Respawn Entertainment ผู้สร้างเกม Titanfall ให้ข้อมูลว่าเกมเวอร์ชันพีซีจะมีขนาดไฟล์ใหญ่ถึง 49GB (เวอร์ชัน Xbox One มีขนาดเพียง 17GB)
เหตุผลเป็นเพราะเกมเวอร์ชันพีซีจะมีไฟล์เสียงที่ไม่ถูกบีบอัดใดๆ (uncompressed audio) ซึ่งกินพื้นที่ถึง 35GB มาด้วย ทีมงาน Respawn ให้ข้อมูลว่าพยายามออกแบบเกมให้เครื่องสเปกต่ำที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ดังนั้นจึงไม่ต้องการแบ่งพลังของซีพียูมาประมวลผลไฟล์เสียง และเลือกใช้ไฟล์เสียงแบบไม่บีบอัดที่มีขนาดใหญ่หน่อย แต่กินแรงเครื่องน้อยลง (ส่วน Xbox One มีฮาร์ดแวร์สำหรับถอดรหัสสัญญาณเสียงอยู่แล้ว)
สเปกขั้นต่ำของ Titanfall คือ Athlon X2 2.8GHz หรือ Core 2 Duo 2.4GHz, แรม 4GB, การ์ดจอ Radeon HD4770 หรือ GeForce 8800GT แรม 512MB
ที่มา - Eurogamer
Comments
512 หรือเปล่าครับ
ไฟล์เสียง 35GB (O_o)
พี่ไม่เผื่อคนเครื่องแรงเหลือเฟือบ้างเหรอครับ :p
เครื่องแรง ก็น่าจะมีที่เหลือเยอะนะครับ 5555
แบบว่า ใช้ SSD 128 GB เหมาตั้งแต่ OS ยันเกมไงครับ
ใช่เลยครับ
เกือบกดไปแล้ว เหลืออยู่ 32gb T^T
ของผม ssd 240 ครัช เหลือร้อยนิดๆ
คุณพระ...
ไฟล์เสียงแบบไม่บีบอัดมันเหมือนกับพวกไฟล์เพลง lossless รึเปล่าอะ
หนักกว่านั้นอีกครับ lossless นี่มีการบีบอัดแต่ไม่เกิดความสูญเสียข้อมูล (ต่างกับ lossy ที่เกิดความสูญเสีย)
ส่วนอันนี้เป็น uncompressed audio คือไม่บีบเลยซักกะติ๊ด PCM มายังไงยัดลงไฟล์แบบนั้นเลย
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
นึกถึงไฟล์เสียง .FLC เลยอ่ะ
เคยได้เพลงนามสกุลนี้มา
เพลงแค่ 4 นาทีกว่าๆ ซัดไปเป็นร้อยเมก
ประมาณไฟล์ wav ของวินโดวส์ 3.1
อกอีแป้นจะแตก....
ฮาร์ทดิสไม่พอ ฉันจะเล่นได้อย่างไร
คุณพระช่วย กินพื้นที่มากๆ o_O
บ้าแล้ว...จะเอา hdd ที่ไหนเก็บ
คงต้องซื้อหูฟังเทพมาใช้แล้วละแบบนี้
แหม่ ผมว่าอัพฮาร์ดดิสก์ดีกว่าอัพแรมซีพียูและการ์ดจอซะอีกนะ
+1
สงสัยต้องติดตั้งเครื่องเสียงระบบ Stereo multiplex 5.1 มาติดตั้งเลยไหมเนี่ย
อลังการมาก
(กรีดร้อง)
ฮาร์ดดิสก์ลูกนึงมันราคาต่ำกว่าการ์ดจอดีๆเยอะนะ
แหม่ เกมแต่ 50GB ทำบ่น ที่ไม่พอก็ลบหนังชมพูออกบ้างก็ได้มั้งครับ กินที่ไปกี่ร้อย GB แล้วล่ะ ไหนจะมีใน HDD อีกหลายลูกที่ดั้มเก็บไว้อีกล่ะ ... #เดียวนะ
เขานับกันเป็นTBแล้วนะครับเดี๋ยวนี้
เหมือนพูดเล่น แต่เรื่องจริง
+1 อย่านำความจริงมาเปิดประเด็น หีหี
กัน Edit ^^
สระอี กับ สระอึ มันอยู่ใกล้กัน ^^
^
^
that's just my two cents.
