จากรายงานของ Reuters กล่าวไว้ว่า ตลาดกล้องนั้นเป็นตลาดที่นอกจากจะแข่งกันดุเดือดแล้ว ยังโดนตีตลาดจากตลาดสมาร์ทโฟนระดับบนที่ถ่ายรูปได้ดีมากอีก โดยตอนนี้ถ้าแบ่งตลาดกล้องจะแบ่งได้เป็น 2 ส่วนคือ
ส่วนตลาดระดับกลางนั้น "ไม่มี"
จากรายงานกล่าวว่า Panasonic, Fujifilm และ Olympus นั้นสูญเสียรายได้จากการขายกล้องไปเยอะมาก สำหรับกล้อง mirrorless ยังพอจะทรงตัวได้อยู่ แต่กล้อง compact เริ่มเลือนหายไป
Yu Yoshida นักวิเคราะห์จาก Credit Suisse กล่าวว่า ในระยะยาว ตลาดกล้องดิจิทัลจะกลายเป็นตลาดที่มีผู้ขายเพียง 2-3 ราย คือ Canon, Nikon และ Sony ที่อยู่รอด เพราะมีแบรนด์ที่แข็งแกร่งและต่อสู้กับสงครามราคาได้
ตัวเลขบางส่วนของตลาดกล้อง
นักวิเคราะห์ยังกล่าวว่า Canon และ Nikon จะยังอยู่บนตลาดกล้องระดับสูง ซึ่งกล้องยุคใหม่นอกจากจะได้ภาพที่มีคุณภาพดีแล้วยังต้องมีความสามารถในการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อแบ่งปันรูปด้วย
ที่มา - Chicago Tribune Business ผ่าน Petapixel
Comments
แข่น => แข่ง
แข่ง => แข็ง
การการ => การ
ขอบคุณครับ แก้เรียบร้อย
อันนี้เค้าลอยตัวครับ อยู่ระดับ Premium
Sony เจ้า Compact
Canon กับ Nikon แข่ง DSLR
เอาเข้าจริงผมไม่คิดว่า Smartphone จะมาแทนที่กล้อง Compact ระดับกลางกับระดับร่างได้ (กล้อง Canon เล็กๆสามพันกว่าบาทยังถ่ายสวยกว่า 5S ) ทุกวันนี้ไปเที่ยวก็ยังเห็นคนใช้กล้องมือถือสลับกับ compact
กล้อง compact ไม่มี camera 360 ก็ขายไม่ได้ในวัยรุ่นไทยละครับ
กล้อง compact ตัวเล็กๆ ระดับล่าง ถ่ายภาพสวยสู้ สมาร์ทโฟนรุ่นสูงๆไม่ได้แล้ว ไม่นับรวมฟีเจอร์ในการถ่ายภาพจากสมาร์ทโฟนอีกมากมาย
คนใช้มือถือรุ่นสูงๆ ก็ไม่มองกล้องคอมแพ๊คไปเลย ขี้เกียจพก อย่างน้อยก็ mirrorless ถึงจะน่าถือไปเที่ยวด้วย
Sony ถึงได้ดัน mirrorless ไปใช้เซนเซอร์เท่ากล้อง dslr ไปเลย จะได้เทียบเคียงกล้องใหญ่ได้
โดยส่วนตัวยังไม่มี smart phone แต่ถ้าจะซื้อตอนนี้ก็เพราะอยากได้ไว้ถ่ายรูป...เพราะความสะดวก
กล้อง compact เมื่อก่อนใช้บ่อย แต่ช่วงหลังถ่ายด้วย ipad แทน ซึ่งผมว่าถ่ายออกมาได้สวยกว่ากล้อง compact นะ
ตอนนี้แม้แต่แม่ผมเองที่ชอบใช้กล้อง compact ก็ยังเอา tablet มาถ่ายรูปเลย เพราะถ่ายแล้วดูรูปได้เลย ใหญ่และเห็นชัดไม่ต้องมาลงคอมฯวุ่นวาย อยากได้รูปไหนไปอัดที่ร้านจิ้มเลือกได้เลย
ส่วนหลาน ๆ รอบ ๆ ตัว รวยหน่อยก็ iphone ที่เหลือก็ smart phone เกือบหมด …
Pentax ในบ้านเราก็ไม่ค่อยฮิตเท่าไหร่เลย
เดี๋ยวนี้สองพันก็สอยกล้องได้แล้ว เพียงแต่กล้องมันไม่เปลี่ยนบ่อยเหมือนมือถือนี่ครับ
