ประเด็นการตั้งรหัสผ่านเป็นเรื่องยากสำหรับคนจำนวนมาก พอกฎเข้มงวดรหัสผ่านที่ได้ก็มักจำยาก พอรหัสผ่านอ่อนแอก็ถูกเพื่อนฝูงเดากันได้ง่ายๆ
คำแนะนำการตั้งรหัสผ่านมีมากมาย แต่ผมแนะนำแนวทางหนึ่งที่พอจะลดความลำบากในการจำรหัสไปได้ แต่ไม่เสียความปลอดภัยไปมากนัก (การจำรหัสยากๆ ให้ได้กับทุกบริการนั้นดีกว่าแน่นอน ถ้าทำได้)
- แบ่งกลุ่มบริการ เช่น กลุ่มบริการการเงิน (สำคัญมาก ควรทนฝึกจำรหัสไม่ซ้ำกันให้ได้), กลุ่มบริการสื่อสาร Skype/Gmail/Hotmail/Facebook (สำคัญรองลงมา), กลุ่มบริการอื่นๆ เว็บที่ใช้เพื่อความบันเทิง ไม่สำคัญนัก ไม่มีข้อมูลทางการเงิน ไม่ค่อยมีข้อมูลส่วนตัว, เว็บแทบไม่ได้ใช้งานแต่บังคับสมัคร เช่น เว็บสั่งอาหาร เว็บคูปอง ฯลฯ
- หัดใช้บริการสร้างรหัสผ่าน บริการสร้างรหัสผ่านจำยากมีอยู่ทั่วไป เช่น LastPass, GRC เราสามารถใช้รหัสเหล่านี้เพื่อให้ได้รหัสคุณภาพสูง แฮกเกอร์เดาได้ยากมาก
- สร้างรหัสผ่านสำหรับแต่ละบริการ สำหรับบริการที่สำคัญมาก เราอาจจะใช้รหัสคุณภาพสูงหนึ่งรหัสต่อหนึ่งบริการ แต่ในบริการที่ "รองๆ ลงมา" เราอาจจะใช้รหัสผ่านคุณภาพสูงประกอบกับคำจำง่าย เช่น บริการร้านหนังสือออนไลน์ที่ไม่มีข้อมูลบัตรเครดิตของเราเก็บไว้ถาวร ไม่สามารถตัดบัตรอัตโนมัติได้ อาจจะใช้ร่วมกับบริการในระดับเดียวกันคือซื้อขายแต่ไม่มีบัตรเครดิตผูกไว้ แล้วใช้รหัสคุณภาพสูงจำยากชุดหนึ่งร่วมกัน เช่น อาจจะสร้างรหัสคุณภาพสูงเป็น "Jpcr$s)3WMV" จากนั้นท่องรหัสนี้ให้ได้แล้วใช้ "Jpcr$s)3WMVbook" สำหรับร้านขายหนังสือ "Jpcr$s)3WMVmusic" สำหรับร้านขายซีดี และ "Jpcr$s)3WMVboard" สำหรับเว็บบอร์ดฟังเพลง
- สำหรับบริการที่ใช้น้อยมาก อาจะใช้รหัสผ่านคุณภาพสูงชุดใหม่ทุกครั้ง แล้วปล่อยให้ลืมรหัสนั้นไป หรือจดรหัสของแต่ละบริการลงในบริการที่สำคัญกว่า เช่น จดรหัสผ่านเว็บบอร์ดที่ใช้นานๆ ครั้งลงอีเมล ไม่ควรตั้งรหัสด้วยคำจำง่ายเพราะอาจจะถูกปลอมแปลงตัวในบริการเหล่านี้ และไม่ควรใช้คำสำคัญส่วนตัว (เช่นวันเกิดคนสำคัญ หรือสถานที่ที่สำคัญกับเรา) เป็นรหัสผ่าน เพราะในกรณีที่บริการเหล่านี้ทำรหัสผ่านรั่วไหล อาจจะสร้างผลกระทบต่อบริการอื่นๆ เพราะแฮกเกอร์นำรหัสผ่านไปทดสอบกับบริการอื่นๆ