โดนกันเป็นแถวๆ
ใหญ่ไม่ว่า แต่นี่เล่นไม่ได้
เคืองโคตร
สงสัยต้องถอย SSD 512GB แทน ><
ลบเสียงแบ็คกราวออก เอาแต่เสียงเอฟเฟค
ไม่ทำเวอร์ชั่น คอมสเปคสูงมาด้วยละเพื่อจากจะได้ยัดลงSSD ได้
คอมสเปคสูง => SSD 128 GB x 4 RAID0 (- -)d
sound card คอมทั่วๆ ไปไม่ช่วยประมวลผลหรอเนี่ย
ไฟล์ใหญ่มากๆ เวลาอ่านไฟล์ใหญ่ๆ แย่ง read harddisk กับตัวเกมด้วยเปล่าหว่า
ผมว่าเขาคงไม่อยากให้ CPU ไปคลายการบีบอัดก่อนประมวลผลเสียงด้วย Sound Card นะครับ
แต่ทางทีมพัฒนาเกมอ้างแบบนี้ผมดูว่าไม่ค่อยสมเหตุผลทางการตลาดเท่าไหร่
1. ถึงจะกินการประมวลผล CPU แต่เกม FPS เน้นไปที่ GPU เป็นหลัก (ถึง CPU มันก็คงสำคัญแต่อย่างไงก็เน้น GPU)มันก็ดูพอมีเหตุผลแต่ไม่น่าจะต้องถึงขั้นไม่บีบอัดเสียง
2. ถึงเสียง Effect จะเพิ่มความสนุกเป็นอย่างมาก แต่ระหว่างบีบอัดกับไม่บีบอัดนี่ ส่งผลกับคุณภาพเสียงหรือไม่ และถ้าส่งผลมันสำคัญขนาดนั้นเลยหรือ
3. ผู้เล่นที่เล่น FPS สมัยนี้ส่วนใหญ่ ถ้ามี GPU ที่ทำให้เล่น FPS ได้สนุก (ไม่ต้องถึงกับเปิดได้ Effect สุด ๆ โดยที่เกมราบลื่นสุด ๆ หรอก) จะมี CPU ระดับไหน จำเป็นต้องตั้งเงื่อนไขนี้เพื่อให้ CPU ระดับ Duo Core ตัวที่จัดได้ว่าตกรุ่นไปนานหรือไม่
แต่ถ้าอ้างว่า HDD เดี๋ยวนี้ความจุสูงราคาไม่แพงเหมือนสมัยก่อนโน้นแล้วนะ ก็พอจะเถียงได้อยู่บ้างหรอก
เพจตัวอย่างผลงานถ่ายภาพ / วีดีโอ
เท่าที่รู้มา API อย่าง XAudio บน Windows ไม่รองรองการใช้ Compressed Audio ครับ API ส่วนใหญ่เองก็ไม่รองรับเหมือนกัน แต่ว่าเกมส่วนใหญ่จะทำการ Compress ไฟล์มา และจะ Decompress ไฟล์เสียงที่จำเป็นระหว่างการโหลดไฟล์เสียงเข้าหน่วยความจำ
แต่ถึงจะใช้ไฟล์แบบ compressed มาก็จะมีปัญหาอีกอย่าง ก็คือ latency ผมไม่แน่ใจว่าบน Windows 7 ขึ้นไปทำ latency ได้เท่าไหร่ (ส่วนบน Windows XP นี่ 300) การเล่นไฟล์เสียงที่เป็น compressed เนี่ยจะต้องใช้เวลาส่วนหนึ่งในการ decompress ไฟล์ก่อนที่จะเล่น ทำให้เสียเวลามากขึ้นไปอีก ส่วนตัวผมพบว่า latency ที่คนรู้สึกได้นี่ก็ราว ๆ 13ms หรือประมาณ 1 เฟรมที่ 60fps (ซึ่งก็ตรงกับการประมวลผลอินพุตในแต่ละเฟรม ที่จะใช้เวลาประมาณนี้ก่อนแสดงผลเช่นกัน)
คือพอ latency สูง ๆ แล้วจะเกิดปัญหาประเภท ยังไม่ทันได้ยินเสียงเลย แต่เราตายก่อนละ (ยังกับปืนไรเฟิล) อะไรแบบนี้ล่ะครับ
ทั้งนี้ผมเข้าใจว่าถ้ามี HW Decompressor อย่างบน XBox ที่มีตัวถอด XMA อยู่นี่ latency น่าจะต่ำถึงต่ำมากเลยล่ะครับ
