สมัยก่อน HTC โดดเด่นเพราะ Sense ที่มีหน้าตาหรูหรา ฟังก์ชันมากมาย แต่ปัจจุบันรอมเจ้าอื่นที่หน้าตาธรรมดาก็มีความสามารถเข้ามาทัดเทียมกับ Sense แล้ว แถมยังใช้ง่ายกว่าอีกด้วย คนจึงเริ่มเบื่อความยุ่งยากในการทำความเข้าใจ Sense
ผมเปลี่ยนตัวเองจากสาวกมาเป็นผู้ต่อต้านด้วยเหตุผลเดียวก็คือกล้องม่วงของ HTC One เท่านั้นเลย ถึงตอนนี้ผมมองว่าไม่ใช่แค่ QC ไม่ดีหรือ Service ไม่ดีแล้ว แต่ผมมองว่า HTC One เองคือการออกแบบที่ผิดพลาดตั้งแต่ต้นและการลืมรากเหง้าของ HTC เองเลย
ROM Working Group : ทีมดูแล ROM เฉพาะของมือถือ 1 ทีมจะทำงานกับมือถือรุ่นนึงประมาณ 5 ปีเพื่อ Update และปรับปรุง ROM เท่านั้น รวมถึงทดสอบความเข้ากันได้ของ Hardware ต่อระบบปฏิบัติการให้ทำงานได้สูงสุดเสมอ รวมถึงสร้างข้อมูลและ API ต่างๆที่จำเป็นสำหรับ Custom ROM สามารถมารับช่วงต่อได้เมื่อถึงเวลา (หรือจะออกแต่ต้นเลยก็ยังได้ครับ)
ทีม Regional Sales Group : ทีมนี้จะต้องเจาะจุดขายแต่ละตลาดให้ได้ครับ เครื่องของ HTC จะต้องไปวางตาม Point of Purchase สำคัญๆให้ได้ ทั้งการผูกกับ Carrier การวางสินค้าตามร้านมือถือทั่วไป การขายผ่านเน็ต การขายในร้านมือถือ การสร้าง Promotion ต่างๆ ซึ่งจะต้องดูยอดขายประกอบว่าเติบโตขึ้นหรือแย่ลง ... เพราะอะไร ? (แต่ละภูมิภาคต้องปราบเซียนคนละแบบครับ ต้องเช็คว่ามันยากง่ายอย่างไรครับ)
ทีม Regional Service Center : ต้องทำสถิติการซ่อม ความเร็ว การ Check-In/Check-Out ของเครื่องที่เสีย การส่งอะไหล่ บริหารจัดการ Stock ของอะไหล่ การเก็บ Record เพื่อส่งต่อให้ R&D Department ว่าอะไรเสียบ่อยอย่างไรครับ
Comments
เลิกกั๊กสเปคในรุ่นกลาง แค่นั้นจริงๆ
แหม่ ... ข้อนี้ข้อเดียว ผมเห็นด้วยเลยครับ
อื้อหือ เจอมากะตัว วันก่อน
น้องที่ทำงาน ทำมือถือหาย จะแนะนำมือถือใหม่ให้ รุ่นกลางๆ ผมตัด HTC ออกก่อนเลย ทั้งๆ ที่รุ่นท็อปผมซื้อของยี่ห้อนี้ตลอด
ราคาที่สูงกว่าชาวบ้าน
คุณ mk เป็นแฟนบอย hTC ป่ะเนี่ย แบรนด์อื่นไม่เป็นห่วงเป็นใยมั่งเลย (ล้อเล่นครับ)
ไม่ใช่แฟนบอยหรอกนะ แต่ถ้าดู และติดตามจากข่าว น่าจะทำเรื่องที่บอกว่าจะทำคือ ลดการแตกไลน์รุ่นเยอะ ๆ เอาแค่เด็ด ๆ เจ๋ง ๆ ซัก 3 รุ่นต่อปี คลุมตลาด สูง-กลาง-ล่าง โดยเน้นไปที่ตลาดสูง แต่ให้ระวังการชนกับแซมซัง และพยายามทำการตลาดเรื่อง Killing Feature อย่างระบบเสียง (บีท) ให้ติดตลาด
และเรื่องการอัพเดทก็สำคัญ เพราะลูกค้าคาดหวังกับเรื่องนี้พอสมควร ถึงจะรู้อยู่ว่ามันทำให้เร็วได้ยาก แต่ถ้าลดรุ่นที่ออก ก็น่าจะช่วยลดลงได้บ้าง และที่สำคัญคือ ต้องรองรับการอัพเดทเป็นอย่างน้อย 3 ปี ถึงจะทำให้ความรู้สึกของลูกค้าเชื่อมั่นในแบรนด์เพิ่มขึ้นได้
ในความเห็นของผมก็ประมาณนี้
จริงๆ เคยใช้ HTC Magic ตัวเดียวครับ แต่ที่เลือกถาม HTC เพราะว่าเป็นแบรนด์ที่ยังอยู่บน Android ที่เป็นผู้นำตลาด ดังนั้นยังมีโอกาสกลับมาได้อยู่โดยไม่ต้องพึ่งปัจจัยเรื่องซอฟต์แวร์มากนักครับ (คือถ้าถามว่า Nokia, BlackBerry ควรพลิกฟื้นยังไง อันนี้ยากมากที่จะไม่มีเรื่องซอฟต์แวร์มาเกี่ยวข้อง)
ไปจับมือกับ MS อีกแรง ออก WindowPhone มาคู่กับ nokia เพื่อ เพิ่มตัวเลือก สำหรับ WP เอง
แล้วนำเสนอจุดเด่นที่ตัวเองถนัด (แต่อย่าไปแข่งเรื่องกล้องกับ nokia ละ)
ปล. ว่าแต่ HTC นี้ ดังมากจาก รุ่นไหนหรอครับ
เท่าที่ผมจำได้ (ถูกป่าวไม่รู้ ) เดิมเป็นเพียงโรงงาน แล้ว ผลิต สมาร์ทโฟน(window mobile สมัยโน้นๆ) ให้ ยี่ห้อต่างๆ (น่าจะเป็น O2 รุ่น มืนืตอนนั้น เพื่อหลายคนใช้)
เท่าที่รู้คร่าวๆ
เดิมทีเป็นโรงงาน oem ทำให้หลายเจ้า O2 HP ต่อมาก็ขายแบรนดในจีนชื่อ Dopod
หลังจากนั้นก็เปลี่ยนมาใช้ htc ซึ่งเป็นชื่อจริงๆของ บ. เลยครับ ตอนเปลี่ยนน่าจะเปลี่ยนพร้อมกันทั่วโลก รวมทั้งจีนด้วย
ที่ดังจริงตอนที่เปลี่ยนชื่อแล้วก็คงเป็น htc Touch, htc Touch Diamond, htc HD2 ตามลำดับ
เป็นแบรนด์แรกที่ทำ UI ครอบ WM และเน้นใช้นิ้วมากกว่า Stylus ครับ
อย่าง 8s 8x จับมือไปก็เน่า ขายไม่ออก แถมคนยังบอกลอก lumia อีกตะหาก
อย่าจับเลยครับ ไปไม่รอดหรอก ATIV S ก็เน่า สรุปมีโนเกียไปต่อได้คนเดียวอยู่ดี
ต้องเสริมด้านการตลาดครับ ทำให้คนมองไปทางไหนก็เห็นได้ ไม่ว่าจะโฆษณาหรือโปรโมชันที่ใช้ร่วมกับโทรศัพท์
เอาแค่ในไทย การตลาดเลยครับ
พวกละครหนะก็ไปเป็นsponsorเค้าบ้าง ให้ตัวเด่นถือให้เห็น
หาจุดเด่นของรุ่นที่จะขายแล้วโฆษณาให้เห็นว่าใช้งานในชีวิตประจำวันยังไง