การจัดกลุ่มบริการควรดูความน่าเชื่อถือของผู้ให้บริการ ถ้าผู้ให้บริการเป็นมืออาชีพทั้งหมด หากเรามีรหัสผ่านคุณภาพสูงเป็นส่วนประกอบของรหัสผ่าน แม้จะมีส่วนที่เป็นคำในพจนานุกรม แฮกเกอร์ก็จะถอดรหัสได้ยากมาก แต่หากมีบริการใดบริการหนึ่งในกลุ่มมีข่าวรหัสผ่านรั่วไหล ควรสร้างรหัสผ่านคุณภาพสูงชุดใหม่เพื่อจำใหม่ทันที แต่เรื่องจากรหัสผ่านถูกแฮกได้ยาก ก็มักจะพอมีเวลาก่อนจะถูกแฮกได้ เมื่อเทียบกับคนที่ใช้รหัสคุณภาพต่ำกว่าที่เสี่ยงกว่ามาก
ตัวอย่างการใช้งาน
มีธนาคารออนไลน์ 2 แห่ง เล่น Facebook, Gmail, LinkedIn, Twitter, Pantip, เว็บบอร์ดกล้อง, เว็บบอร์ดจักรยาน, เล่นเว็บโปรโมชั่นและเว็บดีลนานๆ ครั้ง
- ธนาคาร A ใช้รหัส "Vx3L%EKzEwBANKA"
- ธนาคาร B ใช้รหัส "KLp@399CCxbankb"
- Facebook ใช้ "L%w17PsCMJ่myfriends",LinkedIn ใช้ "L%w17PsCMJmyresume", Gmail ใช้ "L%w17PsCMJmymessages" (กลุ่มเว็บต่างชาติ มีการเข้ารหัสเว็บตลอดเวลา มีรหัสยากร่วมกันคือ "L%w17PsCMJ")
- Pantip ใช้ "Za6d$Odetectives", เว็บบอร์ดกล้องใช้ "Za6d$Odigitalorfilm", เว็บบอร์ดจักรยานใช้ "Za6d$Otwowheels" เป็นกลุ่มเว็บท้องถิ่น มักไม่เข้ารหัส ใช้รหัสยากร่วมกันคือ "Za6d$O"
- เว็บโปรโมชั่นและเว็บดีลใช้น้อย สร้างรหัสใหม่สำหรับทุกเว็บแล้วจดเก็บไว้ใน Gmail
พวกเว็บนานๆ เข้าใช้บางเว็บผมใช้สร้างรหัสใหม่มาล็อกอินแบบจำไว้ ปล่อยลืมไปเลย จะล็อกอินใหม่ทีก็สั่งลืมรหัสทีนึง
ผมว่าก็ได้ครับ แต่ประเด็นในคำแนะนำนี้คือ ต่อให้เป็นเว็บที่ใช้งานน้อย ก็ไม่ควรตั้งรหัสแบบส่งๆ ไป
lewcpe.com, @wasonliw
ขอบคุณครับ
ผมยังใช้วิธีจำประโยคภาษาไทย แต่ใช้แป้นพิมพ์ EN อยู่เลย สำหรับผมแล้ว มันจำง่ายที่สุด
ปัญหาคือเดี๋ยวนี้ใช้ผ่าน smart phone แล้วมันกลายเป็นยากมากแทน
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
Sugree's legacy (for android) https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sugree.thaiengkb
ผมใช้วิธีสร้างไฟล์ txt ขึ้นมาเก็บรหัสทุกรายการไว้หมด โดยรหัสทุกรหัสผมไม่เคยจำได้เพราะสุ่มค่าเอา ไม่มีเกี่ยวโยงกันได้ จากนั้นผมก็เขียนแอพให้มันเข้ารหัสtxt ไฟล์นั้นไว้ เวลาจะเอารหัสอะไรต้องเข้าผ่านแอพ โดยผมจำแค่ master password ส่วนไฟล์txtที่เข้ารหัสแล้ว ก็แบ็คอัพผ่าน cloud storage สองถึงสามเจ้า สำรองเอาไว้
แต่ทำแบบนั้น nsa ก็ใด้รหัสทั้งหมดของคุณไปแล้ว ...
