กฎหมายมาตรฐานหลอดไฟ (General Service Lamps) ของสหรัฐอเมริกา มีผลบังคับใช้แล้วในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทำให้หลอดไส้ (incandescent light bulb) แบบดั้งเดิมไม่สามารถใช้งานได้ต่อไป เพราะไม่ผ่านมาตรฐานด้านการประหยัดพลังงาน
กฎหมายมาตรฐานหลอดไฟไม่ได้บังคับหลอดไส้ตรงๆ แต่กำหนดมาตรฐานหลอดไฟประหยัดพลังงาน ต้องมีอัตราความสว่าง 55 lumens/watt ส่งผลให้ร้านค้าปลีกต่างๆ จะไม่สามารถขายหลอดไฟแบบเก่าได้อีก โดยมีข้อยกเว้นสำหรับการใช้งานเฉพาะทางบางประเภทให้
Steve Wozniak ผู้ร่วมก่อตั้งแอปเปิล เปิดตัวบริษัทใหม่ชื่อ Efforce เป็นตลาดซื้อขาย "การประหยัดพลังงาน" โดยใช้บล็อคเชน/เหรียญคริปโต (energy saving tokenization) โดยเขามีสถานะเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง (co-founder)
Efforce ก่อตั้งโดยทีมงานจากบริษัทด้านพลังงานชื่อ AitherCO2 ที่ทำเรื่องการช่วยให้หน่วยงานต่างๆ ประหยัดพลังงานมากขึ้น และมองเห็นโอกาสที่ตลาดนี้มีอัตราการเติบโตสูง จึงต้องการขยายตลาดนี้ให้กว้างขึ้น โดยเปิดให้คนทั่วไปสามารถเข้ามาสนับสนุนโครงการประหยัดพลังงานต่างๆ (เช่น การเปลี่ยนหลอดไฟ การติดตั้งฉนวนกันความร้อน ปรับปรุงระบบทำความเย็น) เพื่อให้โครงการเหล่านี้เกิดได้เร็วขึ้น หรือพูดง่ายๆ ว่าเป็น crowdfunding ด้วยการจ่ายเป็นคริปโต
เมื่อปี 2016 กูเกิลร่วมมือกับบริษัทลูก DeepMind นำเทคนิค AI มาช่วยแนะนำการจัดการพลังงานในศูนย์ข้อมูล ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานลง
ปี 2018 โครงการนี้ต่อยอดเพิ่มเข้าไปอีก รอบนี้ AI ไม่ได้ทำหน้าที่แค่ "แนะนำ" แต่เข้าไปสั่งการระบบทำความเย็นโดยตรง แบบไม่ต้องผ่านมนุษย์เลย
AI ของกูเกิลจะดึงข้อมูลจากระบบทำความเย็นมาทุก 5 นาที เพื่อประเมินว่าควรปรับเปลี่ยนค่าความเย็นอย่างไรให้ประหยัดพลังงานสูงสุด จากนั้นจะส่งคำสั่งไปยังระบบควบคุม โดยมีมนุษย์คอยเฝ้าดูอีกชั้นหนึ่ง
IKEA ขอเป็นส่วนหนึ่งเข้าสู่ตลาดพลังงานทดแทนด้วยคน เดินหน้าเป็นคู่แข่ง Tesla อย่างเป็นทางการ โดยทำแผงโซลาร์ออกมาขาย เน้นกลุ่มครัวเรือนที่ต้องการประหยัดพลังงานไฟฟ้า
โดย IKEA เป็นพาร์ทเนอร์กับ Solarcentury ผู้นำด้านแผงโซลาร์ในตลาดประเทศอังกฤษ ในการนำเสนอโซลูชั่นแบตเตอรี่พลังงานแสงอาทิตย์ ทาง IKEA ระบุว่าจะสามารถประหยัดพลังงานไฟฟ้าในครัวเรือนได้ 70% ตอนนี้ยังมีขายเฉพาะในประเทศอังกฤษเท่านั้น ราคาเริ่มต้นที่ 8,000 ดอลลาร์
อังกฤษเป็นอีกประเทศที่จริงจังกับการผลิตพลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ และต้องขอบคุณวันที่อากาศร้อนที่สุดของปีและมีเมฆน้อยที่ทำให้อังกฤษสามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ได้มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ คือผลิตได้ 8.75 กิกะวัตต์ ที่เวลาบ่ายโมง
ข้อมูลจาก National Grid Plc และมหาวิทยาลัย Sheffield ระบุว่าอากาศร้อนทำให้มีความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 24% และตัวเลขล่าสุดนี้สามารถทำลายสถิติเดิมเมื่อเดือนที่แล้วที่ 8.49 กิกะวัตต์
