ข่าวใหญ่ของงาน MWC 2014 รอบนี้คงหนีไม่พ้น Nokia X และ Nokia XL ซึ่งถือว่ามีความสำคัญอย่างมากเนื่องจากเป็นก้าวแรกของโนเกียสู่โลกของ Android
โนเกียเคยปรามาส Android เอาไว้ตั้งแต่ปี 2010 (ช่วงปลายยุครุ่งเรือง) ว่าการเปลี่ยนมาใช้ Android เปรียบเหมือนการฉี่รดกางเกงให้อบอุ่นในฤดูหนาว แต่เพราะเหตุใด เวลาผ่านไปเพียง 3 ปีกว่าๆ โนเกียจึงกลับลำมาทำ Android เสียเอง
เรื่องนี้อธิบายค่อนข้างยากแต่จะพยายามครับ
ผมนั่งดู วิดีโอแถลงข่าวของ Stephen Elop ที่งาน MWC 2014 อย่างละเอียด ก็พบว่าภาพที่สำคัญที่สุดในงานคือภาพนี้
แอพ แอพ และแอพ จำนวนมหาศาล
ผมเชื่อว่าผู้อ่าน Blognone ที่ติดตามข่าวเทคโนโลยีอย่างใกล้ชิด คงเคยหยิบจับสัมผัสมือถือของโนเกีย ทั้ง Lumia และ Asha มาบ้าง ซึ่งความรู้สึกของหลายๆ คนก็น่าจะเหมือนกันว่า "แอพมันน้อย" เมื่อเทียบกับ Android/iOS
ลองคิดในมุมของโนเกียดูบ้างครับ คนของโนเกียคงเจอกับคำถามประเภทว่า "มีแอพ ... ไหม" ซึ่งคำตอบก็คือ "ไม่มี" และกรณีแบบนี้มักจบด้วยการที่ลูกค้าตัดสินใจไม่ซื้อ
ในโลกยุคสมาร์ทโฟน ยุคที่ซอฟต์แวร์เป็นใหญ่ ฟีเจอร์ด้านฮาร์ดแวร์ไม่มีน้ำหนักเท่าฟีเจอร์ด้านซอฟต์แวร์หรือบริการ (ซึ่งเราเรียกมันรวมๆ กันว่า ecosystem) ต่อให้เครื่องดีสเปกแรง ออกแบบสวยงามแค่ไหน แต่ถ้ามันไม่สามารถใช้งานบริการที่ลูกค้าต้องการได้ มันก็ขายไม่ได้
ช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา เราเห็นความพยายามครั้งแล้วครั้งเล่าของโนเกีย ไมโครซอฟท์ ซัมซุง เอชพี แบล็คเบอร์รี และผู้พัฒนาระบบปฏิบัติการมือถือรายเล็กทั้งหลาย ในการตีตลาดสมาร์ทโฟนด้วยระบบปฏิบัติการแปลกใหม่ มีฟีเจอร์น่าสนใจ แต่ก็ไม่สำเร็จสักรายเพราะ "ไม่มีแอพ" (ขนาดไมโครซอฟท์ใหญ่โตมโหฬาร มีทรัพยากรมากมาย ยังกระอัก)
การที่ Nokia X หันมาใช้ Android สามารถเข้าถึง ecosystem ที่มีแอพ "หลักแสนราย" (จากคำพูดของ Elop เอง) ย่อมทำให้ปัญหาเรื่องแอพของโนเกียหมดไป
คำถามต่อไปคือ โนเกียหันมาทำ Android แล้ว ไมโครซอฟท์ไม่ว่าเอาหรือ?
คำตอบของคำถามนี้ค่อนข้างซับซ้อนครับ
สำหรับคนที่ติดตามยุทธศาสตร์ของไมโครซอฟท์มาน่าจะคุ้นเคยกับสโลแกนใหม่ของไมโครซอฟท์ที่สรุปได้ว่าเป็น "Devices and Services"
เดิมทีธุรกิจของไมโครซอฟท์คือทำระบบปฏิบัติการ/ซอฟต์แวร์พื้นฐาน (Windows) และแอพพลิเคชัน (Office) แต่เมื่อโลกไอทีเปลี่ยนแปลงไป แอพพลิเคชันผันตัวเองไปเป็นบริการที่อยู่บนอินเทอร์เน็ต (อันนี้รับมือไม่ยาก เอาแอพไปรันบนเน็ตก็จบ ตัวอย่างเช่น Office 365) ในขณะที่ระบบปฏิบัติการหรือซอฟต์แวร์พื้นฐานเริ่มจะ "ไร้มูลค่า" อันเนื่องมาจากซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สอย่าง Linux/Android
ไมโครซอฟท์ทำเงินจากระบบปฏิบัติการได้น้อยลงทุกที ถึงแม้จะยังขาย Windows ได้อยู่ หาเงินจากค่าไลเซนส์ได้มาก (ส่วนหนึ่งเพราะเป็นเจ้าตลาดที่เกือบไร้คู่แข่ง) แต่ถ้าหันมาดูฝั่งของอุปกรณ์พกพา เราเห็นภาพชัดเจนว่าตลาด Windows Mobile ที่ไมโครซอฟท์หากินจากค่าไลเซนส์ ถูก Android ทำลายลงไปอย่างราบคาบด้วยนโยบายโอเพนซอร์ส
โมเดลธุรกิจของไมโครซอฟท์จึงต้องพยายามผลักดันไปที่ บริการ (services) ซึ่งเราเห็นได้ชัดเจนจากบริการจำพวก Skype, OneDrive, Bing, Office 365, Xbox Live ฯลฯ
