ได้มีโอกาสลองจับตัว Lenovo ThinkPad Tablet 2 อยู่สักพัก (ประมาณ 30 นาที) เลยเอามาให้ดูกันสักเล็กน้อยครับ
ตัว Lenovo ThinkPad Tablet 2 นั้นมาพร้อมกับ CPU แบบ SoC (System on a chip) รุ่น Intel Atom Z2760 SoC ดูอัลคอร์ ความเร็ว 1.8GHz (1MB cache) โดยมี VGA on chip ของ PowerVR HD SGX545 GFx (12 bit, 1080p video @30fps, DX9) ซึ่งเจ้า SoC จะคล้ายๆ ของค่าย ARM ที่รวมเอาทุกอย่างไว้ในตัวชิป CPU (หลังๆ CPU Core Architecture ของ Intel ก็เริ่มรวมหลายๆ อย่างลงใน CPU มากขึ้น) ทำให้ประหยัดพลังงาน และประหยัดพื้นที่ด้วย
ซึ่งเจ้าตัวนี้ มาพร้อม RAM ชนิด LPDDR2 ขนาด 2GB ความเร็ว 800 MHz และมีความจุ storage ที่ 64GB แบบ eMMC สามารถใส่เพิ่มได้ผ่าน micro-SD card โดยใส่เพิ่มได้สูงสุดถึง 64GB และยังสามารถต่อ external HDD แบบ USB 2.0 ผ่านช่องต่อ USB 2.0 แบบ full-size เพื่อเพิ่มพื้นที่ได้ด้วย (จากที่ทดสอบต่อ WD Passport 500GB ได้สบายๆ)
ในด้านของฝาหลังนั้น จากที่สัมผัสดูแล้วคิดว่าเป็น Polyurethane Soft-touch Coatings คล้ายๆ กับฝาหลังตัวเครื่อง ThinkPad โดยตัวจอภาพนั้นเป็นจอ LCD ขนาด 10.1" ตัว panel เป็น IPS ขนาดความละเอียดที่ 1,366x768 พิกเซล (HD 720p) ที่อัตราส่วน 16:9 ความสว่างที่ 400 nits (500:1 contrast ratio) แต่ไม่ได้ใช้ Corning Gorilla Glass แบบตัวก่อน โดยเป็นหน้าจอสัมผัสรองรับสัมผัสได้ 5 นิ้ว
ตัวเครื่องนั้นหนาเพียง 9.8mm ซึ่งบางกว่าตัว Lenovo ThinkPad Tablet รุ่นเก่าถึง 30% (ตัวเก่าหนาที่ 14.5mm) จากที่บางลง ทำให้น้ำหนักลดลงมาอยู่ที่ 590g หรือเบากว่าLenovo ThinkPad Tablet รุ่นเก่ากว่า 23% อีกด้วย (ตัวเก่าหนัก 759g) ซึ่งน้ำหนักนี้รวมปากกาแล้ว โดยจากที่จับมา ผมมองว่าเบาจริง ถือว่าทำน้ำหนักมาได้ดีสำหรับจอภาพที่ขนาด 10.1”
สำหรับงานประกอบนั้น ตัวเครื่องนั้นหาช่องน็อตสกรูให้เห็นชัดเจนไม่เจอ ในส่วนอื่นๆ การประกอบระหว่างรอยต่อต่างๆ ดูแนบสนิทแน่นหนาดีมาก สำหรับโครงสร้างภายในนั้น Lenovo ได้ออกแบบภายในแบบเดียวกับ ThinkPad Notebook หรือเรียกว่า Roll cage design
ในด้านของตัวปากกานั้น ThinkPad Tablet 2 ใช้ Wacom digitiser แบบเดียวกับที่เคยใช้กันมาก่อนหน้านี้ โดยมีที่เก็บแบบสอดเข้าไปในเครื่อง โดยตัวปากกามีขนาดเล็กกว่าตัวเดิมอยู่มาก สำหรับการเขียนต่างๆ ทำได้ลื่นไหลดี โดยตัวจอภาพแบบสัมผัสเมื่อทำงานร่วมกับปากกาสามารถเอามือวางบนจอภาพแล้วเขียนแบบบนกระดาษปรกติได้เลย เพราะตัว Windows 8 นั้นฉลาดเพียงพอที่จะแยกแยะการสัมผัสได้ (ดูได้จากวิดีโอล่างสุด)
สำหรับตัวกล้องนั้น ThinkPad Tablet 2 มีมาให้ทั้งกล้องหน้าและหลัง โดยกล้องหลังให้มา 8MP พร้อม ไฟแฟลชแบบ LED รองรับการถ่ายวิดีโอ HD 720p และสำหรับกล้องหน้ามีความละเอียด 2.0MP ซึ่งสำหรับภาพถ่ายนั้น ไม่ได้ลองถ่ายมาดูครับ เพราะเวลาไม่พอที่จะได้ลอง