กล้องระดับล่างมันอ่อนตรงที่ไม่มีส่วนเชื่อมต่อกับ Social ละมั้งครับ ไม่เหมือนกล้องมือถือ ถ่ายปุ๊บ แชร์ปั๊บ เดี๋ยวนี้น้อยคนที่จะถ่ายรูปแล้วเอาไปอัดใส่อัลบั้มกระดาษ อย่างมากก็ถ่ายๆ แชร์ๆ เยอะเข้าก็ยัดเข้า external HDD หรือ write เป็น DVD เก็บ
ผมไปเที่ยวหลายๆ ที่ ยังเห็น compact อยู่บ้างเหมือนกันแต่ในสัดส่วนที่น้อยมาก ส่วนใหญ่เห็นคนควักมือถือออกมาถ่ายเยอะกว่ามากครับ ไม่อย่างงั้นก็เป็นพวก DSLR หรือ mirrorless อย่างใดอย่างหนึ่ง
ส่วนคนใกล้ๆ ตัวผมใช้ mirrorless หรือ DSLR ผสมกับ smartphone ครับ
กล้องตระกูล Mirrorless จะสู้เขาได้ ต้อง ตั้มราคาเลนส์กับ accessories ลงหน่อย
ส่วน บอดี้ ก็หาฟังก์ชันการเชื่อมต่อผ่าน Smart Phone อาจจะ ต่อ wifi ผ่าน Hotspot tethering ประมาณนี้
แล้วมีแอ็บควบคุมกล้องผ่าน SmartPhone
ที่ Smart Phone ตีตลาดได้ ไม่ใช่เพราะ ถ่ายสวยหรอก แต่มันสะดวก ถ่ายปุ๊บ อับปั๊บได้เลยต่างหาก
ผมว่า compact ต่อไปที่พอจะอยู่ได้ก็คงต้องเป็นระดับ พวก sony RX 100 หรือ canon G1X ขึ้นไป เล็กกว่านั้น โดน Smart Phone กินเรียบ เพราะถ้ารุ่นเล็กกว่านั้น คุณภาพของภาพก็ไม่ได้เหนือกว่า Smart phone รุ่นใหญ่ๆๆทั่วไป
compact ที่อยู่ได้ต้องมี feature บางอย่างที่เอามาสู้ smartphone ได้ พักหลังเห็นจะเน้นไปที่พวกกันน้ำกันกระแทกมากขึ้นซึ่งผมว่าก็โอเคนะ
แต่เหมือนอย่างที่คอมเม้นด้านบนว่า ส่วนใหญ่เดี๋ยวนี้เวลาไปเที่ยวจะเห็นแต่คนใช้มือถือ/แท็บเลตถ่ายรูป ไม่ก็เป็นพวก mirrorless dslr ไปเลย
ยิ่ง DSLR เดี๋ยวนี้ต่อกับ Smartphone ได้นี่ Compact นี่ตายไปเลย
เห็น 6D รุ่นพี่แล้วอยากได้โฮก
Smart Phone มันสะดวกกว่า Compact ตรงทึ่ถ่ายปุ๊บ แต่งรูปใส่ฟิลเตอร์แล้วก็อัพขึ้นแชร์ได้เลยนี่แหละ อีกอย่างมือถือมันติดตัวอยู่กับเราตลอดเวลาด้วย
ในตลาด mirrorless มี Olympus กับ Panasonic ก็รอดครับ ผนึกกำลังกันขนาดนั้น
Fuji ก็น่าจะคงอินดี้ต่อไป
Educational Technician
Fuji ม้ามืดนะจะบอกให้
ปัญหาคือจะสู้เจ้าตลาดกล้อง (อย่าง Sony, Nikon, และ Canon) ที่เพิ่งเริ่มลงมารบในตลาดไร้กระจกด้วยได้หรือไม่นั่นล่ะครับ
ปล. Sony รบมานานแล้ว แล้วก็กินตลาด m43 ไปพอดูเลยทีเดียว และไม่มีทีท่าว่าจะรามือ ผมเดาว่า Sony จะดัน NEX ขึ้นมาแทน Alpha ในอนาคต (ถึงขั้นเรียกว่า Alpha NEX ในญี่ปุ่น คงมองว่ามันเป็น Next นั่นแหละ)
ผมยอมรับว่ายังไงกล้องโทรศัพท์ก็สู้ยากครับ แต่ผมขี้เกียจพกกล้องอ่ะ! แถมใช้โทรศัพท์แล้วได้พิกัดฝังมากับภาพด้วย
เวลาเจอช็อตที่อยากได้ภาพสวยจริงๆ ก็หันไปหาคนที่มาด้วยกัน แล้วกระชากกล้องมาครับ (>_<)
ผมขอเพิ่ม Nokia ถ้าเจ้านี้ลงมาเล่นจิงจัง ตายกันไปข้างนึง
ผมว่าสู้ยากครับ 1020 ภาพออกมาดีก็จริง แต่ไม่ได้ดีไปกว่ากล้องจริงๆ อะไรขนาดนั้น อีกทั้งขนาด sensor ที่ใหญ่ แต่ภาพใหญ่จริงๆ สู้เขาไม่ได้ มีดีที่ over sampling เพื่อย่อภาพออกมาเป็นภาพเล็กที่คุณภาพดี ซึ่งทำให้ใช้เวลาในการถ่ายภาพแต่ละภาพนาน กิน CPU กิน RAM อีกต่างหาก
