ในงาน TechCrunch Disrupt ได้มีการแนะนำสิ่งประดิษฐ์ใหม่ที่ชื่อ Mink ซึ่งมันคือเครื่องพิมพ์ 3 มิติที่ถูกสร้างมาเพื่อให้ผู้ใช้สามารถผลิตเครื่องสำอางหลากสีสันไว้ใช้งานได้เองภายในบ้าน
ในการใช้งาน Mink ผู้ใช้สามารถเลือกผสมสีเครื่องสำอางได้เอง ไม่ว่าจะเป็นสีจากรูปในอินเทอร์เน็ต หรือสีจากภาพถ่ายวัตถุจริงที่อยู่รอบตัวในชีวิตประจำวัน โดยเครื่องพิมพ์จะผสมสัดส่วนแม่สีให้ได้ส่วนผสมที่มีเฉดสีตรงกับความต้องการของผู้ใช้ ทั้งนี้ Mink สามารถผลิตเครื่องสำอางได้หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นลิปสติกทาปาก, อายแชโดว์ หรือแป้งบลัช
เครื่องพิมพ์เครื่องสำอางนี้เป็นผลงานของ Grace Choi นักศึกษา Harvard ซึ่งเธอมองว่าพฤติกรรมของผู้ใช้เครื่องสำอางโดยทั่วไปนั้นไม่ได้ยึดติดกับแบรนด์ผู้ผลิตมากนัก แต่จะให้ความสำคัญกับสีสันคุณภาพของเครื่องสำอางเป็นหลัก และบ่อยครั้งที่ผู้ใช้ก็เลือกที่จะประดิดประดอยแต่งเติมสีสันเครื่องสำอางเหล่านี้เอง นั่นจึงทำให้เธอมองว่า Mink คือโอกาสทางธุรกิจที่จะเข้ามาตอบโจทย์ตรงนี้ได้
Choi ศึกษาเกี่ยวกับเครื่องสำอางและพบว่าโดยทั่วไปแล้ว ส่วนผสมขั้นพื้นฐานของเครื่องสำอางประเภทต่างๆ นั้นล้วนใช้สารกลุ่มเดียวกัน ซึ่งสามารถพบได้ไม่ว่าจะในสินค้าของแบรนด์ดังสุดหรูต่างๆ หรือแม้แต่เครื่องสำอางราคาประหยัดที่หาซื้อได้ทั่วไปตามร้านสะดวกซื้อ และเธอก็ได้หาทางนำเอาสารส่วนผสมเหล่านั้นมาใช้งานกับ Mink ด้วย เพื่อทำให้แน่ใจว่าผู้ใช้ Mink จะสามารถผลิตเครื่องสำอางใช้งานเองได้ไม่แตกต่างจากการซื้อในรูปสินค้าสำเร็จรูป ที่สำคัญการใช้ Mink ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องติดอยู่กับตัวเลือกเฉดสีที่ถูกจำกัดโดยผู้ผลิตเครื่องสำอางอีกต่อไป
ราคาขายของ Mink นั้นไม่ถึงเครื่องละ 200 ดอลลาร์ (เชื่อได้เลยว่าถูกกว่าค่าเครื่องสำอางรายเดือนของคุณผู้หญิงบางท่านด้วยซ้ำ) โดยคาดว่าจะวางขายจริงได้ภายในปีนี้
ที่มา - TechCrunch
Comments
เครื่องสำอางค์ => เครื่องสำอาง
สิ่งประดิษ => สิ่งประดิษฐ์
"ประดิษฐ์ประดอย" > "ประดิดประดอย"
ชื่อเต็มคือ มุ้งมิ้ง
อารมณ์เหมือน เครื่องผสมสีทาบ้านเลย
ทำหนูนึกถึง ...Cube หลอดดูดสีในโลกแห่งความจริง
Blush เขาไม่เรียก แป้งบลัชนะครับ ปกติจะเรียกกันว่าบลัชออน(ที่ปัดแก้มฯลฯ)
ข่าวต่อไป Shiseido L'Oréal และ บริษัทสำอางชั้นนำ ร่วมฟ้อง Mink หลังจากเลียนแบบเฉดสี
ว้าววววววว
เครื่องไม่แพง แล้วของที่เอามาใส่เครื่องล่ะครับ
แหม่.. ผมอุตส่าห์ไม่พูดถึงแล้วเชียว
ช่างไฟสมัครเล่น (- -")
อ่านคอมเมนท์ใน Business Insider ดราม่ามาก 55
ในยุคถัดไปเราคงได้เห็นคุณผู้หญิงเอาเครื่องพิมพ์ทาบหน้าแล้วเปิดออกมาหน้าเด้งเลยแน่ๆครับ