ฺBoomsound,
Blinkfeed,
Ultra pixel เนี่ยลองคิดแนวละครสั้นเลย ทำยังไงให้ได้ใช้จุดเด่นพวกนี้โฆษณาให้คนจำได้ เอาที่มันเข้าใกล้ชีวิตคนทั่วไป
ไม่ใช่เอาแต่โฆษณาว่าของมันดี แต่ไม่รู้ว่าจะมีประโยชน์จริงๆมั๊ย
มันมีคนพอจำได้ มากกว่าไม่โฆษณา และมันก็จะมีคนอยากไปลองจับจริงว่ามันดีจริงตามโฆษณารึเปล่า
และที่สำคัญนะ
ราคาอย่าคิดราคาแพงโดดจากชาวบ้านเกินไป samsung แสดงให้เห็นแล้วว่าทำราคาต่ำแต่กวาดลูกค้าได้ มันก็พอจะกลบๆกันกับกำไรต่อเครื่องที่สูงเกิน
ผมยังชอบHTCอยู่นะ แต่เปลี่ยนเครื่องใหม่ไม่ใช้HTCเพราะ2ข้อเลย 1ไฟLED notification ซึ่งมีแค่2สี 2ราคากระโดดจากกลุ่มสเปคเดียวกัน
ออกมือถือเจ๋งๆ จริงๆ แค่ปีละรุ่นเดียวพอแล้วครับ เอา SPEC ดีๆ บอดี้สวยๆ หรูๆ แบบระดับสองหมื่นอัพ แต่ทำราคาให้อยู่ระดับกลางไม่ถึงสองหมื่น แค่นี้ก็ขายถล่มทลายแล้ว ชื่อเสียงเก่าๆ ของ HTC ยังพอขายได้อยู่ อย่าไปมัวเสียเวลาทำมือถือระดับกลาง-ล่างเลย
ถ้าคิดว่าไม่สามารถสร้างความแตกต่างจากมือถือ Android เกลื่อนๆ ในท้องตลาด ก็ลงทุนทำ OS ของตัวเองไปเลย เริ่มช้าหน่อยแต่ดีกว่าตามก้น google ไปตลอดชาติ
อันบนเห็นด้วย แต่อันล่างนี่ไม่น่าไหวครับ
ขนาดพี่แซมว่าเงินหนากว่า การตลาดเก่งกว่า ยังทำ OS เองไม่รอดเลย HTC ไปทำ OS เองมีหวังตายแน่ๆ
Network Effect ยังเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลสูงนะครับ ต่อให้เดี๋ยวนี้แอปจะออกเกือบทุกแพลตฟอร์มแล้วก็เหอะ
my blog
ออกแบบมือถือให้มี spec เดียวกัน คลุมตลาด สูง-กลาง-ล่าง
เพื่อที่จะได้ update firmware ได้เร็วขึน
โดยตลาด สูง-กลาง-ล่าง จะแตกต่างกันที่
1 ขนาดหน้าจอ (Resolution เท่ากันทั้งหมด)
2 วัสดุ เช่น โลหะ พลาสติก
3 ขนาดแบต
4 ขนาดกล้อง
5 ขนาดเครื่อง
ซึ่งทั้ง 5 อย่างนี้ไม่น่าจะมีผลต่อการ update firmware น่าจะใช้ชุดเดียวกันได้
เลิกกั๊ก spec ไม่ต้องพลิกฟื้นอะไรหรอก
HTC one ถ้าให้ snapdragon 800 กับ กล้อง 8 ล้าน UltraPixels มาแต่แรก ผมว่า เป็นที่ 1 ไปนานแล้ว
แต่ในเมื่อ เป็นเรือธงเหมือนกับคู่แข่ง ราคาแพงเหมือนกับคู่แข่ง แต่ spec อ่อนด๋อยกว่าคู่แข่ง (ยกเว้นวัสดุตัวเครื่อง) ใครจะไปอยากได้
ยิ่งเจอ Nexus 5 เข้าไปก็หงายไม่เป็นท่าแล้ว
ประเด็นมันอยู่ที่ว่า...
HTC One เปิดตัวกุมภาพันธ์ 2013
Snapdragon 800 "เปิดตัวมิถุนายน 2013"
ดังนั้นถ้าจะให้ One ใช้ Snap 800 เป็นไปไม่ได้เลยครับ
เผ็นด้วยเลย เลิกกั๊กสเปค..
ประสบการตรงของผมเลย... บางรุ่นชอบมาก จะซื้อแล้ว...ไปถึงร้าน ...ถอดแบต ไม่ได้...
อีกรุ่น.. ใส่เมมเพิ่มไม่ได้...
ปล.ถ้าทำอย่างใคอย่างหนึ่งในสองอย่างนี้ไม่ได้.. ก็ไม่ต้องมาคุยกันอีก...
ปล2. เพราะ 2 รุ่นด้านบน เลยไม่เคยเหลียวดู HTC อีกเลย >.<
HTC Butterfly S
เปิดตัวครั้งแรก 10 กรกฏาคม 2013 (สยามโฟนฯ)
วางจำหน่าย ไตรมาสสาม ปี 2013 (กรกฏาคม 56)
ราคาเปิดตัว 23,900 บาท (กรกฏาคม 56)
หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon™ 600
HTC One max
เปิดตัวครั้งแรก 15 ตุลาคม 2013 (สยามโฟนฯ)
วางจำหน่าย ไตรมาสสี่ ปี 2013 (ตุลาคม 56)
ราคาเปิดตัว 23,900 บาท (ตุลาคม 56)
หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 600
อันนี้ผมเห็นด้วยสุดๆ
HTC One ใช้ Qualcomm Snapdragon 600 ไม่ว่าอะไร เพราะมันแรงสุดในตอนนั้นแล้ว
แต่ Butterfly S กับ One max นี่สิ
มันเปิดทีหลังหลายๆรุ่นที่ใช้ Snapdragon 800 ตั้งหลายรุ่น
เช่น LG G2, Z1, Z Ultra
แถมราคาก็ปวดตับเหลือเกิน 24k
ทำเอา G2, Z1, ZU ถูกไปเลย (ZU แพงสุดยัง 21,990)
ทำเครื่องดีๆ สเปคเต็มๆ วัสดุทนๆ ใส่รอมได้เยอะๆ อย่าง HD2 ออกมาสิครับขายกันชั่วลูกชั่วหลาน
สมัยก่อน HTC โดดเด่นเพราะ Sense ที่มีหน้าตาหรูหรา ฟังก์ชันมากมาย แต่ปัจจุบันรอมเจ้าอื่นที่หน้าตาธรรมดาก็มีความสามารถเข้ามาทัดเทียมกับ Sense แล้ว แถมยังใช้ง่ายกว่าอีกด้วย คนจึงเริ่มเบื่อความยุ่งยากในการทำความเข้าใจ Sense
นอกจากนี้ ผมว่าคนที่ใช้ยี่ห้ออื่นอยู่แล้วไม่ค่อยอยากจะเปลี่ยนมาใช้ HTC เพราะ UI มันดูแตกต่างจากเจ้าอื่นๆ มากเกินไป ต้องเรียนรู้ใหม่ จริงอยู่ว่าอาจลง Launcher อื่นได้ แต่ user จำนวนมากก็อยากจะแค่ใช้ ไม่อยากมานั่งตกแต่งลงนู่นนี่อีก
ผมว่า สิ่งที่ HTC ควรทำคือออกแบบหน้า UI ให้ง่ายและใกล้เคียง pure Android มากกว่านี้ครับ
Educational Technician