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาถือเป็นวันที่ร้อนที่สุดของอังกฤษ โดยอุณหภูมิสูง 28 องศาเซลเซียส ข้อมูลจาก Solar Trade Association ระบุว่าอังกฤษติดตั้งแผงโซลาร์ที่สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ 12.1 กิกะวัตต์ จ่ายไฟให้ได้ 3.8 ล้านครัวเรือน
State Power Investment Corporation หรือ SPIC หนึ่งในห้าบริษัทพลังงานที่ใหญ่ที่สุดในจีน เตรียมทำกังหันลมผลิตพลังงานนอกชายฝั่ง ตั้งเป้าผลิตได้ 800 เมกะวัตต์ หากสำเร็จ SPIC จะเป็นผู้ผลิตพลังงานจากลมที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ลืมหลังคาโซลาร์เซลล์ไปได้เลย เมื่อแม้แต่ถนนก็สร้างด้วยแผงโซลาร์เซลล์ได้ ในประเทศฝรั่งเศส เขตเล็กๆ Tourouvre-au-Perche ในเมืองนอร์มังดี มีถนนโซลาร์เซลล์ใช้เป็นที่แรกของโลก ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร มีแผงโซลาร์เซลล์ 30,000 แผง สร้างในราคา 5.2 ล้านดอลลาร์
ตัวแผงโซลาร์เซลล์ทำจากเรซิน รองรับน้ำหนักได้มาก ประสิทธิภาพการใช้งานเป็นไปตามที่คาดหวัง โดยในอนาคตมีแผนจะปูถนนโซลาร์เซลล์ 1,000 กิโลเมตร
แต่ถนนโซลาร์เซลล์มีสร้างมาก่อนแล้วที่ Route66 สหรัฐฯ แต่มีปัญหาเรื่องงบประมาณ ซึ่งเป็นสิ่งเดียวกันที่ประเทศฝรั่งเศสเจอ
เดิมที ภายใต้ข้อตกลงปารีส EU ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศให้ได้ 40% แต่คราวนี้ทางสหภาพยุโรปต้องการไปไกลกว่านั้น คือเน้นไปที่การใช้พลังงานทดแทนให้มาก
ข้อเสนอที่ประกาศในวันนี้มี 3 ข้อหลัก คือ ใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นผู้นำโลกด้านการใช้พลังงานทดแทน สร้างข้อเสนอด้านพลังงานที่ดึงดูดต่อผู้บริโภค นอกจากนี้ EU ยังหวังว่าอนาคต EU จะสามารถผลิตและจำหน่ายพลังงานไฟฟ้าของตัวเองได้
แผนดังกล่าวยังเป็นข้อเสนอยื่นต่อสภายุโรป ถ้าแผนผ่านและถูกนำไปดำเนินการ คาดว่าจะสามารถกระตุ้นการลงทุนภาครัฐและเอกชนได้กว่าแสนล้านยูโร และสร้างงานประมาณ 9 แสนตำแหน่งทั่วสหภาพยุโรป
Toyota เปิดตัวรถยนต์ Prius รุ่นใหม่ของปี 2017 ที่เพิ่มเฉดสีใหม่สดใสแบบสีเขียวมะนาว พร้อมด้วยเทคโนโลยีสีเคลือบแบบพิเศษที่ช่วยป้องกันความร้อนจากแสงแดด ทำให้ระบบปรับอากาศรถยนต์ทำงานน้อยลงช่วยประหยัดการใช้พลังงานของรถ
ในสภาวะที่เครื่องปรับอากาศของรถทำงานเต็มที่ยามอากาศร้อน นั่นอาจส่งผลให้อัตราการใช้พลังงานหรือก็คือการเผาผลาญเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 5-25 ดังนั้นการพัฒนารถให้ลดภาระของระบบปรับอากาศจึงเท่ากับลดการใช้เชื้อเพลิงด้วยเช่นกัน
ทีมนักวิจัยได้คิดค้นเทคนิคการใช้เถ้าของใบโอ๊กที่ผ่านความร้อนสูงร่วมกับสารละลายโซเดียมมาทำเป็นแบตเตอรี่
เป็นที่ทราบกันดีในหมู่ผู้ใช้อุปกรณ์พกพาว่า ตัวการสูบพลังงานจากแบตเตอรี่มากที่สุดคงหนีไม่พ้นหน้าจอแสดงผลของตัวอุปกรณ์เอง ซึ่งหากคิดในทางกลับกัน เมื่อลดภาระการทำงานของหน้าจอให้น้อยลง พลังงานแบตเตอรี่ก็จะเพียงพอเลี้ยงไฟให้อุปกรณ์ได้นานขึ้นนั่นเอง ซึ่งแอพ Pixel Battery Saver ก็ได้ใช้แนวคิดนี้ในการพัฒนาแอพเพื่อช่วยยืดเวลาใช้งานอุปกรณ์
