หลังจากที่เกิดกรณีที่โรงเรียนแม่เชียงราย จังหวัดลำปาง โดน กสท. ส่งใบแจ้งหนี้ค่าบริการ My by CAT ไป 525,016.10 บาท และกสท. ขอเวลาในการตรวจสอบการใช้งานย้อนหลังก่อนนั้น
ล่าสุด กสท. โทรคมนาคมเขตเหนือได้ออกมายืนยันแล้วว่า โรงเรียนแม่เชียงราย ได้ใช้บริการ 3G ตามใบแจ้งหนี้ที่จัดส่งไปจริง นั่นก็คือยอดใช้งานตามแพคเกจ My My Click 300 และค่าบริการส่วนเกินที่เรียกเก็บโดยคิดเป็นเมกกะไบต์ละ 1.50 บาทตามข่าวเก่าที่ลงไว้ครับ
แต่อย่างไรก็ตาม กสท. เข้าใจความเดือดร้อนที่ทางโรงเรียนได้รับ จึงได้แจ้งให้ทางโรงเรียนรับทราบค่าใช้จ่ายใหม่ว่า จะคิดค่าบริการเพียงแค่ 590 บาท + ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% เป็นเงิน 41.30 บาท รวมเป็นเงิน 631.30 บาทเท่านั้นครับ และจะทำการปรับเปลี่ยนโปรโมชันจากเดิมมาเป็น My My Click 590 ที่สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ไม่จำกัดแทนตั้งแต่รอบบิลเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2556 เป็นต้นไปครับ
ทั้งนี้กสท. คาดว่าน่าจะเป็นผลมาจากการอธิบายรายละเอียดของโปรโมชันให้ทางโรงเรียนทราบแบบไม่ละเอียด และทางโรงเรียนเองก็เห็นว่าโปรโมชันใหม่มีราคาถูกลงกว่าเดิมอย่างมาก (ของเดิม 890 บาท ของใหม่ 299 บาท) จึงตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้งานโดยที่ไม่ทราบว่าเมื่อใช้งานเกินกำหนดนั้น จะมีค่าบริการใช้งานส่วนเกินคิดเพิ่ม และเพื่อเป็นการป้องกันการเกิดปัญหานี้ซ้ำในอนาคต กสท. เองก็จะลงไปดำเนินการชี้แจงและประชาสัมพันธ์รายละเอียดของโปรโมชันใหม่ให้กับทางโรงเรียนได้ทราบต่อไปครับ
ที่มา - Manager Online
Comments
ดีแล้วล่ะครับ ที่ กสท. ไม่หน้าเลือด
แต่ก็เป็นบทเรียนให้ใครหลายๆคนที่จะใช้บริการอะไร ต้องอ่านและศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน เอ้ย! ใช้บริการอะไรก็ตาม...
บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P
กำลังคิดอยู่ว่า ถ้าไม่ออกสื่อจะได้รับส่วนลดค่าบริการหรือเปล่าน่ะครับ
ถ้าเป็นบุคคลทั่วไปเจอกรณีอย่างนี้ก็ร้องเรียนได้ครับ โดยทั่วไปผู้ให้บริการก็จะเอาโปรโมชั่นอื่นมาครอบให้เหมือนกัน แต่คนทั่วไปน่าจะโดนโปรโมชั่น 750(5GB) * ด้วยจำนวนดาต้าที่ใช้(GB) / 5 เพราะว่าใช้แบบไม่โดนจำกัดความเร็ว ลดแล้วก็เหลือเกือบๆ 50,000 บาท ลดลงมา 10 เท่า
อยากจะบอกว่าโปร my Click 590 แบบ Unlimited ก็โดนครับ เจอมากับตัว พอเกิน 4g หมด FUP ก็สปีดลดทันทีปกติ 30-50k ก็หลงว่า Unlimited ดูยูทูป ดูละครย้อนหลังสนุกเลย ไม่คิดจะโชคดีเจอแบบนี้กับเค้าด้วย มีหลักฐานคือบิลสี่รอบ บิลล่าสุดมาพันห้ากว่าบาท จุกพุดไม่ออก ไม่รู้จะพูดกันใคร เดือนที่แล้วจําใจต้องจ่ายไปพันกว่า เพราะไม่อยากมีปัญหาภายหลัง ไม่ชอบมีปัญหากับใคร ตกลกกันไว้ไม่เป็นตามที่ตกลง คุณหลอกดาว หรือเรามันโง่เอง
ปล. ได้โทรลองไปถามคอลเซ็นเตอร์ ก็ตัดราคาโปรปกติ แต่พอบิลมา มันไม่ใช่เลย ไม่รู้ว่าทางทรูหรือมาย ออกบิลมาผิดหรือถูกหรือเราไม่เข้าใจโปร อย่าทํากันแบบนี้เลยผมไม่เคยทําร้ายใคร
ผมลองหารออกมาแล้ว = รร โหลดข้อมูล 129.15 Kb/s ทั้งวันทั้งคืน ตลอด 30 วัน
คอมที่ ร.ร. ไม่ได้มีเครื่องเดียวนะครับ ห้องคอมน่าจะมีอย่สงน้อย 20-30 เครื่อง แล้วยังห้องพักครูอีก
A smooth sea never made a skillful sailor.
