iPhone 5s เป็นสมาร์ทโฟนตัวชูโรงประจำปีนี้ของแอปเปิลที่เพิ่งจะเปิดตัวเมื่อต้นเดือนนี้ และได้จัดจำหน่ายเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้ในบางประเทศโดยไม่มีการเปิดให้จองล่วงหน้า ในครั้งนี้ iPhone 5s ถือว่าเป็นการปล่อยไอโฟนรุ่น "ปรับปรุงและอัพสเปค" เช่นเดียวกับที่แอปเปิลเคยทำมาแล้วสองครั้งก่อนหน้้ากับ iPhone 4/4S และ iPhone 3G/3GS
หลังจากที่ได้ iPhone 5s มาใช้แล้วสองสามวัน ผมเลยขอเขียนรีวิวสั้น ๆ มาให้อ่านกันครับ
iPhone 5s มีทั้งหมดสามสีด้วยกัน โดยในครั้งนี้สีที่มาใหม่มีทั้งหมดสองสี นั่นก็คือสี Space Grey ซึ่งจะแตกต่างจากสีดำเดิมอยู่เล็กน้อย หากวางข้าง ๆ กับ iPhone 5 สีดำ จะพบว่าสีใหม่เทาใหม่นี้จะไม่มืด และไม่อมสีน้ำเงินเข้มเท่ากับสีดำเดิม ส่วนสีใหม่อีกสีก็คือสีทอง ซึ่งเอาจริง ๆ แล้วถ้าดูไกล ๆ โดยไม่มีสีเงินเดิมมาเปรียบเทียบข้าง ๆ แทบจะมองไม่ออกเลยว่ามันคือสีทอง
ดีไซน์ภายนอกของ iPhone 5s แทบจะไม่ต่างจาก iPhone 5 ส่วนที่สามารถสังเกตได้ชัดว่าต่างจาก iPhone 5 นอกจากสีของตัวเครื่องก็คือขนาดของเลนส์กล้องถ่ายภาพ และแฟลช
สมัย iPhone 4 แอปเปิลได้วางขาย Bumper Case เป็น "Official case" มาคราวนี้แอปเปิลได้เลือกที่จะขายเคสหนังควบคู่ไปกับ iPhone 5s โดยวัสดุที่ใช้ดูจะไม่ต่างไปจาก Smart Cover หนังของ iPad มากนัก แต่เมื่อได้สัมผัสแล้วจะรู้สึกว่ามันไม่เหมือนกับ Smart Cover แต่อย่างใด แต่เหมือนกับถาดรองไข่มากกว่า
iPhone 5s พร้อมกับเคสหนังสีแดง (ขายแยกต่างหาก)
ถ้าพูดถึงคุณสมบัติที่ได้รับความสนใจมากที่สุดบน iPhone 5s ก็คงหนีไม่พ้นเซ็นเซอร์อ่านลายนิ้วมือที่แอปเปิลเรียกว่า Touch ID ซึ่งจากการใช้งานมาได้ 3 วันเต็ม ๆ บอกได้เลยว่ามันสามารถใช้งานได้ดีอย่างน่าเหลือเชื่อ แต่ถ้าหากถามว่ามันสมบูรณ์ 100% ไหมคงต้องตอบว่าไม่
การตั้งค่าการใช้งาน Touch ID ไม่ได้ยากอย่างที่คิด แต่ใช้เวลาพอสมควร ผู้ใช้จะต้องคอยแตะนิ้วตัวเองแล้วปล่อยหลายครั้ง โดยในแต่ละครั้งจะต้องขยับนิ้วเล็กน้อยเพื่อให้ Touch ID ได้เรียนรู้หลาย ๆ ส่วนของลายนิ้วมือของผู้ใช้ หลังจากนั้น ผู้ใช้ต้องลองแตะเซ็นเซอร์หลาย ๆ ครั้งอีกรอบ โดยคราวนี้ผู้ใช้จะต้องลองเปลี่ยนองศา และท่าที่ใช้ในการแตะเซ็นเซอร์ ขั้นตอนนี้เอาจริง ๆ ใช้เวลาไม่เกิน 2 นาทีในการติดตั้ง
เมื่อถึงเวลาใช้งานจริง จะพบว่าบางครั้ง iPhone 5s ไม่สามารถอ่านลายนิ้วมือเราได้ แล้วให้เราลองแตะนิ้วใหม่อีกครั้ง ส่วนตัวผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเพราะอะไร เพราะบางครั้งผมก็ค่อนข้างมั่นใจว่าเราก็แตะนิ้วได้ถูกต้องแล้ว แต่ส่วนใหญ่เมื่อลองอีกครั้งมักจะไม่มีปัญหา ผมได้ลองลบและเพิ่มลายนิ้วมือใหม่อีกครั้ง แต่ยังเจอปัญหานี้อยู่ดี แต่โดยรวมแล้วกรณีอ่านลายนิ้วมือไม่ออกในครั้งแรกที่กด จะเจอวันละ 5-6 ครั้งเท่านั้น ส่วนตัวแล้วคิดว่าน่าจะเป็นความผิดผมเอง (user error) แต่เอาจริง ๆ มันก็หมายความว่าการอ่านลายนิ้วมือมันไม่ได้ง่ายพอที่จะสามารถใช้ได้ในทุกโอกาส (เช่นระหว่างวิ่งอยู่เป็นต้น) แต่โดยรวมแล้วแม้วิ่งก็ยังปลดล็อคได้มากครั้งกว่า