+1 ตามคุณ mr_tawan พูดเลยครับ เพราะอย่างนี้แหละ Creative เลย ชอบออก Soundcard สำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะ เพราะจากประสบการณ์คนเล่นเกมที่เคยไปทำวิจัยกันมาตามนักเล่นเกมมืออาชีพ (แน่นอนว่า ไม่ได้ทำวิจัยกับคนไทย #ช่างมันเถอะ) เขาบอกว่า เสียงก็มีผลกับการเล่นเกมด้วย โดยส่วนใหญ่จะฟังเสียงรอยเท้า หรือเสียงสภาพแวดล้อม เป็นต้น เพื่อตัดสินใจว่าจะดำเนินการเล่นต่อไปอย่างไร (ผมหมายถึง ถ้าผมได้ยินเสียงรอยเท้าตามหลังมา ผมอาจจะหันหลังไปยิงตอบโต้ หรือคุยกับเพื่อนร่วมเกมเพื่อขอความช่วยเหลือ เป็นต้น) ดังนั้นกล่าวคือ เสียงก็มีผลต่อการเล่นเกมด้วย ดังนั้น หาก latency สูง มันก็จะส่งผลต่อรูปเกมของผู้เล่นว่าจะแพ้หรือชนะ....
ป.ล. ที่ว่า latency สูง นี่เพราะ GoldSrc Engine หรือป่าวครับ?? หึหึ
ป.ล.2 ตัวเอนจิ้นโมไปเยอะพอสมควรนะครับ ภาพจาก Counter-Strike:GO มาเป็น Titanfall ได้ทีมก็สุดยอดแล้วครับ
เรื่อง latency นี่ผมดูจากโปรแกรมพวก Cakewalk Sonar ที่ปรับไปใช้ DirectSound API ได้ครับ บน XP ถ้าใช้ DirectSound นี่ซาวนด์การ์ดเทพขนาดไหนก็ทำ Latency ได้สูงกว่า 150 แทบทั้งนั้น และเฉลี่ยอยู่ราว ๆ 300 ถ้าปรับต่ำกว่านี้เสียงจะกระตุกค่อนข้างแน่นอนครับ พอปรับไปใช้ ASIO (เป็น API ด้านเสียงสำหรับมืออาชีพ ต้องใช้ HW เฉพาะที่รองรับ) นี่ปรับได้ถึง 0ms เลยทีเดียว แน่นอนว่าขึ้นอยู่กับระบบด้วยว่าแรงพอหรือเปล่า
เคยลองบน Windows 7 สองทีแล้วพบว่าปรับ buffer ให้เล็กลง (=latency ต่ำลง) ได้โดยที่ไม่กระตุก แต่จำไม่ได้ว่าตอนนั้นปรับไว้ต่ำแค่ไหน
เวลาผมเล่นเกมผมก็ฟังเสียงช่วยเยอะครับ โดยเฉพาะ FPS เนี่ย เพราะว่าเราจะรับรู้ได้ไกลกว่าที่ตาเห็น (อย่างน้อยเราก็ไม่เห็นด้านหลังล่ะ) เวลาได้ยินศัตรูเดินมาก็รู้ละว่ามีอะไรเข้ามาใกล้ ๆ แม้ว่าเขาอาจจะมาจากด้านหลังหรือมีวัตถุบังอยู่ก็ตาม
ได้ยินว่ามืออาชีพบางคนใช้หูฟังรุ่นเดียวกันตลอด (เป็น USB) เพื่ออาศัยความเคยชินกับเสียงที่ได้ยินประจำด้วยนะครับ เพราะว่าหูฟังแต่ละรุ่นก็จะให้มิติเสียงและความชัดเจนในการแยกแยะเสียงต่างกันออกไป ส่วนตัวผม (ที่ไม่ใช่เกมเมอร์อาชีพ) ใช้ AKG K77 Studio Monitor เวลาเล่นเกมครับ เพราะมันต่อไว้อยู่แล้ว 555
ระวัง!!!การเอา K77 ไปเล่นเกม แพ้กระจุย 555 มันย่องมายิงข้างหลังก็ยังไม่รู้ตัวเพราะมันไม่ได้อารมณ์แบบสามมิติเท่าไหร่ ถ้าเทียบกับ sennheiser ที่เล่นแล้วได้ยินมันมาแต่ไกล กลายเป็นระแวงหมุนมันรอบเลย 555+
Philips Fidelio X1 เล่นเกมส์เหมาะมั้ยครับ