ไม่ได้บอกว่ากี่เครื่องครับแค่การคำนวนเฉยๆ
เซลล์บางคนนี่ก็ไม่ใหว จะขายอย่างเดียวอธิบายเงื่อนใขกำกวมไม่ชัดเจน เหมือนพวกขายประกันบอกว่าเหมือนการออมเงิน แต่ไม่บอกว่าถ้าถอนออกก่อนจะโดนหักเหลือกี่บาท
คือถ้าผมเป็นเซล ผมก็คงคิดว่าเค้าจะเอาไปใช้เพื่อการศึกษานะครับ ไม่ใช่เอาไปเล่น youtube ไปโหลดบิท
comment ด้านบน มีคนคิดเลขออกมาได้เป็นตัวเลขว่า
129.15 kB/s ทั้งวันทั้งคืน ตลอด 30 วัน
ถ้าคิดว่ามีคนใช้เน็ทเฉพาะตั้งแต่เวลา 8 โมงเช้าถึง 4 โมงเย็น ตัวเลขจะกลายเป็น
387.45 kB/s
ถ้าคิดว่านักเรียนใช้เน็ทเฉพาะเวลาพัก ตัวเลขจะเป็น 2 GB/s ซึ่งเป็นตัวเลขที่เกินกว่าความเร็วสูงสุดจะทำได้
แสดงว่าตัวเลขนี้ไม่ได้เกิดจากการใช้งานเพื่อการศึกษาตามปกติ แต่เกิดจากการใช้เพื่อความบันเทิง และใช้ในระหว่างอยู่ในคาบเรียนด้วยแน่ ๆ ครับ
1GB ทำยังไงให้การศึกษาพอครับ?
การศึกษา ไม่ต้องใช้ youtube?
การศึกษา ไม่กินเน็ต?
ถึงแม้ตัวเลขที่โรงเรียนใช้อาจจะดูเกินกว่าใช้เพื่อการศึกษาจริงๆ แต่ผมว่า เพื่อการศึกษา หนึ่งเดือน อย่างต่ำๆ ก็น่าจะ 20-30GB แล้่ว ซึ่งมันก็เกินโปรโมชั่นอยู่ดี
ครับ นับเฉพาะการใช้เพื่อการศึกษานะครับ ไม่ได้ใช้เล่น
1GB ทำยังไงให้การศึกษาพอครับ?