ผู้ใช้ยังจะต้องกรอก Pin Unlock หรือรหัสผ่านเป็นบางครั้งแม้ว่าจะเปิดใช้งาน Touch ID อยู่ ทุกครั้งที่มีการปิดหรือเปิดเครื่อง iPhone 5s จะถามหารหัสเพื่อปลดล็อคหน้า Lock-screen ครั้งแรกก่อน หลังจากนั้นผู้ใช้จะสามารถใช้ลายนิ้วมือได้ ในส่วนของ App Store ผมยังไม่เข้าใจว่าทำไมบางครั้งเราสามารถใช้ Touch ID ได้ บางครั้งใช้ไม่ได้ แต่คิดว่าน่าจะเกี่ยวกับระยะห่างของเวลาในการซื้อแอพแต่ละครั้ง ข้อดีของการบังคับให้กรอก Pin Unlock ทุกครั้งที่มีการปิดและเปิดเครื่องก็คือหากเราหลับอยู่ เพื่อนจะไม่สามารถเอานิ้วเรามาจิ้มเปิดมือถือได้ ถ้าเราได้ปิดเครื่องไว้ก่อนนอน แต่จริง ๆ แอปเปิลน่ามีวิธีให้ผู้ใช้เลือกเปิด-ปิดการใช้งาน Touch ID ได้มากกว่านี้ (สรุป: แอปเปิลชอบคิดแทนผู้ใช้ตามเดิมในส่วนนี้)
น่าเสียดายที่ Safari หรือแอพอื่น ๆ ยังไม่สามารถใช้งาน Touch ID Unlock ได้ แต่เชื่อว่าอีกไม่นาน แอปเปิลคงเปิด API ให้แอพอื่น ๆ สามารถถามหาการปลดล็อคผ่าน Touch ID ได้โดยที่แอพไม่สามารถเข้าถึงลายนิ้วมือได้ แต่เพียงแค่เรียกใช้การปลดล็อคเฉย ๆ แต่คิดว่าผู้ใช้อาจจะต้องรอ iOS ตัวต่อไปถึงจะได้เห็นการใช้งาน Touch ID ที่เป็นประโยชน์มากกว่านี้ ส่วนตัวผมคิดว่าในปีนี้ หลังจากที่เกิดเหตุการณ์เกี่ยวกับการล้วงข้อมูลประชาชนของรัฐบาลประเทศต่าง ๆ แอปเปิลได้ตัดสินใจที่จะเลือกสร้างความมั่นใจในความเป็นส่วนตัวด้วยการจำกัดคุณสมบัติของ Touch ID
จากที่ผมได้ลอง Touch ID สามารถใช้งานกับข้อนิ้วได้ด้วย รายงานอื่น ๆ เองก็บอกว่า Touch ID สามารถใช้งานกับอวัยวะส่วนอื่น ๆ ทั้งของมนุษย์และสัตว์ได้ เพราะฉะนั้นแล้วถ้าใครคิดว่าลายนิ้วมือนั้นอินดี้ไม่พอ สามารถทดลองใช้อวัยวะอื่น ๆ ในการปลดล็อคได้
ในครั้งนี้ แอปเปิลได้เลือกที่จะเข้าแจมสงครามยัดสเปค เช่นเดียวกับผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจากฝั่ง Android แต่จากการทดลองใช้ในเกมต่าง ๆ แล้ว พบว่าเฟรมเรท (frame rate) ดีขึ้นอย่างชัดเจนที่สุด ส่วนระยะเวลาที่ใช้ในการโหลดเกมก็เร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
แต่ถ้าพูดถึงเรื่องการใช้งานทั่วไปอื่น ๆ แล้ว นอกจากเวลาที่ใช้ในการโหลดตอนเปิดแอพ (ที่ต่างกันพอสมควร) และความลื่นไหลของ UI (ที่ไม่ได้ต่างกันมาก) ผู้ใช้ทั่วไปแทบจะไม่เห็นความแตกต่างระหว่าง iPhone 5s กับ iPhone 5 แอนิเมชั่นและภาพเคลื่อนไหวของตัวระบบปฏิบัติการเองก็ไม่มีความแตกต่างแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่าตอนนี้ยังเร็วเกินที่จะติดสินความแรงของ iPhone 5s เมื่อเทียบกับไอโฟนรุ่นก่อน ๆ จากการใช้งานทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยประมวลผลช่วยเหลือ M7 ซึ่งมีหน้าที่เก็บและประมวลผลข้อมูลเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวจากเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ยังไม่ได้ถูกนำมาใช้งานในแอพต่าง ๆ แต่อย่างใด
