มีคนตาดีสังเกตเห็นว่า อเมซอนไม่ขาย Kindle Keyboard 3G ในหน้าเว็บไซต์แล้วและได้มีการสอบถามกับส่วนบริการลูกค้าของอเมซอนถึงเรื่องนี้และได้คำยืนยันแล้วว่าหยุดการผลิตแล้วจริง
“I understand your concern that you love the Kindle Keyboard device and I’m sorry to inform you that our company does not manufacture the old Kindle devices due to the in demand of the newer version of Kindle devices. I’m so sorry for the disappointment caused.”
เจ้า Kindle Keyboard 3G เป็นรุ่นสุดท้ายที่ยังมีคีย์บอร์ดจริง โดยก่อนหน้านี้อเมซอนได้หยุดขาย Kindle Keyboard with WiFi ไปก่อนแล้ว ทั้งคู่วางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อเดือนกรกฎาคม 2010 และวางขายมาอย่างต่อเนื่อง
แม้ว่าจะมีรุ่นใหม่เข้ามาวางจำหน่ายอย่างเช่น Kindle (non-touch) สีเทา ปี 2011 (ซึ่งเลิกผลิตแล้ว), Kindle Touch (นี่ก็เลิกผลิตแล้วเหมือนกัน) แต่ทางอเมซอนก็ยังไม่หยุดขาย Kindle Keyboard จุดเด่นของเจ้า Kindle Keyboard นี้คือมีความจุถึง 4GB, มีคีย์บอร์ดจริง และสามารถอ่านออกเสียงได้ (Text-to-Speech) ซึ่งในรุ่นหลังได้ลดความจุลงเหลือ 2GB และตัดฟีเจอร์การอ่านออกเสียงไป
ถ้าใครอยากได้ Kindle รุ่นที่อ่านออกเสียงได้อยู่ก็ไปไล่เก็บเจ้า Kindle Keyboard ไว้นะครับ มันเป็นของหายากไปซะแล้ว
ป.ล. Kindle (non-touch) ปัจจุบันยังมีขายนะครับ ที่ขายเป็นรุ่นปี 2012 กรอบสีดำ เหมือนเป็นไมเนอร์เชนจ์ แตกต่างจากรุ่นปี 2011 ที่กรอบเป็นสีดำ, เปลี่ยนหน้าเร็วขึ้น 15% และราคาถูกลง
ที่มา: The Digital Reader, Engadget
Comments
เก็บไว้ ตัวนึงตอนนี้แทบวางลืม - -'
me too.
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
ไม่ใช่ตัวนี้หรือครับ? Kindle
จริงๆผมคงพลาดไปครับ
ถ้าให้นับแบบเป๊ะจริงๆ ต้องถือว่ามีสองรุ่นย่อย คือ รุ่นปี 2011 กรอบสีเงินเทา กับ รุ่นปี 2012 ซึ่งเหมือนเป็นรุ่นไมเนอร์เชนจ์
รุ่นปี 2012 อเมซอนอ้างว่าเปลี่ยนหน้าได้เร็วขึ้น 15% นอกนั้นฟีเจอร์ที่เห็นได้เหมือนกันหมด แถมรุ่นก่อนหน้าพออัพเกรดซอฟท์แวร์ก็มีฟีเจอร์เท่าๆกันอีกด้วย (-_-')
ที่สำคัญ ราคารุ่นหลังถูกลงไปอย่างน้อย 10 เหรียญ
ความแตกต่างอันเล็กน้อยของสองรุ่นย่อย มีคนรีวิวไว้แล้วครับ http://www.youtube.com/watch?v=0uNYDQz_Pag