สมัยก่อนไม่มีเน็ท หรือสมัยที่เน็ท 256kbps นี่เป็นระดับบรอดแบรนด์องค์กร ก็เพียงพอกับการศึกษาครับ
ก่อนที่โรงเรียนจะติดเริ่มติดตั้งเน็ท คุณคิดว่าโรงเรียนนี้เค้าอยู่ได้ยังไงครับ
สมัยคุณอยู่มัธยม ในการเรียนวันนึงคุณได้ใช้เน็ทแค่ไหนเหรอครับ
สมัยคุณอยู่มัธยม มีการใช้ youtube ในการเรียนการสอนบ่อยแค่ไหนครับ
ขนาดโรงเรียนเอกชนหรู ๆ ในเมือง ปัจจุบันยังมีแค่ไม่กี่โรงเรียนที่เน้นใช้อินเตอร์เน็ทเพื่อการศึกษากันแบบจริงจังเลยครับ
คิดว่าพอโรงเรียนนี้พอเริ่มติดเน็ทปุ๊ปทางโรงเรียนก็ปรับปรุงระบบการเรียนการสอนให้ใช้เน็ทกันขนาดนั้นเลยเหรอครับ
ปัจจุบันเปิดเว็บหน้านึงก็ต่ำๆ 1MB นะครับ นักเรียนพันคนเปิดคนละหน้าก็ครบ 1GB แล้วครับ
คุณต้องไม่ลืมว่าขนาดของ content มันใหญ่ขึ้นตามความเร็ว Internet ด้วยนะครับ มีกรณีเดียวที่จะพอคือต้องบล็อครูป, .js, .css ให้หมด
แปลว่าเราไม่ควรให้โรงเรียนมีการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตที่ดีและรวดเร็วหรือครับ? การเรียนรู้จำเป็นต้องเป็นการเรียนเสมอไปหรือครับ? บางทีการบังคับให้เด็กอยู่ในกรอบตลอดเวลา อาจเป็นสาเหตุหนึ่งให้ขาดความคิดสร้างสรรค์และเป็นเพียงแต่คนตามกระแสก็ได้
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
+1 บนบล็อกผมฝังฟอนท์ ไว้สามตัวครับ ตัวที่ใหญ่สุดก็ล่อไป 4MB แล้วล่ะ 55
เทียบการใช้งานเน็ตสมัยก่อนกับสมัยนี้ผมว่ามันไม่ค่อย make sense เลยนะครับ เดี๋ยวนี้ผมเห็นเพื่อนที่เป็นครูก็ให้ลูกศิษย์อัพงานขึ้น youtube เป็นปกติ อ่อเป็นโรงเรียนระดับอำเภออยู่ต่างจังหวัดนะครับ
ผมว่าคุณ Persuader คิดอะไรแปลกๆนะครับ
บุคคลากร และ นักเรียน มีรวมประมาณ 180 - 200 คน
หารจากที่มีคนคิด 129 kBps ก็จะได้ 0.7 kBps เองนะครับ
ใช่ครับ คงไม่มีใครทุกคนเล่นพร้อมกัน และ ใช้เน็ตตลอดเวลา (แต่เห็นคุณเอาเลข 129 kBps มาโชว์ก่อน)
แต่ผมว่าปริมาณ 10 GB ต่อวัน สำหรับคนเกือบ 200 คน นี่มันน้อยมากเลยนะครับ
อย่างหน่วยงานผม เป็นหน่วนงานด้านการศึกษา แต่ก็มีหอพักนักเรียนด้วย จึงจำกัด bandwidth ไว้ที่ 5 GB/1 user ต่อวันครับ
เพียงแค้ นักศึกษาของผม 2 คน ก็ทำงาน(เล่นเน็ต) เท่ากับทั้งโรงเรียนแม่เชียงรายวิทยาแล้วครับ
ประเด็นผมไม่อยากเถียง ว่าทำงาน หรือ เล่นเน็ตนะคร้บ ผมเชื่อว่าโลกไม่ได้สวยขนาดนั้น
แต่ 200 กว่าคนต่อ 300 GB ต่อเดือน นี่มันน้อยจริงๆอยู่ดีครับ
โพสยาวมาก
สำหรับคนที่ขี้เกียจอ่านทั้งหมด ผมขอถามความเห็นแบบสรุปสั้น ๆ นะครับ