เคยได้ยินคนว่ามาอย่างนี้เหมือนกัน มีคนรู้จักเคยไปเล่นเกม counter ที่เมืองจีน เค้าใส่หูฟังกันหมดเพื่อฟังเสียงรอบข้าง เช่น เสียงวิ่ง คนในร้านที่เล่นเค้าจะไม่ค่อยวิ่งกันจะเดินอย่างเดียวเพราะถ้าวิ่งแล้วจะได้ยิน
ไอ้เราก็ไม่เคยสังเกตขนาดนั้น อาจจะเพราะไม่เคยใส่หูฟังเล่นด้วยเลยฟังไม่ออกว่ามันมีเสียงละเอียดอะไรขนาดนั้น
ซึ่งถ้า latency สูงตำแหน่งเสียงที่ได้ยินกับตำแหน่งจริงๆ มันก็ไม่ตรงกัน มันก็อาจจะทำให้กะระยะพลาดเหมือนกัน หรือว่าจะได้ยินเสียงอีกฝ่ายก็เข้ามาใกล้แล้ว
ไม่ต้องไปไกลหรอกครับ ในไทย counter ถ้าพวกระดับโปรๆ ก็ใส่หูฟังกันนะ ระดับไม่โปรเสียงเท้าก็ช่วยได้มากแล้วว่ามีคนกำลังมา ถ้าโปรๆ ใช้หูฟังดีๆ แทบจะรู้ตำแหน่ง
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
เมื่อก่อนผมก็ไม่คิด แต่พอไปเล่นระดับสูง ๆ ขึ้นจะรู้เลยว่าเสียงสำคัญมาก จะโดนยิงตาย/ไม่ตาย ก็เพราะแบบนี้ (ซึ่งยังไม่นับฝีมือการยิง)
มีเพื่อนผมคนหนึ่งมันแยกแยะเสียงได้ดีมาก (แน่นอนว่าหูฟังมันก็ดี Gaming Gear จัดเต็ม) ยิงถูกทิศตลอด โดนหาว่าแฮคอยู่บ่อย ๆ แต่ผมดูมันเล่นตลอด ก็เลยรู้ว่าเสียงนี่สำคัญ แม้กระทั่งตอนเปลี่ยนแม็กครับ เสียงนี่มาเลย ปืนไหนพอเดาได้
sound card ช่วยเรื่องการทำ 3D positioning บ้าง ครับ
แต่ในปัจจุบันกระบวนการทั้งหมดทำบน CPU เพราะคนที่มีซาวนด์การ์ดเองก็มีอยู่ไม่มากเท่าไหร่ :-/
เมื่อก่อนแทบจนถึงเดี๋ยวนี้จะไม่ เพราะเขาเรียกผ่าน DirectX.DirectSound ครับ ประมวลผลที่ CPU ล้วนๆ ยังไม่มี Sound Card API มาให้
แต่ตอนนี้มีเจ้านี่ อนาคตของนักพัฒนาเกมแผนกซาวน์เลยยิ้มได้ครับ
ที่จริงตอนผมยังเป็นคนทำเกมอยู่ ก็ทำงานส่วนของแผนกซาวนด์นี่ล่ะครับ ก็เลยค่อนข้างสนใจเรื่องนี้มากเป็นพิเศษ เพราะเป็นส่วนที่คนมักจะมองข้าม (อ้าว) 555
ทำสองแบบแล้วให้เลือกตอน install เซ่
ดี = =" Alien HDD เต็มแน่
พอลองเล่นละรู้สึกว่าเปลืองเนื้อที่แบบงี่เง่ามาก
เพราะภาพก็ไม่ได้สวยเล้ย
แต่ละคน คุณพระ ทำเป็น บ่น ทีหนังที่เป็นสีๆอะเก็บเอาเก็บเอา
พอเห็น spec แล้ว นึกว่าเกมออกปี 2009
ไม่เป็นไร เดี๋ยวจะยกพื้นที่ hdd ธรรมดาให้
ทีหนัง pro เก็บเอาๆไม่บ่นสักคำนะคร้าบบบบบบบ
SSD ไม่พอ
เคยเห็นแต่ ทีม rip movie เพื่อให้ขนาดเกมลดลง
งานนี้อาจมี rip เสียงแทนกันละครับ
ไม่พอครับ ...... เงินไม่พอซื้อ T _ T
ลบ Windows ออกแล้วลงเกมแทนครับ
Jusci - Google Plus - Twitter
เป็นความคิดที่ดีครับ
โอ้ พระมาโปรดโดยแท้ ซื้อ Deluxe ได้อย่างน้อยก็ 2 กล่อง
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
น้ำหมากจะไหล เอาเก้าอี้มั้ยคะ
นึกว่าเป็นแผนป้องกันของเถื่อนซะอีก!!!
