Copenhagen Wheel คือสิ่งประดิษฐ์ที่พัฒนาโดยมหาวิทยาลัย MIT ร่วมกับเมือง Copenhagen ซึ่งมันคือสิ่งที่จะเปลี่ยนรถจักรยานธรรมดาให้กลายเป็นจักรยานไฮบริดที่ใช้พลังงานไฟฟ้าช่วยในการขับเคลื่อน
ตัว Copenhagen Wheel เป็นจานหมุนที่มีมอเตอร์พร้อมหน่วยประมวลผลและแบตเตอรี่ 48 โวลต์ แบบถอดเปลี่ยนได้อยู่ภายใน ถูกออกแบบมาสำหรับติดตั้งที่แกนล้อรถจักรยานเพื่อนำพลังงานที่สูญเสียไปในระหว่างการเบรกหรือวิ่งลงเนิน กลับมาปั่นไฟและเก็บพลังงานไฟฟ้าที่ได้เอาไว้ และจะใช้พลังงานนั้นช่วยในการขับเคลื่อนตัวจักรยานในขณะเร่งความเร็ว เป็นการผ่อนแรงให้แก่ผู้ใช้ โดยสามารถขับเคลื่อนรถจักรยานได้ถึงความเร็ว 20 ไมล์ต่อชั่วโมง และสามารถทำระยะทางได้ไกล 30 ไมล์
นอกจากนี้ภายใน Copenhagen Wheel ยังมีอุปกรณ์สื่อสารแบบไร้สาย, ระบบล็อกล้อ และเซ็นเซอร์เพื่อเก็บข้อมูลการปั่นจักรยาน ซึ่งมันสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อแสดงข้อมูลของการปั่นจักรยานได้ ทั้งความเร็วของการเคลื่อนที่, ระยะทางที่ได้, การบันทึกเส้นทางที่วิ่งผ่าน รวมทั้งค่าประมาณของปริมาณพลังงานในร่างกายที่ถูกเผาผลาญไปในการปั่นจักรยาน เป็นต้น ทั้งยังมีฟีเจอร์ล็อกล้อรถอัตโนมัติเมื่อผู้ใช้เดินออกห่างจากจักรยาน
แม้ว่าแท้จริงแล้ว Copenhagen Wheel จะได้รับการพัฒนาและเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2009 ทว่านั่นก็ยังเป็นเพียงชิ้นงานต้นแบบเท่านั้น แต่ล่าสุดบริษัท Superpedestrian ในสหรัฐอเมริกาได้ผลิต Copenhagen Wheel ออกเป็นสินค้าวางขายจริงแล้ว สนนราคาชิ้นละ 699 ดอลลาร์ โดยสินค้าที่จะวางขายนั้นจะเป็นขนาดสำหรับติดตั้งบนล้อจักรยาน 26 นิ้ว
ผู้ที่รักการปั่นจักรยานและสนใจสั่งซื้อ Copenhagen Wheel สามารถสั่งซื้อได้ที่นี่ โดยทาง Superpedestrian จะเริ่มทยอยส่งของในช่วงต้นปีหน้า
Comments
อยากได้
ราคาแพงกว่าจักรยานผมอีกครับ
2หมื่นไม่แพงเลย...