ตอนนี้ 5.0 ค่อนข้างเรียบขึ้นและมินิมอลมากแล้วนะครับ
ลดทอนการตั้งค่าลงมา มอบประสบการณ์การใช้ที่ดีให้
ซึ่งก็เป็นจุดเด่นที่ดีอยู่แล้วเรื่องรอม ผมไม่ค่อยเห็นด้วยเรื่องปรับให้เป็นเหมือน pure Android เท่าไหร่ครับ
แยกเป็นเรื่องๆ ละกัน
1. การตั้งราคา > กดราคาแต่ละรุ่นให้ลงมาอยู่ในระดับเดียวกับ Samsung ให้ได้ โดยวัสดุที่ดีกว่าเพื่อให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่าที่จะซื้อมากขึ้น การตั้งราคาในปัจจุบันนี้ทำให้ HTC อยู่คนละตลาดกับ Samsung ช่วงราคาดังกล่าวเหมือน ขึ้นไปแข่งกับ iPhone แทน ผลลัพธ์คือ คนก็ซื้อ iPhone แทนหมด(สำหรับคนที่เน้นหรู ไม่ได้ติดกับ OS อะไร)
2. เรื่อง Spec เครื่อง > เลิกกั๊ก สเปคเครื่อง เพราะ Android แต่ละยี่ห้อก็ระบบไม่ต่างกันมาก คนซื้อก็จะมองเรื่อง Spec เป็นเรื่องหลัก เรื่องหนึ่งเช่นกันอย่างน้อย Spec ควรเท่ากับมือถือคู่แข่งที่อยู่ในระดับราคาเดียวกัน
3. เรื่อง Marketing > พยายามโฆษณา Hardware Function ที่ดีกว่ายี่ห้ออื่น เช่น ระบบไมค์ ระบบกล้อง ให้มากขึ้น เพื่อแสดงให้ตลาดเห็นถึงมูลค่า และ ต้นทุนที่แฝงอยู่ในการพัฒนา และ ผลิต นอกจากนี้ ก่อนพัฒนา Hardware ด้านไหน ควรทำ Market Research ให้จริงจังว่าลูกค้าต้องการ และ ให้มูลค่ากับสิ่งนั้นแค่ไหน
และเน้นพัฒนาด้านที่ลูกค้าให้มูลค่ามากกว่าก่อน
โดยสรุปในปัจจุบัน ถ้าอยากได้ Spec ผมจะเลือก Samsung ก่อนอื่นเลย ถ้าอยากได้วัสดุ ผมจะมอง iPhone ถ้าไม่ติดปัญหาการใช้งาน OS ต่างกัน ถ้าอยากได้ Hardware อื่นดีๆ เช่นกล้อง ผมจะมอง Sony แทน O-o
1.ราคา (เทียบกับสเปคแล้วควรอยู่ในระดับเดียวกับชาวบ้านเค้า)
2.จุดเด่นที่ไม่รู้ว่าเด่น (จุดเด่นเยอะแยะ พวก beat หรือวัสดุ ไม่ค่อยชูเลย แต่ดันเอาจุดไม่เด่น เช่นเรื่องกล้องไปแข่งกะโนเกียซะงั้น)
3.โฆษณา (อันนี้สอบตกเลย โดยส่วนตัวเพื่อนๆรอบข้างไม่ค่อยรู้จัก HTC)
จากคนเคยใช้ HTC และประทับใจ :)
ระยะสั้น
0. ปลดพนักงานฝ่ายพัฒนา ROM และ Software ด้านอื่นออกเหลือแค่จำเป็นเท่านั้น
1. รับพนักงานฝ่ายพัฒนาด้านเสียงโดยเฉพาะ พัฒนา App ด้านฟังเพลง ดูหนังให้มีความสามารถสูง ใช้ง่าย
2. ทำมือถือระดับกลางค่อนไปทางล่างอย่างเดียวก่อน 1 - 2 ปี เน้นขายจำนวนมาก และต้องระวังเรื่องซัพพลายเชนให้ดีที่สุด
3. ติดต่อ Google ขอทำ Google Play Edition เพื่อลดระยะเวลาในการอัปเดตระบบ และไม่ต้องมาเน้นทำ ROM ด้วยตัวเอง
4. ถ้ายังทำงานร่วมกับ Beat ได้ก็ขอให้จัดโปรโมชั่นร่วมกัน หรือผสาน Beat เข้ามาในเครื่อง
ระยะกลาง
5. ออกอุปกรณ์รายล้อมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดูหนัง ฟังเพลง เช่นลำโพงภายนอกซัก 2 - 3 แบบที่แตกต่างกันขายในราคาไม่แพงนักซัก 2 รุ่น อีกรุ่นก็เป็นระดับสูงรุ่น 5000 - 10000 บาท ทำรีโมตที่เป็นนาฬิกา และควบคุมโปรแกรมดูหนังฟังเพลงไปที่มือถือได้โดยไม่เน้นความสามารถด้านอื่นเลยเพื่อทำราคาให้ถูกสุด ๆ เพื่อหวังให้คนซื้อไปใช้ร่วมกัน
6. พัฒนา App ด้านดูหนังฟังเพลงของตนให้ทำงานร่วมกับ Smart TV ได้ง่าย ๆ พร้อมกับใช้งานร่วมกับนาฬิกาแทนรีโมตด้วยฟังก์ชันง่าย ๆ ด้วย (เช่น แสดงภาพ หนัง เพลงขึ้นจอ TV หรือลำโพงของตนเอง)
ระยะยาว
7. ปลายปีที่ 2 ถ้ามีเงินทุนมากพอจากกำไรที่ควรจะเริ่มทำได้ในปีที่ 2 ก็เริ่มขยับมาทำมือถือระดับสูงสุดของตลาด โดยยังทำมือถือระดับกลาง - ล่างในแผนเดิมต่อไปด้วย แต่ให้ใช้ชื่อรุ่นคนละแบบไปเลย และทำแค่ 2 ระดับนี้เท่านั้น
ทั้งหมดนั้นให้มีการโฆษณาใน MV ของศิลปินดัง ๆ ของประเทศในเอเชีย (ยกเว้นจีน และประเทศโลกที่ 3) ยุโรป เป็นหลัก อเมริกา ไม่ต้องไปเน้น ยกเว้นว่าจุดตลาดติดค่อยมาคิดอีกรอบว่าควรจะบุกอเมริกาหรือไม่
เพจตัวอย่างผลงานถ่ายภาพ / วีดีโอ
ถ้าในไทย ชูเรื่อง service ให้ดีก็มีโอกาส ตี sony กะ samsung กระจุยได้นะครับ
อย่าตีเลยครับ
hTC one ออกมาตอนนั้นจำได้ว่า ขายๆ อยู่
เดือนสองเดือน เจอ XZ กับ S4 เข้าไป
แถมท้ายปี เจอ iphone 5 s/c ซ้ำเข้าไปอีก
spec เครื่องดีกว่า ยังไม่รอดเลยครับ
คิดว่ารอดยากครับ ทำตลาดบนก็สู้ยี่ห้ออื่นไม่ได้ ตลาด android ก็เดือดจะตายชัก
ตลาดกลางและล่างยิ่งแล้วใหญ่ มือถือค่ายจีนเริ่มมาแล้วด้วย samsung เองยังต้องหนาว ๆ
จะมา windows phone ก็ไม่มีจุดขายอะไรเลย nokia เขามีทั้งกล้องเทพ มีทั้ง here นำทาง
แถมรุ่นต่ำอย่าง 520 ก็เก็บตลาดล่างหมด แล้ว HTC มีอะไรไปสู้
Happiness only real when shared.