แต่ถ้าทำกล้องจริงๆ แล้วตัวเลนส์ใหญ่กว่านี้ ภาพอาจจะออกมาดีขึ้นก็ได้มั้งครับ ไหนๆ ก็ขายฝั่งอุปกรณ์โทรศัพท์ออกไปแล้ว ตั้งทีมใหม่มาปักหลักกับกล้องอาจจะพอตั้งหลักใหม่สำเร็จก็ได้
Sony ก็ใช้ Carl Zeiss ครับ
จริงๆผมอยากลองเล่นกล้องสักตัวว่าจะหัดถ่ายแล้วค่อยๆไต่ระดับขึ้นไป แต่เห็นความสามารถของรูปจากมือถือ+ ฟิลเตอร์ต่างๆที่สามารถทำให้จบได้ในเครื่องผมเลยตัดสิยใจซื้อสมาร์ทโฟนมาใช้แทน เพราะlife styleแบบเราใช้เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
น่าเสียดายนะครับ เพราะถ้าคุณถ่ายรูปด้วย smart phone คุณจะไม่มีวันได้ภาพเหมือนกับกล้อง DSLR อย่างเช่น bokeh และ bulb shot (มันก็อาจจะทำได้บ้าง แบบพอถูไถ) และทักษะการปรับแต่งพวก f-stop, speed, ISO, flash ก็จะหายไป
จริง ๆ ก็มีกล้อง ML ที่ถ่ายแล้ว+filter แล้วแชร์ผ่าน wifi ให้จบในเครื่องเดียวได้เลยนะ อย่าง Sony ตระกูล NEX
ฟีเจอร์ที่ Mirrorless ควรมี เพื่อที่จะอยู่รอดในตลาดกล้อง (คหสต.)
ถ้าทำได้ตามนี้ผมว่า DSLR รุ่นล่าง ๆ นี่มีเจ๊งกันบ้าง
sony 7a ทำทุกอย่างตามด้านบนได้เกือบหมด
1. ได้
2. ได้ มี nfc กับ wifi
3. ได้
4. ฟูลเฟรม ฟังชั่นกล้องคอมแพคก็มาเต็ม
5. เลนส์ยังไม่ถูก
ข้อ 5. เลนส์ E-month อาจจะราคาแพง แต่อย่างลืมว่าใส่ Metabone เข้าไปแล้ว ทีนี้ก็จะใช้เลนส์ของค่ายอื่นอย่าง Canon/Leica ก็ยังได้ (Autofocus ทำได้เหมือนกัน แต่คงไม่ได้ดีเท่า month จริง) ดังนั้นผมว่าข้อ 5 ถือว่าผ่านนะครับ
ใช้ Sony NEX-5R อยู่ครับ
ข้อเสียก็ประมาณว่า T-T
:D
~ HudchewMan's Station & @HudchewMan~
ข้อเสียนี่เห็นด้วยมาก ๆ ครับ ผมเห็นคนใช้ NEX ทุกคนต้องพก Battery ไว้มากกว่าหนึ่งก้อน
แต่ถ้าเอา Battery W-Series มาใส่กับ Sony a37 ผมใช้แล้วอยู่ได้นานทั้งวันเลยนะครับ ถ่ายได้ประมาณ 100-300 รูปต่อ Batt. หนึ่งก้อน
กำลังแก้ไขความเห็น หายหมดเลยครับ ฮ่า (><)
ของผมเป็นมือใหม่ เลยถ่ายเผื่อภาพเสียหลายช็อต ตอนไปหัดถ่ายแต่ละรอบ กดไปราว 3-500 ช็อต ต่อเนื่อง 2 ชั่วโมง แบตแทบไม่เหลือ T-T (ดูภาพแค่ตอนกดเสร็จแล้วโชว์หน้าจอ แทบไม่ได้เปิดดูรูปที่ถ่าย เพราะจะประหยัดแบต)
ชาร์จผ่าน Power Bank ก็ต้องปิดกล้องก่อน จะชาร์จไปถ่ายไปก็ไม่ได้
เพิ่งสั่งแบตเทียบมา เพราะหาซื้อของแท้ไม่ได้ ความจุแบตมากกว่าของแท้ และซื้อแท่นชาร์จมาด้วย ไปถ่ายไฟเมื่อตอนสิ้นปีมา หายใจคล่องขึ้นเยอะ ^^'a
~ HudchewMan's Station & @HudchewMan~
ถ้าเปลี่ยนใจไปสอย Nex6 ปัญหาเรื่อง EVF ไม่สู้แดดจะหมดไปนะครับ :P
A smooth sea never made a skillful sailor.
