โนเกียเพิ่งปล่อย[อัพเดต Black](http://www.blognone.com/node/51817) ให้ Lumia 1020 ที่ขายกับเครือข่าย AT&T ไปได้ไม่นาน เว็บไซต์ All About | Windows Phone (AAWP) ก็จับ Lumia 1020 ก่อน-หลังอัพเดต Black มาเทียบกันว่าคุณภาพภาพถ่ายแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
ทีมงานเว็บไซต์ดังกล่าวได้เปรียบเทียบภาพถ่ายในหลายสภาพแสง ได้ความเปลี่ยนแปลงดังนี้ครับ
* **สภาพแสงปกติ** - หลังอัพเดต Black แล้วสีของภาพตรงกับความเป็นจริงมากขึ้น น้อยส์ลดลงพอสมควร เมื่อเทียบกับภาพถ่ายก่อนอัพเดตที่ติดแดง และมีน้อยส์อย่างเห็นได้ชัด * **สภาพแสงน้อย** - ในสภาพแสงน้อยนี้ แม้จะอัพเดตไปแล้ว แต่โทนสีของภาพไม่ได้แตกต่างจนสังเกตได้ (อาจจะคอนทราสต์ต่างกันบ้าง) จุดที่เปลี่ยนไปคือระบบจะเลือกใช้ ISO ที่ต่ำลง ทำให้น้อยส์ลดลงตามไปด้วย * **ถ่ายในร่ม** - สำหรับภาพถ่ายในร่ม และเปิดไฟสังเคราะห์นั้น อัพเดต Black ช่วยให้โทนสีของภาพใกล้เคียงของจริงมากขึ้น คอนทราสต์ต่ำลง และลดน้อยส์ลงไป * **ถ่ายในร่ม แสงน้อย เปิดแฟลช** - สำหรับสภาพแสงสุดท้าย เรียกได้ว่าเป็นแสงปราบเซียนของกล้องแทบทุกรุ่น อัพเดต Black ก็ช่วยให้ Lumia 1020 ลดปัญหาติดแดงไปได้นิดหน่อย และลดน้อยส์จากเดิมไปอย่างเห็นได้ชัดครับ
ใครที่อยากดูความแตกต่างระหว่างสองอัพเดตนี้ลองดูจากที่มาได้เลยครับ
สำหรับความเปลี่ยนแปลงด้านประสิทธิภาพทาง AAWP ระบุว่าความเร็วในการประมวลผลหลังจากถ่ายภาพของ Lumia 1020 นั้นไม่ได้เร็วขึ้นเลย ซึ่งน่าจะมาจากซีพียูที่ประมวลผลไม่ทันนั่นเอง ส่วนการถ่ายภาพแบบ RAW นั้นสามารถทำได้แล้ว แต่ยังไม่มีซอฟต์แวร์ประมวลผลในตัว ต้องโอนไฟล์จากเครื่องมาจัดการในพีซีเอาเองครับ
ที่มา - [AAWP](http://allaboutwindowsphone.com/features/item/18966_Exploring_the_imaging_improvem.php)
Comments
สมดุลแสงดีขึ้นแฮะ
สรุปว่าฮาร์ดแวร์ที่ดีต้องมีซอฟต์แวร์ที่ดีด้วย!
we can build a more peaceful.
ใช่ครับ อย่าง กรณี Xperia Z1 เป็นตัว HW ดีมาก SW งั้นๆๆ สรุป ก็เลย ไม่ได้ดีกว่าเชาวบ้านซักเท่าไร
เมื่อไหร่จะมี ISO 50 หรือว่ามันต้องให้ Hardware รองรับด้วยครับ?
ทำไมต้อง ISO 50 ใช้ 100 หรือ 200 มันมีปัญหาอย่างไร ถ้าการถ่ายรูปออกมาแล้วไฟล์ภาพที่ได้นั้น DR และโทนของภาพโดยรวมดีเท่าๆ กัน การถ่ายด้วย ISO 50 อาจได้ภาพที่ห่วยกว่า ISO 100 หรือ 200 ก็ได้
ด้วยความที่รูรับแสงมันกว้าง แสงเลยเข้าได้เลย แต่บางทีอยากเปิดหน้ากล้องให้มันนานขึ้นอีกสักนิดน่ะครับ
ก็ไปปรับ speed shutter ให้ช้า-เร็วแทนซิครับ
นึกไม่ออกหา DSLR แล้วก็เลนส์ F. 1.8 สักตัว มาเปิดโหมด M แล้วปรับค่า F 2.0 ตลอด ตั้ง ISO 200 ตลอด อยากได้ภาพสว่างหรือมืด ปรับค่า Speed Shutter อย่างเดียว ก็ทำงานได้ครับ (ทั้งหมดอ้างอิง Nikon D90 ที่ ISO ต่ำสุดคือ 200 ) แสงช่วงกลางวันสว่างๆ Speed Shutter 1/4000 นี่สบายๆ ครับ
Nokia Camera มันปรับได้ 1/4000 หรือ 1/8000 ได้ครับ (อ้างอิง Nokia Camera ทำงานร่วมกับ Nokia Lumia 1520)
เปิดหน้ากล้องในความหมายของคุณคืออะไร? เพราะคำว่าหน้ากล้องสำหรับมุมผม หมายถึง speed shutter เพราะมันคือเปิด sensor ให้รับแสงเพื่อบันทึกภาพนะ ;)
ใช่ครับ ผมอยากใช้ speed shutter นานกว่าเดิมน่ะครับ
