บริษัททดสอบซอฟต์แวร์ uTest ได้ทำการสำรวจผลรีวิวแอพบางส่วนที่ยังไม่ได้รองรับ iOS 7 โดยพบว่า แอพที่มีปัญหากับ iOS 7 นั้นคะแนนจะตกฮวบ เช่น Chess with Friends, WhatsApp, Skype (ปัจจุบันอัพเดตแล้ว) ซึ่งคะแนนรีวิวนี้มีผลต่อการตัดสินใจดาวน์โหลดแอพของผู้ใช้มาก (ถ้าเป็นแอพที่เสียเงินลูกค้าจะยิ่งสนใจคะแนนรีวิว)
ลองมาดูตัวอย่างคำบ่นของลูกค้าในรีวิว WhatsApp ครับ
After iOS 7 I can’t send pictures. Whyyyyyyy????”
“Look terrible on iOS 7″
“Keyboard of ios7 is messed up with space between text area and the keyboard.. Looks bad..”
“It keeps crushing after i update to ios 7, please update it for ios7″
หรือเลวร้ายกว่านั้นคือบางคนบ่นถึงการใช้งานแล้วตบท้ายว่า "Better use Viber and Skype which works excellent."
ปัจจุบัน ผู้ใช้ iOS 7 มีแล้วกว่า 200 ล้านคน และจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ (ยิ่งอัพเดตหลังๆ ออกมาแก้บั๊ก ยิ่งทำให้ผู้ใช้มั่นใจที่จะอัพเดตมากขึ้น) ดังนั้นนักพัฒนาจะชะล่าใจเรื่องการอัพเดตแอพให้เข้ากับ iOS 7 ไม่ได้อีกแล้ว เพราะหากแอพยังมีปัญหา จะเป็นการเปิดช่องให้คู่แข่งช่วงชิงโอกาสไปได้
ที่มา - VentureBeat
Comments
มันคือความแตกต่างระหว่าง iOS กับ Android ที่ iOS ผู้ใช้จะพุ่งไปโอเอสใหม่เร็วมาก นักพัฒนาก็ต้องแข่งกันปรับปรุงแอพให้รองรับเวอร์ชั่นใหม่เสมอ (และจะรองรับเวอร์ชั่นเก่ากว่าไปรุ่นหนึ่ง)
การเปลี่ยนหน้ากากของ iOS 7 จึงสะเทือนวงการกว่าการเปลี่ยนธีมของดรอย (ยกเว้นธีมหลักของกูเกิ้ลจะเปลี่ยนอ่านะ)
ข้อดีของ Android คือลูกค้าโดนลอยแพ ไม่มีโอกาสได้เห็น OS ตัวใหม่ๆ นักพัฒนาไม่ต้องรีบปรับปรุงจนเกินไป
#ผิด
ดีแล้วครับนักพัฒนาจะได้สบายๆ ฮ่าๆๆ #ห๊ะ #เดี๋ยวนะ
ช่างมีจิตวิญญาณของนักพัฒนาจริงๆ น่านับถือ #ห๊ะ #เดี๋ยวนะ!!!
เข้าเรื่องและ พูดง่ายๆ คนใช้ไม่สนอะไรหรอกใช้แล้วมีปัญหาก็กดลดคะแนนกันไปมันเป็นเรื่อง "ธรรมชาติ" ของโลกจะว่าลูกค้าหรือผู้ใช้ก็ผิดประเด็นอย่างแรง เหอๆๆๆ
#ถูก
^
^
that's just my two cents.
+10
Android นี่ขึ้นชื่อเรื่องซื้อแล้วได้แพจริงๆ ใครโชคดีหน่อย (เช่นใช้ตระกูล Nexus) ก็อาจจะได้อัพเดท OS ไปซัก 2-3 รุ่น ส่วนหลายๆคนที่โชคร้าย ซื้อแล้วก็ไม่ได้เห็นอัพเดทอีกเลย ยกเว้นว่าจะรับความเสี่ยงแล้วไปใช้ Custom Rom
ต่างจาก iOS ที่ซื้อมาแล้ว แทบจะมั่นใจได้เลยว่าอย่างน้อยอุปกรณ์ตัวเองก็จะได้รับการอัพเดทอย่างน้อย 1 รุ่นถัดไปแน่ๆ
ซื้อแล้วต้องได้อัพเดทอย่างน้อย 1 นะครับ (รู้สึกจะเป็นข้อตกลงเลย?)
ถ้าซื้อแล้วไม่ได้อัพ ถ้าไม่ใช่ของจีนก็รุ่นต่ำเกินไปรึเปล่าครับ
ผมใช้ Motorola Defy ซื้อแล้วก็ไม่เคยได้อัพเดทอีกเลยนะครับ (เป็นเวอร์ชั่น 2.2 มาจากโรงงาน) ในขณะที่ Defy+ ซึ่งสเป็คเหมือน Defy เด๊ะๆ หน้าตาเหมือนกัน แค่เพิ่มกล้องหน้า ดันได้ 2.3
ถึงแม้จะต่างกันแค่ 1 เวอร์ชั่นเล็กๆ แต่ก็มีความเปลี่ยนแปลงในหลายๆอย่าง เช่น บางแอพไม่รองรับฟีเจอร์xxx ใน 2.2 เป็นต้น
ลองไปหาดูนะครับมีหลายๆยี่ห้อ หลายรุ่นที่แถมแพให้ลูกค้า
ส่วน Note 10.1 ผมตอนนี้ยังค้างอยู่ที่ 4.1.2 อยู่เลย บั๊ก Bluetooth ค้างก็ยังคงอยู่
ให้อย่างน้อย 2 รุ่นเลยครับ
ถ้านับแค่ออฟฟิชเชียงรอมนี้ ผมว่าไม่ถึงหลอก 2 อะครับ ได้ซัก 1 นี้น้ำตาจะไหล ได้ 2 นี้อย่างกับถูกหวยเลขท้าย ได้ 3 นี้คงถูกหวยรางวัลที่หนื่ง ยิ่งบางรุ่นนี้ ได้ 0 เลย อย่างต้นตระกูล Desire
เกือบถูก
5555
เสริมหน่อย กลัวคนหนี Android หมด
จริงๆ แล้วใน XDA นี่มีตัว custom rom ที่ค่อนข้างใหม่มากนะครับ อย่าง LG Optimus Black นี่ก็ยังหา 4.2.2, 4.2.3 มาลงกันเองได้
จะใช้ Android อย่าไปหวัง ROM ศูนย์มากครับ ยกเว้นว่าจะใช้ Nexus ที่ได้ ROM ศูนย์ไม่มีแถมแพแน่นอน (แต่ถ้าเรือเก่ามากก็อีกเรื่องนะ)
เล่น custom rom มันไม่ใช่คนทั่วไปนี่ครับ ต้องมีความรู้ หรือแสวงหาความรู้ระดับนึง
ถูกครับ
แล้วเชื่อมั้ยครับว่าในปี 2011 มี iPhone ประมาณ 50% ที่ไม่เคยถูก sync กับ iTune? นั่นแสดงว่ามันอาจไม่เคยถูกอัพเดทด้วยซ้ำ
ผมจะบอกว่ามันเป็นปัญหาเรื่องการเรียนรู้ของผู้ใช้งานครับ ผมเห็นใน XDA อธิบายขั้นตอนเป็น step by step ซึ่งถ้าตั้งใจจะทำจริงๆ คงไม่ยาก
ซึ่งการ sync ข้อมูลกับ iTunes การสมัคร Apple ID ฯลฯ ก็ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็มี user หลายคนที่ไม่ยอมทำเอง และทำเองไม่เป็น จนเกิดบริการรับสมัคร Apple ID ไงครับ
ถามว่าบริการแบบดังกล่าวบริการผู้ใช้ฝั่งไหนมากกว่ากัน ระหว่าง Apple กับ Android?
