รายงานจาก AdAge บอกว่าแอปเปิลต้องการเพิ่มขนาดทีมงานโฆษณา การตลาด และครีเอทีฟภายในบริษัท หลังจากก่อนหน้านี้ที่มีการกำหนดไม่ให้ขนาดของทีมนี้มีจำนวนพนักงานเกิน 300 คน โดยแอปเปิลต้องการเพิ่มจำนวนพนักงานในส่วนนี้ให้มากถึง 500-600 คน
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ถือว่าเป็นการเลิกทำตามแนวคิดของสตีฟ จ็อบส์ โดยจ็อบส์เองเป็นคนที่กำหนดไว้ในตอนแรกว่าจำนวนพนักงานของทีมนี้ต้องไม่มากจนเกินไป แม้ว่าแอปเปิลจะมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ แต่จำนวนพนักงานในส่วนนี้กลับไม่โตตามบริษัท ส่วนหนึ่งเกิดขึ้นเพราะว่าจ็อบส์ต้องการให้แอปเปิลเป็นบริษัทที่ใช้สินค้านำการตลาด ไม่ใช่การตลาดนำสินค้า
ในรายงานยังบอกอีกว่า แอปเปิลต้องการลดการพึ่งพาทีมงานการตลาดภายนอกอย่างบริษัท Media Arts Lab แต่อย่างไรก็ตามแอปเปิลยังจะคงทำงานร่วมกับทีมการตลาดนอกบริษัทตัวเองต่อไป
ที่มา - 9to5Mac
Comments
คนตายไปแล้วใครจะฟังครับ
ผมฟังครับ ถ้าคนตายยังลุกขึ้นมาพูดให้ฟัง
ปล. ถ้าไม่เข่าอ่อนเป็นลมไปเสียก่อนนะ
3 ตัว 6 ตัว เต็ง ๆ
ผมคนนึงล่ะที่ฟังแน่ ๆ :D
หลายๆครั้งพบว่าคำพูดของคนเก่าแก่มักถูกเสมอ และ หลายๆครั้งมักพบว่าการไม่ปรับตัวต่อสถานะการและยึดมั่นกับบางสิ่งมากไป ก็จะทำให้ไม่เกิดการพัฒนา
ลุกขึ้นมาบีบคอ =_=
ต่อกรกับ Samsung สินะ
"การตลาดนำสินค้า" นี่คุ้นๆเลย
อ่าวเหรอ
ผมมองว่า Apple ยุค iPod iPhone iPad นี่เป็นบริษัทที่โตมาได้เพราะ การตลาด เลยนะครับ
ไม่รู้ผมคิดไปเองหรือเปล่าว่า ผมเห็นสินค้าที่ดีกว่าของ Apple นี่มันก็มีอยู่ แต่มันไม่เป็นที่รู้จักบ้าง ไม่มีสาวกบ้าง หรือถูกมองด้วยอคติเนื่องจากสินค้าของบริษัทนั้นหรือเพื่อนร่วมชาติของบริษัทนั้นในยุคก่อนหน้ามันแย่ เลยถูกเหมารวมว่ามันจะแย่ไปหมด ทำให้ Apple ขายดีกว่า ซึ่งผมมองว่าพวกนี้มันเป็นเรื่องของการตลาดชัด ๆ เลยครับ ไม่ใช่เรื่องของคุณภาพสินค้า
ลองดูนี่ครับ Chart of the Day: Samsung's galactic marketing budget
เป็นความเห็นที่มีประโยชน์มากครับ
SS ลงการตลาดเยอะสุดแล้ว ทุกสื่อ ทุกที่ ทุกเวฃา ลดแลกแจกแถม
บริจาคให้ มหาลัย จัดแข่ง Dev ทุกอย่างจริงๆอะ
ซัมซุงนี่การตลาดนำจ๋าเลยแน่นอนครับ
แต่ก็ไม่ใช่ว่าซัมซุงใช้การตลาดนำแล้วแอปเปิลจะไม่ได้ใช้นี่นะ
ส่วนหนึ่งก็คงเป็นการตลาดและคุณภาพ แต่ผมว่ายุคจ็อบส์ ศรัทธา, Wow และอารยธรรมเป็นประเด็นหลักนะครับ
ก่อนจะบอกว่าบริษัทไหนโตเพราะอะไรควรเข้าใจคำว่าการตลาด กับสินค้าก่อนครับ
สินค้าก็ตัวสินค้า ไม่น่าจะต้องอธิบายไปไกล สินค้าดี คือคุณภาพในตัวของมัน ความคงทนของสินค้า ประสบการณ์ในการใช้ (UX&Usability) ที่ดี (คือเดาว่าน่าจะทำอะไรได้ก็ทำได้หมด ประมาณนั้น)