อ้าว แค่ล้อนี่หว่า
แต่ก็อยากได้นะ
เห็นราคาแล้วต้องหยุดความอยากเลยผม -*-
จักรยานบางรุ่นแพงกว่านี้อีกครับ
ถ้าให้คิดง่ายกว่านั้น มือถือยังแพงกว่าเลย
จักรยานบางรุ่นถูกกว่านี้อีกครับ
ถ้าให้คิดง่ายกว่านั้น มือถือยังถูกกว่าเลย
เดี๋ยวพี่จีน copy idea
เพราะว่าจีนเองก็ทำล้อแบบไม่ embedded battery มาขายอยู่แล้ว
ข่าวต่อไป : ล้อจักรยานระเบิดระหว่างกำลังปั่นลงเนิน ยังไม่ทราบสาเหตุ
Copenhegen -> Copenhagen
ดูราคาแล้ว ... เก็บไว้ซื้ออะหลั่ย Shimano เหมือนเดิมดีกว่า -..-'
my blog
แทบจะจัดชุด di2 ได้
di2 มือสอง ของเก่าตกรุ่น (เฟืองหลัง 10 speed เพราะเดี๋ยวนี้ 11 speed แล้ว) ของไม่ครบ ขาดจานหน้าและกะโหลก มีตำหนิที่ตีนผีอีกต่างหาก ราคาซื้อล้อนี่ได้สองล้อเลยไม่ใช่หรือครับ? (40,000 บาท)
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=3&t=820786
คุ้นๆ ว่ามือหนึ่งเกินครึ่งแสน
ขโมยเอาครับ :)
ส่วนตัวผมยังอยู่กับ Tiagra อยู่เบย :(
dialing to 191 911…
แหม ไม่อยากจะข่มนะครับ ผมใช้ท้องฟ้าเลยเชียว :p (Sora สุดกระจ๊อก
ยังกล้าข่มอีกนะ)ราคารับได้ แต่ไม่มีกันขโมย จบ
จักรยานยังต้องติดตั้งสัญญาณกันขโมยอีกหรือครับ?? ลืมๆ นี่เมืองไทยนี่.. //เผ่น
เมืองนอกหลายๆ ที่เค้าก็ติดกันนะครับ
น่าจะมี usb ให้ไว้ชาร์จมือถือด้วย
เอ๋ ผมนึกว่าของแบบนี้มีอยู่แล้วซะอีก?
ที่เอามาติดจักรยานธรรมดากลายเป็นจักรยานไฟฟ้าเนี่ย?
ที่มีอยู่แล้วนี่เป็นแบบนำพลังงานเหลือจากการ brake ชาร์จกลับไปด้วย หรือว่าเป็น motor ไฟฟ้าติดเฉยๆ ครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
เท่าที่ดูๆ มันเอาพลังงานจากการปั่นของเรานะครับสะสมเอาไว้ใช้ ถ้าผมฟังไม่ผิด
จักรไฮบริด => จักรยานไฮบริด
สำหรับติดตั้งบนล้อ
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ล็อคล้ออัตโนมัติ: [โจร] งั้นยกล้อหลังแล้วเข็นก็ได้
เป็นผมถอดล้อไปเลยครับ ตัวจักรยานช่างมัน
ปัญหาใหญ่เมืองไทยเลย -*-
A smooth sea never made a skillful sailor.
ไฟท้าย ไฟหน้า กริ่ง ผมยังโดนขโมยเลย จอดทิ้งไว้คืนเดียว ดีว่าล๊อกล้อพ่วงกับตัวจักรยานด้วย
กระดิ่งมันยังเอาอีกเหรอครับเนี่ย - -" ไฟหน้าไฟท้ายผมปลดติดตัวตลอดอยู่แล้ว แต่กระดิ่งนี่ผมไม่สามารถนะ
นั่นสิครับ กริ่ง80บาทยังจะเอา ผมเองดีใจที่มันไม่เอาล้อหลังไปด้วยครับ =w=
ป.ล. เพิ่งรู้ว่าไฟท้ายเขาถอดเก็บติดตัวกัน
เวลาล็อก ผมถอดล้อหน้ามาล็อกไว้กับล้อหลังครับ U-lock ตัวเดียวคล้องเฟรม ล้อหน้า ล้อหลังเลย แต่ถ้าเค้าทำอะไรสักอย่างกับ U-lock ได้ตัวเดียวก็จบเลยเหมือนกัน
ไฟหน้าไฟท้ายผมถอดหมดครับ ถ้าหายนี่ไม่เสียดายแค่ไฟหาย แต่เสียดาย Eneloop ที่อยู่ข้างในมันด้วย :p
