หนังสือพิมพ์ The Washington Post อ้างเอกสารที่หลุดจาก Edward Snowden และบุคคลที่เกี่ยวข้องโดยตรงว่า NSA มีขีดความสามารถที่จะดักฟังโทรศัพท์ทั้งประเทศของประเทศใดประเทศหนึ่งได้ 100% แล้ว โดยสามารถบันทึกเสียงสนทนาผ่านโปรแกรม MYSTIC เพื่อนำกลับมาวิเคราะห์ภายหลังได้นานถึง 30 วัน
MYSTIC ถูกใช้งานครั้งแรกเมื่อปี 2009 ต่อมาโครงการและเครื่องมือที่เกี่ยวเนื่องกับ MYSTIC ถูกพัฒนาจนใช้งานได้อย่างเต็มรูปแบบในอีก 2 ปีถัดมา NSA ได้ติดตั้ง MYSTIC เพื่อดักฟังโทรศัพท์ทั้งประเทศแล้วอย่างน้อยประเทศหนึ่ง (The Washington Post ระบุว่าตามที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลร้องขอ ทางหนังสือพิมพ์จะไม่เปิดเผยข้อมูลใดก็ตามที่นำไปสู่การระบุประเทศที่ตกอยู่ภายใต้การดักฟังนี้) และปีที่แล้วได้พิจารณาติดตั้งในอีก 5 ประเทศ คาดว่าประเทศล่าสุดที่ NSA ติดตั้ง MYSTIC เพื่อดักฟังน่าจะเสร็จสิ้นเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว (The Washington Post กล่าวว่านักวิเคราะห์สามารถฟังเสียงเหล่านี้ได้เพียง 1% เท่านั้น)
The Washington Post ยังระบุว่า หน่วยงานรัฐอื่นของสหรัฐฯ สามารถเข้าถึง MYSTIC ได้ ซึ่งจะมีประโยชน์มากเมื่อต้องการสืบค้นเบอร์ต้องสงสัยรายใหม่
เครื่องมือใหม่ดีกว่าแต่ก่อนมาก ที่เดิมสามารถเก็บได้เพียงข้อมูลการใช้งานโทรศัพท์ (telephony metadata) อย่างเบอร์โทรศัพท์และระยะเวลาในการสนทนาเท่านั้นแต่ไม่สามารถบันทึกเสียงการสนทนาทั้งหมดได้
ที่มา: The Washington Post
Comments
จำคำภาคของหนังสายลับเรื่องหนึ่งได้ "ศัตรูของเราไม่ได้ปรากฎเป็นภาพเด่นชัดเช่นในอดีต ศัตรูของเราอยู่ในความมืด" ลองๆนึกดูคนจะฆ่ากันในความมืดมันจะทำอะไรได้ นอกจากแกว่งอาวุธไปอย่างไร้ทิศทาง
ศัตรูอยู่ในความมืด เราอยู่กลางสปอร์ตไลท์
เหมือนนักร้องบนเวทีจะมองไม่เห็นผู้ชม
Skyfall นี่นา
อเมริกาเจ๋อตลอด
เพื่อดักพักโทรศัพท์ ?
ประโยน์ => ประโยชน์
ต้องหันมาใช้โทรศัพท์เข้ารหัสแบบในหนังเรื่อง The Fifth Estate สินะ
O__o
"นักวิเคราะห์สามารถฟังเสียงเหล่านี้ได้เพียง 1% เท่านั้น"
งงครับ แล้วเขาจะได้อะไรจากการฟัง 1% บ้าง
เค้าบันทึกเสียงการโทรศัพท์ทั้งประเทศ แต่ในจำนวนบันทึกเสียงการโทรทั้งหมดนั้น มีเพียงแค่ 1% เท่านั้นที่ได้รับการวิเคราะห์
คือพวก 1% เป็นพวกที่อยู่ใน watchlist ครับ ส่วนถ้าเบอร์ watchlist มันไปคุยกับเบอร์ไหน ก็ไปเอาบันทึกการสนทนาของเบอร์ใหม่พวกนี้มาวิเคราะห์ต่อ (เผื่อจะเป็นเบอร์มือถือแบบใช้แล้วทิ้ง) แถมมีบันทึกไว้ย้อนหลังถึง 30 วัน
ถ้าอเมริกาวิกฤติจนต้องแอบฟังประเทศอื่นที่ไม่ใช่เรื่องก่อการร้าย แต่เป็นเรื่องเศษฐกิจ เทคโนโลยี เพื่อความอยู่รอดของประเทศตัวเองหละ เหอๆๆๆ เพราะดูแล้วความจริงใจแทบไม่มีถ้าไม่โดนแฉก็ไม่เคยคิดจะบอกใครจะไปไว้ใจ
เวลาเพื่อนผมจะคุยกับกลุ่มเพื่อนด้วยกันมีการเข้ารหัสคำพูดเสมอครับ ป้องกันเมียดักฟัง
เข้ารหัสแบบไหนครับ อยากรู้
ในฐานะที่ผมเป็นเจ้าของ content (บทสนทนา) เราควรมีสิทธิ์ export ข้อมูลของเราเอง จาก MYSTIC ออกมาเก็บไว้ใช่ไหมครับ 555 ไหนๆ ก็ดักฟังแล้ว เราก็ควรใช้ MYSTIC เป็น call recorder ส่วนตัวได้ไปเลย
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.