ฮ่า Nex 6 มันราคาสูงกว่า และจิ้มจอไม่ได้ครับ เลยได้เป็น 5R มา (><)
~ HudchewMan's Station & @HudchewMan~
ผมว่า Mirrorless นี่มีแนวโน้มมากินตลาด DSLR Entry Level นะ เพราะข้อได้เปรียบคือเล็กกว่า เบากว่า และมองเห็นผลจากการตั้งค่าได้จาก Live View เลย ทำให้มือใหม่หัดถ่ายได้ง่ายกว่า ยิ่งคนที่ใช้กล้องโทรศัพท์มือถือถ่ายรูปก็จะเรียนรู้การถ่ายได้เร็วกว่า
แต่เรื่องการควบคุม คงไม่สะดวกเท่า เพราะตัวกล้องมันเล็กกว่า มีพื้นที่น้อยกว่า ทำให้ต้องตัดพวกปุ่มควบคุมออกไปบ้าง
วันก่อนไปจับ Samsung NX2000 , NX300 ที่ตากล้องหลายคนไม่แนะนำยี่ห้อนี้ เพราะยังใหม่กับตลาดกล้อง
รู้สึกได้ว่าการถ่ายภาพทำได้ง่ายมาก เพราะ Samsung เอาประสบการณ์จากการทำโทรศัพท์มือถือมาใส่ลงไป ทำให้คนที่ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูป ประทับใจกับกล้องได้ไม่ยาก โฟกัสได้เร็ว จิ้มจอแล้วเห็นผลใน Live View เลยว่าอะไรชัด อะไรเบลอ อะไรสว่างมืดแค่ไหน
ยิ่งรวมกับการตลาดแบบ Samsung ด้วยแล้ว คิดว่าในช่วงระยะเวลา 3-5 ปี กล้อง Samsung Mirrorless ก็จะเบียดขึ้นมาเป็นกล้องขายดีแซงขาใหญ่เจ้าเก่าอย่าง Olympus, Panasonic, Fuji ได้ (ผมหมายถึง ขายดี นะ ไม่ใช่เรื่องคุณภาพ)
รอดูศึก Mirrorless Full Frame ว่าภายใน 2 ปี ใครจะเป็นขาใหญ่ เพราะตอนนี้ Sony มาแรงมาก ^^
~ HudchewMan's Station & @HudchewMan~
ผมว่ายากมากนะสำหรับซัมซุงในส่วนของกล้อง ถึงแม้ว่าการตลาดจะดีขนาดไหนแต่เรื่องนี้น่าจะต่างไปจากตลาดมือถือเพราะยังมีหลายๆ อย่างที่ถือว่าเป็นโจทย์ใหญ่ที่ต้องตีให้แตกอยู่
เท่าที่ผมเคยใช้กล้องคอมแพคของ Samsung นะ
Samsung ก็อยู่ในระดับที่ดีทีเดียว ใช้งานง่าย ภาพออกมาสวย สีสดตามเทรนด์
โดยรวมผมชอบมากกว่า Sony นะ ทั้งระดับกลางล่าง
แต่...
