Tags:
Topics: 
Node Thumbnail

เหตุการณ์ของคดีเศร้าสลดนี้เกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน เมื่อ Mark Sandland ชายหนุ่มวัย 27 ปี โทรเรียกรถพยาบาลในช่วงบ่ายวันหนึ่งให้มาช่วยเหลือลูกสาววัย 5 สัปดาห์ หลังเด็กน้อยหมดสติ

Sandland ให้การว่าเขาเป็นโรคลมบ้าหมู และเกิดอาการชักไปชั่วขณะหนึ่ง ก่อนจะได้สติกลับคืนมาและพบว่าลูกสาวของเขาถูกตัวเขาทับอยู่ที่โซฟา เจ้าหน้าที่พาเด็กน้อยไปยังโรงพยาบาลและพยายามยื้อชีวิตอย่างเต็มที่ แต่กระนั้นเด็กหญิงเคราะห์ร้ายก็เสียชีวิตในอีก 4 วันถัดมา เพราะอาการบาดเจ็บหลายอย่างทั้งรอยฟกช้ำตามร่างกายจำนวนมากและมีเลือดออกในสมอง

กระบวนการค้นหาความจริงดำเนินเรื่อยมา มีการสั่งฟ้องและล่าสุดศาลได้มีคำพิพากษาตัดสินความผิดของ Sandland หลังพิเคราะห์ได้ว่าสิ่งที่เขากล่าวอ้างนั้นเป็นเรื่องโกหก โดยเชื่อว่า Sandland ได้พลั้งมือฆ่าลูกสาวตนเองก่อนจะพยายามสร้างเรื่องมากลบเกลื่อนความผิดที่ได้ก่อขึ้น

เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุระบุว่าตำแหน่งของโซฟาที่เกิดเรื่องนั้นมีเครื่องเล่นเกม PlayStation วางเอาไว้ด้วย ในขณะที่ทีวีซึ่งเชื่อมต่ออยู่ถูกปิดเอาไว้ ในขณะที่การตรวจสอบประวัติการใช้งานโทรศัพท์มือถือของ Sandland พบว่าเพียง 16 นาทีก่อนที่เขาจะโทรเรียกรถพยาบาลมาที่บ้าน Sandland ได้เข้าเว็บไซต์แนะนำเทคนิคการเล่นเกม Assassin's Creed 3 ทั้งยังมีประวัติการแชทสนทนาของ Sandland กับภรรยาผู้เป็นแม่ของเหยื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนเกิดเหตุ (ซึ่งในวันดังกล่าวเธอกำลังไปเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยที่ห่างออกไป) ซึ่ง Sandland ได้พิมพ์ข้อความในเชิงบ่นกับภรรยาว่าลูกสาวของพวกเขาเอาแต่ร้องไม่หยุด

เมื่อนำข้อเท็จจริงข้างต้นมาประกอบกับความเห็นแพทย์ที่ประเมินว่าอาการชักของโรคลมบ้าหมูไม่อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บที่ร่างกายของเหยื่อตามที่ระบุไปข้างต้น ศาลจึงเชื่อว่า Sandland ได้กระทำการฆ่าลูกสาวของตนเองโดยการเขย่าร่างกายเธออย่างรุนแรง ซึ่งน่าจะเป็นเหตุจากการที่เด็กน้อยส่งเสียงร้องไม่หยุดจนทำให้เขาอารมณ์เสียเพราะไม่อาจเล่นเกมได้ดั่งใจ

บทสรุปของคดีนี้คือคำตัดสินจำคุก Sandland เป็นระยะเวลา 8 ปี

ที่มา - BBC, The Guardian

Get latest news from Blognone

Comments

By: illusion
ContributorAndroid
on 10 July 2014 - 12:26 #720655
illusion's picture

ถ้าเป็นสยามเมืองพุทธ ป่านนี้มีกระแสเรียกร้องให้ประหารเต็มเฟสบุ็คละ หุๆๆ

By: plawanja
Android
on 10 July 2014 - 12:40 #720658 Reply to:720655
plawanja's picture

คนที่สมควรตายมันก็ควรจะตายจริงๆ นั่นแหละ คนเราถ้าไม่เจอกับตัวเองหรือญาติพี่น้องก็ทำตัวโลกสวยกันต่อไป หึหึ

By: Eka-X
ContributoriPhoneAndroidIn Love
on 10 July 2014 - 12:55 #720663 Reply to:720658

เราจะรู้ได้ยังไงว่าคนไหนสมควรตายอ่ะครับ

By: HackKingSoft
iPhoneAndroidUbuntuWindows
on 10 July 2014 - 20:06 #720802 Reply to:720663
HackKingSoft's picture

คนที่กลัวโทษแรงๆ แสดงได้ว่ามีความกลัวในโทษดังกล่าว ซึ่งเป็นอาการที่เกิดจากการกลัวว่าสักวันตัวเองจะถูกโทษนั้นเล่นงาน หมายความว่ามีความเสี่ยงว่าจะกระทำผิด หรือเรียกได้ว่าเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงในการกระทำความผิด ซึ่งโดยปกติแล้วคนทั่วไปที่รู้ตัวว่าตัวเองไม่มีทางกระทำความผิดได้ก็ไม่จำเป็นต้องกลัวโทษระดับนั้น

ส่วนคนที่สนับสนุนโทษแรงๆ นั้นมาจากการกลัวหลังเจอเหตุการณ์เลวร้าย หรือกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้กับตัวเองหรือคนใกล้ชิดซึ่งเป็นผู้ถูกกระทำ

แต่ลองคิดดูว่าถ้าคุณหรือคนใกล้ชิดของคุณถูกกระทำ แล้วตัวคุณจะรู้สึกเยี่ยงไร?