อันนี้ไม่มีงานวิจัยออกมา แต่ส่วนตัวแล้วเจอแต่คนใช้ iOs ที่ไปใช้บริการครับ
อาจเป็นเพราะสัดส่วนคนใช้ iOS เยอะกว่าก็เป็นได้ เลยไม่ค่อยเห็นชาว Android ไปใช้บริการ
ก็ยังต่างเยอะนะครับ สำหรับ Apple เป็นขั้นตอนอย่างเป็นทางการที่เขาบอกวิธีทำให้ครับ แต่สำหรับ Android เกือบทุกรุ่นไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ผู้ใช้อัพเดตซอฟต์แวร์นอกค่ายด้วยตัวเองได้เลย แค่จะ Unlock Bootloader ก็โดนขู่ว่าหมดประกันแล้ว ผู้ใช้ก็ไม่กล้าทำอะไรหรอกครับ นี่ยังไม่นับเรื่องความยุ่งยากหรือความไม่แน่นอนของการพัฒนาที่ต้องขึ้นกับ Community ไม่ใช่ของอย่างเป็นทางการอีก
ส่วนเรื่องใช้บริการน่าจะเป็นเรื่องผู้ให้บริการด้วยครับ คนใช้ก็น่าจะต้องการนะ แต่ไม่มีร้านไหนอยากทำ เพราะร้านก็ไม่อยากเรียนรู้ Android ซึ่งมีหลายรุ่น ขณะที่ iOS เรียนรู้ครั้งเดียวลูกค้าเยอะกว่ามาก
คนไม่สนใจ update กับคนอยาก update แต่ทำไม่ได้หรือทำได้ยากมันคนละเรื่องเลยครับ
แต่หากอยากเสียบ itune หรือสมัคร id
ประกันไม่หลุดนะแคร้บผม......
แต่อย่างว่าแหละ os อัพเดตคร่าวๆ ปีละเวอร์ชั่น กว่าจะได้มี custom rom ใหม่ๆมา ประกันเครื่องคงหมดแล้วล่ะ
ตบหัวแล้วลูบหลัง หน้าเขาพังกันไปหมดแล้ว เง้อออ
แนวถนัดผมเลยครับ ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ซื้อ Android ไม่ว่ายี่ห้อไหน รุ่นไหน แถมแพมาพร้อมกับเครื่องทุกเครื่อง
iOS7 นี่คงมีชีวิตเพื่อ 64bit อัพเดทแอพยังไงก็หน่วง แม้แต่ซาฟารี ;(
my blog
มันเป็นปัญหาที่ภาษาไทยอะครับ ลองเปิดเว็บนอกสิ ลื่นเลย แต่ด้วยเหตุนี้ถ้ายังไม่แก้ผมไม่มอง iOS รุ่นใหม่ๆ ตอนแรกลังเล 5s เจอปัญหานี้เลยตัดตัวเลือกเลย
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
เป็นทุกตัวเลยครับ เซ็งมากไม่น่าไป 7 เลย T_T
ที่เจอหลักๆคือ Reeder 2 กับ Safari (แต่น่าแปลก Twitter ผมค่อนข้างลื่นแฮะ)
พลาดไป 7 เหมือนกัน ทนอืดอยู่เป็นอาทิตย์เลย แต่ตอนนี้ถอยกลับมา 6 แล้ว รอออก update ใหม่ๆ แก้อืดใน Safari ได้ค่อยกลับไปใหม่
โชคดีที่ใช้ i4 ไปๆ มาๆ ได้สบาย แต่ต้องเก็บ shsh blob เอาไว้ด้วยนา
นึกว่า iOS 6 ปิดการ Active ไปแล้ว ยังมีช่องทางดาว์นลง iOS 6 อีกหรือ?? และหากยังมีโปรดชี้แนะด้วย
i4 เค้าคงหนีไม่พ้นเจล เห็นกลับมา6ได้
ตรงนี้ไงครับ ;) เฉพาะเครื่องไม่เกิน iPhone 4 นะ
^
^
that's just my two cents.