แต่จะไช้ lass pass / google sync / mozilla sync ก็เหมือนกัน
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ใส่ถาดไปให้เล้ย ฮาๆๆ
มีปัญหากับ Paypal ก็เพราะรหัสนี่แหละครับ รู้ว่า Password คืออะไร แต่จำไม่ได้ว่าผสมกันยังไง -*- (แต่สุดท้ายก็กู้คืนมาได้) กับอีกอันคือรหัส LastPass ลองทุกอันจนโดนล็อก 1 เดือนให้หลังถึงปลดได้
เว็บหรือบริการสำคัญจะใช้รหัสผ่านที่ไม่ซ้ำกันเลย และไม่ใช้บริการจดจำรหัสด้วย (จำพวก LastPass) เก็บไว้หัวอย่างเดียว
ปัญหาหนึ่งที่เจอเมื่อตั้งรหัสด้วยวิธี "คำไทยคีบอร์ดอังกฤษ" คือล็อกอินบนอุปกรณ์อื่นๆ ที่ไม่ใช่คอมพ์ยากมาก ต้องพิมพ์ใน Notepad แล้วพิมพ์ตาม กับถ้าเป็นประเภท "จิ้มสัมผัส" คนอื่นที่ชำเลืองมองคีย์บอร์ดเราจะรู้มันทีว่าเราพิมพ์คำว่าอะไร
ป.ล. Twitter นี่ต้องขอรหัสใหม่กันทุกครั้ง เกือบทุกไอดี เพราะนานๆ เข้าที
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
ใช้วิธีเอาชื่อเว็บมาเข้ารหัสส่วนตัว + กับชุดพาสเวิร์ด = จะได้พาสไม่ซ้ำกันแต่ละเว็บ ชุดพาสเวิร์ดเปลี่ยนทุกปี ส่วนพวกเว็บ ธนาคาร กับ อีเมล์ นั้นมีพาสเฉพาะที่ไม่ซ้ำกับวิธีคิดเว็บทั่วไป
ใช้รหัสผ่านที่ได้จาก บัตรเติมเงิน ต่างๆ ที่ปกติกรอกทีเดียว แต่เราจำมันเลย เช่น 5c8634CdM7x
ผมคิดว่า http://xkcd.com/936/ น่าจะง่ายที่สุดสำหรับมนุษย์ทั่วไปนะ
แต่ต้องแก้ปัญหาว่า service provider ชอบบังคับให้ตั้งรหัสผสมอักขระแปลกๆนี่แหละ
จะแก้ต้องแก้ทั้งระบบเลย
"กรุณามีตัวอักษรเล็ก ใหญ่ อักขระ และตัวเลขอยู่ในรหัสผ่านให้ครบ และห้ามยาวเกิน...ด้วย"
ห้ามยาวเกินนี่ปรี๊ดมาก โดยเฉพาะแบงก์ม่วง กี่ปีกี่ชาติก็ 8 ตัวตลอด
แอดมินเพจในเฟสบุ๊คก็โพสไปเหอะ
"วันนี้มีเทคนิคดีๆเกี่ยวกับการตั้งรหัสผ่านให้ปลอดภัยมาแชร์ค่ะ รหัสผ่านที่ดีควรจะ..." บลา บลา บลา
ม่วงนี่คือ scb ป่ะครับ เค้าเพิ่งปรับเป็นสูงสุด 20 ตัว เมื่อไม่นานมานี้ ขยี้ตา 10 รอบตอนเจอประกาศ ฮ่าๆ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
มันมีประเด็นอยู่บ้างนะครับ
ถ้ามีระบบสุ่มคำสมบูรณ์ผมว่านำระบบพวกนี้ไปแทนในส่วน "รหัสผ่านคุณภาพสูง" ก็ได้เหมือนกันครับ
lewcpe.com, @wasonliw
https://www.fourmilab.ch/javascrypt/pass_phrase.html
ใช้อันนี้ gen เอา http://preshing.com/20110811/xkcd-password-generator/
pittaya.com
