มีคนส่วนหนึ่งที่ก่อนจะทานอาหารใดๆ ก็ตาม เป็นต้องเช็คว่ามีส่วนประกอบทำจากอะไรบ้าง? ให้พลังงานเท่าไหร่? ซึ่งบางทีมันก็ง่ายแค่พลิกดูฉลากบรรจุอาหาร หรือบางทีก็ต้องยอมต่อเน็ตเพื่อหาคำตอบ แต่ขณะนี้มีโครงการสิ่งประดิษฐ์ใหม่ที่กำลังระดมทุนอยู่ชื่อว่า TellSpec ซึ่งมันอาจจะมาช่วยให้การตรวจสอบอาหารทำได้ง่ายขึ้น
TellSpec เป็นอุปกรณ์พกพาขนาดใกล้เคียงกับเม้าส์คอมพิวเตอร์อันเล็กๆ มีปุ่มกดในขณะใช้งานอยู่ 1 ปุ่ม ผู้ใช้เพียงแค่กดปุ่มดังกล่าวและนำมันไปจ่อใกล้ๆ กับอาหารที่ต้องการตรวจสอบ พร้อมทั้งเคลื่อนตัว TellSpec ไปมาเพื่อทำการสแกนหาข้อมูลองค์ประกอบของอาหารที่อยู่ตรงหน้า ผลการตรวจสอบที่ได้จะไปปรากฏอยู่บนหน้าจอสมาร์ทโฟนที่ติดตั้งแอพพลิเคชั่นสำหรับใช้งานควบคู่กัน
ข้อมูลที่ TellSpec ตรวจสอบนั้นจะมีหลายอย่าง เป็นต้นว่า การมีอยู่ของสารอาหารจำพวกวิตามินและเกลือแร่, การมีอยู่ของสารที่ผู้คนอาจมีอาการแพ้ (เช่น กลูเตน), สารถนอมอาหาร, สารปรุงแต่งกลิ่นและสี, ปริมาณน้ำตาล, ไขมันประเภทต่างๆ รวมทั้งปริมาณพลังงานที่จะได้รับจากการกินอาหารนั้นๆ ด้วย
หลักการทำงานของ TellSpec นั้นก็คือการแปลค่าของ Spectrometer กล่าวคือภายในตัว TellSpec จะมีชุดยิงลำแสงเลเซอร์ไปยังอาหารที่ต้องการตรวจสอบ จากนั้นตัวเครื่อง TellSpec จะตรวจสอบสัญญาณแสงที่ตัวอาหารปล่อยกลับออกมา โดยใช้การกรองสัญญาณเพื่อแยกสเปกตรัมของคลื่นแสงตามความถี่ต่างๆ ซึ่งองค์ประกอบทางเคมีที่แตกต่างกันก็จะให้ผลตอบสนองต่อแสงเลเซอร์ในลักษณะที่แตกต่างกัน (การทำงานของ Spectrometer นี้ก็เป็นเช่นเดียวกับเครื่องมือตรวจสอบอัญมณี หรือตามที่ผู้ผลิตรังนกยี่ห้อหนึ่งเคยโฆษณาและอ้างอิงถึงนั่นเอง)
TellSpec กำลังระดมทุนผ่าน Indiegogo โดยตั้งเป้าไว้ที่ 650,000 ดอลลาร์ โดยตอนนี้เพิ่งระดมทุนไปได้ราว 27,000 ดอลลาร์ ในขณะที่ยังเหลือเวลาอีกเดือนครึ่งก่อนปิดรับการสนับสนุน
ที่มา - Engadget
Comments
น่าไปลงที่ Jusci ด้วยนะครับ
น่าสนใจว่าความถูกต้องมันระดับไหน ถ้าดีจริงและไม่แพงมากก็น่าซื้อติดตัวซักอันนะเนี่ย
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ถ้าซื้อมาแล้วพกไปทานข้าวนอกบ้านด้วย คงลำบาก แต่ถ้าที่ร้านมีให้บริการคงดี แต่จะลงทุนหรือเปล่าเป็นอีกเรื่อง