ต้องเป็น iphone4 ครับ แล้วต้องเก็บ shsh blob ของ 5 หรือ 6 เอาไว้ด้วย ใช้โปรแกรม iFaith ทำ Custom Rom (Signed) แล้วเอามา Restore อีกทีครับ เคล็ด(ไม่)ลับ มีสองข้อครับ
- ใช้ iTunes ไม่เกิน 11.0
- iphone4 ที่จะเอามา restore ต้องทำ Pwned DFU มาเสียบกับคอมฯ
เผลอไปกดอัพเดทนึกว่าอีกเครื่องเป็น 6 แต่ดันเป็นแค่เวอร์ชั่น 5 ตอนนี้ไม่เหลือเครื่องไว้ทดสอบ iOS6 เลย หาทางกลับไม่ถูก >.<
5s ไม่อืดไม่หน่วงเลยครับ 5c หน่วงนิดเดียว งงเหมือนกัน ขึ้นอยู่กับสเป็คเครื่องด้วยหรือเปล่า
ก็ 5s มัน 64บิต นี่คร้าบ -..-'
my blog
5s มันอัด A7 มาครับ ลือกันว่าเร็วเป็นสองเท่าของ 5, 5c ที่ใช้ A6
ทราบครับ แต่เห็นบอกกันว่าเป็นบัคภาษาไทยจากที่เคยลองสัมผัส 5s มา เข้าเว็บ blognone เทียบกับ iPad 3 ที่อยู่ในมือคนละเรื่องเลยครับ 5s ไม่มีปัญหาเวลาเล่นเว็บ ช้าหน่วงไม่มีให้เห็น เลยคิดว่าน่าจะเกี่ยวที่ตัวเครื่องไม่เกี่ยวที่ตัว OS แล้ว
ที่จิงมันเป็นแผนการที่ไล่ให้ลูกค้าไปซื้อ5sครับ
Safari ผมก็เป็นเหมือนกันครับ เวลาเข้า blognone นี่อืดอาดมากๆ
เหมือนมีคนบอกว่ามันมีปัญหากับภาษาไทย
positivity
+10
Writer no.59 เพื่อสังคมแห่งการแบ่งปันความรู้
ผมไปปิดซาฟารีใน icloud แล้วปิดicloud ในซาฟารี ไม่ให้มันอัพไปicloudน่ะ รู้สึกเร็วขึ้นบ้าง
กระตุกมาก ios7 = ='
อีกหนึ่งเหตุที่เลือก iOS ครับ
"นักพัฒนาโปรดทราบ! ผลสำรวจพบ แอพที่มีปัญหากับ iOS 7 คะแนนรีวิวจะตกทันที"
"อีกหนึ่งเหตุที่เลือก iOS ครับ"
ยังไงนะครับ?
เค้าคงหมายถึง iOS 7 ทำให้นักพัฒนาต้องรีบอัพเดตแอพให้กับผู้ใช้เร็วกว่าระบบอื่นละมั้งครับ
อ๋อ ... ขอบคุณครับ
+1 ครับ โดนใจมาก ๆ ครับตรงจุดนี้ (ขอบคุณที่ช่วยชี้แจงครับ)
ปล. เขียนสั้นไปหน่อย ขอโทษครับ
จริงครับ ในฐานะผู้ใช้ก็ได้ประโยชน์ไปเต็มๆ
positivity
ได้ข่าวว่ามันเป็นการ fix bug ทั้งหมดทั้งมวล ส่วนที่ update ใหม่ๆ มีแค่จิ๊บๆจ้อยๆ ซึ่งถ้าเป็นฟีเจอร์ใหม่ๆ เค้าก็จะมีรอบในการ Lunch อยู่แล้ว มิใช่หรือครับ แต่ที่เค้าต้องรีบเข็นมันออกมามิใช่เพราะ bug อุดรอยรั่วเพราะ OS มันเมาๆ ไม่ค่อยเสถียรมากกว่ามั้งครับ
Bug เยอะครับ
ปกติการ update version iOS 3.0=>4.0=>5.0=>6.0 ก็ Fix ปกติ
update เป็น iOS 7.0 ต้อง fix ทั้ง 32 bit และ 64 bit
ผ่านไปสามปีก็64BIT ONLYแล้วนะครับ
งั้นรุ่นก่อนหน้านี้ก็เตรียมโดนลอยแพไว้ได้เลย
ถ้ามี support ไปถึง 4 ปี แล้วไม่มีต่อ คงไม่เรียกว่าลอยแพหรอกครับ