โอเค งั้นเข้าใจตรงกัน
ผมเข้าใจว่าเค้าตอนการจะถ่ายภาพโดยเปิดรูรับแสงนานขึ้นนะครับ
คือตอนนี้ F2.0 ISO100 Shutter Speed 1 sec มันสว่างใช่มั้ยครับ
แต่พอดีอยากถ่าย Shutter Speed 2 sec มันก็สว่างเกินครับ
เข้าใจว่าอยากจะถ่ายภาพ ที่เป็น Motion Blur ในตอนกลางวันนะครับ
2 sec สว่างไป ก็มี 1.3, 1.6 ครับ มันเป็น 3 stop นะครับ ไม่ใช่ 1 sec แล้วข้ามไป 2 sec เลย เวลาถ่ายจากกล้องพวกนี้ต้องดูว่ามันยึดค่าอะไรไว้ และต้องปรับยังไงให้ได้ตามนั้นครับ
ถ้า ISO 100 ทำได้ 1.3 sec เวลาเป็น ISO 50 มันก็น่าจะได้มากกว่า 1.3 sec นี่ครับ
เข้าใจครับว่ามันปรับให้ถ่ายได้ แต่ถ้ามันปรับค่าอื่นๆ ได้กว้างกว่า ค่านอกจากนั้นมันก็ปรับลูกเล่นได้มากกว่าไปด้วย ถ้ามันพอจะทำได้แบบไม่หนักหนาเกินไปก็อยากจะได้บ้างน่ะครับ แต่ถ้าอันไหนมันติดข้อจำกัดนั่นผมก็ไม่มีปัญหา พอดีเห็นโทรศัพท์บางรุ่นเขาจัด ISO < 100 มาให้ด้วยเลยสงสัยบ้างครับ
เข้าใจว่าข้อจำกัดของ sensor ความไวแสงที่ให้มา ถ้าดันลงมาต่ำระดับ ISO 50 ตัว DR และโทนของภาพจะต่ำลง จนมี noise ครับ คือถ่ายได้ แต่ไม่ดีเท่า ผมเคยลองเอาภาพ Nikon D90 ถ่าย ISO 50 เทียบกับ 200 ตัว 50 กลับได้โทนภาพที่เก็บรายละเอียดด้อยกว่า แถมเอาไปโฆษณาอะไรไม่ได้อีกไอ้เจ้า ISO 50 เนี่ย ผมเลยไม่เห็นความจำเป็นต้องถอยหลังลงไปใช้ ISO 50 ถ้า sensor มันบอกว่าทำได้ดีที่ 200 (หรือ 100) และใช้เทคนิคอื่นๆ ช่วยแทน แต่พอดีว่ากล้องมือถือมันปรับรูรับแสงช่วยไม่ได้ ก็คงต้องหาเทคนิดอื่นๆ ช่วยเอาเช่น speed shutter
รับทราบและขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ ผมจะได้ไม่ไปคิดมากว่าทำไมมันไม่มีสักที (^_^)
มาช้าไปหน่อย แต่ขอแจมด้วยละกันครับ
โหมด Boost (Lo/Hi ของ Nikon, ของ Canon ไม่แน่ใจว่าเรียกว่าอะไร)
มันเป็นการปรับ iso ด้วย software แบบที่เรียกว่า tricky ก็ว่าได้ครับ
เพราะ iso สูงสุด/ต่ำสุดที่ sensor ทำได้ก็คือเท่าที่ผูู้ผลิตเคลมเอาไว้นั่นแหละครับ
ที่ลงไปต่ำกว่านั้น (เช่น iso 50, 100 ในโหมด Lo หรือ iso 6400, 12800 ในโหมด Hi) ได้เป็นเพราะ post process ครับ
ตัวอย่างเช่น Lo 1 (iso 100) ของ Nikon
ในการถ่ายภาพจริงมันคือ iso 200 ชดเชย +1EV เพื่อเก็บ shadow ไว้ แล้ว post process (ในตัวกล้อง) ค่อยดึงลง 2 stop แต่ผลที่ตามมาคือ highlight ก็จะหลุดมากขึ้นเช่นกัน เป็นที่มาของที่คุณ Ford ว่า DR มันน้อยลงนั่นแหละครับ
อยากให้ซูมได้เลย แบบไม่ต้องมานั่งครอปทีหลังจังอะ
มันก็ซูมได้อยู่แล้วนี่ครับ แล้วต่อให้ซูมตั้งแต่ตอนถ่าย หลังถ่ายก็สามารถย่อลงไปเอารอบข้างมาเพิ่มได้อีก
เทียบกับออฟติคอลซูมของพวกกล้องดิจิตัลจะได้ไหมครับนี่ ?
เทียบกันตรงๆ ไม่ได้ แต่โดยรวมแล้วไม่ต่างกันมากครับ ถ้าไม่ซูมเกินพิกัดที่เค้าให้มา รู้สึกว่า 1020 จะซูมได้ 3x ส่วน 1520 จะได้ 2x ครับ
ปัดนิ้วขึ้นก็ซูมได้อยู่แล้วนิครับ ?
All Ablout => All About
Nokia Black => Lumia Black
Coder | Designer | Thinker | Blogger
เรื่องกล้องนำ iPhone 5s กับ Nexus 5 แบบทิ้งห่างไปเลย สั่งจากเมกาถูกกว่าไทยมากด้วยสิ น่าจัดมาก
5s มีดีที่ ไว และ ให้ WB แม่นมากนะครับ มีแฟลชสองสี ผมว่าความสะดวก ไม่คิดมาก จัดองค์ประกอบอย่างเดียวเนี่ย ให้ 5s นำห่างๆเลย
แต่ถ้าอยากโปรหน่อยก็ 1020