Writer no.59 เพื่อสังคมแห่งการแบ่งปันความรู้
ร้านคงไม่ลงทุนหรอก ร้านรู้รายละเอียดอาหารอยู่แล้ว แค่ทำเอกสารประกอบวางที่โต๊ะ ง่ายกว่า ถูกกว่า ดูดีกว่าอีก
ผมอยากได้
โลกนี้อยู่ในยุคกรูเม่ต์
นึกถึง Tricoder ของ Star Trek ขึ้นมาก่อนเลย
น่าสนนะ
ถ้ามันแม่นยำมากๆ ในระดับนึง สามารถใช้ขโมยสูตรเจ้าดังๆ ได้เลยครับนั่น
นอกจากส่วนประกอบ
ยังมี order of mixing นะครับที่เครื่องหาไม่ได้
อย่างมากขโมยส่วนประกอบทางเคมี (หรือสูตรทางเคมี) แต่จะให้อร่อยยังมีปัจจัยอีกเยอะนะครับ ระยะเวลาแต่ละขั้นตอน ความแรงของไฟที่ใช้ในการทำอาหร ฯลฯ
หลังจากไปอ่านหลักการของ spectrometer มาแล้วดูวีดีโอแล้วไม่น่าเชื่อถือยังไงก็ไม่รู้
ฟรีสองปีแรก หลังจากนั้นเป็นยังไงไม่บอกแฮะ
GT-200 เวอร์ชั่นใหม่นี่เอง
ถ้าเป็นคนทั่วไปแบบเราๆสั่งอาหารมาแล้วก็ต้องกินละนะเสียดายตังแล้วค่อยย้ายร้าน คนที่ใช้ได้ผลดีคงต้องรวยไม่น้อยสามารถเลือกกินได้
แสกน ปุบ ไขมันมากไป โยนทิ้ง
แสกน ปุบ น้ำตาลมากไป โยนทิ้ง
แสกน ปุบ เกลือมากไป โยนทิ้ง
คิดว่ากว่าจะเจอคงต้องลองอีกหลายเมนู
แต่ในความเป็นจริงพอกลับบ้านคงเหนือ่ยมากจนไม่อยากเลือกละนะ
ไม่ถึงกะโยนทิ้งมั้งครับ ก่อนซื้อเราน่าจะพอทราบคร่าวๆ อยู่แล้วว่าอาหารมันไขมันมาก หรือน้ำตาลมาก แค่ได้เครื่องนี้มาเช็คแบบละเอียดมากขึ้น ผมว่าถ้าทำได้จริงมันสะดวกมากๆ เพราะนอกจากขนม หรืออาหารกระป๋องแล้ว พวกอาหารจานๆ เราแทบไม่รู้ข้อมูลทางโภชนาการเลย
สงสัยว่าจะทำspectrometer ที่แยกแยะสารอาหารได้แม่นยำ ในราคา 150USDได้จริงๆน่ะหรือ?
น่าเอามาสแกนคน ดูว่าน่ากินมัย #ห้ะ
เราสามารถรู้สารประกอบของวัตถุโดยวัดแค่คลื่นความถี่แสงที่สะท้อนจากวัตถุได้จริง ๆ เหรอครับ (นี่ยังไม่นับพวกปริมาณไขมัน น้ำตาล พลังงานนะ)
:-)
แล้วทีดวงดาวที่อยู่ห่างไกลหลายปีแสง ทำไมนักดาราศาสตร์ถึงรู้หล่ะครับ ว่าดาวดวงนั้นมีส่วนประกอบอะไรบ้าง เป็นจำนวนเท่าไหร่ๆ อันนั้นดูโม้กว่านี้อีก
ก็จริงครับ ลืมนึกถึงไป แต่ก็นึกไม่ออกอยู่ดีว่าเราจะแยกช็อกโกแล็ตสีน้ำตาลออกจากดิน ไม้ หรือพลาสติกสีเดียวกัน ความแข็งคล้าย ๆ กัน พื้นผิวเดียวกัน ที่ทำมาเลียนแบบขนาดตาคนยังแยกไม่ออกได้ยังไง
:-)