืนได้เลย (บ๊ะ ไม่แน่อาจจะตามเจอแต่ไปอยู่บนดาวอังคาร 555)
แบบนี้ก็รู้ได้ว่าใครเป็นคนเข้าถึงข้อมูลอะไรบนเน็ตน่ะสิครับ...
Dream high, work hard.
ก็ดีสิครับผมเองก็อยากให้ IP ล็อคทุกบ้านเหมือนกัน ส่วนคนที่บอกว่าไม่ดีอ้างความเป็นส่วนตัวนี้ก็อาจจะมี 2 พวกคือพวกทำผิดกฎหมายกับพวกกลัวคนอื่นรู้เช่น เมียน้อย อิอิ
อีกหน่อยในพันทิบคงเจอ " ช่วยทีครับ ข้างบ้านแฮ็กไฟบ้านผม "