ในขณะเดียวกัน ไมโครซอฟท์ก็พยายามหันมาทำ ฮาร์ดแวร์ (devices) ในฐานะ "ประตูเข้าสู่บริการ" ของไมโครซอฟท์เองด้วย ตัวอย่างที่ชัดๆ คือ Xbox (ส่วน Surface นี่กรณีพิเศษนะครับ) และเข้าสู่ตลาดฮาร์ดแวร์พกพาด้วยการซื้อกิจการมือถือของโนเกีย
โดยสรุปแล้ว โมเดลของไมโครซอฟท์ใช้ยุทธศาสตร์แบบสองขา
แอปเปิลกับกูเกิลนั้นไปคนละทาง โมเดลของแอปเปิลคือขายฮาร์ดแวร์ (โดยใช้บริการพวก iTunes/iCloud เป็นสิ่งจูงใจให้คนซื้อเครื่อง โดยไม่คิดค่าใช้บริการ) ส่วนโมเดลของกูเกิลคือขายบริการ (ทำ Android แล้วแจกฟรีเพื่อให้คนเข้าถึงบริการของกูเกิลให้มากที่สุด)
แต่ไมโครซอฟท์ใช้ยุทธศาสตร์คร่อมสองขา เอาหมดทั้งฮาร์ดแวร์และบริการ (ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจนักว่ามันจะเวิร์คหรือไม่ในระยะยาว เพราะโดยพื้นฐานมันไม่ไปด้วยกันสักเท่าไร) ดังนั้นการพิจารณา Nokia X เราจะต้องแยกส่วนเป็นมุมมองของโนเกียและไมโครซอฟท์ครับ
มุมของโนเกียก็อย่างที่เขียนไปข้างต้นว่า ต้องการขายเครื่อง ดังนั้นการที่ Nokia X ใช้ Android ถือว่าตอบโจทย์ในแง่การเปิดประตูเข้าถึงบริการ (แอพ) อย่างมาก
แต่มุมของไมโครซอฟท์คือต้องการให้คนเข้าถึงบริการของตัวเองมากๆ จึงไม่น่าแปลกใจที่ Nokia X จะถอดบริการของกูเกิล (คู่แข่งโดยตรงของไมโครซอฟท์) ออกทั้งหมด แล้วยัดบริการของไมโครซอฟท์และโนเกียเข้ามาแทน
ตรงนี้น่าสนใจว่า โนเกียพยายามชูจุดเด่นเป็นบริการของไมโครซอฟท์ (ที่มีแอพบน Android อยู่เกือบหมดแล้ว ทั้ง Skype, OneDrive, Outlook.com ถือว่าไม่มีจุดต่างจาก Android ปกติ) กับบริการของโนเกีย (ที่ยังไม่มีบน Android และอาจใช้เป็นจุดขายได้ แต่ที่โฆษณาบนเวทีก็มีแค่ HERE กับ MixRadio สองตัวเท่านั้นเอง)
สังเกตดีๆ ว่า Nokia X ไม่ปฏิเสธ "แอพ" โดยทั่วไปของ Android เลยนะครับ บนเวทีก็แสดงเดโมชัดเจนว่าถ้าไม่มีแอพบน Nokia Store ก็จะแสดงลิงก์ไปยังร้านค้าของพันธมิตร (ที่เอ่ยชื่อคือ Yandex และ SlideME แต่ยังไม่มี Amazon) รวมถึงเปิดให้ sideload ได้ด้วย สิ่งที่ Nokia X ปฏิเสธมีเพียง "แอพของกูเกิล" เท่านั้น
คำถามที่ต้องรอคำตอบ (จากการตอบรับของตลาด) ต่อไปก็คือ Nokia X ไม่มีแอพของกูเกิลแล้วอยู่ได้หรือไม่ ผู้บริโภคซื้อ Android เพราะต้องการแอพของกูเกิลหรือเปล่า? ผู้อ่าน Blognone ส่วนใหญ่น่าจะพึ่งพาแอพกูเกิลเยอะ ตรงนี้อาจมีปัญหากับ Nokia X แต่ก็คงมีผู้บริโภคอีกจำนวนมากที่ไม่ได้แคร์แอพของกูเกิลสักเท่าไร
ไม่มีใครแน่ใจนักว่าผู้บริโภคกลุ่มนี้มีเยอะแค่ไหน และถ้าต้องตัดสินใจซื้อจริงๆ ด้วยเงินจำนวนเท่าๆ กัน ระหว่าง Android รุ่นปกติกับ Nokia X คนกลุ่มนี้จะเลือกอะไร
ต้องออกตัวว่าคงยังไม่มีใครได้จับ Nokia X ยกเว้นนักข่าวที่ไปบาร์เซโลนา ดังนั้นการวิเคราะห์ส่วน UI ก็ต้องทำจากภาพและวิดีโอที่ออกมา (ซึ่งไม่มีทางสู้ประสบการณ์การจับของจริงได้อยู่แล้ว)
UI ของ Nokia X เป็นลูกผสมระหว่าง 3 ระบบปฏิบัติการ คือ
ผมไม่แน่ใจนักว่าในทางปฏิบัติมันจะเวิร์คแค่ไหน (แต่ดูจากภาพและวิดีโอแล้วก็เหมือนจะดี) ส่วนของ Fastlane ที่ทำหน้าที่เป็น app switcher ผสม notification ได้รับเสียงชื่นชมไม่น้อยว่าใช้ง่าย แต่ก็อาจจะซ้ำซ้อนกับ notification ของ Android อยู่บ้าง (ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายนัก)
ใครนึกภาพตามไม่ออกลองดูวิดีโอ
ส่วน Live Tiles ของ Nokia X นั้นคงสู้ Windows Phone ตัวเต็มไม่ได้ ฟีเจอร์อาจด้อยกว่าอยู่บ้าง (เข้าใจว่าการพรีวิวเนื้อหาบน Tiles จะใช้ได้เฉพาะแอพของโนเกียเท่านั้น) แถมแอพน่าจะเสียฟีเจอร์ด้าน widget ของ Android ตามไปด้วย แต่ถ้าพิจารณาว่ามันช่วยให้หน้าตาของมือถือโนเกียดูไปในทิศทางเดียวกัน ก็พอฟังขึ้นในระดับหนึ่ง
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ Nokia X ยังใช้ Android 4.1.2 เป็นแกน ตกรุ่นจากรุ่นปัจจุบัน (4.4.2) ไปหลายรุ่น ถือว่าน่าผิดหวังอยู่บ้าง แต่ข้อมูลนี้น่าจะพอชี้ให้เราเห็นว่า โนเกียเริ่มทำ Nokia X ก่อนหรือช่วงเดียวกับที่ Android 4.1 เปิดตัว นั่นคือเดือนกรกฎาคม 2012 (ตีความจากการ branch AOSP 4.1.x มาเป็น Nokia X Software Platform) ซึ่งก็ถือว่าซุ่มทำมานานพอตัว
ในระยะยาวแล้วคงต้องดูกันว่า Nokia X จะมีปัญหาเรื่องการอัพเดตตัวแกนหลักของ Android เหมือนกับผู้ผลิตรายอื่นๆ หรือไม่ (Fire OS ของ Amazon ก็ยังอยู่ที่ Android 4.2) และจะมีผลต่อการขายสินค้าของโนเกียมากน้อยแค่ไหน (กลุ่มลูกค้าของ Nokia X อาจจะไม่แคร์เรื่องอัพเดตเลยก็ได้)
ช่วงท้ายของงานแถลงข่าววันนี้ Stephen Elop ก็จูงลูกๆ ใน "ครอบครัวโนเกีย" มาโชว์ตัวต่อสื่อว่าคนไหนพี่คนไหนน้อง
Elop พูดชัดเจนว่า Lumia และ Windows Phone จะยังเป็น "แพลตฟอร์มหลัก" ของโนเกีย นวัตกรรมและฟีเจอร์ใหม่ๆ จะถูกนำเสนอใน Lumia เป็นที่แรก
Elop ประกาศยุทธศาสตร์ของ Nokia X ว่าจะเป็นตัวคั่นเพื่อให้ผู้บริโภค "ในประเทศกำลังพัฒนา" (=เงินน้อย) ซื้อมาใช้งานก่อนจะขยับไปเล่นสาย Lumia ในอนาคต ซึ่งยุทธศาสตร์ของ Lumia เองก็จะกดราคาให้ถูกลงกว่าในปัจจุบันเรื่อยๆ และ Nokia X จะขยับราคาลดหลั่นตาม Lumia เช่นกัน
จากคำพูดของ Elop นี่ฟังแล้วพอจะฟันธงได้เลยครับว่า Nokia X มันเกิดมาเพื่อฆ่า Asha รุ่นจอสัมผัสแน่นอน เพราะต้นทุนในการพัฒนา ecosystem ของ Asha ให้มีแอพเยอะพอจะแข่งขันกับ Android ได้นั้นแพงมาก (แถมต่อให้มีเงินก็ใช่ว่าจะทำได้) สู้ยอมฉี่รดกางเกง ลงทุนพัฒนา UI ครอบ, ลงทุนทำ Nokia Store แต่สามารถเข้าถึง ecosystem ของ Android ที่มีแอพนับแสนได้จะดีกว่า
ในระยะกลางแล้ว ผมเชื่อว่า Nokia X จะค่อยๆ ดัน Asha จนหายไป (ส่วน Nokia รุ่นธรรมดาน่าจะยังอยู่ได้อีกนาน)
ส่วนในระยะยาว ในโลกอุดมคติ Lumia ควรจะมีราคาถูกลงเรื่อยๆ และมีแอพเยอะขึ้นเรื่อยๆ จน Nokia X ไม่จำเป็นต้องมีตัวตนอยู่ในระยะยาว แต่ในโลกความเป็นจริง สถานการณ์จะเป็นไปตามภาพฝันได้หรือไม่ คงขึ้นกับสองคู่หูไมโครซอฟท์/โนเกียแล้วล่ะครับ
ดังนั้นโดยสรุปแล้ว Nokia X ออกมาเป็นทางลัด/คั่นเวลา เพื่อให้ไมโครซอฟท์ใช้โอกาสนี้เสริมทัพ Windows Phone ให้เข้มแข็งกว่านี้นั่นเอง (จะทำได้สำเร็จตามที่หวังหรือเปล่าก็อีกเรื่องนึง) ถ้าอธิบายด้วยโมเดลเรื่อง devices/services ข้างต้น ก็ต้องบอกว่า Nokia X ช่วยตอบโจทย์ด้าน devices ของโนเกีย (ขายเครื่องได้) ในขณะเดียวกันก็พยายามช่วยโดยอ้อมให้คนเข้าถึงบริการของไมโครซอฟท์ได้มากขึ้น (แต่ไม่ใช่ประเด็นหลัก)
ส่วนในมุมของผู้บริโภค Nokia X จะน่าซื้อแค่ไหนคงขึ้นกับไลฟ์สไตล์ครับ ถ้าพึ่งพาบริการของกูเกิลเยอะก็คงไม่เหมาะนัก (มัน sideload ได้แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำเป็น) จุดขายเรื่องแอพ exclusive ของไมโครซอฟท์กับโนเกียคงต้องรอดู และต้องไม่ลืมว่า Android รุ่นปกติที่มี Google Mobile Services มันก็ถูกลงเรื่อยๆ เช่นกัน (แถมกูเกิลเริ่มบังคับทำ KitKat ซะด้วย)
อันนี้ง่ายมาก แทบไม่ต้องคิดเลยครับ จ่ายต้นทุนเพื่อพัฒนาแอพบน Android กันมาเยอะแล้ว การพอร์ตลง Nokia X ถือว่าจิ๊บจ๊อยมาก ผลประโยชน์ที่ได้คือตลาดที่กว้างขึ้น (ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีใครรู้ว่ากว้างขึ้นแค่ไหน แต่ต้นทุนในการพอร์ตมันน้อยมาก) แถมโนเกียก็เตรียมเครื่องมือไว้ให้เต็มที่ทั้ง in-app payment และ operator billing ที่เป็นจุดเด่น ถ้ามีแรงก็พอร์ตเถอะครับ
ประเด็นนี้เป็นเรื่องเดียวกับว่าเราควรเอาแอพ Android ไปขายใน Amazon Appstore หรือไม่ ถ้าไม่ยากเกินไปก็ควรทำทั้งหมดทุกสโตร์นั่นแหละ เพียงแต่ Amazon Appstore อาจยังไม่สนใจนักพัฒนาแถบบ้านเรานัก กรณีของ Nokia Store น่าจะต่างออกไปเพราะโนเกียมีฐานลูกค้าในบ้านเราไม่น้อย ใครที่หวังบุกไปชิงตลาด Nokia X ช่วงเปิดตัวก็ควรเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆ ครับ
Comments
กำลังอยากอ่านพอดี
ผมว่าเป็นการเดินเกมที่ฉลาดและหลักเหลม กินหมดทุกเซ็คชั่น ยิ่งถ้า x บูมจะต่อยอดไปสู่ xxx ระดับเพียวพิว ก็จะเป็นอะไรที่ปฏิวัติวงการได้ไม่ยาก
xxx เกรงว่าจะติดเรท 18+ นะครับ ^^
หลังจากซัมซุงเปิด s5 เสร็จก็ทราบทีันทีว่า งานปีนี้ โนเกียเป็นพระเอก
เห็นใน Flashfly ได้จับเครื่อง Nokia X ตัวเป็นๆแล้วนี่ครับ
คหสต.ผมว่าคนที่ใช้มือถือหรือแท็บเล็ตโดยที่ไม่มีบริการจากกูเกิลก็ยังมีนะครับ เผลอๆอาจจะขายดีกว่าด้วยซ้ำในบางประเทศอย่างเช่น Amazon ที่ทำ Kindle Fire ทั้งหลายแหล่ก็ขายดีแต่พ่วงบริการของตัวเองเข้าไปและตัดบริการของกูเกิลออก แต่สำหรับคนที่ติดบริการกูเกิลจนแยกขาดกันไม่ได้ก็คงจะต่อต้านกันพอสมควร (ในไทยไม่รู้ว่าจะบ่นกันรึเปล่าว่า Gmail ไม่มี Google Maps หายไปจะทำยังไง แต่ก็มีแอพอื่นทดแทนอยู่แล้ว) ผมว่าคงต้องรอดูไปสักระยะว่ากระแสตอบรับมันดี หรือถูกด่าหนักกว่าเดิมนะครับ
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
ถ้า here map ทำได้ดีเหมือน Lumia อาจจะลืม gmap เลยสำหรับผม
แต่ Here ไม่รองรับตั้งหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น หากจะเอาไปใช้จริงๆ ก็คงต้องหาแมพอื่นไปด้วย
Get ready to work from now on.
Sygic ไงครับ (เสียเงิน) ถ้าไม่ขายผ่าน Nokia Store ก็ผ่าน Amazon Appstore ครับ
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
มีแอพ TV Thailand มาด้วยแฮะ
รอบนี้ยอมรับว่าโนเกียมาแสบมาก เล่นขัดขากูเกิลยกรังเลย งานนี้สนุกแน่นอนครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
อยากบอกว่า ไม่มี play store ไม่มี youtube ไม่มี Google API เป็น Android version เก่า เสปคก็เฉยๆเหมือนชาวบ้าน กับการที่มี ms เป็นเจ้าของทำให้อนาคตไม่แน่นอน
เหลือแต่การขายแบรนด์ที่ยอดขายตกมานาน กับแผนที่ bb ทำมาแล้ว มันทำให้หมากตานี้สนุกใด้จริงเหรอ ?