ตัวเด่นเน้น Technology (ราคา ~22000)
เรือธง เน้น วัสดุ + spec (ราคา ~18000)
กลาง เน้น วัสดุคุ้มค่า (ราคา ~12000)
ล่าง เน้น mass คุ้มราคา (ราคา ~5000 บาท)
ผมว่าแค่นี้ก็น่าจะ ช่วยให้อยู่ในตลาดได้ เพราะ HTC ชื่อเสียงยังดีอยู่
ลดการซอยถี่รุน เอามารวมเป็น 4 ตัว
ตลาดบน 2 Fablet, Smart phone
ตลาดกลาง 1 ตลาดล่าง 1
เพิ่มความคุ้มค่า และ ใช้งานได้ลื่นไหล ในตลาด ล่างและ กลาง
(ไม่จำเป็นต้องให้ Function ครบ ไม่งั้นอืดแบบสุดๆ -*-)
จัดตัวท๊อปตลาดบนให้มีจุดเด่น ที่เป็น จุดเด่นจริงๆ
ที่มั่นใจว่าจะเหนือกว่าคู่แข่งได้จริงๆ
ผมว่าตลาดกลางและล่างสำคัญมาก
ถ้าเกิด เล่นตลาดกลางแล้วอืด ค้าง ฯลฯ
คงไม่คิดเสี่ยงกับตลาดบน -*-
สเปคสูง+ราคาต่ำหรือไม่เอากำไรมาก
เอาเงินไปลงการตลาดเท่านั้นครับ
ความสวยมันก็สุดยอดแล้ว พอที่จะใช้งานแล้ว
คุณภาพมันดีพอแล้ว ราคาไม่ใช่ปัญหา
Note 3 S4 ก็ไม่ใช่ถูกๆยังขายกันได้
ปัญหาคือการตลาด ทำให้เกิดความอยากได้
S4 รู้ทั้งรู้ว่าปัญหาเยอะ ไม่สวย ทำไมยังอยากได้กันอยู่
คำตอบอยู่ที่การตลาดเท่านั้นเอง
เอานักดนตรี สักคน พี่ตูน ดร.เดร อะไรก็ได้ที่อิทธิพลสูง เหมือนโน๊ส อุดม หรือชมพู่
ให้ตรงกับจุดขาย เรื่องฟังเพลง กล้องเทพ ตากล้องเก่งๆ พี่ติ๊ก เนวิเกเตอร์ ดาราที่ถ่ายรูปเก่งๆมาเป็นพรีเซนเตอร์
ผมว่าฟังก์ชั่น HTC น่าเล่นกว่า S4 คนละเรื่องครับ ทั้งเสียง ทั้งกล้อง ทั่งวัสดุ
แล้วก็เสียดสี Samsung ไปซักหน่อยก็ดีครับ จะทนใช้ วัสดุพลาสติกกร็อบแกร๊บ อยู่ทำไม ประมาณนี้
+1 htc ขาดแค่การตลาด การออกแบบกับสเปคโดยรวมผมว่ามันก็ดีอยู่แล้ว แต่ปัญหาคือ ไม่ค่อยมีคนรู้จักแบรนด์นี้
"S4 รู้ทั้งรู้ว่าปัญหาเยอะ ไม่สวย ทำไมยังอยากได้กันอยู่"
จริงครับ SS การตลาดเทพมากอะ ถ้าในกลุ่มคนตามข่าว (ตั่วอย่างเช่นใน BG)
จะพบว่ายี่ห้อที่ใช้มันก็กระจายๆกันแหละ SS, HTC, Sony, LG บลาๆ
แต่ถ้าคนทั่วไปไม่ไรมาก นี่ SS อย่างเดียวเลย เพราะไปไหนก็เห็นติดตาไปแล้ว (ใน Android นะ)
เอาในเมืองไทยก่อน การบริการหลังการขายครับ ซ่อมเครื่องนี่บางคนรอนานมาก ถ้าซ่อมเร็วนี่จะดีมาก
ระดับโลก การตั้งราคาอย่าสูงขนาดซัมซุงหรือไอโฟน เอาระดับLGสิครับ G2ขายสองหมื่นเอง ตั้งเป้าว่าเป็นสามที่สี่ของโลกก็พอ อย่าตั้งสูงไว้มากมันเหนื่อย
สำหรับผมคือเรื่อง design + service
design ของเค้าทำมาได้สวยแต่ยากลำบากในการซ่อมมากมาย เอาง่ายๆ แค่ถอดแบตไม่ได้ถ้าจะเปลี่ยนต้องส่งศูนย์ ถามว่าใช้เวลาเท่าไหร่ คำตอบคือ 2 อาทิตย์ มันทำให้เป็นเรื่องยุ่งยากโดยใช่เหตุ ศูนย์ก็ใช่ว่าจะดี ถ้าทำออกมาให้เปลี่ยนแบตได้ง่ายๆ หาซื้อไม่ยากก็จะเป็นการลดภาระเรื่อง service ไปได้เยอะเลย
ปล.จากคนที่ One X แบตเสื่อม
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ยกเลิกรุ่น Desire ให้หมด ผมว่าพวกนี้มันทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ดูห่วยลงมาก ใช้ตระกูล One ทำตลาด 3 รุ่นก็พอแล้ว (ล่าง กลาง บน) ส่วนตระกูล Butterfly นี้ผมไม่เห็นด้วยเลย สเป็คใกล้เคียงกับ One เกินไป (One จอ 4.7 Butterfly S จอ 5.0 อย่างอื่นเหมือนกันเด๊ะ ยกเว้นวัสดุ) ไปๆมาๆ HTC เริ่มซอยรุ่นแข่งกับค่ายเกาหลีซะงั้น และที่สำคัญเรื่อง QC ของ HTC นี้ไม่ได้เรื่องเลย สมัย One X มีปัญหา Focus Macro ไม่ได้ มาสมัย One เจอปัญหากล้องม่วง เข้าศูนย์ทีก็รอเป็นเดือน ขนาดตัวท็อปเกิดปัญหายังแก้ไขได้ช้าหรือแทบจะเรียกได้ว่าแก้ไขไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แล้วถ้าในตระกูล Desire นี้ไม่ต้องสงสัยแทบจะถูกลืม ผมวิจารณ์ในฐานะที่ชอบแบรนด์นี้และซื้อใช้เองตลอดแต่ก็ใช้ไม่เคยเกินครึ่งปี ผมเป็นคนที่ชอบถ่ายภาพเลยทนปัญหาเกี่ยวกับกล้องไม่ไหว
ทำตลาดหน่อยครับ บอกว่าจะเพิ่มมาร์เกตติ้ง แต่ก็ไม่เห็นเกิดอะไรขึ้น ผมว่าไล่ออกยกชุดเลยก็ได้ เปลี่ยนใหม่เลย จัดการ supply chain ด้วย ไม่ใช่เปิดตัววันนี้ แต่วันขายเลื่อนออกไปเรื่อยๆ
1 ราคาตามตลาดบ้าง ราคา ค้างฟ้านานมาก
2 H/W ต้องตามคู่แข่งในเวลานั้นๆให้ทัน : spec รุ่นปลายปี spec เดียวกับ ต้นปี ?!?!
3 flagship ไม่ควรมีปัญหา โดยเฉพาะกล้อง (ม่วง) ลูกค้าไม่กล้าตัดสินใจซื้อจริงๆ
4 ใช้ holo มากขึ้นก็ได้ อย่าง setting นี่ย้ายจนเวลาไปใช้ทีนี่หากันไม่เจอเลยจริงๆ
5 icon ใน setting flat แบบ stock หน่อยก็ดีครับ
6 PR แย่ consumer ทั่วไปที่ไม่ geek ไม่รับรุ้ถึง HTC ทุกคนเอาแต่พูดว่า S4 หมด ทั้งๆที่ One ก็ดีเหมือนกัน
ตามอัพเดท ให้สักหน่อยครับ ไม่ลอยแพลูกค้าในรุ่นกลางและล่าง
เลิกทำตลาดล่างครับ อยู่ต่อ ตายครับ โดนทั้งสินค้าจีน โดนทั้งซัมซุงถล่ม
ในเมื่อ position ของสินค้า วางอยู่ในระดับพรีเมี่ยมแล้ว ด้วยวัสดุ หน้าตา
ก็เดินเกมนี้ต่อไปให้สุดครับ
หาสิ่งใหม่ ๆ มาเป็นจุดขายบ้าง เช่นปากกาที่ note ชูเป็นจุดขาย ทำให้ผมหนีไปใช้ HTC ไม่ได้ ทั้งที่อยากจะใช้
พยายามสร้าง Brand image ให้เป็นของหรูให้ได้ครับ
ที่สำคัญ อย่าลืมหา marketing ฝีมือดี ๆ มาทำตลาดด้วยครับ
ทุกวันนี้ ถ้าไม่ใช่แฟนจริง ๆ ไม่รู้จัก ไม่มีคนใช้
ยกตัวอย่าง ผมไปเดินเซนปิ่น เค้าประกาศหาใครก็ได้ ทีใช้ HTC มารับของรางวัลฟรี ไม่มีเงื่อนไข 2 คน
คนแรกยืนอยู่หน้าบูท เข้าไปรับได้เลย
คนที่สอง เกือบสิบนาที ยังไม่ได้ คิดเอาเองละกันครับ วังเวงขนาดไหน
สิ่งที่ต้องทำเป็นสิ่งแรก คือ marketing ครับ พัฒนาผลิตภัณฑ์ ว่ากันต่อไป
ทุกวันนี้ ซํมซุงไม่ใช่สินค้าที่ดีที่สุด แต่ก็ขายดีได้เพราะ marketing ล้วน ๆ ครับ
โฆษณาครับ ทำให้มัน"ดูเหมือน"ขายออก
ขยายตลาดและหาเอกลักษณ์ของแบรนด์
1.เลิกกั๊กสเปกรุ่นกลางถึงล่าง
2.ขายถูกลงอีกนิด
จริงๆแล้ว ข้อ2มันครอบคลุมข้อ1อยู่นะเพราะจ้องจะลดต้นทุน
ผมว่าทำเหมือน moto ในอเมริกา มีแค่ รุ่นราคาหมื่นกลางๆ กับ 5-6000 บาท
คนอยากได้เยอะนะ แบบmoto แต่ไม่มีขายที่ไทย
เลิกกั๊กสเป็คก่อนเลยอันดับแรก ออกเรือธงมาก็จริง แต่ใครๆเค้าก็จับทางได้ว่า เดี๋ยวพี่แกต้องออกรุ่นใหม่อัพสเปคมาหักหลังแน่นอน
ราคาเทียบสเป็ค พยายามปรับให้เท่าๆหรือถูกกว่าคู่แข่งเค้า
โฆษณา+โปรโมตอัดลงไปเยอะๆ อย่ากลัว เพื่อนผมหลายๆคน ไม่รู้จักแบรนด์ HTC ด้วยซ้ำ (ในหัวมีแค่ Apple, Samsung)
เพิ่มสเปกหน่อย วัสดุดีแล้ว ลดราคานิด เพียวกูเกิ้ล น่าจะได้แล้วนะ
A smooth sea never made a skillful sailor.