ในส่วนของการเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่าย LTE ชิปที่แอปเปิลใช้ใน iPhone 5s เมื่อเทียบกับ iPhone 5 ไม่ได้มีความแตกต่างในเรื่องของความเร็วในการเชื่อมต่อ iPhone 5s เองก็ยังไม่ได้รองรับ LTE Advanced แต่อย่างใด
iFixit เองได้ออกมาบอกว่าชิป A7 ของแอปเปิลมีแรมเพียงแค่ 1GB ซึ่งไม่ต่างจาก iPhone 5 แต่แอปเปิลได้เปลี่ยนมาใช้ DDR3 แทน DDR2
สำหรับเรื่องของแบตเตอรี่ จากการใช้งานบนเครือข่าย LTE ของ EE ในลอนดอน ที่เด้งไปมาระหว่าง 3G กับ LTE แทบจะตลอดเวลา พบว่า iPhone 5s แบตจะเกือบหมดก่อนทานข้าวเย็นทุกที แต่ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าผมเล่นกับมันเยอะเป็นพิเศษ สำหรับผู้ใช้ทั่วไปผมคิดว่าไม่น่าจะมีความแตกต่างระหว่างแบตเตอรี่ของ iPhone 5 และ iPhone 5s ในส่วนของระยะเวลาที่ใช้ในการชาร์จแบตให้เต็ม 100% จะอยู่ที่ประมาณ 1-1:30 ชั่วโมง (ทดสอบระหว่างเปิด Wi-Fi Hotspot พร้อม ๆ กันด้วย)
กล้องถ่ายรูปของ iPhone 5s ยังคงเป็นกล้อง 8 เมกะพิกเซล ซึ่งไม่ต่างไปจากกล้องของ iPhone 5 เพียงแต่ตอนนี้ตัวกล้องจะมี f-stop อยู่ที่ f/2.2 และขนาดเซ็นเซอร์ที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม 15% ซึ่งแอปเปิลบอกว่าจะทำให้การถ่ายภาพในที่มืดนั้นดีขึ้นกว่าเดิม
จากการใช้งาน พบว่าการใช้งาน Burst Mode ใหม่นั่นสะดวกมาก ทำให้เราได้ภาพที่ดีที่สุดเกือบตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราถ่ายภาพระหว่างนั่งอยู่ในรถบัส หรือถ่ายภาพสิ่งที่เคลื่อนไหวอยู่ แต่ที่สะดวกที่สุดก็คือการที่แอปเปิลเลือกที่จะไม่แสดงรูปภาพที่เราถ่ายด้วยโหมดนี้ทั้งหมดใน Camera Roll แต่เลือกที่จะแสดงรูปที่ดีที่สุดเพียงรูปเดียว แต่ผู้ใช้เองสามารถที่จะเลือกเอารูปที่ถูกถ่ายไว้ทั้งหมดจากการถ่ายด้วย Burst Mode ออกมาใช้ได้อยู่ดี (ซึ่งส่วนตัวอยากทราบเหมือนกันว่าทำไมแอปเปิลไม่เปิดให้ทำแบบนี้ได้บ้างกับรูป HDR)
โหมด Slo-mo ที่มาใหม่ก็เอามาเล่นแล้วสนุกดี เพียงแต่ว่าแอพที่รองรับ Slo-mo มีเพียงแค่แอพ Photos เท่านั้นในตอนนี้ ถ้าต้องการจะอัพวีดีโอ Slo-mo ไปที่ Facebook วิธีเดียวที่ทำได้ตอนนี้คือผ่านการใช้ปุ่ม Share จากแอพ Photos เท่านั้น ถ้าเลือกอัพผ่านทางแอพ Facebook หรือ Instagram คลิปที่ถูกส่งไปจะเป็นคลิปที่ไม่มีส่วน Slo-mo ติดอยู่เลย (วิธีแก้ชั่วคราว คือการส่งคลิป Slo-mo เข้าหาตัวเองผ่านทางอีเมล)
น่าเสียดายที่ผมไม่มีโทรศัพท์มือถือยี่ห้ออื่น ๆ ให้เปรียบเทียบคุณภาพของภาพถ่าย แต่เมื่อเทียบกับ HTC One แล้วบอกได้เลยว่าความคมของภาพจาก iPhone 5s นั้นดีกว่ามาก ๆ ในขณะที่การถ่ายภาพในที่มืดไม่ได้ต่างจาก HTC One มากมายขนาดนั้น ส่วนตัวแล้วต้องบอกได้เลยว่ากล้องของ iPhone 5s ถึงแม้สเปคอาจจะฟังดูไม่ได้น่าตื่นเต้นมาก แต่มันก็ยังคงเป็นกล้องมือถือที่สูสีกับมือถือยี่ห้ออื่น ๆ ในตลาดอย่างแน่นอน
นี่คือภาพตัวอย่างจากกล้องของ iPhone 5s ครับ
กลางวัน
ภายในอาคาร
กลางคืน