เว็บโป๊ผมใช้รหัสกากๆครับ เวลารีบๆจะได้ไม่ลืม :3
Za6d$Odetectives -0-;;
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
นักสืบพันทิบ ..รึเปล่านะ
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
555 ตอนอ่านเจอผมก็ฮา
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
อธิบายคำแนะนำนี้สักหน่อย การ "ออกแบบ" คำแนะนำแบบนี้ดูจากอันตรายที่เกิดขึ้นได้กับรหัสผ่านของเรา โดยทั่วไปมี
การเดารหัสผ่านถูก เป็นการเจาะขั้นต่ำสุด แม้เว็บไม่ได้มีกระบวนการป้องกันการเดารหัสผ่านเอาไว้ การเดารหัสเช่นนี้ก็มักจะทำได้ไม่มากนัก อย่างมากที่สุดคงไม่เกิน 20 ครั้งต่อวินาที การป้องกันการถูกเจาะแบบนี้คือการบอกให้ผู้ใช้ ใช้รหัสผ่านที่ "ยาก" อยู่เสมอ ไม่ใช้ "1234" ไม่ใช้คำในพจนานุกรม หรือรหัสผ่านที่เคยอยู่ในฐานข้อมูลที่เคยถูกเจาะได้มาก่อน
เว็บถูกเจาะโดยไม่ได้เข้ารหัส ความเสี่ยงที่จะเกิดตามมาคือแฮกเกอร์ที่ได้ฐานข้อมูลไปจะนำรหัสผ่านที่ได้ไปทดสอบกับบริการอื่นๆ ทันที ด้วยเหตุผลนี้ ไม่ว่าบริการใดๆ ก็ไม่ควรใช้รหัสผ่านที่เหมือนกันทุกประการ คำแนะนำคือให้ "เติม" คำง่ายๆ ลงไปคำหรือสองคำเพื่อให้รหัสผ่านไม่เหมือนกัน เมื่อมีข่าวฐานข้อมูลถูกเจาะเพื่อความไม่ประมาทก็ควรเปลี่ยนรหัสทั้งกลุ่ม เพราะแฮกเกอร์อาจจะคาดเดาได้ว่าเราใช้ "รหัสยาก" ควบคู่กับ "รหัสง่าย" กระบวนการเดารหัสง่ายในบริการอื่นๆ นั้นก็มักใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง (มีเวลาฐานข้อมูลเพิ่มเผยแพร่เป็นวงกว้าง, แฮกเกอร์เริ่มเลือกเหยื่อ ฯลฯ) ให้เวลาเราเปลี่ยนรหัสในบริการอื่นๆ ในกลุ่ม
เว็บถูกเจาะโดยเข้ารหัสฐานข้อมูล ความเสี่ยงคล้ายกันแต่แฮกเกอร์มักจะต้องใช้ข้อมูลพจนานุกรมและรหัสผ่านที่เคยหลุดออกมาเพื่อทดสอบว่ามีรหัสผ่านแบบเดียวกันในบัญชีใดหรือไม่ ฐานข้อมูลจำนวนมากมักเข้ารหัสโดยเติมค่าเฉพาะ (salt) ทำให้การหารหัสผ่านในฐานข้อมูลทำได้ยาก ใช้เวลานาน เราจะมีเวลาเปลี่ยนรหัสผ่านบริการอื่นๆ ในกลุ่มนานขึ้น ในหลายกรณีรหัสผ่านเราอาจจะไม่หลุดเลย แม้ฐานข้อมูลจะหลุดไปเป็นเวลานาน
ถูกดักฟัง เราไม่ควรใช้รหัสที่กับบริการที่ไม่ได้เข้ารหัสบน Wi-Fi ไม่เข้ารหัสทุกกรณี ในบริการที่เราใช้ไม่มากนักก็ยังควรใช้รหัสผ่านที่ "ยาก" เพื่อไม่ให้รหัสถูกนำไปใช้ในบริการอื่นๆ ได้อีก
คำแนะนำนี้จะคล้ายกับคำแนะนำของ Mozilla
lewcpe.com, @wasonliw