+1 ศูนย์บริการต้องดีครับ
เคยประสบเคราะห์กรรมกับศูนย์บริการครับ หาเบอร์ติดต่อในเนต ย๊ากกยาก พอโทรเสร็จ ผมรอสาย 30 นาที จนโมโห หาจังหวะโทรอยู่ 3/4 ครั้ง (ต่างวัน) ก็รอนานเป็นชาติไม่ต่างกัน เลยเข็ดครับ พอกันที - -
เลิกซอยรุ่นซะที
เปิดตัวแล้วต้องขายให้ทัน ความอยากของคนมันมีจำกัด ดีแค่ไหนแต่ให้รอเกินอาทิตย์ก็หมดอยากแล้ว
การันต์ตีการอัพเดตรอม
แนะนำให้ตั้งราคาไม่หวังกำลัยก่อน แต่หวังปริมาณการขายดี จะทำดีลกับค่ายมือถือก็น่าสนนะ
ผมจำเป็นต้องใช้รายชื่อจาก iCloud ถ้าสามารถ Sync หรือ ดึงข้อมูลได้ง่ายๆ จะมีผลต่อการซื้อมากๆ เชื่อว่าไม่ได้มีผมแค่คอนเดียวที่ใช้มือถือหลายค่าย ที่เหลือสินค้ามันขายตัวเองอยุ่แล้วนะตอนแรกผมก็อยากได้เรือธง 2013 เหมือนกัน แต่พอต้อง รอ+ราคาเปิดตัว ก็หมดความอยากไปละ
รายชื่อบน iCloud ก็สามารถโยนขึ้น Google Contact ได้นะครับ
ปรับตัว คิดเร็ว ทำเร็ว ให้เหมือนโซนี่ที่เริ่มกอบกู้สถานการณ์ตัวเองขึ้นมาจากการคิดใหม่ตั้งแต่ต้น ทำใหม่ตั้งแต่ต้น
สร้างจุดต่างทางประสบการณ์ให้มากกว่านี้ ไม่ใช่โดดเดี่ยวลอยแพมีเพียง Sense UI ที่เอาไว้แข่งกับชาวบ้านได้อย่างเดียว ของซัมซุงยังมี theme (ประเด็น?) การออกแบบแตกต่างไปในแต่ละปีเลย แล้วอะไรคือจุดเหล่านั้นของ HTC?
สำคัญที่สุด เลิกคิดใหญ่ ทำใหญ่ แบบอาศัยกินบุญเก่า โดยเชื่อว่าเพราะเป็นเพียง HTC จะขายได้
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
าินค้า htc ดูหรูหรา มีราคากว่า apple อีกแถมคุณภาพดีกว่า อย่างที่ผู้เชี่ยวชาญย่องแล้วว่าที่สุดในโลกจริง วัสดุงานประกอบความเสถียร จุดง่อย เอ้ย จุดด้อย htc ที่ ceo เคยพูดคือเรื่องการตลาดและการสื่อสารสู้ผู้บริโภค ก็เล่นเงียบขนาดนี้ ลูกค้ากลุ่มเดิมๆ ขายแพงไม่ว่าเพราะมันสมราคามากกว่าทุกยี่ห้อในตลาด โดยไม่ต้องตามกระแสแบรด์น การตลาดลงมากๆศูนย์บริการเพิ่มมากๆ ส่วนเรื่อง กั๊กสเปค ผมเฉยๆเพราะรู้ว่าตอน htc one เปิดตัวก่อนใครตอนนั้น S800 ยังไม่เปิดตัวเลยด้วยซํ้าคนทั่วไปพูดไม่ดูข้อมูลเอาแต่พูดกั๊กๆ ค่ายอื่นมาทีหลังอัด s800 มาก็ว่าเขากั้ก? เดี่ยวปีนี้ htc one2 มา s800 พอขาย s805 เปิดส่งของก็ว่าเขา กั๊กเดิมๆ แต่ไม่ได้วนกั้กไม่กั๊ก แต่ s600 ลื่นหัวแตกกว่า s800 ค่ายอื่นหลายตัวเลยล่ะ ชอบคุณภาพแต่ไม่ชอบการตลาด
ขายให้ทันกับความต้องการ
อย่ามาจุดความอยาก แล้วให้รอเพราะของผลิตไม่ทัน
ความคิดดีๆมีคนบอกไปหมดละ 555
ผมอยากให้เอาเลขบอกชื่อรุ่นออกเช่น Desire 200 300 400 อะไรพวกนี้คับ ตั้งเป็นชื่อไปเลย เช่น Desire Win
คล้ายๆแบบซัมซุงทำอะคับ เพราะบอกเป็นตัวเลขไปมันบอกสเปกสินค้าชัดไป ตัวเลขต่ำๆทำให้ผมรู้สึกไม่อยากซื้อเลย
อย่างพวกชื่อ Series เช่น One, Desire ก็คงไว้ให้รู้ระดับชั้นของสินค้าและการออกแบบไป
วัสดุขอเป็นพวกโลหะ
os ก็ android ใช้ได้ดีไม่มีปัญหา เพิ่ม ui สวยๆ
บริการหลังการขาย ที่จะต้องดีกว่านี้ให้มากๆ
ทำการตลาดหน่อย
คนรอบข้างที่บริษัทไม่ค่อยรู้จัก HTC มักคิดว่าเป็นมือถือโหลๆ จากจีนแผ่นดินใหญ่
ผมก็แฟน HTC แต่ผมอยากบอกว่าผมสู่ราคาไม่ไหว Spec ใกล้กัน Galaxy ราคาถูกกว่าเยอะ
ถึงคุณภาพจะสู้ HTC ไม่ได้ แต่ก็ต้องนึกด้วยว่าถึงจุดนึง Spec มันเก่าคนก็ซื้อใหม่อยู่ดีไม่ต้องทำดีขนาดอยู่ได้ 5 - 10 ปีก็ได้ลดราคาลงมาหน่อย
Design ล้ำๆ ไม่ให้เหมือนชาวบ้านเค้า
ผมว่าแค่นี้ก็ได้แล้วมั้ง
อยากเพิ่มอีกว่า
เน้นโฆษณาให้คนหน้าใหม่ที่ไม่รู้อะไรเลยได้รู้จักบ้าง
เดี๋ยวนี้เด็กๆอยากได้แต่ SS ทั้งที่มีตัวอื่นดีกว่าเยอะแยะ
- กลุ่มเด็กโต มัธยมต้น - มหาลัย กลุ่มนี้ติด Chat และ HTC เองก็มี HTC Chat แต่ไม่เจาะตลาดกลุ่มนี้เลยไปแข้งกับพวก BB อยู่ได้สมัยนั้นลงไปจัดกิจกรรมเลยแข่งกันกดแข่งกันเล่น (จำได้ว่าสมัย SMS มาใหม่ๆก็มีจัดกิจกรรมระดับมหาลัยนี้ที่สยาม)
- กลุ่มวัยทำงาน อันนี้ไม่น่ายากทำงานอะไรก็เจาะสิ่งที่เค้าต้องใช้หรือจะแฟชั่นก็ว่ากันไปชอบไรเจาะไปมันก็ขายได้
- กลุ่มคนมีเงินเหลือ อันนี้ก็เป็นพวกสเปกราคาไม่เกี่ยงขอให้ แรง เท่ อวดศักดา ใครมองต้องอิจฉา ของแบบนี้ไม่มีใครเหมือน (ก็ทำอยู่แต่ไม่ถึงกับสุดๆในสายตาผมดูแล้วก็ยังเฉยๆ)
2. บริการหลังการขาย - โปรโมชั่นต่างๆ จับรวมซะ
- บริการประทับใจไม่ใช่แค่ซ่อมง่ายเคลมเร็วแล้วกระแสมันมาเร็วไปเร็วเกิน
- โปรที่เคยจัดเก่าแลกใหม่ อันนี้ที่ทำให้คนรู้จัก HTC ทำไปทำมาเลิกคนที่เค้ารอคอยมันก็รู้สึกทำแค่ผ่านไป (ก็เล่นทำมันทุกปีสมัยก่อน)
ปล.หลักๆเท่านี้ที่คิดได้ครับมีไรเสริมได้ครับ
ออกผลิตภัณฑ์ดังนี้
HtC Nexus 6 !!!