เท่าที่ทราบ หลาย ๆ เกมก็ใช้ไฟล์ที่ compress มาแต่ว่าจะ decompress ระหว่าง load (ไอ้ที่เรียกว่า นาวโหลดดิ้ง)
Titanfiles !
น่าจะบอกบ้างนะว่า 35 GB นะทุกภาษา ที่ มีใน Titanfall
มีเสียงภาษาไทยด้วยสินะครับ #มีที่ไหนเล่า
แต่ผมว่าทางผู้พัฒนาก็ต้องมองคนส่วนมากที่เล่นเกมสเป็คไม่สูง จึงต้องทำแบบนี้ออกมา ตอนทดสอบ Beta ก็ได้ผลที่น่าพอใจคือไม่หน่วงครับ แต่ต้องแลกกับการที่ต้องเสียเนื้อที่เยอะมาก ตอนนี้ผมรอเก็บเงินสอยตัวเต็ม + Season Pass อยู่
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
ผมรอเก็บกล่อง 5555+ ตังไม่ถึง สงสัยเดี๋ยวคงมี repack เสียง #ฮา
กล่องก็อยากเก็บนะครับ แต่ก็ไม่มีที่ให้วางแล้ว อุดมไปด้วยดีวีดีคาราโอเกะเพลงไทย (GMM) เต็มไปหมด เลยต้องจัดแบบ Digital แทนครับ
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
แสดงว่ามีเสียง อือ อา ซี๊ด ซ๊าด มาแน่นอน เพื่อความสมจริง :D ภาคต่อไปก็มีเสียงฝุ่นกระทบถึงพื้น
ปล.โดนเตะ ^^
นัวๆ ภาพไวๆ เฟรมก็ดรอปเหมือนกันนะ แต่ก็ดีแล้ว ไม่งั้นอาจจะกินหนักกว่านี้
พื้นที่ hdd ไม่ค่อยเป็นปัญหาเท่าไร เพราะปกติ reserve ไว้สำหรับ... oh wait...
ต้องไปเล่น US ตลอด ต่อกับเอเชียไม่ได้สักเซิฟเลย
ดีครับ ดี Drive C ผมยังเหลืออยู่ 100 GB กว่าๆ อิอิ
ก็ว่าตอน Install ทำไมมันเขียนว่า Audio Install
@TonsTweetings
ใหญ่เกินไปครับ เหตุผลงี่เง่ามาก ขยายข้อมูลที่บีบอัดมันจะใช้เวลานานกว่าอ่านข้อมูลเต็มจากฮาร์ดดิสก์ซักแค่ไหนกัน เหตุผลที่แท้จริงน่าจะเป็นเพราะทีมงานมักง่ายมากกว่า และเสียงไม่จำเป็นต้องเยอะขนาดนั้นก็ได้
แต่เรื่องพวกนี้สำหรับเกมเมอร์มีผลน่ะครับ
คิดว่าการเลือกใช้แบบไม่บีบอัดมันง่ายกว่าใช้แบบบีบอัดขนาดนั้นเชียวหรือครับ ทั้งๆ ที่บน Xbox One ก็มีไฟล์เสียงแบบบีบอัดอยู่แล้วด้วย
50GBแลกกับทำให้คอมเก่าๆผมลื่นก็โอเคนะ ยืดเวลาupgradeไปอีกนิด
ดูสเปคขั้นต่ำแล้ว ผ่าน แต่คงปรับ low ทั้งหมดกระมัง
low แล้วมองคนที่หายตัวอยู่ได้ยากมากๆเลย
เห็นใจคนเน็ตช้าหน่อยก็ดีนะ t_t
ทำไมถึงชอบเก็บหนังชมพูกันครับ ผมดูรอบสองรอบเบื่อก็ลบแล้ว จะเก็บแต่อันที่ลบไม่ลง