ตัวจุดเชื่อมต่อต่างๆ ให้มาค่อนข้างครบ ตัวแรกคือ full-size USB 2.0 พอร์ต ที่อยู่ด้านข้างเครื่อง ที่ทำหน้าที่เหมือนกับ USB พอร์ต ปรกติบนโน้ตบุ๊กหรือเดสก์ท็อปเลย สามารถต่อ HDD เข้าไปเพื่อเพิ่มพื้นที่ได้ แต่วันที่ลองยังไม่ได้ลองต่อเมาส์และคีย์บอร์ดลอง แต่คิดว่าได้ เหมือนกัน
ส่วนต่อมาคือ micro-USB 2.0 ซึ่งทำหน้าที่แค่ชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่เท่านั้น เหตุผลที่ใช้ micro-USB เพราะหาพอร์ตในการมาชาร์จไฟได้ง่ายตามมาตรฐาน European Union
ส่วนต่อมาคือภาพและเสียง ที่ให้ mini-HDMI พอร์ต และ headphone/microphone combo jack มาให้ โดยมี Noise-cancelling microphone มาให้พร้อมเพื่อทำงานคู่กับเว็บแคมขนาด 2MP ด้านหน้า
เมื่อเป็นแท็บเล็ตสำหรับทำงานย่อมต้องมี dock connector มาให้แน่ๆ ซึ่ง ThinkPad Tablet 2 ก็มีมาให้เลย ทำให้สามารถต่อได้เพิ่มมากขึ้นทั้ง USB พอร์ต ที่ได้มากขึ้น หรือต่อเมาส์และคีย์บอร์ดได้อย่างง่ายๆ รวมไปถึงมี Folio Case with Keyboard ทำตลาดมาพร้อมด้วย
สำหรับปุ่มรอบๆ เครื่องนั้น เท่าที่จับและเจอก็มี ปุ่ม Windows, ปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง, ปุ่มปรับระดับเสียง, ปุ่มคงค่าการหมุนจอภาพ และปุ่มรีเซทเครื่อง
การเชื่อมต่ออื่นๆ ก็มีมาให้ครบในตัวเหมือนโน้ตบุ๊กเครื่องนึงเลยก็ว่าได้ทั้ง NFC, GPS, compass, ambient light sensor, proximity sensor, sensor hub, 802.11 a/b/g/n, Bluetooth 4.0 และสำหรับรุ่น 3G จะมาพร้อม WWAN Gobi 4000 (รองรับ LTE /HSPA+)
จากการที่ได้นั่งเล่นมานั้น โดยรวมถือว่าทำงานได้รวดเร็วดีมาก ด้วยจำนวนคุณสมบัติที่ให้มานั้น เหมาะสำหรับคนที่ต้องการนำไปใช้งานด้านเอกสารต่างๆ ที่ใช้ตัวซอฟต์แวร์ที่ไม่ใช้ทรัพยากรระบบมากนัก ถ้านำไปใช้พวกแต่งรูป รีทัชรูป ตัดต่อวิดีโอ หรือเล่นเกม ก็ดูจะโหดร้ายเกินไปสำหรับคุณสมบัติที่ให้มา (อาจพอได้ แต่พื้นที่ลงซอฟต์แวร์คงไม่พอ รวมไปถึง RAM ที่มีมาให้แค่ 2GB ท่าทางจะไม่ไหว) ซึ่งส่วนตัวถ้าเอาไปใช้งานด้านพัฒนาซอฟต์แวร์ ดูแลจัดการระบบคอมพิวเตอร์ในองค์กร หรือแม้แต่เขียนบทความแล้วก็ถือว่าตอบโจทย์การใช้งานได้พอเหมาะกับงานแนวๆ นี้
ในด้านของขนาดจอภาพ 10.1” นั้น โดยรวมแล้วเฉยๆ เพราะส่วนตัวสนใจขนาดความละเอียดของจอภาพมากกว่า ซึ่งให้มา 1,366x768 พิกเซล เท่ากับ Lenovo ThinkPad T420 ที่ใช้งานอยู่ ซึ่งเมื่อใช้งานแล้ว ก็ไม่ได้รู้สึกว่าเล็กแต่อย่างใด (ตัวหนังสือเล็กลงไป แต่โดยส่วนตัวแล้วก็อ่านได้สบายตาปรกติดี)
ความบางและน้ำหนัก อย่างที่บอกไปข้างต้นแล้วว่าทำออกมาได้ดี งานประกอบเรียบร้อยดีมาก มีพอร์ตมาให้ครบตามที่เราอยากได้ในแท็บเล็ตโดยทั่วไป