แม้ว่า iOS 7 จะมีอายุเพียงแค่ไม่กี่วัน แต่มีหลายแอพที่สนับสนุน UI แบบ iOS 7 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เช่น Facebook, Twitter และ FourSquare นักพัฒนาหลายรายเองก่อนหน้านี้ก็ได้ออกมาประกาศจุดยืนแล้วว่าพวกเขาพร้อมที่จะออกแบบแอพพลิเคชั่นใหม่ เพื่อให้เข้ากับ iOS 7 มากยิ่งขึ้น
นี่คือตัวอย่างสกรีนช็อทของแอพพลิเคชั่นที่ได้ปรับหน้าตาให้เข้ากับ iOS 7 แล้ว
ในส่วนของการใช้งาน iOS 7 แล้ว พบว่าตอนนี้มีปัญหากับการแสดงผลตัวหนังสือภาษาไทยในปริมาณมาก ๆ เช่นการเปิดเข้าเว็บ Blognone ไม่ว่าจะทำด้วยเว็บเบราว์เซอร์ใด ๆ ก็ตาม จะมีการค้างหรือกระตุกเป็นระยะเวลานานพอสมควร เช่นกัน การแสดงผลภาษาไทยในแอพบางแอพ เช่น Twitter จะมีการใช้ฟอนต์ใหม่ผสมกับฟอนต์เก่าปน ๆ กันไป (จะแสดงผลฟอนต์ Thonburi เดิมหากมีลิงค์อยู่ในทวีต)
ข้อดี
ข้อเสีย
แม้ว่าหลาย ๆ คนจะคาดหวังไว้มากกับ "ไอโฟนตัวต่อไป" แต่แอปเปิลเองยังคงจุดยืนในการปล่อยไอโฟนรุ่น "อัพเกรดเพียงเล็กน้อย" หรือ minor change เช่นเดียวกับที่ได้ทำมาโดยตลอด แต่กระแสตอบรับเริ่มแรกในครั้งนี้ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าตลาดมือถือ และตัวผู้ใช้เอง ได้คาดหวังว่าแอปเปิลเร่งเครื่องและปรับตัวให้เข้ากับสภาวะการแข่งขันในตลาดให้มากกว่าเดิม เช่นการออกไอโฟนที่มีขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น หรือแม้กระทั่งการติดตั้งคุณสมบัติที่สมาร์ทโฟนอื่น ๆ มีกันถ้วนหน้าแล้วอย่างเช่น NFC
แต่หากกลับมาคิดดูอีกที แอปเปิลก็ไม่ได้เลือกทำสิ่งที่แตกต่างไปจากคู่แข่งอื่นมากนัก นั่นก็คือการอัพสเปคชิ้นส่วนต่าง ๆ ให้ดีขึ้น ในส่วนของการนำสิ่งใหม่ ๆ เข้ามา แอปเปิลก็ได้ทำสิ่งที่ตัวเองเก่ง นั่นก็คือการทำสิ่งที่เคยมีคนทำแล้ว (อย่างเซ็นเซอร์อ่านลายนิ้วมือ) ให้มันกลายเป็นสิ่งที่ติดตลาดได้อย่างรวดเร็ว หรือทำให้มันกลายเป็น "จุดเปลี่ยนของตลาด" เช่นการนำชิป 64-bit มาใช้
แต่ถ้าถามว่าคิดอย่างไรกับการซื้อ iPhone 5s มาใช้ คงต้องให้ผู้อ่านกลับมาคิดว่าพอใจกับการอัพเกรดหรือไม่ ส่วนตัวแล้วผมคิดว่าถ้ายังพอใจกับ iPhone 5 อยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องอัพเกรด เพราะการใช้งาน 90% (หรือมากกว่า) ของแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ บน iPhone 5s ไม่ได้ลื่นไปกว่าใน iPhone 5 เลย และควรจะรอไอโฟนตัวต่อไป ซึ่งส่วนตัวผมเชื่อว่าแอปเปิลน่าจะ (ย้ำว่า "น่าจะ") ยอมผลิตไอโฟนที่มีขนาดหน้าจอที่ใหญ่กว่าเดิมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
Comments
สีเหมือนนิเกิลเลย ดูแข็งแรงแต่หรูกว่าดำสนิทมากๆ
ชอบและเล็งสีเทาไว้เหมือนกันครับ
ถ้าใช้ไอโฟน5 ก็ยังไม่น่าเปลี่ยน ถ้าใช้4หรือ4s ก็น่าถึงเวลาแล้วสิ
ผมใช้ 4s ก็ยังไม่เปลี่ยนนะ touch id ยังไม่จำเป็นกับผมเท่าไร แต่ไม่้าอัพ ios 7 ให้มันหน่วง
ผมใช้ 4 ยังไม่เปลี่ยนเลย ใช้ Tablet สนุกมือกว่า รอ very New iPad
ฮายโซว อำมาตย์ อีไล้
อีไล้ = elite = อีลีท รึเปล่าครับ????