บางคนยังใช้ iPhone 3G ก็ยังมีให้เห็นในชีวิตปัจจุบันอยู่ครับ ผมแค่คิดว่าไม่ถึงต้องขอเวอร์ชั่นใหม่ แต่ถ้ามี Critical bug ต้องควรตามแก้และอัพเดทให้ครบทุกรุ่น
ผมเล่นใน iPad Mini ของเพื่อน caps lock (กด shift 2 ที) หายไป :'(
iPad 3rd Gen ยังได้นะครับ
Settings -> General -> Keyboards ดูว่า Caps Lock เปิดหรือยัง
ที่ android ไม่ต้องรีบ update
ส่วนหนึ่งมาจากที่ app สมัยที่พัฒนามาตั้งแต่ android V 1.5 (ส่วนใหญ่)
ก็สามารถ run ค่อนข้างจะสมบูรณ์ใน 4.3 นะครับ
เวลาดูสาวชอบดูสาวขาวๆ Sex Sex เวลาดู Notebook ชอบแบบ"ถึกๆดำๆ"
Twitter : @Zerntrino
G+ : Zerntrino Plus
แล้ว ios 7 ที่ีมีปัญหาหละดันไม่ยอมแก้
จริงๆสำหรับ Android หลายๆแอป (จำไม่ได้แล้วว่าแอปไหนมั่ง) ผมเห็นโดนคอมเมนท์ว่าไม่ออกแบบตาม Design guideline ของ Google
แต่มันน่าด่าจริงๆ บางแอปนี่มัน iOS UI ชัดๆ เล่น port มาแบบไม่คิดจะทำใหม่เลย
นักพัฒนาคงต้องรีบแก้โปรแกรมอย่างด่วน คะแนนลดแบบนี้มีผลต่อการขายแอปแน่ๆ
เสียงบ่นจากเพื่อนที่พัฒนา App บน iOS7 บอกมาว่า เขียนใหม่อาจจะง่ายกว่า ><"
+1 ครับ บางอย่างแก้ได้ บ้างอย่างต้องเขียนใหม่จริงๆครับ
ถ้าดูดีๆ มันแก้นิดเดียวเองครับ คำสั่งบางตัวมีเปลี่ยนนิดหน่อยเอง - -)?
มันแก้นิดเดียวเองครับ
You can submit 64-bit apps for iOS 7 today that take advantage of the power of the iPhone 5s. Xcode can build your app with both 32-bit and 64-bit binaries included so it works across all devices running iOS 7. If you wish to continue to support iOS 6 then you need to build for 32-bit only. Next month we will be making changes so that you can create a single app binary that supports 32-bit on iOS 6, as well as 32-bit and 64-bit on iOS 7.
https://developer.apple.com/library/ios/releasenotes/General/RN-iOSSDK-7.0/
แน่ใจนะครับ ผมนั่งอ่าน Developer API อยู่เนี่ย แถมคนบ่นนี่เค้าเขียนระดับลึกๆ บ่นหูชาเลยครับ ><"
เป็นหนึ่งในผู้ด่าเช่นกัน ซื้อแอพฯ Voice Recorder HD บน IOS7 พอดี (มีความจำเป็นต้องใช้) กดซื้อทั้งหมดทั้ง App และ In-App 3 ตัว
พอถึงวันที่จะต้องใช้ กด Edit Memo ปรากฏว่า App Crash.. แต่ไม่เป็นไรผมเน้นอัดเสียง
พออัดๆ ไปได้ 2 ชม กด Wakeup จอขึ้นมา ปรากฏว่า App Crash ต่อหน้าต่อตาครับ แถมกดกลับไปที่โปรแกรมอีกครั้ง ปรากฏว่า Library ว่างเปล่า..