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
+1
จากหลายๆ ข่าวที่ออกมาเหมือนว่าถ้าจะใส่ก็ต้องใส่ยกชุด + เงื่อนไขตามข่าวที่หลุดมานะครับ ไม่งั้นก็ต้องเลือกไม่เอาอะไรเลยแบบนี้
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ผมมองในแง่ดีว่า มันเป็นจุดเริ่มที่ดีในการแก้ไข การผูกขาด service ของ google ผมเล็งเฉพาะตรงส่วน market เป็นมันเป็นจุดหัวใจของรายได้ ส่วนตัวสนับสนุนแนวทางนี้ของ nokia
+1
ดีใจที่เลือกทำรุ่นราคาถูกออกมานะ ยังอยากให้ Nokia เน้นรุ่นท็อปด้วย Windows Phone ต่อไป
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
กลัวทำเป็นเรือธงมาเบียด iOS เหรอครับ (>_<)
เห็นด้วยครับ เพราะถ้า nokia ทำเรือธง android ออกมานี้ iphone คงมีหนาวๆๆร้อนๆๆกันละที่นี้
ที่หนาวๆร้อนๆน่าจะเป็น Samsung คู่แข่งตัวฉกาจมากกว่า ในอดีตโนเกียขายโทรศัพท์มากมายซึ่งทุกวันนี้ โดน Samsung ยึดตำแหน่งไป
คงต้องรอดูว่ายุทธศาสตร์ยืนสองขาแบบนี้จะทำให้โนเกียแข่งแกร่งขึ้นหรือเปล่า หรือว่าควรกลับไปเน้น Lumia กับ Asha ให้ดีขึ้น ยกเว้นว่าระยะยาวจะโยน Asha ทิ้งจริงๆ แต่การที่เอา Android มาใช้ในโทรศัพท์รุ่นราคาย่อมเยาน่าจะดี ติดแค่บริการของ google เท่านั้น ที่หลายคนขาดไม่ได้
วิเคราะห์ได้สนุกครับ แต่ขอแย้งนิดหนึ่งตรงที่บอกว่า "เอาแอพไปรันบนเน็ตก็จบ ตัวอย่างเช่น Office 365" เพราะ Office 365 มันไม่ได้รันบนเน็ตครับ มันต้องติดตั้งลงเครื่องอยู่ดี เพียงแต่เป็นการเช่าใช้ ไม่ใช่ซื้อขาดเหมือน Office 2013 ถ้ารันบนเน็ตกันจริงๆ ควรจะเป็น Office Online มากกว่า
Office 365 มีหลายแพคเกจ .. บางแพคเกจรวมสิทธิ์ใช้ desktop version มาด้วย ส่วนบางแพคเกจต่อให้อยากใช้แค่ไหนก้อหมดสิทธิ์เพราะไม่รวมมาให้ แต่ Office Online จะรวมมาให้ใน(เกือบ)ทุกแพคเกจ ซึ่งโดยหลักๆ แล้วเบื้องหลังคือ sharepoint นั่นเอง
ลองดู ตย. แพคเกจคร่าวๆ ฝั่ง business (ยังมีแพคเกจฝั่ง home/gov/edu etc. อีก) .. http://office.microsoft.com/en-us/business/compare-all-office-365-for-business-plans-FX104051403.aspx
ก็ใช่ไงครับ ผมถึงบอกว่าถ้าพูดถึงแอปหรือโปรแกรมตระกูล Office (จำพวก Word, Excel) ที่รันบนเว็บ มันควรหมายถึง Office Online ไม่ใช่ Office 365 เพราะ Office 365 ในแพ็กเกจที่มีโปรแกรมตระกูล Office ให้ใช้น่ะ มันรันบนเดสก์ท็อป ประเด็นอยู่ที่ว่าโปรแกรมตระกูล Office ในชุด Office 365 น่ะมันไม่ได้รันบนเว็บ ส่วนบริการ Office 365 มันจะมีแพ็กเกจแบบไหนอย่างไรบ้าง มีโปรแกรมบนเดสก์ท็อปให้ใช้หรือเปล่า มันคนละเรื่องกันครับ
จากข้อความ "เอาแอพไปรันบนเน็ต ก็จบ ตัวอย่างเช่น Office 365" ผมว่าเป็นการให้ความเห็นที่ไม่เกินเลยหรือบิดเบือนข้อเท็จจริงนะ เพราะการทำงานหลายๆ ส่วน ก็ทำงานบนเน็ตจริงๆ เพราะการบันทึก และเข้าถึงไฟล์ จะมีแอพเป็นเหมือน client ทำตัวเหมือน web browser จริงๆ
ครับ ผมก็ไม่ได้คิดว่านั่นเป็นข้อมูลที่ผิดพลาด เกินเลย หรือบิดเบือนแต่อย่างใด ผมแค่ให้ความเห็นท้วงติงในประเด็นเล็กๆ เท่านั้นเองครับ
สงสัยผมจะติดภาพเก่าของ Office 365 แล้วไม่เข้าใจว่าคนใหม่ๆ ส่วนมากเค้ามองภาพยังไง :?
ภาพเก่า = เอ่ยถึง Office 365 แล้วคือ Office Online .. ส่วนเดสก์ท็อปพึ่งพ่วงมาทีหลัง
รอให้มันเข้าไทยก่อนค่อยไปลองเล่นดู กว่าจะเข้าไทยก็คงมี cwm แล้วถึงตอนนั้นก็คงิติดตั้ง gapps ได้
แต่ถ้ามันไม่ใช้งานบริการที่ลูกค้าต้องการได้ ?
ไม่ได้แค์ => ไม่ได้แคร์
เสียดาษอยู่นิดนึงคือ น่าจะมีเครื่อง class กลางๆๆด้วยจอซัก 4.3 -4.7 นิ้ว 1280 * 720 Snapdragon 400 ram 1GฺB (ประมาณว่า มาท้าชนกะ moto G ) น่าจะแย่งชิงส่วนแบ่งเจ้าอื่นได้ชัดเจนไม่น้อยนะครับ
เจ้าอื่นที่ว่า มันจะกลายเป็น Lumia น่ะสิครับ :p
ก็อยากได้ ไส้เป็น android ไงครับ
ไม่มีบริการของ Google ก็ไม่ซื้อดีกว่าครับ ใช้ Lumia ก็อึดอัดใจที่ไม่มีแอพ Google มากแล้ว
ออกมาทดลองตลาดรึเปล่าครับ ?
ต้องลองดูว่ายอดขาย จะเป็นไง ผมว่าผมคนนึง ที่อยากลอง
ผมไม่ว่านะที่ไม่มีบริการของ Google แต่อย่างน้อยก็น่าจะมี Google Play บ้าง TT
Google Play Service นั่นมันตัวบริการหลักของ Google สำหรับ Android เลยนะครับ 555
ສະບາຍດີ :)
จริงๆก็น่าจะลงเพิ่มได้เป็นทางเลือก
แต่เราไม่ preload มาให้
ทำandroidแล้ว
ก็ช่วยกลับไปแก้intuneให้support androidด้วย
หืมม? iTune? Apple?
^
^
that's just my two cents.
www.windowsintune.com
:O
_/|\_
^
^
that's just my two cents.
จากที่วันนี้ไปลองเครื่องจริงที่ โนเกีย (ประเทศไทย)
- ตัว Tile สามารถทำงานแบบ Livetile ของ WP ได้ แต่คนเขียนแอพจะต้องทำ Widget ให้รองรับการแสดงผลแบบ Livetile และเอา Widget มาวางไว้ที่หน้าโฮม
- เครื่องเร็วตอบสนองในระดับที่น่าพอใจ กับสเปคและราคาไม่ถึง 5000 บาท ดีกว่า Android ในราคาประมาณนี้หลายตัวที่เคยจับมา
งั้นก็แสดงว่ารอบนี้โนเกียทำการบ้านมาดีสินะครับผม //แล้วถ้าวางจำหน่ายจริง จะมีภาษาไทยมั้ยนะ?
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
เห็นโดนด่าๆ ว่า เครื่องมันอืดชัดเจนนะครับ
คนที่เลือกประเภท มีน้อยไม่ว่า ขอให้มันลื่นๆ ไว้ก่อน
อย่างผมเนี่ย ถอยเลยอ่ะ 520 ยังดูไหลลื่นกว่าเยอะ
ถ้าการพิมพ์ Line ไม่ลำบากเหมือน Asha 501 ก็คงจะเป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อยนะครับ
ได้ยินว่าจะได้ app swiftkey ฟรีนะครับ
ในแง่ของการดึง developer มานั้น คงดึงได้มากขึ้น.. แต่ในแง่ของการดึง user มานั้น จะดึงได้ซักแค่ไหนนี่คงต้องลุ้นดูอีกซักพัก เพราะการใช้ codebase เปน AOSP นั้นมันจะล้าหลังพอควร ทำให้ใช้แอพรุ่นใหม่ๆ ไม่ได้ แถมพวกแอพที่เรียก google api นี่คงหมดสิทธิ์ใช้เช่นกัน แล้วงี้กลุ่ม user จะยอมมั้ย ?
ทว่าหากเทียบสาย asha กับสาย X แล้ว.. ไงการใช้ codebase สาย AOSP แทน asha นี่คงคุ้มกว่าเยอะ ใช้ คน/เวลา/งบ น้อยกว่า แต่ได้ผลลัพธมากขึ้นดีขึ้น ทั้งยังมีโอกาสเจาะฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ได้ดีกว่า ทำรายได้จาก services ได้มากกว่า การเปลี่ยน codebase แบบนี้ไงก้อน่าจะคุ้มกว่า ติดแค่ว่าสาย android ยังต้องการเครื่องสเปคสูง เลยทำเครื่องดีๆ ราคาถูกได้ยาก คงต้องรออีกซักพักก่อนจะลงไปทับสาย asha ได้หมด
Kitkat มา ทำเครื่องดีๆสเป๊คไม่สูงตอนนี้ไม่น่าจะเป็นปัญหาแล้วนะครับ ยิ่งกูเกิ้ลออกนโยบายบังคับให้ผู้ผลิตต้องใช้ถ้าจะเอา gapp ด้วยแล้ว
คงเห็นเครื่องราคาถูกคุณภาพดีพาเหรดออกมาในปีนี้พอสมควร
ในมุมมองของผมไม่เห็นว่า Nokia X นี่มันน่าใช้ตรงไหนเลยครับ ออกแนวครึ่งๆ กลางๆ สเปกก็ต่ำ ราคามันก็ไม่ถึงกับถูกมาก แบบนี้ขยับไปซื้อ Lumia 520/525 ยังดีกว่าอีก
ถ้าไม่ยึดติดกับยี่ห้อมากนัก Android ราคาประมาณนี้ที่ได้สเปกดีกว่า เวอร์ชัน Android ใหม่กว่าก็มีให้เลือกไม่น้อยครับ
แค์ => แคร์
สรุปคือเล่น Ingress ไม่ได้สินะ... งั้นคงผ่านละ
(T^T)
ผู้บริโภคหลายคนเลือก Android เพราะต้องการ Android ไม่ใช่ Android แปลงร่าง ที่พยายามทำตัวใหเป็น Android แต่เป็นไม่ได้ งั้นซื้อ Android จริงๆ ไม่ดีกว่าหรือ? ราคาเท่ากัน
หลายคนนี่หลายแค่ไหนครับ คนส่วนมากที่ไม่ใช่ในแวดวงไอทีหรือ geek หน่อยผมเห็นเค้าไม่สน Android นะครับ เค้าสน Brand และ feature ว่าทำอะไรได้บ้าง เค้าซื้อมือถือเพราะมันเป็น Samsung เป็น Nokia ไม่ใช่เพราะ Android
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
+1
+1
ยิ่งถ้าเป็นคนสูงอายุหน่อยนะ
"HTC อะไรอะไม่รู้จัก ไม่เอาหรอก" "Samsung ของเกาหลีไม่เอา" "Sony แพง ไม่ได้ใช้เยอะขนาดนั้น (ยังไม่ได้ดูราคาเลย)"
"Nokia สิ เค้าดังเรื่องมือถือ เอา Nokia นี่แหละ"
ปล. เหตุเกิดเมื่อปลายปีที่แล้ว
แต่ วัยก่อน สูงอายุ พวกๆ น้าๆ ป้า พี่ๆ เค้า หาแต่ซัมซุงนะคับ
พอ เสนอ lumia เค้า สายหน้า บอก ซัมซุงดีกว่า
ตรงข้ามกับที่บ้านผมเลย อาๆ น้าๆ ในบ้านจะเอาแต่ Samsung
แต่โนเกียก็ตายเพราะเป็นโนเกีย ถ้าเค้าสนแค่แบรนด์จริง ทำไมไม่ใช้ WP ต่อครับ? เพราะฟีเจอร์มันก็ไปต่อได้
ใช้ WP แล้วทำราคาเท่า Android ไม่ได้ไงครับ :p
UI ออกแบบมาคล้าย WP นี่เพื่อให้การ switch ไป WP ทำได้ง่ายขึ้นด้วย แต่อาจจะเจอปัญหาเรื่องแอพ ทำไมรุ่นล่างเล่นเกมบางเกมได้ แต่รุ่นกลาง รุ่นท็อปไม่มีเกมนั้น
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
คนที่หนาวที่สุด ณ ตอนนี้คงไม่ใช่ Google หรอกครับ แต่เป็น Samsung ต่างหาก เพราะตลาดกลาง ๆ นี่พี่ซัมกินเรียบ (ถูกกว่านี้ก็มือถือจีน) การมาของโนเกียครั้งนี้ทำให้ตลาดตรงกลางของ Samsung สะเทือนได้ เพราะผู้บริโภคที่ซื้อมือถือระดับบนี้ย่อมไม่ใช่ Power User เป็นส่วนใหญ่ แค่ใช้ได้เป็นพอ และมันดันใช้ดี มีแอพทัดเทียมคนอื่น แถมได้ยี่ห้อโนเกีย ยี่ห้อในดวงใจใครหลาย ๆ คนมาก่อนด้วย และถ้ารูปลักษณ์มันไม่เกร่อเหมือน Samsung ก็น่าสนใจนะ
//Android 4.1.x + เรียก Google APIs ไม่ได้ + ไม่มี Google Play ลาก่อนครับ หา Nexus เก่า ๆ มาลง CM ใช้สบายใจกว่า
เรื่องสำคัญอีกส่วนคือ จะเรียก moto x ว่าเป็น android หรือไช้ logo หุ่นเขียวไม่ใด้
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
moto x หรือ Nokia X ครับ?
เอา Google ออกทั้งหมด ทำให้เครื่องเบา แรม 512 รันได้ชิลๆ เลยซินะเนี่ย
เอา Google Services ออกก็จริง แต่เห็นว่าเค้าจะเอา หรืออาจจะยัดบริการของไมโครซอฟท์ ที่มีพวกแอพ Skype, OneDrive, Bing, Office 365 และ Xbox Live กับบริการของโนเกียอย่าง HERE Map กับ MixRadio มาใส่แทน ผู้ใช้ก็ยังหวังว่า น่าจะรันได้ชิลๆ อยู่รึป่าว อันนี้ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ^^
จากการใช้งาน Lumia 720 ram 512 เหมือนกันก็ใช้งานได้ชิลๆ น่ะครับ :)
(ตรงนี้น่าสนใจว่า โนเกียพยายามชูจุดเด่นเป็นบริการของไมโครซอฟท์ (ที่มีแอพบน Android อยู่เกือบหมดแล้ว ทั้ง Skype, OneDrive, Outlook.com ถือว่าไม่มีจุดต่างจาก Android ปกติ) กับบริการของโนเกีย (ที่ยังไม่มีบน Android และอาจใช้เป็นจุดขายได้ แต่ที่โฆษณาบนเวทีก็มีแค่ HERE กับ MixRadio สองตัวเท่านั้นเอง)
วงเล็บปิดที่ึคู่กับวงเล็บเปิดก่อนหน้า "ตรงนี้" หายไปครับ
กลุ่มลูกค้าที่เป็นตลาดประเทศกำลังพัฒนา อาจจะตอบรับดี
แต่ Android ราคาเท่าๆกัน จะได้ Spec ที่ดีกว่า
คงต้องรอลุ้น
ไม่รู้คนใช้ Lumia จะอิจฉา NokiaX หรือ คนใช้ NokiaX จะอิจฉา Lumia ดี
เปิดตัวเสร็จปุ๊บ เพื่อนมันถ่าย Nokia x ลงเฟส สะดุ้งกันเลยทีเดียว
แอนดรอย ที่ไม่มี google app
แต่มี Metro
ในความเห็นผม =ฝันร้ายชัดๆ
ผมว่าที่เห็นๆ นั่นเรียกว่า metro ไม่ได้นะครับ - -" แค่ live tiles
เรียก metro ไม่ได้ครับ เดี๋ยว MS เจอฟ้อง #ตึง
Achievement Unlocked: Being a Blognone's Writer
ไมโครซอฟท์ก็เรียกไม่ได้ครับ โดนฟ้องไปแล้ว :p
งั้นเรียกเป็น Retro ละกัน
สำหรับผม ถ้ามันป็นแนว MonoChrome Big Icon แบบนี้
ยากที่จะนึกถึงคำอื่นนอกจาก Metro
ผมว่าคนที่ใช้ในเกียอยู่และลูกค้าใหม่ที่ไม่ได้ใช้ android หรือแม้กระทั้งลูกค้า android ระดับกลาง - ล่างเดิม ก็คงไม่ได้มีปัญหาอะไรกับ google service ผมคนนึงอ่ะ อยากซื้อ android ของ Nokia มาใช้ดูและไม่ต้องการ google service น่าใจอยู่ไม่น้อย :)
กางเกงเปียกในหน้าหนาวแล้วจ้าาาา
มันลง youtube ได้ทีหลังหรือเปล่าครับ
แรกคงมีคำถามเยอะแหละ ว่า แอพเยอะมั้ย เกมส์เยอะมั้ย
สุดท้าย ถ้า social ครบ youtube ได้ ก็ ขายได้แล้วครับ
ก้าวต่อไป คือ ทำยังไง ให้พนักงาน แนะนำสินค้า ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
อาจจะต่อยอด ไปถึง รุ่นสูง ชูฟีเจอร์ ให้มันชัดๆ ไม่ต้องไปเทียบกัดกับ คนอื่นมาก
การกลับมาของ nokia ก็ น่าจะมีทางอยู่
sideload ได้ รองรับ 3rd party store ครับ
แต่ 3rd นี่จะเสียบ Google Play ลงไปได้รึเปล่าสงสัยต้องคอยดู :p
youtube ถ้าไม่มี app ก็ยังเปิดผ่านเว็บได้ครับ อาจจะไม่สะดวกมากแต่ก็ไม่ลำบากมากมาย และน่าจะมีพวก 3rd party ให้โหลดได้
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
3rd party ถ้าไปฝากไว้กับ nokia store สามารถโดนขอให้เอาออกใด้ แบบเดียวกับบน wp แหละครับ ส่วน sideload ก็อาจไปไล่ฟ้องเอากับผู้ที่ host file เอา
อีกนิดคือ Google สามารถเปลี่ยน License ของ Android จาก Free เป็น pay เมื่อไร่ก็ใด้ (โดยอาจลด 100% สำหรับค่ายที่ยอมทำตามกติกาของ Google ในฐานะ bloatware) ชึ่งจะทำให้ nokia x ต้องจ่ายเงินให้ Google หรือ ยอมเอา ecosystem ของ ms ออก หรือ ปิดโปรเจ็คไปเลยก็ใด้
ผมเชื่อว่า Google รู้วิชามารเหล่านี้ แต่ไม่พร้อมที่จะ evil เลยยังไม่ไช้ แต่ถ้าโดนบีบแบบนี้การหยิบมาไช้ด้วยความจำเป็น หลายคนไม่ถือว่า evil หรอก
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ชักอยากเหนโพล.. ว่าคนจะคิดว่าทำแล้วถือว่า evil หรือไม่ ?
เดาเอาก็ใด้คนส่วนใหญ่บอกว่า evil แน่นอน เพราะรู้สึกว่าเสียผลประโยชน์
โดยลืมไปว่า google ลงทุนไปแล้ว ต้องการกำไรตอบแทน android ถึงจะแจกฟรีแต่มีค่าไช้จ่ายในการสร้าง รุ่นถัดไป
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ถึงพี่กูเกิ้ลไม่ทำหุ่นต่ออาจมีเดฟหลายสำนักรอสอยไปอัพใหม่ให้ไฉไลกว่าเดิมก็ไม่แน่ครับ อย่าลืมว่าทุกบริษัทก็ต้องทำเพื่อผลประโยชน์ของบริษัทนั้น ๆ ไม่ใช่ทำเพื่อบริษัทอื่นหรือแม้แต่ลูกค้า
ใครว่า nokia จะขายไม่ออกคงต้องคิดใหม่
เพื่อช่องว่างตรงนี้ ตอนที่ galaxyไก่กา เครื่องหน่วยๆ androidเก่าๆ ก็ยังมีคนซื้อ
เพราะอย่างน้อยคือtouch screenแล้วการใช้งานไม่ได้ยุ่งยาก ช่องว่างนี้nokiaไม่มีอะไรมาอุด
ออกXมาอุดเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้วหละ แต่ว่ามาช้า ซึ่งไม่รู้ว่าจะทำได้ดีมั๊ย อาจจะดีก็ได้เหมือน520ที่ฮิตกัน
เครื่องรุ่นระดับนี้แทบไม่มีใครสนใจเรื่องupdateอะไรเลย บางคนเอามาโทรอย่างเดียวด้วยซ้ำเพราะจอใหญ่กว่าAshaก็เลยติดตลาดง่ายด้วย
ลูกค้าเดิมของnokiaคือgenเก่าแล้ว วัยนี้ก็เริ่มหาจอใหญ่เพราะมองจอเล็กไม่ไหวแล้ว มันก็ประจวบเหมาะกันพอดี
มานึกๆตั้งนานทำไมต้อง X? X อาจหมายถึงพวกกลายพันธุ์แบบ X-Men #คิดไปเอง
ขอบคุณสำหรับบทวิเคราะห์เจ๋งๆครับ
ส่วนตัวคงผ่าน เพราะเป็นสาวกน้องด๋อย+อากู๋ แล้วก็ไม่ได้เป็นแฟนโนเกียด้วย ^^
..: เรื่อยไป
เธอเกิดมาเพื่อฆ่า Asha
รักนะคะคนดีของฉัน
ไม่รู้เป็นอะไร อยู่ๆ ก็คิดถึง Symbian ♥
Custom Rom?
@zumokik
มีวิดีโอสรุปภายในสองนาทีออกมาด้วยนะครับ .....
Achievement Unlocked: Being a Blognone's Writer
ตัดมาแบบนี้ยิ่งตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นม้าโทรจันของ Elop หนักเข้าไปใหญ่ (ฮา)
ยังไม่โดนอยู่ดี เพราะยังไงก็อยากได้ สเปก Lumia ใส้ Android
Blog นี้เขียนวิเคราะห์ได้ดีเหมือนกันครับ เกี่ยวกับ Nokia X
เปิดโลก Nokia X ภาค Developer (เกือบ)ทุกเรื่องที่นักพัฒนาควรรู้
งานนี้โนเกียแสบกำลังสามเลยแหะ แทบจะลอก api ของ google android มา.. หาก google โวย จะย้อนไปเข้าเคสที่ google ฟัดกับ oracle กรณี java อีก
มาเต็มจริงๆ ทำการบ้านมาดีมาก แทนแค่เนมสเปส ชื่อเมธอดคงเหมือนๆกันอีก เหอๆ
ออกมาแบบนี้ เหมือนโยนหินถามทาง มากกว่า