อีไล้ถูกแล้วครับ
@TonsTweetings
อะลีท
(กดที่ลำโพงครับ)
หัวกะทิ! หัวกะทิ!
Lite
อ่านว่า ไลท์ นะครับ
ประมาณว่าสวีเด็นอ่านว่า ลีท นะครับ
แต่ elite อ่านว่า /əˈlēt, āˈlēt/
ตามเว็บตปท = อีลีท หมดครับ
แต่ในไทยมีทั้ง อีไล้ กับ อีลัท
ถ้าไปอ่าน อีไล้ แบบไทยฝรั่งคงจะงงแย่เลยนะครับ
ปล. ผมไม่เคยได้ยินใครอ่านว่า อีไล้ มาก่อนเลย ลองฟังจาก forvo ได้ครับ มีคนจากหลายพื้นที่มาออกเสียงให้ฟังชัด ๆ http://www.forvo.com/word/elite/
แค่พจนานุกรม oxford ให้อ่านว่า /əˈlēt, āˈlēt/ อะ'ลีท หรือ แอ'ลีท นะครับ
ตอนผมเด็ก ๆ ก็อ่าน อีไลท์ ครับ พอไปอเมริกาฝรั่งงง คนเอเชียชาติอื่นก็งง เพราะเค้าออกเสียงว่า อีลีท กันครับ อันนี้กรณีเดียวกันกับ fatal, predator คนไทยอ่าน ฟาทัล พรีเดเตอร์ ชาติอื่นอ่าน เฟทัล เพรดดึเทอะ
ประมาณคนไทยใช้ประสพการณ์จากการอ่านตัวอื่นมาก่อนแล้วเดาว่าตัวที่เขียนคล้ายกันต้องออกเสียงเหมือนกัน แต่จริง ๆ แล้วมันก็มีข้อยกเว้นเหมือนภาษาไทยเราเอง
ผมว่าเขาจงใจให้เป็นคำแสลงนะครับ ไม่ได้เน้นเรื่องหลักภาษา เป็นภาษาปากของชาวทวีตภพ
Lite กับ Elite มันคนละคำกันครับท่าน
Off อ่านว่า ออฟ ครับ
ice อ่านว่า ไอซ์ ครับ
office อ่านว่า ออฟฟิส ครับ.
มาช่วยยืนยัน นั่งยัน นอนยัน อีกเสียงว่าอ่านว่า "อีลีท" ครับผม
Lite อ่านว่า "ไลท์" ถูกต้องแล้ว แต่ Elite อ่านว่า "อีลีท"
ที่นี่มีคนไม่เก้ดมุกเป็นสิบ อิอิ
@TonsTweetings
อิอิอิกำ
อีไล้ถูกแล้วครับ
อ้างอิง: พจนานุเกรียน
อีแล สิครับ จากใจคนติดละครช่อง3
พลายน้อย
ปาวินปาวิน
Writer no.59 เพื่อสังคมแห่งการแบ่งปันความรู้
โดนแฮคบัตรเครดิต
นับส์ ฟีดเด้อ เอธีเอ็ม
หมื่นไลท์ แสนแชร์ ดราม่าควีน
ก่อนทานเข้าเย็น --> ก่อนทานข้าวเย็น
แอปเปิลได้เลือกที่จะเข้าแจมสมครามยัดสเปค -> สงคราม
ไม่มีลายเซ็น
ส่วนตัวคิดว่าการจะบอกว่า iPhone 5s "วัสดุตัวเครื่องยังคงดีที่สุดในตลาด" นี่แปลกๆนะครับ วัสดุอาจจะดีกว่าหลายๆยี่ห้อที่เป็นพลาสติก แต่ก็ไม่น่าสรุปว่า "ดีที่สุดในตลาด" นะครับ
ขอชื่อของมือถือที่วัสดุระดับเดียวหรือเหนือกว่า iPhone5s ด้วยครับ
จากสาวกที่มีความศรัทธา
vertu ครับ
น่าจะคนละตลาดนะครับอันนี้
วัสดุไทเทฯเขาดีกว่าอลูฯแน่นอน แต่แบดดีไซน์ /รสนิยมผมต่ำ ตาไม่ถึง
HTC ONE
Xperia Z1
Lumia 920, 925
ไม่แน่ใจว่า iPhone5s วัสดุดีที่สุดหรือเปล่า แต่คิดว่าถ้าเปลี่ยนเป็นคำว่า "การออกแบบตัวเครื่องยังคงดูดีที่สุดในตลาด" น่าจะ ok นะ
เอ้อ... เคสในรูป ถ้าไม่บอกว่าเป็นหนัง ผมนึกว่าเป็น Silicone หรือ PU นะเนี่ย