ตอนนั้นโมโหมากครับ กดซื้อ Recorder Pro ใช้แทนทันที
(ก่อนหน้านี้เคยใช้โปรแกรมนี้เวอร์ชันเจลฯ มาตลอด แต่ทดลองเปลี่ยนใช้โปรแกรมอื่นดูเพราะโปรแกรมนี้โหลด Library ช้า)
ส่วนโปรแกรมนี้ ผมก็ไม่รอช้า กด Review 1 ดาว แถมด่าจัดเต็ม และขอ Refunded App และ In-App ทั้งหมด (ได้เงินคืนหมดแล้ว)
ปล. แต่ไฟล์เสียง 2 ชม ที่หายไป ยังไม่เชิงหายไปซะหมดเลยทีเดียว พอใช้ iFunbox เข้าไป Explorer ดู ปรากฏว่ายังมีไฟล์ Temp ของไฟล์เสียงตัวนั้นอยู่ แต่ตัวไฟล์ Damage เล็กน้อย ต้องเปิดด้วย Audio Editor ในแบบ Raw แทน
ปล2. แอบกดเข้าไปดูที่แอพฯ Voice Recorder HD อีกครั้ง กะไปชมคำด่าของตัวเอง ปรากฏว่า App Fix เพื่อ Support IOS7 แล้ว
สงสัยหลายครั้งแล้ว เห็นเพื่อนไปโหลดแอพอื่นมาอัดเสียง แอพที่มากับเครื่องนี้แตกต่างกันยังไงครับ (เคยใช้อย่างมากก็อัด 2-3 นาที)
we can build a more peaceful.
ผมใช้ iPad Mini ครับ ไม่มีโปรแกรมอัดเสียง T T
ใช้ครับ iPad Mini ไม่มี App อัพเสียง เครื่องคิดเลข หรือแม้แต่ ระบบเข็มทิศ แต่ก็ยังโชคดีนะที่ Apple มันยังเอาแอพ App Store เอามาไว้ให้โหลดแอพอื่น
คนใช้ ios โดนบังคับให้ต้อง update สถานเดียว(ถ้าจำเป็นต้อง restore) อันนี้มันจำกัดสิทธิเกินไป
ส่วน android มีปัญหาตรงข้ามกัน คืออัพได้แค่บางเครื่อง
ถ้า apple ยอมถอยสักก้าว ยอมหลับตาสักข้างจะดีกว่านี้เยอะ
ถอยทำไมละครับ ในเมื่อข้อดีคือแอพจะถูกดูแลและถูกแก้ปัญหาได้อยู่ตลอดเวลา แอพมันมีความสดใหม่อยู่เสมอครับ รวมถึงการแก้ปัญหาที่ไม่Support บลาๆ ในมุมมองผู้ใช้ผมเห็นด้วยเลยนะ เรื่องของเรื่องคือ "เป็นคนทำAppมันควรขยันดูแล"ไม่ใช่เหรอครับ หรือว่าคือต้องเป็นขายเสร็จแล้วจบกัน?
สำหรับบางคนการอัพเกรดไปใช้ OS เวอร์ชั่นใหม่ที่ยังไม่เสถียรนี่ก็เป็นเรื่องที่ไม่อยากที่จะทำสักเท่าไหร่ครับ (แต่อีกหลายคนชอบของใหม่ ๆ นั่นล่ะ ลางเนื้อก็ลางยา) ยิ่ง iOS เริ่มเจาะตลาด Enterprise มากขึ้นแบบนี้ Apple ควรจะยอมให้ผู้ใช้สามารถควบคุมการอัพเกรด OS ได้ด้วยตัวเองได้แล้ว
ในทางกลับกัน Android คนที่อยากอัพแต่อัพไม่ได้นี่เพียบ 555
ตัวอย่างง่ายๆนะครับ
ios7 อืด หน่วง กินแบ็ต ios6 ไม่เป็น ผมใช้ ipad3อยู่ กลัวว่าจะโดนบังคับไป ios7 ส่วนเหตุผลที่บอกว่า app จะได้สดใหม่ตลอดเวลา ไม่เห็นจำเป็นต้องบังคับให้ไป ios7 ก็อัพได้นี่ครับ สดเหมือนกัน
อีกตัวอย่างที่ใช้อยู่คือ ipad1
ลงได้สูงสุดคือ ios5 แต่อืดโครตเพราะแรมมันน้อยใช้ multitasking ไม่ไหว ถ้าไม่ได้เก็บ shsh ไว้ก็ต้องโดนบังคับลง ios5
ส่วนถ้ามัน run ios4 มันก็ยังพอเล่นได้ เร็วกว่า ios5 แบบเห็นๆ
แล้วแบบนี้ถ้า apple ยอมให้ทางเลือกแก่ลูกค้า จะดีกว่าบังคับมั๊ย???