คิดว่าการใช้ 2GB ต่อคน ต่อเดือน เฉพาะในเวลาเรียน มันเป็นปริมาณที่ไม่ได้ เกินจำเป็นสำหรับการศึกษา เหรอครับ
ผมขอยกของคุณ McKay กับคุณ kentaonline มาตอบรวมกันนะครับ
ปัจจุบันเปิดเว็บหน้านึงก็ต่ำๆ 1MB นะครับ นักเรียนพันคนเปิดคนละหน้าก็ครบ 1GB แล้วครับ
เพียงแค้ นักศึกษาของผม 2 คน ก็ทำงาน(เล่นเน็ต) เท่ากับทั้งโรงเรียนแม่เชียงรายวิทยาแล้วครับ
โรงเรียนแม่เชียงรายวิทยามีนักเรียน 160 คนครับ
เฉลี่ยนักเรียนใช้ internet เฉพาะที่โรงเรียน คนละ 2GB
เกิน FUP ปกติไปเท่าตัวเลย
ผมถามคนในนี้ที่ีอยู่กับเทคโนโลยีเลยว่า ในนี้มีใครใช้ 3G เพื่อการเรียนหรือการทำงานอย่างเดียว แล้วใช้ถึง 2GB บ้างครับ
แล้วสำหรับคนที่ใช้ถึง คิดว่าคนที่ใช้เรียนหรือทำงานเพียงอย่างเดียวแล้วใช้ถึง 2GB นี่เป็นคนส่วนมากหรือส่วนน้อยครับ แล้วถ้าตัด bandwidth จากการใช้งานในวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ และการใช้งานในช่วงนอกเหนือจากเวลาราชการออก จะยังถึง 2GB มั้ยครับ
จริงอยู่ว่า mobile site นั้นมีการใช้ bandwidth น้อยกว่า PC(full) site
แต่ผมไม่คิดว่านักเรียนโรงเรียนนี้จะไปนั่งใช้ทั้ง 160 คนตลอดทั้งวันเหมือนกัน
เพราะฉะนั้น ถ้าปริมาณข้อมูลพวกนี้ เกิดจากนักเรียนทุกคน ก็น่าจะเกิดจากอุปกรณ์พกพาครับ
แต่ถ้ามันเกิดจากเฉพาะนักเรียนบางส่วนที่ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ในโรงเรียน ตัวเลข bandwidth ที่ถูกใช้โดยเฉลี่ยจะยิ่งสูงมากครับ
เฉลี่ยห้องนึงมีนักเรียน 14.5 คน คำนวณคร่าว ๆ โดยสมมุติให้โรงเรียนเปิดเรียนทุกวัน ไม่หยุดวันเสาร์อาทิตย์ และมีนักเรียนอย่างน้อย 1 ห้องใช้คอมทุกวัน
จะได้ว่านักเรียนแต่ละคนที่ใช้คอม ใช้ข้อมูลเป็นปริมาณ 776 MB ต่อคน ทุกวัน ครับ
เป็นปริมาณเพียงพอที่จะให้นักเรียนแต่ละคนโหลด series ยาว 1 ชั่วโมงมาดูวันละตอนได้เลยนะครับ
แปลว่าเราไม่ควรให้โรงเรียนมีการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตที่ดีและรวดเร็วหรือครับ?
ควรให้ครับ แต่ถ้าให้เกินจำเป็นก็อาจจะถูกนำไปใช้แบบผิดวัตถุประสงค์ได้อย่างที่เห็น
และอย่างที่พูดไปใน comment ก่อนหน้านี้
ถ้า bandwidth ที่เกิดขึ้นนี่เกิดจากการใช้สำหรับการเรียนการสอนจริง ผมคิดว่าโรงเรียนนี้สุดยอดมากครับ สมัครใช้บริการเดือนแรกก็มีการปรับระบบการเรียนการสอนให้ไปอิงกับการใช้ internet ได้เป็นจำนวนมากเลยทีเดียว
การเรียนรู้จำเป็นต้องเป็นการเรียนเสมอไปหรือครับ?
ไม่จำเป็นครับ แล้วความรู้จาก internet มันจำเป็นต้องมาเรียนรู้จากในโรงเรียนเสมอไปหรือครับ?