เรื่องกล้องที่ไม่แพ้มือถือเจ้าอื่นๆ ผมไม่คิดว่าเป็นข้อดี หรือจุดเด่นนะเพราะไม่สามารถเรียกได้ว่าดีกว่าอย่างชัดเจน จุดเด่นของรุ่นนี้น่าจะเป็นที่ Touch ID ที่ต้องดูยาวๆ ว่าเอามาใช้ประโยชน์อย่างอื่นนอกเหนือจากใช้ซื้อของกับปลดล็อคหน้าจอได้
เรื่องที่ให้ป้อนรหัสความปลอดภัยเพื่อป้องกันคนเอานิ้วเราไปปลดล็อคหน้าจอตอนนอนหลับนี่อย่างฮาเลยครับ
Blognone Guideline
สำนวนและเนื้อหาของข่าว
เราเชื่อมั่นในความไม่เป็นกลาง อย่าลังเลที่จะใส่ความคิดเห็นส่วนตัวถ้าเห็นสมควร...
บอกตรงๆ ว่าข้อนี้ไม่เคยทราบมาก่อนเลย
ผมคิดว่า ควรจะเป็นการนำเสนอข่าว โดยยึดความเป็นกลาง เป็นหลักเสียอีก
แต่ก็โอเคครับ ได้รู้นโยบายๆ ชัดๆ แล้ว
จะได้ไม่คิดอะไรกับความเห็นท้ายข้อ ที่แสดงความไม่เป็นกลางของผู้เขียน
มันแปะใน footer ของทุกๆ เพจมาเป็นเวลาหลายปีแล้วนะครับ
การเขียนข่าวให้มีความเป็นกลาง มันก็เหมือนกับการตั้งเข็ม (ไม่ใช่ปักนะ) บนโต๊ะนั่นล่ะครับ
สี Space grey สวยนะเนี้ย
รูปที่ 2 ตรงไอคอน Phone ขึ้นเตือนแต่ทำไมไม่ขึ้นตัวเลข เป็นบั๊กหรือยังไงครับ?
ไม่หรอกครับ ผมก็เจอประจำเวลาเปลี่ยน sim เป็นอีกค่าย แล้วยังมี voice message เดิมอยู่ในเครื่อง
อันนี้เกิดจาก Voicemail ที่ยังไม่ได้เช็คครับ
@TonsTweetings
ข้อเสีย ของ iphone5s สามารถใช้ได้กับ iphone รุ่นต่อๆไป
ถ่ายรูปออกมาสวยเกินคาดแฮะ
สนใจ Touch ID มากครับ แค่ฟีเจอร์นี้ก็ได้ใจไปเยอะแล้ว เพราะคงไม่กล้าฝากลายนิ้วมือไปบนระบบอื่นแน่ ๆ
เอาเคส iphone5s มาใช้กับ iphone5 ได้ป่าวครับ
ได้ครับ แต่ดูดี ๆ ตรง flash ที่ไม่เหมือนกัน แต่โดยทั่วไปตรงกล้องกับ Flash จะเป็นรูปเปิดกว้าง ๆ จึงใส่ด้วยกันได้ครับ
NFC ผมว่า Apple เค้าคงไม่น่าจะนำมาใช้งานกับอุปกรณ์ของเค้าหรอกหรอก
หลังจากดูพรีเซนต์ Touch ID ในงานเปิดตัวและเห็นมีกระเป๋ากันคลื่นเพื่อป้องกันมิจฉาชีพสแกนอุปกรณ์ NFC วางจำหน่ายมากขึ้น
แถม Google wallet ก็มีข่าวว่ารองรับอุปกรณ์ที่ไม่มี NFC อีก
พอจะบอกได้ระดับนึงของอนาคต NFC แล้วมั้ง
เทคโนโลยีอะไรที่มันใช้ได้ยาก ลำบากต่อผู้ใช้งาน และไม่มีความปลอดภัย
คงไม่น่าเกิดขึ้นในอุปกรณ์ Apple น่าจะต้อรออีกสักพักไป
มันใช่งายนะ NFC แต่ความปลอดภัยมันต่ำ แต่จริงๆความปลอดภัยต่ำนี้มาจาก user error ซะส่วนมาก
true tone flash เป็นไงบ้างครับ
เดี๋ยววันนี้ถ้าได้มีโอกาสใช้จะมาเพิ่มภาพให้ครับ
@TonsTweetings
กล้องดูดีมาก
ลองสแกนหัวนม กะตีนแมวยังครับ
จริงๆ อยากให้ลองอันนี้ครับ ว่าจริงอย่างที่เขาทวีตกันหรือเปล่า อร๊างงงงงง
ต้นขั้ว
ปล. ไม่กล้าฝังทวีต กลัวไอดีถูกดีดกลับจุดเซฟ
ขอให้ไฟรั่ว // อร๊างงงง
เวลาใช้นอกบ้าน แลจะปลดล็อคลำบาก