HtC Nexus tablet
spec จัดเต็ม ราคามิตรภาพ ผลิตให้ทัน วางขายทั่วโลกพร้อมกัน
พอคนเริ่มติด ดัน HtC dev edition
เพิ่มงบด้านการโฆษณาประชาสัมพันธ์กับสเปค + ราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่ง (เพราะตอนนี้ HTC ไม่มีอำนาจพอที่จะผลักสินค้าราคาเหมือนแบรนคุ้นหูอย่างซัมซุง เพราะฉะนั้นควรลดราคาลงมาอีก แต่ได้ประสิทธิภาพเท่าหรือเหนือกว่าคู่แข่งเป็นตัวชูโรง) ส่วนเรื่องวัสดุ ดีไซน์ ปัญหาด้านนี้หายไปกับ ONE และ
-ทำการตลาดใหม่ครับ
-spec/ราคา ทำให้ได้เหมือน LG
จากใจคนใช้ HTC เลยนะ
-เรื่องดีไซน์ วัสดุ ความสวยงาม... ผมชอบมาก
-เรื่องราคา ขอให้ไม่สูงกว่าชาวบ้านจนน่าเกลียดเหมือนเดิม... ให้คนซื้อไม่ต้องตัดสินใจมาก ถึงแม้ว่าคนที่รู้ถึงคุณค่าของราคาที่ต่างกันจะเต็มใจซื้ออยู่แล้ว แต่จำนวนมันไม่มากพอที่น่าจะทำให้บริษัทอยู่รอด (และคนกลุ่มเดิมที่ซื้อก็จะยิ่งพอใจที่ซื้อได้ในราคาที่ถูกลงเหมือนชาวบ้านสักที)
-เรื่องคุณภาพซอฟต์แวร์/รอม โดยทั่วไป.... ไม่ต้องพูดถึง สอบผ่านอยู่แล้ว
-เรื่องเสียง... Boomsound เป็นอะไรที่ตอบโจทย์ผมที่สุด และทำให้หลวมตัวซื้อ One ถือว่าเป็นข้อดีที่สุดที่ผมชอบเลยแล้วกัน
-เรื่องกล้อง... จากผลพวงของอาการ "กล้องม่วง" นอกจากศูนย์จะเป็นใบ้ ไม่ให้ความชัดเจนกับลูกค้าว่าเป็นปัญหาที่ฮาร์ดแวร์ตัวเอง ให้ความหวังคนใช้ว่าอัพรอมก็หาย สุดท้ายต้องไปไล่เปลี่ยนที่ศูนย์กัน คนไปแรก ๆ ซวยโดนแงะเครื่องเป็นหนูทดลอง บวกกับระยะเวลาอันยาวนาน (อาจจะเพราะเป็นกันเยอะมาก) แล้วมาเกิดกับมือถือราคา 21,900 เป็นจุดหลักที่ทำให้ผมลดอันดับความน่าเชื่อถือของแบรนด์นี้ไปทันที
-เรื่อง Service ถือว่าดีมากที่มีบริการ "รับเครื่องถึงที่" ช่วยให้คนต่างจังหวัดอย่างผมไม่ต้องดั้นด้นไปถึงศูนย์ (ที่มีอยู่ไม่กี่ที่) แต่....ทั้งนี้ ทั้งนั้น ก็อยากให้รับผิดชอบเรื่องกล้องม่วงให้เร็ว และได้ใจคนซื้อมากกว่านี้ ตอนนี้นอกจากต้องลุ้นว่า ส่งซ่อมแล้วจะหายไหม ยังต้องลุ้นว่าจะสภาพเหมือนเดิมไหมอีก
-เรื่อง "โละ" หรือลดราคาจนน่าเกลียด ก็เป็นอะไรที่ถ้าคุณคิดว่าขายราคานี้ได้ คุณขายแพงกว่าราคาโละนิดนึงแต่แรก ให้คนที่ซื้อไปก่อนไม่รู้สึกเจ็บใจมาก ไม่ใช่ลดทีละ 5000 ยังงี้ก็น่าจะช่วยให้คนซื้อ "ไม่เข็ด" ได้อีกทางหนึ่ง
-ทำให้คนซื้อ "สะดวก" ที่จะหาซื้อ หรือจะดีกว่านั้นอีกถ้าจะ "ได้ประโยชน์" จากการซื้อ HTC เหมือนอย่างที่ Samsung หรือ Apple มีโปรต่าง ๆ ร่วมกับค่ายมือถือ เป็นต้น
สุดท้ายตอนนี้ ถ้ามีคนถามผมว่าจะซื้อมือถือรุ่นไหนดี ตัวเลือกที่ผมให้ก็จะมีแค่ Sony, LG และ HTC (ตามลำดับ) จากเดิมที่ให้ Sony และ HTC เสมอกันเลือกได้ตามชอบ ส่วนที่ไม่แนะนำให้ซื้อเลย คือ Samsung และ Apple
ลูกค้า HTC ONE เดือด ทำหนังสือร้องเรียน กล้องม่วง ซ่อมนาน
ต้องการบอกอะไรหรือครับ?
ช่วยเสริมข้อมูลมั้งครับ
bot แกไม่พิมพ์ภาษาคนครับ แกจะแปะลิงก์ให้อ่านเองเป็นส่วนใหญ่
^
^
that's just my two cents.
บอกไป ก็เท่านั้น
hTC ไม่เคยสนใจหรอก
ดูอย่างราคา/สเปก one mini กับ one max ได้
แถมกล้องม่วงยังตามมาใน mini อีก... คงจะขายดีหละ งานนี้
ถ้าจะแนะนำจริงๆตอนนี้...
....
....
....