ในส่วนของแบตเตอรี่ขนาด 30Wah ที่เป็นแบบ lithium polymer นั้นยังไม่ได้ทดสอบความยาวนานของการใช้งาน อันนี้คงต้องขอผ่านไปก่อน
กล่าวสรุปโดยรวมแล้ว ถือว่าผ่านสำหรับการเป็น Tablet เพื่อนำไปใช้ทำงานมากกว่าเล่น ก็ต้องรอดูว่า app บน Windows 8 จะมีมามากแค่ไหน จนสามารถทดแทนตัวแท็บเล็ตยี่ห้ออื่นๆ ได้ แต่สำหรับ desktop app แล้วนั้น ถือว่ารองรับได้ทั้งหมดที่คนส่วนใหญ่ใช้งานได้สบายๆ
วิดีโอทดลองเล่นและสัมผัสการใช้งาน Lenovo ThinkPad Tablet 2
รอดูรีวิวเต็มๆ อีกที (ไม่รู้จะได้เมื่อไหร่ครับ คงต้องต่อคิวเครื่องเค้า ><”)
Comments
พอจะทราบราคามั้ยครับ
ราคาไทยยังไม่ออกน่ะครับ
แต่ราคาเครื่องหิ้ว ThinkPad Tablet 2 64GB WiFi+3G+LTE+Pen ราคา 31,900 บาท ถ้าเป็น WiFi อย่างเดียวประมาณ 24,500 - 26,000 บาท
เปิดมาราคานี้ ต้องรอดู Helix แล้วตัดสินใจอีกที
ถ้าเข้าไทยต่ำสองหมื่นจะได้ไม่ต้องคิดมาก ไหนจะ Keyboard อีก 555
ต่ำกว่า 2หมื่น ผมว่าไม่น่าเป็นไปได้ครับ ราคาในอเมริกาก็ $679 เข้าไปแล้ว
ส่วน Thinkpad Helix นี่ไม่น่าต่ำกว่า 4-5หมื่น แน่นอนครับ เพราะเท่าที่ดู Lenovo วางไว้เป็นตัว Hi-end เหมือนกัน ราคาน่าจะอยู่ในระดับเดียวกับ Yoga หรือสูงกว่า
รอราคาไทย official กะ รีวิวอายุการใช้งานของแบตครับ
ถ้าราคาไทยตัว wifi มาต่ำกว่า 20k ก็มีลุ้น แต่สำหรับแบรนด์ Thinkpad คงเป็นไปไม่ได้ 55555
ป.ล. อยากได้ครับ
ย่อมขาด?
ที่ใช้ตัวซอฟต์แวร์ที่ไม่ใช้ทรัพากรระบบมากนัก -- ทรัพยากร
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
แก้ไขเรียบร้อยแล้วครับ
แก้ไขเรียบร้อยแล้วครับ
ส่วนวิดีโอผมลองแก้อีกรอบแล้วครับ (แต่ตัวเก่าก็เปิดดูได้ปรกตินะครับ)
ราคารุ่น wifi น่าจะประมาณ 28,900-29,000 เท่าที่สังเกตราคาที่lenovo นำเข้ามาในไทย ราคาจะดีดตัวประมาณ 4000-5000
RAM น้อย HDD น้อยไปหน่อยนะผมว่า
คิดอยู่ว่าเอามาทำพวกรูปมันจะไหวไหม ท่าจะไม่รอดสิน่ะ
แรมน้อยไปสำหรับยุคนี้จริงๆ
เห็น review ต่างประเทศบอกว่าใช้ External HD ไม่ได้ เพราะไฟจากพอร์ต USB น้อย ไฟไม่พอ ต้องใช้ External HD ที่ต่อไฟเลี้ยงแยกต่างหาก ถ้าใครมีโอกาศได้ทดสอบลองทดสอบเรื่องนี้ดูหน่อยนะครับ
เดี่ยวจะลองหลายๆ ยี่ห้อครับ บางยี่ห้อได้บางยี่ห้อไม่ได้ คือที่ผมลองทดสอบ เสียบแล้วเห็นความจุ แต่ไม่ได้ทำอะไรกับมันต่อ แต่ไม่ชัวช์ว่าพอ copy ไฟล์งานแล้วมันจะดับไปดื้อๆ ไหม
เห็นข่าวนี้แล้วรู้สึกว่า อนาคตของ Tablet W8 น่าสนใจมาก ถ้าไม่ตายไปก่อนนะ
ปากกายังdelay อยู่นิดนึง ถ้ามีแอพรองรับปากกามากกว่านี้ก็น่าสนใจครับ รอดูต่อไป ตอนนี้ใช้ Note10.1 อยู่แต่บ่นซัมซุงทุกวัน
atom ตัวนี้ เจอเปิด firefox, chrome แม้แต่ ie หลาย ๆ tab นี่ ไปไม่เป็นเหมือนกันครับ งานผมลักษณะนี้ ใช้ ๆ ไปล่ะแสนหงุดหงิด (Acer Iconia W511)