Copenhagen Wheel คือสิ่งประดิษฐ์ที่พัฒนาโดยมหาวิทยาลัย MIT ร่วมกับเมือง Copenhagen ซึ่งมันคือสิ่งที่จะเปลี่ยนรถจักรยานธรรมดาให้กลายเป็นจักรยานไฮบริดที่ใช้พลังงานไฟฟ้าช่วยในการขับเคลื่อน
ตัว Copenhagen Wheel เป็นจานหมุนที่มีมอเตอร์พร้อมหน่วยประมวลผลและแบตเตอรี่ 48 โวลต์ แบบถอดเปลี่ยนได้อยู่ภายใน ถูกออกแบบมาสำหรับติดตั้งที่แกนล้อรถจักรยานเพื่อนำพลังงานที่สูญเสียไปในระหว่างการเบรกหรือวิ่งลงเนิน กลับมาปั่นไฟและเก็บพลังงานไฟฟ้าที่ได้เอาไว้ และจะใช้พลังงานนั้นช่วยในการขับเคลื่อนตัวจักรยานในขณะเร่งความเร็ว เป็นการผ่อนแรงให้แก่ผู้ใช้ โดยสามารถขับเคลื่อนรถจักรยานได้ถึงความเร็ว 20 ไมล์ต่อชั่วโมง และสามารถทำระยะทางได้ไกล 30 ไมล์
ที่งาน Intel Developer Forum ในวันสุดท้าย อินเทลได้จัดแสดงและสาธิตต้นแบบของหน่วยประมวลผลที่ใช้พลังงานต่ำมาก โดยได้สาธิตการทำงานของหน่วยประมวลผลดังกล่าวและตัวตรวจจับความเร่ง (accelerometer) โดยใช้พลังงานจาก "ไวน์" เพียงแก้วเดียว
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่เคยสงสัยว่าอีเมลแต่ละฉบับมีการเดินทางอย่างไร ไม่ต้องรอรายการกบนอกกะลาพาไปหาคำตอบเพราะกูเกิลได้เผยเรื่องนี้แล้วใน Story of Send ซึ่งเป็นการนำเสนอข้อมูลของขั้นตอนการเดินทางอีเมลแต่ละฉบับในรูปแบบกราฟิกสวยงาม ตั้งแต่เริ่มกดปุ่มส่ง จนข้อมูลเคลื่อนย้ายผ่านศูนย์ข้อมูล มีการสแกนไวรัส และส่งไปถึงจุดหมาย
ถึงแม้หัวเรื่องจะว่าด้วยการเดินทางของอีเมลแต่ที่จริง Story of Send เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Google Green ที่กูเกิลต้องการตอกย้ำภาพการบริหารศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ของกูเกิลว่ามีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และเป็นพลังงานสะอาดในอัตราส่วนที่สูงมากกว่าศูนย์ข้อมูลของที่อื่น
ไมโครซอฟท์ได้เปิดตัวเว็บไซต์ Hohm รุ่นเบต้าเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยเป็นเว็บแอพพลิเคชั่นที่ใช้แสดงข้อมูลวิธีการประหยัดพลังงานไฟฟ้าและแก็ส โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการภายในงาน Edison Electric Institute Annual Convention / Expo โดยคุณ Craig Mundie ซึ่งเป็น Chief Research and Strategy
สารให้คำมั่นจากประธานและซีอีโอของ Wyse นายทาร์แคน แมเนอร์
Wyse ยึดมั่นในการพัฒนาและผลิตผลิตภัณฑ์ให้มีผลต่อสิ่งแวดล้อมน้อยสุด โดยได้สร้างระบบที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมทุกด้านในระบบ Thin Computing และกระบวนทำงานไว้ทั่วโลก
Wyse ร่วมกับคู่ค้าและผู้ผลิตชิ้นส่วนพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ใช้พลังงานน้อย (น้อยกว่าคอมพิวเตอร์พีซี หรือ thin client ทั่วไป) ใช้งานได้นานกว่าคอมพิวเตอร์พีซี มีชิ้นส่วนเหลือไปรีไซเคิลและไปทิ้งน้อย และปฏิบัติตามมาตรฐานสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดที่สุดอันได้แก่ ISO 14001, ROHS และ WEEE ผลที่ได้คือ ลดปล่อยคาร์บอนลงมหาศาลและได้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง