ผู้พัฒนาคอมพิวเตอร์ทั้งหลายต่างเห็นพ้องเป็นเสียงเดียวกันมานานแล้วว่าต่อให้ระบบทุกอย่างจะดีและเร็วขึ้นมากเท่าไหร่ก็ตาม สุดท้ายมันก็จะมีคอขวดอยู่ที่ฮาร์ดไดรว์ที่ความเร็วส่วนใหญ่แล้วต่ำกว่า 10000 rpm
ล่าสุดนักวิจัยที่มหาวิทยาลัย Radboud Nijmegan ในเนเธอร์แลนด์ก็ได้เจอวิธีใหม่ที่ดีกว่าในการเข้าถึงข้อมูลในฮาร์ดไดรว์ที่เร็วขึ้นถึง 100 เท่า โดยใช้วิธีเขียนและอ่านข้อมูลด้วยลำแสงเลเซอร์แทนการใช้แม่เหล็กในการเขียนและอ่านข้อมูลไบนารี
แน่นอนเทคโนโลยีใหม่นี้ก็มีข้อเสียอยู่อย่างหนึ่ง คือการเขียนข้อมูลในลักษณะนี้จะทำให้เกิด "ร่องรอย" (footprints) บนตัวดิสก์ที่ขนาดกว้างกว่า 5 ไมครอน ซึ่งมากกว่าการใช้แม่เหล็กมาก ไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่ทางทีมงานค้นคว้าและวิจัยก็กำลังพยายามที่จะลดขนาดให้เหลือเพียง 10 นาโนเมตร คาดว่าภายในสิบปีข้างหน้านี้คงได้มีการใช้เทคโนโลยีนี้มาทดแทนอย่างแพร่หลายแน่นอน
ที่มา - Science Mag
Comments
แล้วเขาจะตั้งชื่อมันว่า Optical Drive รึเปล่านะ
เพิ่มเติมกันความสับสน (เท่าที่ผมเข้าใจ)
คำถามเมื่อผมอ่านข่าวนี้คือ.. ต่างจาก CD, DVD ยังไง ตามไปอ่านเต็มๆ และจากวิกิได้ความประมาณนี้
พวกแผ่น DVD นี้ จะใช้เลเซอร์ "เผา" (ต้นตอของคำว่า burn นั่นแหละ)วัสดุบนแผ่น (แตกต่างกันตามชนิดของแผ่น) ให้ปรับสภาพการสะท้อนแสง แต่วิธีการใหม่นี้ จะเป็นการเปลี่ยนสภาพขั้วแม่เหล็ก เหมือนกับ harddisk ปัจจุบัน คือใช้แผ่นแม่เหล็กในการเก็บข้อมูลเหมือนเดิม (ปรับเปลี่ยนวัสดุนิดหน่อย) แต่แทนที่จะใช้หัวอ่านที่เป็นแม่เหล็กไฟฟ้า ก็ใช้เลเซอร์แทน เข้าใจว่าเป็นการใช้ความร้อนเพื่อเปลี่ยนขั้วแม่เหล็ก
สื่ออีกชนิดที่คล้ายกันคือ MO (Magneto-optical) อันนี้ก็จะใช้เลเซอร์อ่านเขียนข้อมูลลงบนแผ่นแม่เหล็ก โดยอาศัยคุณสมบัติการสะท้อนที่ต่างกันตามสภาพแม่เหล็ก เวลาเขียนก็จะใช้เลเซอร์สร้างความร้อนเพื่อเปลี่ยนสภาพแม่เหล็กเหมือนกัน
อ่านไปอ่านมา.. กลายเป็นงงเอง เหมือนว่ามันเป็นการพัฒนาต่อมาจาก MO หรือเปล่าหว่า
---------- iPAtS
iPAtS
ที่บ้านเคยใช้ MO (ไปซื้อมือสองมา) ข้อดีคือโคตรทน แผ่นตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้จริงๆ ความน่าเชื่อถือสูงจัด
ข้อเสียคือร้อนมาก แผ่นออกมาจากไดร์ฟนี่ลวกมือเลย ------ LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
10 ปีผมว่ามันนานเกินไปนะ ตอนนั้นคงหันไปใช้พวก solid state หมดแล้ว
อาจจะคืนสู่สามัญไงครับ
นั่นสิ อีก 10 ปี solid state มันก็คงพัฒนาไปถึงไหนต่อไหนแล้ว
สิบปีเลยหรอ โห่รอจนลืมแหละ