ผมว่าเจ้าของบทความคงจะเข้าใจผิดเรื่องที่ว่า Apple ไม่เน้น spec hardware พวก CPU กับ GPU เพราะตั้งแต่ 4S ล่ะที่ Apple ใช้ hardware ที่มี performance ดีกว่า Android ที่มีในตลาด ณ วันเปิดตัวทั้งหมด ซึ่งกว่าคู่แข่งจะตามทันก็ใช้เวลาอย่างต่ำรวมๆ 6 เดือน ซึ่งที่เป็นแบบนี้ได้เพราะ Apple ออกแบบ SoC เองคล้ายๆกับทาง Qualcomm ที่ซื้อสถาปัตยกรรมของทาง ARM มาอีกที
ปล. แต่ performance ที่ว่ามักจะไม่ส่งผมกระทบกับผู้ใช้ Apple เลยเพราะนักพัฒนาต้องสร้าง App ให้รองรับอยู่ดี เพราะตั้งแต่ 4S ผมว่า Hardware มันเริ่มมีความสามารถของ software ในการใช้งานทั่วไปๆ ล่ะ
ผมคิดว่าเค้าไม่ได้เน้นแบบเอา spec ข่มนะครับ พวก performance จาก cpu กับ gpu นี่โฆษณายากสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป ต่างจากคำว่า quad core, octa core, ตัวเลข clock ของ cpu หรือตัวเลข RAM ที่ฝั่ง Android เน้นพวกนี้เลย แต่ Apple iPhone 5s ใช้ dual core 1.3 GHz RAM 1 GB
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
บทความดี แต่รูปทำให้ผมอยากไปมากครับบ
รูปถ่ายสวยครับ
ใช้ 4s อยู่ ตอนแรกกะจะเปลี่ยนเหมือนกัน
แต่พออัพ iOS7 แล้วก็รู้สึกว่าไว้รอรุ่นต่อไปแล้วกัน
รูปสถานที่สวยมากครับ
ผมกลับเห็นว่ารูปจากกล้องไม่มีอะไรโดดเด่นเลยนะครับ
ใช้ iphone 5 อยู่ คงยังไม่เปลี่ยนในตอนนี้
สิ่งที่ชอบคือ 64bit ซึ่งใน i5s คงเป็นแค่การเริ่มต้น รออะไรๆคงที่ก่อนค่อยเปลี่ยน
รูปแสงน้อยแบบรูปกลางคืน noise น้อยสีๆดีครับ ท่าทางจะใช้วิธี oversampling ลงเหลือ 2MP แล้วขยายภาพกลับเป็น 8MP ลด noise แลก resolution
เห็นบทความนี้แล้ว 4s ในมือผมสั่นไปหมด
มือสั่นอยากได้ของใหม่เหรอครับ(ชงให้แล้วนะ)
รักนะคะคนดีของฉัน
มีคนรู้ทันแหะ 55+
รีบรับสายเลยครับ :P
ผมรอ iPhone 6 ครับ หน้าจอใหญ่ขึ้นอีกหน่อย ซัก 4.5-4.7 ใช่เลย
ตอนนี้ก็ใช้ iPhone 4s ไปก่อน 555
หน้าจอใหญ่กว่านี้ คงไม่ใช่มือถือแล้วมั้งครับ - -*
เป็นหนึ่งเสียง ที่ภาวนาอย่าให้โตกว่านี้เลย เท่านี้ถือมือเดียวกำลังพอดี
เหลือมือถือเล็ก ๆ ซักรุ่นในตลาดให้ผมเลือกหน่อยเถอะ ไม่ชอบใหญ่ ๆ พกยากครับ
คิดเหมือนกันเลย อย่าใหญ่ไปกว่านี้เลย
แอบคิดไว้เหมือนกันครับว่าถัานอนอยู่ละแฟนเอาน้ำไปแตะแค่นี้ก็ปลดล็อกได้แลัว เรียกว่าสยองเลยทีเดียว แต่ดีที่ apple คิดเผื่อไว้แล้ว ถ้าเราไม่ได้ใช้เครื่องซะ 5 นาทีแล้วเปลี่ยนเป็นต้องปลดล็อกด้วย pin ก็น่าจะดีกว่า
น้ำแตะน่าจะพังนะครับ รุ่นนี้คงไม่กันน้ำ ^_^
แค่ห้านาทีนี่ คงไม่คุ้มที่จะติดเครื่องมาล่ะครับ - -"
ถ้าใช้ Touch ID ได้แค่ภายใน 5 นาทีหลังจากใช้เครื่อง ผมว่าไม่ต้องใช้ก็ได้นะครับ