1.ระบบกันสั่นยังทำได้ไม่ดีในเวลากลางคืนหรือความเร็วชัดเตอรต่ำ ถึงแม้จะวางบนขาตั่งต้องตั่งหน่วงเวลาถึงจะไม่สั่น
2.สำหรับผู้ที่ชินกล้อง DSLR หรือกล้องคอมแพคอย่างผม Samsung ถือว่าใช้งานยาก ต้องเอามือไปแตะหมุนๆเลื่อนๆ มันไม่ไวเหมือนกับใช้มือหมุนเลนส์หรือหมุนเปลี่ยนโหมด
อย่างตัวที่ผมใช้ถ้าจะปรับอะไรก็ต้องเข้าไปในเมนู วุ่นวายดีแท้
Samsung เหมาะสำหรับถ่ายกลางแจ้งหรือถ่ายวิวมากกว่า แต่ก็ทำได้ดีเลยทีเดียว
เพิ่งซื้อเลนส์สำหรับ micro4/3 มาราคาเท่าสมาร์ทโฟนตัวท็อบ ถ่ายเสร็จอัพทีหลังแต่คุณภาพห่างกันไกล ไลค์กระจาย อยู่ที่ความชอบล่ะครับ ;)
my blog
ปัญหาของสมาร์ทโฟนคือแบตมันไม่อึดเหมือนกล้องคอมแพค ถ้าถ่ายภาพเพื่อการท่องเที่ยวจริงคอมแพคน่าจะยังอยู่ได้ เพียงแต่มันไม่เยอะเหมือนเมื่อก่อน คาดว่าคนจะเล่นกล้องระดับสูง+สมาร์ทโฟน ส่วนคอมแพคพกไว้กันเหนียวเวลาถ่ายเล่นชิวๆ
ปัญหานี้สมัยนี้มีผลกระทบน้อยแล้วครับ powerbank ราคาถูกมีให้เลือกหลายขนาด เบาๆก็มี
Samsung เค้าก็มีกล้องนะะตะเอง
อ่านหลาย comment แล้วถามจริงๆ ว่า พวกคุณเล่นกล้องกันหรือเปล่า? วัตถุประสงค์ของกล้องคืออะไร
1.ถ่ายเป็นมืออาชีพ
2.ถ่ายแบบมือสมัครเล่น
ถ่ายแบบมืออาชีพ จำเป็นต้องใช้กล้องที่ปรับได้ทุกส่วน ตั้งแต่แสง สี ภาพ เลนส์ Effect เพือให้ภาพที่ถ่ายสามารถ Control ได้ตามโจทย์ เพื่อเอาไปใช้งาน เช่น ภาพถ่ายกีฬา ภาพงานแต่งงาน ภาพงานโฆษณา
งานประเภทนี้ ถ่ายแล้วได้เงิน ดังนั้นอุปกรณ์มันจะเฉพาะมากๆ ซึ่งการจะปรับได้ทุกส่วนแบบนี้กล้องต้องซับซ้อน เน้น Hardware มากกว่า Software และการถ่ายรูปแบบนี้ต้องการการฝึกฝน ภาพบางภาพอาจจะขายได้ ราคา เท่ากับอุปกรณ์กล้องที่ถ่าย 1 SET
DSLR จึงถิอกำเนิดมาก เพื่อการ "ปรับแต่งได้ทุกส่วน" มันไม่ใช่กล้องที่ถ่าย "สวยที่สุด" นะครับ แต่มันเป็นกล้องที่ "ใช้งานถูกประเภท" มากที่สุด ยุคหนึ่งเมื่อ 4 - 5 ปีที่แล้ว ตลาดกล้อง DSLR โต เพราะคนคิดว่าถ้ามีกล้องแบบนี้แล้วจะถ่ายรูปสวย ซึ่ง "ผิดถนัด" ถ้าคนถ่ายไม่ได้มีความรู้อะไร รูปที่ได้ ไม่ต่างจากกล้อง Compact เลย
ส่วนการถ่ายมือสมัครเล่น ชื่อก็บอกอยู่แล้วถ่ายเพื่อใช้ส่วนตัว ดูกันเอง ดูเล่นๆ เก็บความทรงจำ การใมช้งาน คือ เปิดไว ถ่ายสวย แชร์สบาย
เมื่อ 10 ปีก่อน กล้อง compact จึงเข้ามา ด้วยความที่ง่าย ไม่ต้องคิด software ปรับให้หมด แต่คุณภาพเพียงพอใช้ แต่ถ้าถ่ายลงกระดาษ 4x6 ถาพไม่ต่างจากกล้องธรรมดามาก ยุคแรกๆ เน้นโฆษณา pixel จนปาไป 10 ล้าน 12 ล้าน แต่ยังไงลงกระดาษก็แยกไม่ออก
ช่วง 5 ปี ที่ผ่านมาเริ่มโฆษณาสีสัน และรายละเอียดภาพ คุณสมบัติกล้อง ราคากล้อง compact จึงลดลงมาค่อนข้างสูง margin น้อยลง
จน 2 ปีที่ผ่านมากล้องมือถือ ถ่ายภาพได้ละเอียดจยบางทีเอาไปเปิดในจอ HD เริ่มไม่เห็นความแตกต่างด้วยตาเปล่าแล้ว (เชื่อว่า มือสมัครเล่นไม่มาดูแกรมุตของสี ) ประกอบกับกล้องในมือถือ มีคุณสมบัติที่เหมือนกล้อง compact และดีกว่าคือ
เปิดไว ถ่ายสวย แถมมีโปรแกรมแต่งรูปน้องๆ photoshop แชร์สบาย มันได้ทุกทางแม้กระทั้งกดออกเครื่องพิมพ์งาน photo
แถมมัลติฟังก์ชัน ไม่ต่างจากคอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง
งานนี้บอกได้เลย compact สูญพันธ์
เปิดมาบรรทัดแรกก็ดูถูกเค้าทั้งกระทู้เลย โหดจริง
ผมเห็นด้วยเกือบทั้งหมด
ยกเว้นว่า compact คงไม่ถึงกับสูญพันธ์ อาจจะเหลือ compact high-end ไว้สำหรับคนรวยใช้อย่าง Sony RX1 อะไรทำนองนี้นะครับ
ชีวิตคุณแม่ม.. ดูลำบากมากเลยนะ
จะซื้อกล้องตัวนึงคำนวน เหมือนจะส่งยานไปลง ดาวอังคาร
คิดมากไปหรือเปล่าครับ ?
