[Coin](https://onlycoin.com) เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ลักษณะเป็นบัตรขนาดเท่าบัตรเครดิตทั่วไป ซึ่งใช้แทนบัตรเครดิต, บัตรเดบิต, รวมถึงบัตรอื่นๆ ที่ใช้แถบแม่เหล็กในการทำงานอย่างเช่นบัตรของขวัญสะสมแต้มต่างๆ รวมเข้าด้วยกันเป็นบัตรเพียงใบเดียว เพื่อทำให้คนที่มีบัตรจำนวนมากๆ นั้นไม่ต้องพกบัตรหลายใบจนเต็มกระเป๋า
วิธีการใช้งานไม่ยาก เพียงแค่เพิ่มบัตรที่ต้องการเก็บไว้ใน Coin ด้วยแอพพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์เสริมที่มีหน้าที่อ่านแถบแม่เหล็กบนบัตร ทำการอ่านข้อมูลของบัตรที่ต้องการเก็บไว้ แล้วส่งข้อมูลลงไปยังตัวบัตร หลังจากนั้นสามารถนำบัตรไปใช้แทนบัตรที่เพิ่มเข้าไปได้ตามปกติ
![Adding Card](http://farm4.staticflickr.com/3781/10869013454_c69c411537.jpg)
Coin นั้นสามารถเลือกบัตรที่เก็บข้อมูลไว้ได้ด้วยการกดปุ่มบนตัวบัตร โดยจะมีจอขนาดเล็กที่แสดงชื่อบัตรที่เราตั้งเอาไว้ เลข 4 ตัวสุดท้ายของบัตร วันหมดอายุ และ CVV ของบัตรนั้นๆ
![Selecting Card](http://farm6.staticflickr.com/5504/10868902146_c533f8d190.jpg)
ตัวบัตรเองยังมีฟีเจอร์ป้องกันการลืมบัตรด้วยการใช้บลูทูธเพื่อแจ้งเตือนกรณีที่เราออกห่างจากตัวบัตรมากเกินไปอีกด้วย (มีระบบตั้งเวลาสำหรับให้พนักงานรับบัตรไปจ่ายเงินได้)
![Alarm](http://farm4.staticflickr.com/3775/10869019864_0626e15eb0.jpg)
สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถสั่งจองล่วงหน้าได้ที่ทางเว็บไซต์ โดยบัตรมีราคาช่วงแนะนำอยู่ที่ $50 (ราว 1,600 บาท) และน่าจะพร้อมส่งมอบได้ในช่วงฤดูร้อนปี 2014 ของทางอเมริกาครับ (ราวเดือนมิถุนายนปีหน้า)
วิดีโออธิบายการทำงานของ Coin
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถอ่านได้จากหน้า [FAQ ของทางเว็บไซต์](https://onlycoin.com/support/faq/)ครับ
แบบนี้สำหรับคนที่ต้องพกบัตรเยอะๆ คงจะสบายกระเป๋ากันมากขึ้นครับ :D
ที่มา: [เว็บไซต์ Coin](https://onlycoin.com)
Comments
คราวนี้เวลาจะก็อบบัตรใครก็ง่ายแสนง่ายแล้วสิ :p
แต่ยังนึกไม่ออกว่าชาร์จแบตยังไง แล้วแสดง CVV ขึ้นมาทำไม แล้วถ้าพนักงานเผลอไปโดยปุ่มเปลี่ยนบัตรโดยไม่รู้ตัวจะทำยังไง ยังไม่นับว่าใช้ได้เฉพาะบัตรแถบแม่เหล็กอีก
แต่เหมือนเมกาจะยังใช้บัตรแถบแม่เหล็กเป็นส่วนมากรึเปล่า? เห็นพวก Paypal Here กับ Square ก็ใช้แถบแม่เหล็ก
เห็นครั้งแรกผมนึกถึงเรื่องความปลอดภัยก่อนเลยครับ เรื่องเอาเลขบัตรทั้งหลายไปใส่ไว้ในนั้นมันต้องผูกกับบัญชีผู้ใช้ซะก่อน
เรื่องแบต เห็นว่าน่าจะใช้ได้ 2 ปี แบตหมดก็บังคับทิ้ง...