ผมคิดว่าความรู้ส่วนใหญ่ที่หาได้จาก internet มันไม่จำเป็นต้องมาเบียดเวลาการเรียนการสอนตามปกติของโรงเรียนมากนะครับ
คือมีบ้างก็ดี แต่มีเยอะ ๆ ผมว่าไม่ดีครับ
บางทีการบังคับให้เด็กอยู่ในกรอบตลอดเวลา อาจเป็นสาเหตุหนึ่งให้ขาดความคิดสร้างสรรค์และเป็นเพียงแต่คนตามกระแสก็ได้
ประเด็นนี้ผมไม่ตอบนะครับ อาจะเป็นได้ หรืออาจะไม่ใช่ก็ได้ครับ สมาชิกในนี้ผ่านการศึกษาแบบอยู่ในกรอบหรือเปล่า แล้วออกมาคิดว่าตัวเองเป็นคนตามกระแสไหม เชิญตอบตัวเองกันนะครับ
เทียบการใช้งานเน็ตสมัยก่อนกับสมัยนี้ผมว่ามันไม่ค่อย make sense เลยนะครับ เดี๋ยวนี้ผมเห็นเพื่อนที่เป็นครูก็ให้ลูกศิษย์อัพงานขึ้น youtube เป็นปกติ อ่อเป็นโรงเรียนระดับอำเภออยู่ต่างจังหวัดนะครับ
ผมยกตัวอย่างโรงเรียนในปัจจุบันไปด้วยนะครับใน comment ที่แล้ว
ว่าแต่ว่า มีความจำเป็นอะไรหรือครับที่ต้องสั่งงานเป็นไฟล์วีดีโอ แล้วให้อัพโหลดส่งทาง Youtube บ่อย ๆ
แล้วที่บอกว่าบ่อยนี่บ่อยแค่ไหนครับ บ่อยจนทำให้เกิดปริมาณการใช้งานเยอะขนาดนี้เลยเหรอครับ
ปริมาณที่เกิดขึ้นนี่เกิดจากการใช้งานภายในโรงเรียนนะครับ ถ้าอาจารย์ที่โรงเรียนนี้ทำแบบเดียวกัน แต่ต่างกันตรงที่อาจารย์สั่งให้นักเรียนต้อง upload ขึ้นบน Youtube ก่อนส่งทุกงาน ทั้ง ๆ ที่นักเรียนก็นั่งอยู่ตรงหน้า และไฟล์วีดีโอก็อยู่ในเครื่อง
มันก็ถือเป็นการใช้ bandwidth โดยไม่จำเป็น และเป็นการทำให้เสียเวลาเรียนโดยใช่เหตุด้วยครับ
สมัยผมเรียนอาจารย์วิชาเคมีของผมให้ส่งรายงานโดยการทำเป็น website ส่งทุกสัปดาห์ครับจนผมไปถามอาจารย์เลยว่าทำไมต้องให้ส่งเป็น website แทนที่จะส่งทาง email และก็ได้คำตอบกลับมาว่า ต้องการให้นักเรียนทำ website เป็น ซึ่งเป็นคำตอบที่ไม่เกี่ยวอะไรกับวิชาเคมีเลย และนักเรียนก็ได้ศึกษาการทำ website เฉพาะการส่งงานครั้งแรกเท่านั้น งานครั้งหลัง ๆ ก็เป็นการทำแบบเดิม เพียงแต่เปลี่ยนเนื้อหา ซึ่งนักเรียนส่วนมากก็ copy source ของเก่ามาใช้เลย ไม่ได้ทำให้นักเรียนได้ความรู้ในการทำ website เพิ่มเติมเลยครับ
การใช้เทคโนโลยีในการเรียนเป็นเรื่องดีครับ แต่การใช้อย่างถูกวิธี กับการใช้เกินพอดี เกินความจำเป็น เป็นคนละเรื่องกันครับ