ขายให้googleแล้วเป็นอย่างที่motoเป็นตอนนี้
เห็นว่าคงต้องเริ่มจากภายในองค์กรเลยครับ ยังไม่นิ่งเอามากทำให้ทิศทางทั้งทางการตลาดและการออกสินค้าเปลี่ยนแปลงบ่อยเลยส่งผลถึงการวางปผนการผลิตและ supply chain ต้องเจอปัญหาติดๆขัดๆตลอด ก่อนหน้านี้ดูว่า HTC เองก็จะมีรูปแบบที่ชัดเจนของการวางสายผลิตภัณฑ์และว่องไวด้านการตลาดกว่านี้ครับ ถ้ารวมทีมออกแบบกับการตลาดให้ประสานกันได้ดีกว่านี้เน้น innovative เหมือนเดิมแต่เสริมให้ time to market ได้เร็วขึ้นเพื่อช่วงชิงกำลังซื้อของกลุ่ม high-end ได้ก่อนและคงช่วยกู้สภานการณ์ได้บ้าง เป็นลูกค้าที่ชอบ HTC อยู่พอควร เอาใจช่วยหละครับ จะได้เห็นตลาดมือถือที่มีตัวเลือกที่หลากหลายเหมือนแต่ก่อน
ผมเปลี่ยนตัวเองจากสาวกมาเป็นผู้ต่อต้านด้วยเหตุผลเดียวก็คือกล้องม่วงของ HTC One เท่านั้นเลย ถึงตอนนี้ผมมองว่าไม่ใช่แค่ QC ไม่ดีหรือ Service ไม่ดีแล้ว แต่ผมมองว่า HTC One เองคือการออกแบบที่ผิดพลาดตั้งแต่ต้นและการลืมรากเหง้าของ HTC เองเลย
HTC One แม้จะสวยดูดีจับแล้วฟิน แต่ดีไซน์หลายอย่างไม่มีประโยชน์ในความเป็นจริงเท่าไหร่ เพื่อความสวยแต่ดีไซน์ออกมาแล้ว แบตเล็กกว่า จอขอบหนากว่า หนักกว่า แกะเปลี่ยนได้น้อยกว่าคู่แข่ง และที่สำคัญคือซ่อมยากมาก (ตามที่ iFixit ให้ 1/10) เมื่อซ่อมยากมาเจอกับปัญหาการเลือกใช้กล้อง UltraPixel ที่ยังไม่ได้ใช้ในรุ่นอื่นแล้วมาแจ๊กพอตเจอปัญหารัวๆ พอดี (คงไม่มีใครเชื่อว่ามันเป็นที่ Software อีกแล้วนะ) ทำให้ต้องไล่ซ่อมส่งเสียกันเป็นการใหญ่ สิ่งที่เสียมากที่สุดก็คือชื่อ โดยเฉพาะในหมู่ผู้ใช้ที่ติดตามเทคโนโลยี ถ้าไม่มีผู้ใช้กลุ่มติดตามเหล่านี้ ก็ยากที่จะอยู่ในตลาดพรีเมี่ยมได้
ส่วนเรื่องรากเหง้าของ HTC ผมคิดว่า HTC ประสบความสำเร็จมาได้ด้วยความรวดเร็วในการออกผลิตภัณท์และการออกแบบที่เรียบง่าย ไม่ใช่เพราะความหรูอะไรเลย เช่น HD2, Desire รุ่นแรก หรือแม้แต่ One X (ซึ่งผมชอบมากจนยอมผันตัวเป็นสาวก)ก็ยังคงสไตล์เดิมไว้ด้วยพลาสติก Unibody แบบง่ายที่ยังพอแกะซ่อมได้, วางตลาดก่อน S3 พอสมควรและไม่ขาดตลาด พวกนี้เป็นบุญเก่าที่สั่งสมไว้มานาน ... ถึงตอนนี้ก็นับว่าสู้ยากแล้วเพราะตลาดโหดกว่าเดิม แต่ผมว่า HTC น่าจะยังสู้ได้ด้วยการคืนสู่รากเหง้าได้ด้วยการทิ้งคำว่าพรีเมี่ยมและอลูมิเนียมไปเลย จะรอดในวงการนี้ได้ต้องอย่ามัวจับตลาดนิชต้องทำตลาดใหญ่เท่านั้น ทำรุ่นเน้นๆ มาเลยรุ่นเดียวเรียบง่ายคุ้มให้เหมือน Xiaomi และ Nexus ลดราคามาหน่อยเพราะยังมีช่องว่างราคาระหว่าง Nexus และรุ่นท้อป ด้วยช่องการขายที่ดีกว่า Nexus ด้วยซ้ำ HTC น่าจะยังกลับมาตีตลาดหมู่มากได้ครับ
ตอนนี้ผมก็ยังไม่เห็นเงางบการตลาดพันล้าน จับ โรเบิร์ต ดาวนี่ จูเนียร์ มาก็ยังไม่ออกโฆษณาอะไร
ทุ่มหน่อยครับ บางทีกดราคาค่าเครื่องมากก็ไม่ได้ ้วัสดุก็ใช้ดีกว่าชาวบ้าน สเป๊คปล่อยมาไม่สุดบ้างก็พอเข้าใจ แต่แค่โฆษณาให้ของมันน่าใช้แค่นี้ก็ไม่ยอมทำให้ดีๆ ของดีแต่ไม่มีคนรู้จักก็ไม่มีประโยชน์อะไร เค้ารู้จักกันแต่ซัมซุง โซนี่
จากใจแฟนบอยเลย ใช้แต่ของ hTC
รากเง่า htc เขาเน้นตลาดพรีเมี่ยม และหรูหรามานานแล้ว ตอนนี้ก็ยังเป็น htc ระดับแฟน htc คงรู้ดี ผมใช้ใาตั้งแต่สมัยเครื่องสามสี่หมื่น เปลี่ยนจนมาปัจจุบัน htc ทำของออกมามีราคาและสินค้า หรูหรรา ยํ้าเน้นหรูหรามาตลอด และเขาทำได้ดี งานประกอบวัสดุเขาตั้งใจสุดจนเป็นที่ยอมรับของกูรูทั่วโลกและสวยตลอดกาลจริงๆ การที่ htc จะเน้นตลาดบน พรีเมี่ยมหรูหราไม่ต้องพยายามในตัวสินค้าเลยเพราะพรีเมี่ยมหรูหรามาตลอดแต่เหนือกว่าชาวบ้านตลอด แต่ต้องเปลี่ยนการตลาดเท่านั้นการเข้าถึงผู้บริโภคเท่านั่น และยังใช้ htc ต่อไปของเขาดีจริงคุณภาพจริง ปัญหามีก็น้อยกว่าชาวบ้านตลอด ถึงจะมีบ้างก็ตาม เปลี่ยนมาหลายยยี่ห้อสับไปสับมา จบที่ htc sony สองค่ายนี้
ปรับเปลี่ยนผู้บริหารในแต่ละภูมิภาคใหม่ครับ ให้คนจากส่วนกลางดูแล HR และทำ KPI องค์กรอย่างต่อเนื่อง ดูเหมือน HTC แต่ละ Region ไม่ค่อยจะ Active เท่าไหร่ครับ ดูสมองทึบๆยังไงก็ไม่รู้ครับ
ปรับทีมการตลาดใหม่ รื้อระบบการทำการตลาด หานโยบายใหม่มาครอบ (ผมชอบ HTC You มากที่สุดครับ รู้สึกว่าตอบสนองต่อการเป็นโทรศัพท์ที่ตอบสนองเราดีครับ) หา Campaign อย่างนี้มาสร้างความสอดคล้องกับสินค้า ปรับรอบการออกสินค้าแค่ 3 รุ่นต่อปี (แพงแต่ดีสุดๆ, ราคาต่อ Spec คุ้มค่า และราคาเอื้อมถึงได้สำหรับคนทุกคนบนโลก)
รื้อ Sense UI ใหม่ .... ผูกบริการของ Sense UI ใหม่กับ Local Service เพิ่มเติม (ไม่รู้ทำได้หรือเปล่านะครับ ผมรู้สึกว่า Yahoo พร้อมจะทำงานร่วมกับ Android มาก แต่แค่หาเหลี่ยมหามุมเข้ามาในตลาดนี้ไม่ได้ ซึ่งเป็นการทำงานแบบเหยียบเรือสองแคมเลย แต่คงยากแหล่ะครับ)