ส่วนการทำการตลาดให้ดี คือการทำในส่วนที่สินค้าทำไม่ได้ ซึ่งก็ได้แก่ คุณภาพนอกตัวสินค้าทั้งหลาย อันได้แก่คุณค่าทางอารมณ์ บริการหลังการขาย ฯลฯ
หลายครั้งก็ไม่ได้แปลว่าตัวสินค้าไม่มีคุณภาพนะครับ คุณภาพสินค้าดีอยู่แล้วก็ทำการตลาดได้มันก็จะยิ่งส่งเสริมขึ้นไปอีก
แต่ตอนนี้ที่แอปเปิ้ลเป็นขาลงในยุค Post-Jobs ซึ่งพูดได้เต็มปากแล้วว่า “ไม่มีนวตกรรมใหม่อีกต่อไปแล้ว” เราจึงเห็นการจ้างงานฝั่ง “สร้างคุณภาพนอกตัวสินค้า” มากขึ้น ซึ่งชัดเจนนะ ครีเอทีฟจะคิดงานมาถึงงานสร้างสรรค์ฮาร์ดแวร์หรือเปล่า ผมไม่รู้ครับ แต่เท่าที่เห็นเขากำลังจ้างครีเอทีฟฝั่งการตลาด
ส่วนการตลาดที่เกิดขึ้นโดยคุณภาพสินค้าเอง และเป็นการส่งผ่านโดยการรับรู้หรือมองเห็นของลูกค้ากันเอง (อย่างที่สินค้าแอปเปิ้ลเคยเป็น) นั่นคือผลพลอยได้ ไม่ใช่เงินลงทุนของแอปเปิ้ล
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณอาจบอกว่ามันก็เกิดจากการทุ่มเท R&D ซึ่งเป็นเงินตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว ข้อนี้ถ้าจะแยกให้ชัดต้องบอกว่า R&D เป็นการลงทุนเพื่อคุณภาพในตัวสินค้าเอง ก็จะไม่ใช่งบการตลาดอยู่ดีครับ
“ไม่มีนวตกรรมใหม่อีกต่อไปแล้ว” ?
“สร้างคุณภาพนอกตัวสินค้า” โฆษณาเกินจริง ?
แอปเปิ้ลเป็นขาลง = ยอดขายลดลง ขายของไม่ได้ กำไรลดหรือขาดทุน ? *เอ่อราคาหุ้น ก็มีขึ้นมีลงบ้างเอาน่าอย่ามองตรงนั้นเลย
iPod กับ iPhone เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดแล้วว่า ผลิตภัณฑ์นำการตลาด เพราะถ้าคิดตามแบบที่ตลาดเป็นอยู่ในเวลานั้น iPod ก็จะมีฟังก์ชั่นเยอะแยะ สร้าง playlist ได้ในตัวเครื่องตามแบบเครื่องที่ทำขายในเวลานั้น ที่สำคัญ iPod ออกมาทีแรกใช้ได้กับ Mac เท่านั้น ถ้าให้การตลาดนำก็คงจะทำออกมาใช้ได้กับ Windows ตั้งแต่แรก
ส่วน iPhone นี่ยิ่งชัดว่าการตลาดตามหลัง เพราะในเวลานั้น กระแสโทรศัพท์ smartphone ต้องมีปุ่มเยอะๆ อย่างน้อยต้องกด Qwerty ได้ครบ
จริงๆแล้วกลับกันครับ
อ.การตลาดผมสอนว่า"นักการตลาดต้องเข้าใจลูกค้า ดีกว่าที่ลูกค้าเข้าใจตัวเอง" และจอบส์นี่แหละนักการตลาดชั้นยอด เพราะมองออกถึงความไม่สมบูรณ์แบบในตลาดตอนนั้น และเข้าใจว่าลูกค้าต้องการอะไร
ส่วนพวกที่แห่ไปทำผลิตภัณฑ์แนวเดียวๆกัน นั่นเรียกว่าให้"ตลาด"มานำผลิตภัณฑ์ครับ ถือเป็นการตลาดชั้นสองเลย
ใช้ศรัทธานำสินค้า สาธุแจ้
ถ้าสินค้าดี มันจะขายตัวมันเอง
และผมก็คิดว่า คนเราต้องการนวัตกรรม 2 เท่า ทุกๆ 2 ปี คล้ายๆกฎของมัวร์
ไม่ใช่ฝืนหรอกเค้าปรับตัวตามตลาด จะได้ไม่ล่มแบบโนเกีย
ผมว่าจะกลับมาแบบเดิมแน่ๆapplee
หรือเป็นเพราะว่า appleคิดว่าสินค้าของตนไม่สามารถนำการตลาดได้แล้ว จึงจำเป็นต้องเอาการตลาดนำสินค้า
สตีฟ จอบส์ : โลงผมสั่น...