คือผมว่าจะเปิด ๆ ปิด ๆ ถี่ ๆ ทำไม ก็ใช้ ๆ ให้มันเสร็จ ๆ แล้วก็ปิดไปซิ
สงสัยผมจะเป็นหนึ่งในคนกลุ่มน้อย ที่ไม่ต้องการให้ iPhone หน้าจอใหญ่ขึ้น
รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์
+1000000+ เห็นด้วยครับ ถ้าจอใหญ่จะเอาไปวิ่งออกกำลังด้วยได้ยังไง เป็นต้น
+1
คนใช้ iPad พอไปใช้มือถือจอใหญ่จะรู้สึกโหวงๆ เลย เล่นเวบก็ไม่มัน จะสุดก็ไม่สุด
Phone ก็ควรจะเป็น Phone
จอใหญ่กว่านี้ ซื้อipad เถอะครัช
ขอรายงานเป็นคนกลุ่มน้อยด้วยคนครับ
ดีหมดยกเว้นจอเมื่อไหร่มันจะใหญ่
ผมขอตัวไปเป็นสาวกแอนดรอยซัก 2 ปีนะครับ หุหุ
หน้าจอตอนจับ LTE เปลี่ยนจาก LTE เป็น 4G แล้วเหรอครับ
งั้นถ้ามาเมืองไทยของ ทรู ก็จะขึ้น TH 3G+ 4G ละซิ
ตลกดี
รูปสวยดีครับ
สวยงาม น่าใช้งาน
iOS7 เรื่องเข้าเว็บภาษาไทยแล้วค้างๆ กระตุก มีใคร report bug หรือยังครับ ฝากด้วยนะครับเพราะผมไม่มี account developer
อีกเรื่องคือ twitter client ที่โหลดภาษาไทยมากๆ ก็มีอาการเดียวกันครับ เช่น Janetter โหลด timeline แล้วเลื่อนๆ มันไม่สมูทเลย
โปรแกรมอื่นก็เป็นนะครับ feedly ผมกระตุกๆ เลยเวลาเปลี่ยนหน้า ทั้งที่มีแค่ text ผมติดเรื่องเดียวเลยที่ไม่อยากได้ 5s
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ปุ่ม Home กดแล้วยุบไหมครับ มองดูแล้วเหมือนเป็นแอ่งแข็ง ๆ
ผมอยากรู้ด้วยคนครับ
กดได้เหมือนเดิมครับ
ผมเห็นมีความเห็นสองฝั่งเรื่องขนาดจอ
ส่วนตัวผมเองก็ไม่อยากให้จอมันใหญ่เกินไป แต่ขนาดจอของ iphone5 ที่ใช้อยู่ตอนนี้ก็รู้สึกว่าเล็กไปเหมือนกัน เวลาใช้อ่านตัวหนังสือเยอะๆ รู้สึกว่าไม่ค่อยสะดวก อาจจะเป็นที่ฟ้อนด้วยส่วนนึง
จากที่เคยลองจับของคนอื่นมาผมว่าขนาดจอ 4.3 นิ้วน่าจะโอเคที่สุดสำหรับผม พวกมือถือจอใหญ่ที่ออกมาหลังๆผมว่ามันชักจะใหญ่เกิน จะกลายเป็น ipad mini กันอยู่แล้ว บางทีใหญ่เกินไปก็เกะกะ เพราะผมชอบใส่โทรศัพท์ไว้ในกระเป๋ากางเกง บางทีก็ยัดรวมไว้กับโทรศัพท์ออฟฟิศที่มันจำเป็นต้องใช้
สรุป เห็นด้วยกับที่ว่า phone ก็น่าจะเป็น phone แต่ ณ ขณะนี้ผมรู้สึกว่ามันยังเล็กไปหน่อย
ลองใช้ฟังก์ชั่น Dynamic Text ของ iOS 7 ดูครับ
ผมว่า 4.7 กำลังดีนะ เครื่องใหญ่ขึ้นนิดเดียว แต่ได้พื้นที่มากขึ้นพอดูเลย (แต่ถ้าจะใช้ไซส์นี้ควรตัดปุ่ม Home ออกไปด้วย ไม่งั้นมันจะยาวเกิน)
ผมว่า 4.5-4.7 น่าจะแจ่มสุดล่ะ
เริ่มรุ่น จอใหญ่ขึ้น วินวิน ไม่กระทบกับคนชอบมือเดียว
RAM มันแพงสินะ ยังไม่ให้ 2 GB สักที แล้ว iPad mini 2 จะได้ 1 GB มะเนี่ย?
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.