สร้างทีม R&D Department : ในทีมประกอบด้วย Purchasing Unit (คอยซื้อกิจการผู้ออกแบบ Hardware ที่น่าสนใจ เช่น Image Stabiliser, Sensor Designer, UI Design Firm, Chipset Optimisation ฯลฯ), Research Unit (ทีมนักวิจัยหลัก คอยพัฒนาอะไรใหม่ๆ ตามความต้องการของตลาด เช่นการทำให้ Hardware เย็นขึ้นด้วยวัสดุผสมใหม่ ยืดหยุ่นขึ้น จอภาพบางขึ้น สามารถใช้ Touch Screen ในน้ำได้ วัสดุมือถือที่ดีกว่า หรือ Innovation ใหม่ๆ), Feedback Unit (คอยเก็บผล Survey ทำ Studies ในแต่ละพื้นที่ทั่วโลก หาความต้องการ และมองหาจุดดีของมือถือเจ้าอื่นว่าเขาดีอย่างไร) และ Optimization Unit (มองหาข้อบกพร่องของการผลิตจากการเริ่มต้น Idea ไปจนถึงการส่งถึงการสิ้นอายุขัยของมือถือ สิ่งใดควรจะได้รับการปรับปรุงบ้าง ทั้งการบริการ สายการผลิต การทำการตลาด จะคอยทำ KPI เพื่อเช็คและหาวิธีปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นตามแต่ละ Mission ที่สร้างขึ้นมาเฉพาะทางไปครับ)
สร้าง Crisis Respond Team ที่จะต้องตอบสนองต่อปัญหาปัจจุบันทันด่วน (ดึงมือดีของแต่ละด้านมาเฉพาะกิจสำหรับการทำงานตอบสนองปัญหานั้นๆที่เกิดขึ้นปัจจุบันทันด่วน เช่นกล้องม่วง เครื่องมี Bug ร้ายแรง หรือสินค้าโดนคู่แข่งโจมตี ซึ่งทีมนี้ต้องตอบโต้และตอบสนองได้โดยใช้วิธีที่คิดมาอย่างรอบคอบ
ROM Working Group : ทีมดูแล ROM เฉพาะของมือถือ 1 ทีมจะทำงานกับมือถือรุ่นนึงประมาณ 5 ปีเพื่อ Update และปรับปรุง ROM เท่านั้น รวมถึงทดสอบความเข้ากันได้ของ Hardware ต่อระบบปฏิบัติการให้ทำงานได้สูงสุดเสมอ รวมถึงสร้างข้อมูลและ API ต่างๆที่จำเป็นสำหรับ Custom ROM สามารถมารับช่วงต่อได้เมื่อถึงเวลา (หรือจะออกแต่ต้นเลยก็ยังได้ครับ)
ทีม Regional Sales Group : ทีมนี้จะต้องเจาะจุดขายแต่ละตลาดให้ได้ครับ เครื่องของ HTC จะต้องไปวางตาม Point of Purchase สำคัญๆให้ได้ ทั้งการผูกกับ Carrier การวางสินค้าตามร้านมือถือทั่วไป การขายผ่านเน็ต การขายในร้านมือถือ การสร้าง Promotion ต่างๆ ซึ่งจะต้องดูยอดขายประกอบว่าเติบโตขึ้นหรือแย่ลง ... เพราะอะไร ? (แต่ละภูมิภาคต้องปราบเซียนคนละแบบครับ ต้องเช็คว่ามันยากง่ายอย่างไรครับ)
ทีม Regional Service Center : ต้องทำสถิติการซ่อม ความเร็ว การ Check-In/Check-Out ของเครื่องที่เสีย การส่งอะไหล่ บริหารจัดการ Stock ของอะไหล่ การเก็บ Record เพื่อส่งต่อให้ R&D Department ว่าอะไรเสียบ่อยอย่างไรครับ
ต้องจัดการ Supply Chain ใหม่ .... กระจายกำลังออกไปทุกภูมิภาค ให้กำลังการผลิตเพียงพอต่อการขายในแต่ละภูมิภาคในแต่ละช่วง แต่จะมีฐานการผลิตหลักที่อยู่ใน Taiwan หรือจีนแผ่นดินใหญ่ครับ
ผมไม่เห็นด้วยกับการอัดฉีดงบโฆษณา ... ผมเชื่อว่าโฆษณาควรจะต้องลงอย่างฉลาด (ใช้เงินเยอะแหล่ะครับ แต่อัดสู้ Samsung คงยากครับ) ต้องแบ่งสามชั้น ชั้นโลก (Concept และ Objective สินค้า/องค์กร) ชั้นภูมิภาค (TVC หรือ Presenter หลัก) และชั้นประเทศ (Endorser, Influencer หรือล้วแต่จะเรียกครับ แล้วก็การทำการตลาดแบบ Point of Purchase อย่างหนัก และการจัด Promotion รวมถึงพวก Print AD, Bill Board การยิง TVC และ Theatre AD บ้างตามสมควร) .... แต่ละประเทศทุกปีต้องมี Publicity Stunt ที่เป็น Viral และเป็นที่กล่าวถึงเสมอๆครับ
สินค้าควรจะคงเป้าหมายชัดเจน วางขาย 3 ช่วง (ต้น กลาง และ ปลาย) วางขายทั้งโลกพร้อมกัน เป็น Batchๆ 1-2-3 แล้วก็ขายไม่กั๊กจำนวนสินค้าต่อประเทศแล้วหลังจากนั้น
วาง Budget Smartphone ช่วงต้นปีราคาถูก Customize ได้เยอะมากๆ เน้นการใช้งาน BCD (Browsing, Chatting, Documenting - เล่นเน็ต, แชท, เก็บข้อมูล) เพื่อให้คนทั่วไปเข้าใจการใช้งาน Smartphone ซึ่งต้องใช้งานง่าย เบาและแบตนาน
Value Smartphone ช่วงกลางปีเน้นความคุ้มค่า ใช้ Hardware ที่มีค่า/ราคา ที่ดีที่สุด ในราคาเดียวกันเราจะต้องได้ดีกว่า ทั้งวัสดุ การออกแบบ การใช้งาน ต้องดูคุ้มค่ากว่า 8000-12000 ที่ซื้อจะต้องถือเป็นโทรศัพท์ที่หยิบมาสู้กับ Flagship แล้วคนยังหันมอง ยังดูดี (คู่แข่งตรงๆคงจะมองแบบ Moto G/X เลยครับ พวกนี้เข้าใจ Concept โทรศัพท์ Value ต่อ Hardware ดีครับ)
Performance Smartphone ช่วงปลายปี เข้าสู่ช่วงซื้อขายกันหนักที่สุด เน้นไปที่คุณภาพที่ดีที่สุด เทคโนโลยีที่ดีที่สุด วิธีการคิดที่ยอดเยี่ยมที่สุด ให้เค้ารู้สึกว่า 20,000+ ที่จ่ายเหมือนซื้อทองแท่งมากกว่าตะกั่ว
ทุกรุ่น ประกัน Hardware 3 ปี ROM Support 5 ปีมี Update ตาม Google ไปติดๆครับ
เขียนมานานละครับ ... อันนี้ยังเป็นเบสิกพื้นฐานของแผนที่อยู่ในหัวผมครับ ... ความจริงแล้วคิดเยอะกว่านั้นอีกครับ เพราะมันต้องกันผู้ถือหุ้น กันการเมืองภายในบริษัท แผนรับมือกับมือถือคู่แข่งที่ออกมา ทั้งด้านการวางแผน PR รับมือ ทั้งแผนการสร้างพันธมิตรทางการค้า (เช่นผูกกับ Cyanogenmod Edition แบบ Oppo ทำ แต่ให้โอกาสกับ Ubuntu Phone, Firefox OS ด้วยครับ (แบบ One Phone Fits all).
ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ ครับ ขืนเขียนต่อคงยาวจริงจังๆและคงเขียนอีกเป็นวันครับ ฮาๆๆๆๆๆๆ
ขอบคุณครับ สวัสดีครับ
ถ้าถามผม ผมก็คิดว่าเรื่องการตลาดนี่แหละที่น่าจะต้องปรับปรุง
เหมือนทีมโฆษณาของ HTC พยายามทำอยู่นะ แต่ไม่ค่อยเข้าเป้ายังไงไม่รู้
อย่างช่วงปลายปีที่แล้วที่เริ่มทำแคมเปญ HTC Here To Change ผมว่าก็เป็นแนวโน้มที่ดี
แต่รู้สึกเหมือนจ้าง Robert Downey Jr. มาแบบไม่คุ้มยังไงไม่รู้
ก่อนหน้านั้นก็เหมือนมีแคมเปญกับนักร้องคนไหนซักคนจำไม่ได้ ไม่รู้ผลเป็นไง ไม่ค่อยได้ยินข่าวเลย
สำหรับบ้านเราจริงๆไม่ต้องอะไรมาก ขอแค่ยิงโฆษณาหน่อยเถอะ ตอนนี้เห็นมีแค่โฆษณา dtac อันเดียวเอง