DSLR กับ smart phone ส่วนต่างของราคามันอาจจะมากกว่า 1 แสนบาทเลยนะครับ
ผมไม่ได้เดินไปซื้อลูกอมที่ 7-11 นะ จะได้ไม่ต้องคิดมาก!
ผมเคยไปทริปกับ เพื่อน มันเพิ่งซื้อ dslr มาใหม่ หัดเป็นช่างกล้องบ้าพลัง
แต่ก่อนขี่รถขึ้นเขา ไปดูวิวไป สนุกสนาน ฉิ่งฉับ ไปเรื่อย
พอมันแปลงร่างเป็น ช่างกล้องบ้าพลัง มันสั่งหยุดทุกหัวโค้ง
ลงไปตั้งขากล้อง จัดแผ่นรีเฟลก ใช้เครื่องวัดแสง เหมือนอยู่ในสตูดิโอ
ถ่ายเสร็จ แบก notebook เอา โปรแกรมเผาฟีมล์ ไปนั่งจัดแสงใน com ต่อ
ถามจริงๆ ไปเที่ยวแบบนั้น สนุกจริงๆเหลอ ?
เพื่อนผมก็เป็น ใช้ DSLR บวกเลนซ์ราคาเป็นแสน ถ่ายรูปทีนึงก็ตั้งค่าแล้วตั้งค่าอีก เดินก็ช้าเพราะอุปกรณ์เยอะและหนัก พอมาดูรูปกัน NEX 5 ของผมราคาถูกกว่าครึ่งนึงแถมเปิด Auto เพราะผมเน้นซึมซับความรู้สึกจากสถานที่ท่องเที่ยว บวกกับพูดคุยกับคน ไม่เน้นก้มหน้าก้มตาอยู่กับกล้อง ปรากฏว่า Auto ดันออกมาสวยกว่า แต่ก็ว่าไม่ได้ความสุขของมัน
เป็นความสุขส่วนบุคคลจริง ๆ ครับ คนบางคนมีความสุขที่ได้ปรับค่าในกล้องและเอารูปมาแต่ง ความทรงจำของเขาอาจจะไม่ได้อยู่ที่สภาพแวดล้อมหรือการพูดคุยกับผู้คน แต่มันอยู่ในภาพไงครับ เขาจำได้ว่าเขาถ่ายภาพนี้ที่ไหน มีเรื่องสนุกอย่างไร เขาปรับ f-stop/speed เท่าไร
แต่สำหรับผมก็ไม่ถึงขนาดบ้าหอบฟาง และแต่งรูปทันทีที่ถ่ายได้หรอกนะ ผมก็มองว่ามันมากไปจริง ๆ
ผมสังเกตช่างกล้องมืออาชีพ เขาไม่ได้เน้นถ่ายเยอะ แต่เขาจะตั้งค่าให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยถ่าย shot นึงจะได้รูปออกมาแค่ 1-3 รูป ถ้าประสบการณ์มากพอก็จะรู้เองว่าสภาพแสงแบบนี้ควรจะตั้งค่าอย่างไร ทำให้ไม่ต้องถ่ายซ้ำ ๆ เพื่อกันเสีย ส่วนเรื่องแต่งรูปถ้าเอาไปใช้ในงานสำคัญก็คงมีบ้าง (แต่ไม่ใช่แต่งทุกรูป) เขาบอกว่า "เราเป็นช่างภาพมืออาชีพ เราไม่ใช่นักตัดแต่งรูป เราต้องทำให้เสร็จภายในกล้อง"
เอางี้ครับ ออกทะเลมาเยอะ
สรุปคือ บทความนี้ พอเชื่อถือได้ใช่มั้ย ครับ ?
ถ้าไม่ซื้อ ชุดใหญ่ไปเลย หรือเล่นกล้อง mirrorless ตัวละ 2-3 หมื่น
ก็ ถ่ายจากมือถือแล้ว พก batt power bank ไปชาร์ตกลางทางเอา
กล้อง compact กลางๆ ต่ำๆ ระบบ phs ตายเรียบ ค่อนข้าง ชัว...