โครงการ ซัมซุงคิดแอปเปิลทำ3
คงเป็นการบอกว่า นวัตกรรม ความ WOW และ ศรัทธา ที่เคยผลักดัน apple ให้มาถึงจุดนี้มันเริ่มหมดไปแล้วนะ
หรืออีกในนึงคือ ความสามารถในการขายตัวเองของสินค้า apple ลดลง เลยจำเป็นต้องอัดการตลาดเข้ามาช่วย
การพัฒนาเป็นสิ่งที่ดี แต่ขอให้คิดให้ดีก่อนทำ
แนะนำให้ลดขนาดทีมกฏหมายครับ :D
สิ่งที่จะคงอยู่ในโลกได้ต้องปรับตัว ถ้าเจอการแข่งขันกับคู่แข่งที่เน้นการตลาดก็ต้องปรับตัวด้านการตลาด
บริษัทแอปเปิ้ลตอนนี้กำลังโตขึ้นจากยุคที่จ๊อบส์ปลุกปั้นและเริ่มขายสินค้าอย่างอื่นที่ไม่ใช่คอมพิวเตอร์
ก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับวงการ
แค่เห็น design IOS7 ก็รู้ได้เลยว่าจบเห่แล้วงานนี้
คุณไม่ชอบไม่ได้หมายความว่าคนอื่นๆจะไม่ชอบเหมือนกันนะครับ
หลายคนไม่ชอบนะครับ ถึงจะเปิด poll แล้วส่วนใหญ่ชอบก็ตาม แต่กับ user ทั้วไปที่ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงเจอ ui ใหม่ไม่รู้จะส่งผลดีหรือร้ายแน่
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
สิ่งที่แปลกคือ คนที่ไม่ชอบจำนวนมาก ก็ไม่เปลี่ยนไปใช้อย่างอื่น
ยอมปรับตัว ผมว่าแปลกนะ
ผมกำลังจะเปลี่ยนครับ
จริงๆหลายคนก็รู้สึกอยากเปลี่ยน เพียงแต่รอเวลาเท่านั้น
เรื่อง design ใหม่นี่เป็นอะไรที่ค่อนข้างแปลกสำหรับผมนะ
กล่าวคือ เท่าที่ผมตามดูความเห็นของหลายๆคน คนทั่วไป จะชอบครับ
ส่วนกราฟิคดีไซเนอร์ ครีเอทีฟ พวกที่ทำงานในสายออกแบบนี่ ด่าเกือบทุกคน
มันไม่ใช่เรื่อง FLAT หรือ SIMPLE นะครับ แต่งานมัน "ลวก" ครับ องค์ประกอบเล็กน้อยถ้าปรับอีกนิดนึง มันจะสวยมาก
ผมว่ามันแล้วแต่รสนิยม ยังฟันธงตอนนี้ไม่ได้ รอดูยอดขายดีกว่าครับ
เห็นด้วยนะ ว่าดีไซน์หลายส่วนไม่ลงตัว
ลองใช้มาเดือนกว่าๆละโดยไม่รีกลับ
ออกแบบมายังงี้แพ้ทางแอนดรอยจริงๆ
เมื่อไม่มี Idol ของ Brand เหมือนเมื่อก่อน ก็คงต้องใช้ Ideas จากทีม Marketing เพื่อทดแทนส่วนที่ขาดหาย จนกว่าจะมี Idol คนถัดไปมาเกิดกับ Brand ซึ่งยากมากที่ใครจะเข้าใจ Brand ของตัวเองดีเท่าคนที่ก่อตั้ง
apple คนใช้เยอะส่วนใหญ่มาจากกระแสแบรด์น ใช้ตามๆกันปากต่อปากว่าดี ทั้งที่มีดีกว่าเขาก็ว่าดี มาตอนนี้ iphone รู้สึกเดิมๆมากๆไม่มีอะไรก้าวกระโดดให้น่าสนใจอีกแล้วนานแล้ว ขนาดคนรู้จักรสาวก apple ยังถอยห้าง iphone กันนหล่นยคนเพราะความเดิมๆ ไม่เหมือนยุค สตีฟ จ๊อบ
ถ้าไม่ขนาดa day of glass ไม่ว่าเจ้าไหนก็ไม่ wow แล้วละครับ
ถ้าเป็นการ์ตูนทำอาหาร จะมีคนออกมาพูดว่า "ถ้าเป็นเถ้าแก่คนเก่าเอง ก็จะปรับปรุงสูตรตามยุคสมัยเช่นกัน"
ก็หวังว่า ทิม คุก จะเปลี่ยนแปลงแอบเปิลใหม่ โดยที่ยังรักษาเสน่ห์เก่าๆไว้ได้ครับ - ถามว่าเสน่ห์นั้นคืออะไร ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน
พลาดแล้ว..
แบบนี้ก็ไม่ต่างกับบริษัทธรรมดาอื่นๆละ
เหมือนรูปมาม่า ดูน่ากินแค่บนซอง
When you don't invent, marketing is the way to go.
อืม...
ส่วนตัวชอบแอ๊ปเปิ้ล และยังชอบอยู่ คนที่จ๊อบส์ฝากฝังแอ๊ปเปิ้ลไว้คือคุ๊ก ไม่ว่าจะเปลี่ยนแบบไหนเชื่อว่าทำให้แอ๊ปเปิ้ลเป็นแบรนด์ที่มั่นคงได้แน่นอน
ไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงยังไงก็ยังจะชอบ Apple ไม่ได้ชอบเพราะแบรนด์ ชอบเพราะความคิดของบริษัทที่สามารถเปลี่ยนทั้งโลกได้
และหวังว่าการฝ่าฝืนจะเป็นการนำทำให้ Apple ดีขึ้นนะครับ :) ฝากด้วยคุ๊ก
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