แบบนี้ก็มีคนเคยทำขายมานานแล้ว แถมดีกว่าด้วยมั๊งเพราะเขาใช้มอเตอร์แบบ direct drive ด้วย
สิ่งที่จะเปลี่ยนรถจักรยานธรรมดาให้กลายเป็นจักรไฮบริด
จักรยานไฮบริด
Transform your bike and transform your city! <-ชอบ Quote นี้นะ
ล้อได้ทั้ง 2 ขนาดครับ ทั้งเสือภูเขา 26 นิ้ว และ เสือหมอบ 700c ดูน้ำหนักแล้วเกือบ 6 กิโล เกินครึ่งนึงของน้ำหนักรถ น่าจะซื้อเป็น gadget หรือ transport มากกว่า เพราะแนว sport นี่แข่งกันที่ลดน้ำหนักรถ ขีดสองขีดยอมเสียตังส์กันเป็นพันเป็นหมื่นเลยครับ เพราะเวลาปั่นยืนระยะนานๆ น้ำหนักมีผลเยอะ รถหนักๆ ปั่นแล้วอยากโยนรถทิ้งเลย
เท่าที่ดูมันมี ตัววัดความเร็ว กับรอบขาด้วย
อุปกรณ์พวกนี้แบบไร้สายถ้าซื้อแยกราคาก็จะครึ่งนึงของล้อนี้แล้วนะ
ก็ถือว่าไม่แพงจนเกินไป
ไม่เกินนะครับ วัดความเร็วกับรอบขานี่แบบถูกๆ ก็หลักพันต้นๆ เลย
สุดยอดดดดดดด
เพิ่ม port USB ใส่ chip ในข่าว ก่อนหน้า
คงสามารถนำไฟฟ้าที่เก็บสะสมไว้ไปใช้ต่อที่บ้านได้
ตอนนี้ทุกบ้านมีถังน้ำเก็บสำรองไว้ ต่อไปคงมีถังเก็บไฟสำรองที่เกิดจากการที่เราเคลื่อนที่ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์(hybrid), จักรยาน หรือลู่วิ่งจ๊อกกิ้ง และพลังงานแสงอาทิตย์
บ้านในฝัน
แนวคิดเจ๋งมาก แต่อยากให้มันออกแรงช่วยตอนปั่นต้านลม เพราะแถวบ้านไร้เนิน มีแต่ลมมมมมมมมมมม
มันน่าจะคำนวณจากแรงที่กดลงไปล่ะครับ จะลมหรือเนินก็น่าจะไม่ต่างกันมาก
ผมเคยเจอจักรยานแม่บ้านญี่ปุ่นที่เป็นไฮบริดที่ร้านที่เค้าโกยเอามาขายมือสอง ถามราคาผ่านๆ เค้าบอกห้าพัน ดูสภาพแล้วแค่แบตเตอรี่เสื่อมไปอย่างเดียวเอง น่าสนใจเหมือนกันครับ
ผมเคยทำโครงงานวิทย์เกี่ยวกับจักรยานไฮบริดอยู่นะ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่แบบนี้ก็ตาม ปัญหาที่ผมเจอและคิดว่าเป็นปัญหาที่ท้าทายเทคโนโลยีอย่างนึงคือ เมื่อพูดถึงแบตเตอร์รีคือ ถ้าเกิดว่าแบตฯ เก็บไฟได้มากน้อยแค่ไหน? แล้วถ้าแบตฯ เสื่อมล่ะ จะทำอย่างไร? เปลี่ยนเองได้หรือไม่? อะไหล่(หมายถึง แบตฯ)หาซื้อได้ในท้องถิ่นหรือป่าว??
ถ้ามันเป็นแค่โครงงานก็จะตอบคำถามเรื่องอะไหล่ไม่ได้ครับ แต่ถ้ามันเป็นธุรกิจ มันจะต้องมี supply ในส่วนนี้ และมีเรื่องของจำนวนการผลิตมากๆ พอที่จะผลิตได้กำไรออกมาด้วยครับ (ภาษาธุรกิจเรียกว่าอะไรหว่า)
Project Feasibility?
Economies of Scale?
อ้า ใช่ทั้งสองเลยครับ ขอบคุณครับ
ถ้าพูดถึงราคา ถูกกว่าล้อคาร์บอนอีก ล้อฮิตอย่าง ZIPP 404 หกหมื่นกว่าบาท ล้อเทพเจ้า Lightweight แสนกว่าบาท
ถ้าพูดถึงการใช้งาน คิดว่าหลักๆ คือการนำพลังงานที่สูญเสียไปกลับมาใช้ใหม่ คำถามคือคุ้มค่าไหมกับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น ก็คงต้องดูที่ลักษณะการใช้งาน