เพราะเพื่อนคุณไม่ใช่ "มืออาชีพ" ไงครับ
ผมและหลายๆคนที่หาเลี้ยงชีพจากการถ่ายรูป เวลาไปเที่ยว ไม่มีใครแบก 1Dx D4 ไปซักคน ผมใช้ EOS M กันเลนส์อีกนิดหน่อย หลายๆคนซื้อ Df หรือ Nex มาใช้เวลาไปเที่ยว แต่ไม่ได้ใช้มัน "หาเงิน"
ตลาดมีหลายส่วนครับ คนๆเดียวกันก็ไม่จำเป็นต้องมีกล้องตัวเดียว
ผมเชื่อว่าอนาคตตลาด Compact โดนมือถือตีกระจายแน่ สิ่งที่จะเหลืออยู่คือ มือถือ , Interchangeable mirrorless camera และ กล้องสำหรับมืออาชีพ (ไม่ได้บอกว่า DSLR เพราะตลาดมืออาชีพมันไม่ได้มีแค่นั้น)
ตากล้องที่มีฝีมือจริงๆ จะไม่เป็นแบบนี้ครับ ... ทำงานถ่ายภาพมาสิบห้าปี .... ไม่เคยเห็นแบบนี้กับช่างภาพมืออาชีพครับ หลายๆคนเป็นศิลปินแห่งชาติที่รู้จัก ... ก็ไม่เป็นแบบที่กล่าวมาครับ
Ansel Adams ยังไม่เป็นแบบนั้นเลยครับ
การถ่ายรูปต้องเข้าใจพื้นที่ เข้าใจคน เข้าใจจังหวะ เข้าใจอุปกรณ์ครับ
อุปกรณ์ที่ดีส่งเสริมให้ทำงานสะดวกขึ้น เร็วขึ้น และง่ายขึ้น ไม่ใช่วุ่นวายขึ้น บ้าพลังขึ้น และต้องเทอะทะขึ้นครับ ต่างจากที่คุณ Waroonh เคยเห็นมากๆเลยครับ แต่ถ้าเขาสนุกก็ดีสำหรับเค้าครับ เพราะการถ่ายภาพแต่ละคนมีเป้าหมายต่างกันครับ
The End Justify the means หรือ The Means justify the end. ก็อีกเรื่องครับ ฮาๆๆๆ
ขอบคุณครับ สวัสดีครับ
คุณลืมตลาดองค์กรไปหรือปล่าวครับ ตามโรงงานจะใช้อะไรถ้าไม่ใช่ compact
ตลาดมืออาชีพ hi-end เวอร์ๆ ก็ไม่มีใครไปแตะด้วยอยู่แล้วนิครับ =_='
เห็นคุยๆๆกันก็แค่ DSLR ตัวเล็ก vs กับ Mirrorless จนลงไปตีกับ Smart Phone และ compact ที่ผมว่ามันก็มีประเดนอยู่
:: DigiKin8 ::
555555555555 อะไรที่อยู่กับเราเกือบจะตลอดเวลานอกจากกระเป๋าเงิน
มือถือ Destroyed Radio Receiver, MP3 Player, MP4 Player, Mobile TV อะไรอีกก็ไม่รู้เยอะไปหมดยัดไปอยู่ในมือถือเครื่องเล่นเกมก็จะรวมไปอยู่ด้วยกันและเหลือแต่พวกเฉพาะทางจริงๆ เท่านั้นที่อยู่ได้
ตอนนี้ Destroying Camera aiyo aiyo aiyo~
ผมคิดว่า DSLR เริ่มจะพัฒนาตัวเองได้ช้าลงเรื่อยๆครับ เพราะเทคโนโลยีมันยังไม่คุ้มค่าเดินหน้าต่อครับ ส่วน Compact กับ Smartphone ก็ใกล้เคียงกันมากๆจนแยกออกได้ยากละครับ
ตลาดกลางเองผมไม่แน่ใจว่าจะอยู่ได้หรือเปล่านะครับ เพราะ Smartphone มันทำหน้าที่แทนกลุ่มตลาดกลางได้เหมือนกัน แต่ถ้าคนต้องการมากกว่าตลาดกลางก็จะไปตลาดบนน่ะครับ
แต่ตอนนี้กล้องแทบทุกยี่ห้อทำหน้าที่คล้ายๆกันหมดละครับ ถ้า Basic Function ของการถ่ายรูปโปรนั้นมันเรียบร้อยมานานละครับ ตอนนี้มันเหมือนกับพัฒนาให้ทำงานสะดวกขึ้น ง่ายขึ้นเท่านั้นเองครับ แต่ถ้าทำงานตามหลักการของตากล้องแล้วกล้องทุกตัวมันตอบโจทย์ได้หมดละครับ