Dream high, work hard.
เป็น Gadget ที่น่าสอยมาก แต่หายทีก็ร้องไห้เลยนะ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
เครื่องรูดบัตรในไทยมันเป็นแบบ smart card เกือบหมดแล้วนี่นา - -"
เอาจริงๆ เครื่องรูดบัตรในไทยมีที่รูดแถบแม่เหล็กอยู่ด้วยเกือบทั้งหมดนั่นแหละครับ บัตรเดบิตผมมีแต่แถบแม่เหล็กช่วยยืนยันได้เป็นอย่างดี
เครื่องรับบัตรเครดิตในไทยรองรับทั้ง chip และ แถบแม่เหล็กครับ เพราะบัตรเดบิตบ้านเรายังไม่เป็น chip สำหรับอุปกรณ์ตัวนี้ ผมเชื่อว่าน่าจะมี มาตรฐาน PCIDSS ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยของการเก็บรักษาข้อมูลบัตรที่ใช้กันทั่วโลก ไม่เช่นนั้นปล่อยออกมาสู่ตลาดแบบ commercial ไม่ได้แน่นอน
99% ของบัตร credit/debit ในเมกา ไม่มี smart chip ครับ จะได้บัตรมี chip คือ ต้องเปิดบัตรที่จะต้องใช้งานต่างประเทศ จำพวกบัตร traveler ครับ
ดังนั้น ถ้ามิจฉาชีพไทยหมดหนทาง skimmer ตามตู้ ATM ลองมาหากินในเมกาดูครับ :-)
+1
เมกาก็ยังโบราณตัวพ่อในหลายๆ เรื่องจริงๆ :P
เหมือนส่งข้อมูลบัตรของเราให้คนอื่นด้วยตัวเอง ใครจะกล้าใช้ ขนาดโทรศัพท์ยังดักฟังได้ทั้งโลก ฮาฮา
ถ้าบัตรเคตดิตเป็นสมาร์ทการ์ดแล้วเอาไปรูด เครื่อง EDC มันจะบังคับให้เสียบบัตรครับรูดไม่ได้นอกจาก Redeem แต้ม
นี่ถ้าเอาไปทำเป็นบัตร ATM แล้วเครื่องไม่คืนบัตร คงเศร้าน่าดู
ถ้าบัตรหาย มือถือหาย = เดินเข้าตู้หยอดเหรียญโทรอายัดรัวๆ
คงต้องมีฟังก์ชั่น รีบเข้าเว็บแล้วกด Lock ไว้ก่อนได้น่ะครับ ไม่งั้นลำบากแน่ๆ
ถ้าบัตรพ้นระยะควบคุมของโทรศัพท์ไปแล้วคงยากล่ะครับ นอกจากตั้งไว้ว่าพ้นจากระยะเกินกี่นาทีแล้วให้ล็อกบัตรไปเลย
เท่าที่อ่านจาก QA เราสามารถตั้งเวลาได้ครับ หากหมดเวลา + พ้นจากระยะมือถือมันจะ lock ตัวเองได้ครับ
อยากได้มาก ฮ่าๆ
จริงๆแล้วผมไม่ร้อวการลดบัตรเครดิตนะ ที่ต้องการคือลดบัตรจากร้านค้ามากกว่า ซึ่งถ้าจำนวนหายไปซะปึกนึงบัตรเครดิตที่เหลือก็สบายละ
เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งในการจ่ายเงิน แต่ผมรอการจ่ายเงินแบบ NFC ดีกว่า สะดวกกว่าเยอะ ไม่ต้องพกบัตร
อยาก pre order แต่ดูไม่น่าเชื่อถือยังไงไม่รู้
สำคัญคือเมืองไทยยังให้ความสำคัญกับหน้าบัตรอยู่เลย บัตรเครดิตรูดตามร้านก็ต้องมีลายเซ็นหลังบัตรอีก ใช้ไม่ได้แน่นอน
จำพวกบัตรสมาชิกต่างๆ ก็ต้องยึดตามหน้าบัตรอีก
ไม่เวิร์คกับเมืองไทยแน่ๆ
คงใช้ได้แค่บัตร ATM ล่ะมั้งครับเนี่ย