ใครคิดว่า การเรียนการสอนภายในโรงเรียน ต้องใช้ Youtube ช่วยอธิบายให้ฟังได้ไหมครับว่า Youtube มันมีความจำเป็นสำหรับการศึกษาภายในโรงเรียนอย่างไร
ขอบคุณที่เข้ามาตอบนะครับ มันอาจจะดูผิดปกติไปจริงๆ ก็ได้สำหรับปริมาณคนที่ใช้เทียบกับการใช้งานอินเตอร์เน็ต แต่ผมก็มองในแง่ที่ว่ามันไม่ควรจะมีการมาจำกัดการใช้งานในด้านขของการศึกษาในการใช้งานด้านอื่นๆ อย่างปกติ เหมือนเน็ตมหาวิทยาลัย ส่วนคนการใช้งานที่ผิดวัตถุปรสงค์คงต้องเป็นการสืบสวนภายในเพื่อหาทางแก้ปัญหากันต่อไป
ส่วนเรื่อง youtube ผมว่าในปัจจุบันมันคือส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตเด็กไปแล้ว เราจะมาปิดกั้นหรือทิ้งทรัพยากรที่มีเอาไว้โดยเปล่าประโยชน์ทำไม เรื่องวิดีโอที่ให้อัพนั้นเป็นหัวข้อเกี่ยวกับวิชาฟิสิกส์ครับเท่าที่ผมเห็น โดยให้นักเรียนทำ MV เอาทำนองเพลงฮิตมาใส่เนื้อร้องจากเนื้อหาในวิชาฟิสิกส์ซึ่งมันสามารถต่อยอดไปได้เยอะทั้งเป็นการกระจายความรู้ ทำให้เห็นว่าการใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์เป็นยังไง ยอดวิวที่เกิดอาจจะทำให้เด็กอยากทำวิดีโออื่นๆ เพิ่ม ฯลฯ ไม่ใช่แค่เอาวิดีโอมาเปิดให้อาจารย์ดูแล้วก็จบๆ กันไป เพราะวิดีโอมันจะยังคงอยู่ในนั้นรอให้คนอื่นๆ เข้ามาเจอ เข้ามาดู
ซึ่งกว่าจะออกมาเป็นวิดีโอได้ผมว่ามันก็ต้องมีการ research และใช้ปริมาณข้อมูลมากพอสมควรเลยทีเดียว
ประเด็นของผมที่ผมแย้งคุณไม่ใช่ 300GB มันไม่เกินไป แต่คือ 1GB ให้ตายก็ไม่พอ (หรือจริงๆ มากสุดที่ผมเห็นคือ 10GB (true lte ตัวท็อป) ยังไม่น่าพอเลย)
ตรงนี้ขอโต้แย้งได้ไหมครับ ผมเคยใช้ 3G Tot 1GB แบบใช้แล้วหมดเลย
25 วันก็หมดแล้วครับผมใช้แค่อ่านข่าวอย่างเดียว ยูทูปไม่ดูแถมใช้คนเดียวยังเกลี้ยงนี่ใช้ทั้งโรงเรียนนะครับ นอกจากนี้ลองนึกสภาพที่โปรแกรมอัพเดทตัวเองในเครื่องสิครับพร้อมกันร้อยเครื่องก็ไม่ต่างจากโหลดบิทหรอกครับ
ถึงจะแค่เพื่อการศึกษาสำหรับเนื้อหาในปัจจุบันยังไงก็ไม่พอ ถึงแม้จะมี proxy cache ก็ตามแล้วโรงเรียนระดับนั้นเค้าคงไม่มีระบบคัดกรองเนื้อหาที่บังคับให้เข้าถึงได้เฉพาะเนื้อหาที่เกี่ยวกับการศึกษาอย่างเดียว
ถ้าเค้ามีระบบแบบนี้ก็คงไม่เลือกเน็ต 3G ของ CAT หรอกครับ
"My My Click"?