รออีกซัก 5-15 ปีน่าจะเห็นผลชัดขึ้นมากครับกับวงการกล้อง DSLR ครับ
ขอบคุณครับ สวัสดีครับ
ปล่อยให้ช่างภาพกับมือสมัครเล่นเค้าซื้อเหอะ ถ่ายภาพไม่ใช่ง่ายๆ
ร้านขายกล้องหลายที่เริ่มหายไปเกือบหมดแล้ว น่าจะบอกอะไรได้มากนะครับ
ขอ RIP กล้องระดับล่าง-กลางเลยแล้วกัน
ระดับสูงช่างกล้องยังใช้อยู่เพื่อให้ดูโปร เลยรอดตายได้แบบฉิวเฉียด
ระดับสูงมันไม่ใช่แค่โปรครับ ... Shutter 1/5000 1/15000 เลนส์ 1500 มันยังจำเป็นกับงานเฉพาะทางอยู่ครับ ถ่ายนก ถ่ายสารคดี ถ่ายรถแข่ง ถ่ายภาพข่าวในพื้นที่สงคราม ถ่ายภาพโฆษณา (16Bits สีภาพละ 800Mb) ถ่ายแบบ ยังต้องพึ่งความเสถียรและความแม่นยำของอุปกรณ์ระดับโปรอยู่มากครับ อย่าเพิ่งเหมาสิครับว่าต้องใช้เพื่อให้ดูโปร ... งาน Billboard งานถ่ายเครื่องจักรโรงงานอุตสาหกรรม งานถ่ายตาม Spec ลูกค้าจำนวนมาก นั้นล้วนมาจากอุปกรณ์โปรทั้งสิ้นครับ ไม่ได้รอดหวุดหวิดหรอกครับ แต่ยังอยู่ได้ ไม่ได้เพิ่มขึ้น ... แต่ไม่ได้ลดลงครับ
ตลาด Consumer มันจะปรับแปรผันตามความสะดวกของคน แต่ตลาดโปรยังต้องการความแม่นยำของอุปกรณ์เสมอครับ เพราะงานพลาดครั้งนึงก็หมายถึงตกงานกันได้นะครับ
ขอบคุณครับ สวัสดีครับ
แต่ร้านขายกล้องที่ผมรู้จักและเป็นลูกค้าประจำนั้นเพิ่มจำนวนสาขาขึ้น , ปรับปรุงร้านใหญ้ขึ้น , จ้างพนักงานเพิ่ม ทั้งนั้นเลยนะครับ
ร้านที่กลุ่มผมใช้บริการประจำ ไม่มีร้านไหนที่ปิด หรือเล็กลงเลย
“THE BEST CAMERA IS THE ONE THAT’S WITH YOU”.
Chase Jarvis.
ผมว่า Fuji จะเหลืออีกแบรนด์นึงในตลาดระดับล่าง เพราะราคา 3000-5000 ฟูจิได้กล้อง DSLR-Like ระดับล่าง ผมว่าก็ยังน่าสนใจอยู่สำหรับคนงบน้อยแต่อยากเล่นกล้องระดับกึ่งโปร
ต่อไปอาจะใส่ WiFi แบตลิทงลิเธียมที่ใช้ร่วมกับซัมซุงได้ และขายในระดับนี้ก็อาจจะอยู่ได้
อีกแบรนด์ที่ยังอยู่คือซัมซุง แต่จะEvo กลายเป็นกล้องกึ่งมือถือ (อาจจะใส่ Android เข้าไป)
ส่วนนิคอาจจะลงมาแข่งกับซัมซุง (ใครอยู่ใครไปก็คอยดูกัน) ส่วนหนอนคงไม่ลงมาแข่งตลาดนนี้แน่
แต่ผมคิดว่าที่ตายแน่ๆคือ iPod Nano iPod Suffle พวกนี้ผมเคยไปฟังเทียบกับ Motorola Defy ที่ลงโปรแกรม PWAMP แล้วปรับให้เต็มที่ทั้งคู่ เสียงจาก Defy ดีกว่าเห็นๆ
ผมว่าถ้าซื้อพอดซัฟเฟิล2GBแถมเพิ่มเมมไม่ได้ตัวละ 2990 บาม สู้ซื้อ Acer z3 ราคา 2590 ส่วนต่างไปซื้อเมมซัก 32G ก็ยังไหว แถมยังโทรได้ เล่นเฟซไลน์Google Chrome เกมส์ก็เล่นได้
ไอพอดนาโนราคาเท่านี้ไปซื้อ Lenovo จอโตๆได้สบายๆ
ส่วน iPod Classic ก็มัน Classic ไง เลยอยู่ได้