ปล.ส่วนตัว มองว่าการบังคับให้ลง ios ใหม่ๆตลอดมันไม่ยุติธรรม ผมแค่อยากได้ทางเลือกครับ
เหอะ ตอน ios6 มาก็บ่นกันโครมๆ
พอมาตอนนี้ละ ชมกันเชียว!!!
อย่างน้อยเค้าก็มี update แก้ bug ตลอด
ตอน ios6 บ่นอะไรกันครับ จำไม่ได้จริงๆ จำได้แต่ผม อัพมาios6 แบบไม่คิดมากเลย
ลองค้นหาในอากู๋ย้อนไปปีที่แล้วดูครับ ตอนเปิดให้อัพเดต iOS6 ใหม่ๆ คนบ่นกันระนาว แบตหมดไว หน่วง ช้ามาก บั๊คเพียบ ใครใช้ 5 อยู่อย่าเพิ่งอัพกันเลย
พอ iOS7 ออกมา ก็เหมือนเดจาวูเหตุการณ์นั้นอีกครั้ง
เดี๋ยวพออัพจนสเถียร พอ iOS8 ออกมาก็คงเดจาวูกันอีกรอบ
ตรงข้ามกับแอนดรอย พอออกอะไรใหม่ก็จะบอกว่า โอ้ย ลื่นๆๆ ลื่นปรื้ด ลื่นหัวแตก พอออกใหม่อีกก็หัวแตกอีก ทั้งๆที่...
น่าจะเป็นข้อดีของ Android มากกว่านะครับ
คือไม่ว่าคุณจะซื้อ App ตอน Android version ไหนก็สามารถใช้ได้ตลอดไปเรื่อย ๆ ไม่ว่า Android จะ up ไปกี่ Version
แต่บางทีผมก็เกลียดข้อดีนี้นะครับ เพราะถ้ามันยังใช้งานได้ผู้พัฒนาจะไม่ยอมปรับแก้อะไรเลย เช่น ปกติถ้าแก้ให้รองรับปุ่มบนจอ(navbar)เวลาเล่นวีดีโอ navbar ต้องย่อลงไป แต่แอพที่มีฟังก์ชั่นเปิดวีดีโอในตัวกลับใช้แบบเก่าทำให้ปุ่มบนจอกินพื้นที่เพราะมันไม่ยอมย่อลง อยากบ่นมากเลยถ้าไม่คิดจะแก้ก็แก้ให้มันลิ้งไปแอพประเภทเล่นวีดีโอตัวอื่นซะเลยสิครับ จะได้ใช้ MXPlayer แทน =_= ทั้งๆที่การลิ้งไปเปิดบนแอพอื่นถือเป็นข้อดีชัดๆเลยเพราะทำให้แทบไม่ต้องเขียนส่วนนี้เอง
แล้วผมก็โครตเบื่อการออกแบบที่ไม่อิงกับ guideline ของ android ไปพอร์ท iOS มาดื้อๆเลยซะงั้นที่เลวร้ายคือบางแอพพอร์ตมาดื้อๆนั้นใช้งานปุ่ม back ไม่ได้หรือใช้งานได้แค่ทำหน้าที่ "ออกจากแอพ" UI ที่พอร์ตมาดื้อๆยังไม่เท่ากับการที่ไม่ยอมแก้ลักษณะการใช้งานบน android ด้วยเลย ปัญหาคือมันเป็น e-service ของ AIS คงไม่มีใครมาทำแข่งกระตุ้นเขาให้ปรับตัวได้ =_=
ปัญหานี้ผมเคยเจอว่าเป็นเพราะว่า designer หลายคนไม่เข้าใจความแตกต่างของ iOS กับ Android (บางครั้งไม่รู้ด้วยซ้ำว่าปุ่ม back คืออะไร) ร้ายกว่านั้นบางครั้งออกแบบมายังกับเป็น website บางทีก็ต้องเสนอเค้าไปว่าตาม guideline มันควรทำแบบนี้นะ เปลี่ยนเถอะ
ใช่ครับเพราะบางคนเองก็เป็นผู้ใช้ iOS อย่างเดียวทำให้ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการใช้งาน android มีลักษณะการใช้งานที่ต่างกันมาก ผมว่าถ้าจะทำงานเป็นนักออกแบบแอพหรือนักพัฒนานี่ จำเป็นต้องเป็นผู้ใช้ของทุก platform ที่ทำแอพด้วยนะครับ ไม่ก็ควรจะอ่าน guideline การออกแบบซะบ้างไม่ใช่อ่านแต่ของ apple เจ้าเดียว(ซึ่งแทบจะบังคับให้ทำตามนั้นไม่งั้นไม่ได้ขึ้น appstore)
