Kim Dotcom ได้ทวีตข้อความแสดงตนว่าเป็นเจ้าของสิทธิบัตรระบบการยืนยันตัวบุคคลแบบ 2 ขั้นตอน พร้อมวอนบรรดายักษ์ใหญ่ด้านซอฟต์แวร์ที่ใช้งานสิทธิบัตรดังกล่าวให้ช่วยเหลือเรื่องเงินในการสู้คดีความของเขาด้วย
ระบบการยืนยันตัวบุคคลแบบ 2 ขั้นตอน เป็นเทคนิคการรักษาความปลอดภัยเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการออนไลน์ต่างๆ ที่ได้รับความนิยมแพร่หลายมากขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งมีทั้งองค์กรไอทีขนาดใหญ่อย่าง Google, Facebook, Twitter รวมไปจนถึงภาคธุรกิจอย่างธนาคาร Citibank เป็นต้น
Kim เป็นผู้สร้างเว็บสำหรับฝากไฟล์ชื่อดังอย่าง Megaupload (ซึ่งปัจจุบันถือกำเนิดใหม่ด้วยชื่อ Mega) ได้ทวีตข้อความเกี่ยวกับสิทธิบัตรดังกล่าวภายหลังจากที่ Twitter ได้เริ่มปรับใช้ระบบยืนยันตัวบุคคลแบบ 2 ขั้นตอน ทั้งนี้เมื่อตรวจสอบจากรายละเอียดในสิทธิบัตรก็สามารถยืนยันถึงคำกล่าวอ้างของ Kim ได้ว่าเป็นความจริง โดยเขาได้ยื่นจดสิทธิบัตรฉบับนี้ตั้งแต่ปี 1998 ตั้งแต่ตอนที่เขายังใช้นามสกุลเดิมว่า Schmitz ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็น Dotcom ในภายหลัง
Kim กล่าวว่าแม้เขาจะเป็นเจ้าของสิทธิบัตรที่มีผู้ใช้งานกันอย่างแพร่หลายนี้ แต่เขาไม่เคยเรียกรับเงินค่าใช้สิทธิบัตรดังกล่าวจากใคร เพราะเขารู้สึกว่าความรู้และแนวคิดใหม่ๆ คือสิ่งที่ควรแบ่งปันกันเพื่อให้สังคมโดยรวมได้พัฒนาไปด้วยกัน ทว่าในตอนนี้เขาต้องเริ่มคิดทบทวนเรื่องนี้ขึ้นมาบ้างแล้ว ภายหลังจากที่เขาโดนทางการสหรัฐอเมริกาดำเนินคดีเกี่ยวกับ Megaupload
Kim ระบุว่าเขายังยินดีให้ทุกคนได้ใช้งานสิทธิบัตรของเขาได้ฟรี เพียงทว่าเขาขอร้ององค์กรยักษ์ใหญ่อย่าง Google, Facebook และ Twitter ให้ช่วยเขาระดมเงินเพื่อสู้คดีซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า 50 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเขาต้องการจะต่อสู้จนถึงที่สุด
เป็นที่น่าสนใจว่าทั้งที่ Kim ได้รับการอนุมัติสิทธิบัตรการยืนยันตัวบุคคลแบบ 2 ขั้นตอนมาเกือบ 13 ปี แต่ไม่เคยออกมาเรียกร้องค่าใช้งานจากใครเลย น่าจะเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความใจกว้าง และปณิธานในการแบ่งปันความรู้และแนวคิดของเขาได้เป็นอย่างดี ใครที่อยากเป็นกำลังใจและมีส่วนร่วมต่อสู้ไปกับเขาก็เข้าไปดูหน้าเว็บไซต์ได้ที่นี่
ที่มา - TechCrunch, ข้อมูลสิทธิบัตรจาก FPO
Google, Facebook, Twitter, Citibank, etc. offer Two-Step-Authentication.Massive IP infringement by U.S. companies. My innovation. My patent
— Kim Dotcom (@KimDotcom) May 22, 2013
I never sued them. I believe in sharing knowledge & ideas for the good of society. But I might sue them now cause of what the U.S. did to me
— Kim Dotcom (@KimDotcom) May 22, 2013
Google, Facebook, Twitter, I ask you for help. We are all in the same DMCA boat. Use my patent for free. But please help funding my defense.
— Kim Dotcom (@KimDotcom) May 22, 2013
Comments
โคตรแมน
สังคมแห่งการแบ่งปัน
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ความรุ้ => ความรู้
แล้วไมโครซอฟท์ก็ถูกโลกลืม :p
คือ ผมไม่ได้เช็คเลยว่า Microsoft ใช้ patent นี้ด้วยรึเปล่าน่ะคับ
ว่ากันตรงๆ คือเนื้อความตรงส่วนนี้ผมเอามาจากข้อความทวีตของ Kim เลยน่ะ
ช่างไฟสมัครเล่น (- -")
ผมก็หมายถึง Kim นี่แหละครับ :D
หล่อเลย
พี่คิมหล่อมาก
ใจหล่อมาก
นามสกุล Dotcom จริงๆ ไม่ใช่แค่ฉายาหรือนามแฝงใช่เปล่า
ไม่ geek จริงไม่กล้าเปลี่ยนเป็นนามสกุลนี้นะเนี่ย
Kim Schmitz
ครับ
นามสกุล ดอทคอม บร๊ะ !!
"ซึ่งปัจจุบันถือกำหนดใหม่ด้วยชื่อ Mega"
ถือกำหนด > ถือกำเนิด รึเปล่าครับ
PM เลขบัญชีมาเลย
โรมันล่ะครับ?
Blog | Twitter
55555555555
ดีใจที่ภาษาไทย มีแล้ว ^_^
และจะเอาเงินไปสู้คดีกับใครหรอครับ?
คดี megaupload ไงครับ
นึกถึงน้อง ดำ ดอทคอม
ผมว่าเพราะว่าตอนนี้เงินหมดมากกว่าก็เลยเพิ่งจะออกมาให้ข่าว :-)
อาจจะรอให้ติดตลาดก่อนค่อยเปิดเผยก็ได้ใครจะรู้ คิดดูถ้าออกมาโวยวายตั้งแต่แรกใครจะใช้ อาจจะมีคนคิดวิธีใหม่ๆ ออกมาใช้ก็ได้ อ่อยเหยื่อไว้ 13 ปีดูดิปลาติดเบ็ดตัวเบ้งๆ ทั้งน้านนน ล้ำลึกจริงๆ
ไม่มั้ง ตั้ง 13 ปีนะครับ ถ้าจริงนี่แสดงว่าใจเย็นมากๆ เลยนะ ขนาดโนเกียยังร่วงภายในไม่กี่ปีเลย
มี code ไหม