My by CAT / My Click
อั้ยย่ะ ป๋าจริงๆ พี่แมวเรา
หน้าจะมีโปรโมชั่น สำหรับโรงเรียนทุรกันดาร โดยเฉพาะไปเลยนะครับ เพราะถ้าจะให้มาใช้โปร 590 นี่แทน มีหวังโดน แฟร์ยูสเสจ ครับ
โปรนี้สำหรับโรงเรียน รู้สึกปลดเงื่อนไขแฟร์ยูสให้นะครับ
แหม่ ก็พอๆ กันกับในโฆษณา หรือในโบรชัวร์แหล่ะครับ ตัวนิ๊ดดดดนึงว่าจะคิดเพิ่มในอัตราเท่านี้ ส่วนที่แบบไม่จำกัดก็อันนิ๊ดดดนึงว่าใช้เกินปุ๊บจะลดลงมาความเร็วเท่านั้นเท่านี้
จะเป็นไรไปครับถ้าจะอธิบายรายละเอียดให้ครบถ้วนสมบูรณ์เข้าใจง่ายๆ
เอิ่ม ไม่ได้หมายถึงเจ้าไดเจ้านึงนะ ทุกเจ้าเลย :p
โปร 299 โดนกันมาหลายคนแล้วครับ ถ้าใช้ดาต้าเกินนี้ จ่ายกันจุกเลยครับ (โปรนี้มีในผู้ให้บริการทุกราย เลย)
ตอนนี้รู้สึกจะปรับเป็น 500MB ติด FUP ทุกค่ายแล้วมั้งครับ?
ปล. ผมใช้ 299 DTAC อยู่ =w=
ดีนะที่เป็นโรงเรียน และดีนะที่เกินมาตั้งแสน ถ้าเกิดแค่หมื่น สองหมื่นละก็ข่าวคงไม่ดัง และพี่แมวคงไม่สน
น่าจะมีลิมิตให้ตั้งแต่แรกเริ่ม
งงชื่อโรงเรียน โรงเรียนแม่เชียงราย แต่อยู่จังหวัดลำปาง
ลำปาง แม่เชียงรายหาข้อมูลไม่พบ รู้แต่ว่าชื่อที่ถูกต้องคือโรงเรียนแม่เชียงรายวิทยา ตั้งอยู่บ้านแม่เชียงราย อำเภอแม่พริก ขึ้นกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 2 เท่านั้นเอง
อยากเห็นบิล ว่าเค้าเขียนว่ายังไง
เขียนโปรตัวใหญ่เท่าช้าง แต่รายละเอียดยิบย่อยเขียนเท่ามด
นิ้วกลางเหอะครับ
แบบนี้ เดี่ยมีอีกราย เพราะโปรมันมีปัญหา ถ้าคนเข้าใจผิดอีก ก็เจออีก
จ่ายไม่จ่ายมีค่าเท่ากัน ยังไงเงินก็เข้ากระทรวงการคลัง
Opensource - Hackintosh - Graphic Design - Scriptkiddie - Xenlism Project
แล้วไม่ขาดทุนเหรอเดี๋ยวก็ได้ขอเงินรัฐมาอุดหนุน
คนเสนอให้เปลี่ยน กับคนเซ็นเปลี่ยน ต้องโดนสอบสวนทั้งคู่ครับ จะด้วยความตั้งใจ หรือผิดพลาด ก็ต้องให้รู้ไว้
ถูกต้องครับ ผู้บริหารไปสอบสวนเองด้วยนะเออ
แต่จริง ๆ ทาง CAT ควรจะถือโอกาสเปิดตัวแพคเกจสำหรับสถานศึกษา ให้ความเร็วระดับเดียวกับธุรกิจแต่ราคาใกล้เคียงกับผู้ใช้ทั่วไป ถือเป็นการทำ CSR ในตัวจะได้หน้ามากกว่านี้อีก (อย่าลืมว่าทุกคนรุมด่า CAT ในฐานะตัวถ่วงความเจริญของประเทศมาหลายปีอยู่นะ อาจจะช่วยได้จึ๋งนึง ดีกว่าไปปลูกป่า/สร้างฝายเหมือนบ.อะไรก็ไม่รู้สักที่อีกเยอะเลย)
+10
บริษัทที่ชอบสร้างฝาย ซึ่งในบางพื้นที่ไม่มีความต้องการ และสร้างผลเสียมากกว่าก็มีครับ เหอๆ
ปลูกฝายตาม.... หาเรื่องติดคุกกันหรอครับเอามาพูดกันเนี่ย= =
ขยายโครงการ NedNET เลยครับ โรงเรียนละ 100Mbps