คิดๆแล้วผมว่า google ควรจะทำอะไรกับเรื่องนี้บ้างนะครับแม้เขาจะไม่ได้กีดกันแอพแบบนี้แต่ก็ควรมีมาตรการอะไรบ้าง เช่น ถ้าตรวจแอพที่ทำให้ประสบการณ์การใช้งานต่างกับ guideline มากๆก็แปะหลาตัวแดงๆไว้หัวแอพในหน้า playstore เลยว่า "This app is not design by Android Design Guideline"
ผมเห็นอันแรกเลยก็คือ google Chrome พออัพ iOS 7 ปุ้ป Chrome ก็ช้าลงอย่างเห็นได้ชัด
ทุกคนลงคะแนน 1 - 2 กันหมดและด่าอย่างรุนแรง
โดยที่ไม่มีใครมองเลยว่า ปัญหาอยู่ที่ตัว OS เอง (เพราะ Safari และ Web browser ทุกตัวโดนหางเลขหมด)
+1 มันจริง ToT
ไล่นักพัฒนาให้รีบๆแก้ แต่ตัวเอง IOS7 มีปัญหา ดันไม่รีบแก้ เห้อ
ใช่เลยครับ เวลา app ไหนมีปัญหานี่ให้ 1 ดาว และใส่เต็มที่
แต่พอ app มีการแก้ไข ดีขึ้น คนที่ให้ 1 ดาวไม่เคยกลับมาเพิ่มดาว หรือ review ใหม่เลยครับ
+1 ヾ(◍'౪`◍)ノ゙
บน AppStore มีปุ่ม report ไหมครับ ?
ถ้าเข้าอ่านจาก device จะไม่มี report ครับ แต่ถ้าเข้าจาก itune จะมีให้กด Report a Concern
ถ้างั้นยากครับ คนใช้คงไม่พยายามบากบั่นเข้าไปพิมพ์ใน iTune แน่นอน (ผมว่าบางคนใช้ iTune ปีละไม่เกินห้าครั้ง)
ว่าแต่บน Android มีปุ่ม report ไหมหว่า :P
หรืออีกนัยหนึ่งก็คือถ้า dev พัฒนา app แบบไม่มี bug แล้วทำงานได้สุดยอด
มันก็จะไม่มีคนให้ดาวซักดวงเลยเช่นกัน - -")
หลังๆ มักจะเห็นพวกทำ message box เด้งขึ้นมาบังคับให้ดาวเสมอ ไม่ทำก็ไม่ได้
เพราะมันเอาดาวไปคิด rank ด้วย
รีวิวแอพของแอปเปิล แยกเวอร์ชันนะครับ เวอร์ชันของแอพใหม่ ก็นับรีวิวใหม่อีกรอบ (แต่ย้อนกลับไปดูได้เช่นกัน)
@TonsTweetings
บวก บวก บวก
ios7 บอกตรงๆหน่วงเห็นได้ชัดเวลาใช้ safari
และบางครั้งเปิดแอพจากลิ้งค์เข้าสู่ store แอพขึ้นบ้างไม่ขึ้นบ้าง
และโครตบัคที่เห็นได้ชัดเลยทั้ง assistive และเวลากดเข้าแอพ จะเด้งหน้าจอ home screen ที่มีสีดำเป็นประจำก่อนเข้าแอพ
เห้อ... 7.0.3 มาไวๆเหอะ
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
ถ้ามีคะแนนรีวิวของตัว iOS เองด้วย ก็อาจเป็นไปได้ว่าตอนนี้คะแนนของ iOS 7 เองก็ยังไม่ค่อยสวยเท่าไหร่นะ
เพื่อนที่ทำงานหลายคน ยังบ่นๆ กันอยู่เลย
ช่างไฟสมัครเล่น (- -")