ซึ่งถ้ามีการใช้โทษแรงระดับนั้นแน่นอนว่าคนทำความผิดจะลดลงแต่ไม่ทั้งหมดเพราะคนที่หยุดการกระทำได้เนื่องจากโทษที่จะตามมานั้นเป็นคนที่มีสติและสามารถชั่งน้ำหนักก่อนและหลังการกระทำความผิดได้ ส่วนคนที่ไม่สามารถหยุดได้นั่นคือคนที่ไม่มีสติมีอารมณ์อยู่เหนือเหตุผลและความเป็นมนุษย์

ดังนั้นการที่จะแก้ไขจำเป็นต้องขึ้นอยู่กับปัจจัย 3 อย่างนั้นคือการเลี้ยงดู การศึกษา เพื่อช่วยในเรื่องของการยับยั้งอารมณ์ และความเป็นมนุษย์ในตัวคน ส่วนอีกอย่างที่สำคัญคือโทษที่หนักพอที่จะใช้เป็นเหตุผลในการตัดสินใจกระทำความผิดมันจึงจะช่วยทั้งการกระทำความผิดที่ จงจัย (มีสติ) และ ไม่จงจัย (ไม่มีสติ)

ซึ่งถ้าการมีโทษที่รุนแรงกับการกระทำความผิดที่รุนแรงทั้งร่างกายและจิตใจจะช่วยลดการกระทำความผิดได้ทำไมจึงไม่ทำหรือจะเป็นการสนับสนุนในการกระทำความผิด? แต่ถึงยังไงสถาบันครอบครัวและการเรียนการสอนก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน

By: nrml
ContributorIn Love
on 10 July 2014 - 20:53 #720820 Reply to:720802
nrml's picture

ผมได้ไปอ่านความเห็นหนึ่งซึ่งดูน่าสนใจ เขาบอกว่าในกรณีที่ตรากฎหมายเรื่องข่มขิน = ประหารขึ้นมาแล้ว ในกรณีที่เกิดการข่มขืนเสร็จและหายหน้ามืดขึ้นมาแล้วก็จะมีทางเลือกเกิดขึ้นมา 1.ทิ้งเหยื่อไว้แล้วหนี 2.ฆ่าเหยื่อแล้วหลบหนีเพราะอย่างน้อยก็มีโอกาสรอดจากคดีอีกอย่างยังไงก็ต้องโทษประหารอยู่แล้ว และหากเจอตัวแล้วก็มีโอกาสที่จะสู้แบบหมาจนตรอกเพราะไม่มีอะไรจะเสียแล้ว

จากที่พิจารณาแล้วจากแต่ก่อนที่เหยื่ออาจจะมีโอกาสรอดในข้อ 1. มากกว่าแต่กลายเป็นว่าอาจจะเข้าข้อ 2. ทำให้เหยื่อมีโอกาสรอดน้อยกว่าเดิม

By: mr_tawan
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 10 July 2014 - 21:29 #720835 Reply to:720820
mr_tawan's picture

เอาจริง ๆ นะครับ ...

  1. เวลาคนจะทำผิด มีใครคิดถึงสิ่งที่จะตามมาบ้างเหรอครับ ? ไม่ว่าจะโทษตายหรือจำคุก ถ้าคิดจริงๆ มีสติก็คงไม่ทำไปแล้ว ยกเว้นแต่ว่า คิดว่ามีหนทางที่จะหลุดจากความผิดที่ตัวเองทำไว้ได้ (พวกคดีเศรษฐกิจส่วนใหญ่ตกกรณีนี้ครับ)
    ผมว่าคนที่ทำผิดส่วนใหญ่ทำเพราะขาดสติ เช่น เมา หรือเสพยา มากกว่านะ

  2. สติอาจจะกลับมาหลังจากที่กระทำการไปแล้ว แต่ถึงจุดนี้ก็คงไม่คิดเหมือนกันว่าโทษมันคืออะไร ก็คงคิดแค่ว่า จะทำอย่างไรให้หลุดจากความผิดที่ตัวเองทำไว้ (เหมือนข้างบนอีกละ) มีเหรอครับทำไปแล้วมานั่งคิดว่า เฮ้ยตูจะโดนจำคุก 10ปี หรือจะโดนประหารหรือเปล่า ? ไม่มีหรอกครับ ไม่มีใครอยากเข้าคุกทั้งนั้นแหละ ถ้าเหยื่อเห็นหน้าแล้ว หลายคนคงเลือกฆ่าเหยื่อแหละ (ถ้าผมทำก็คงเลือกงี้ แต่พอดีว่าผมคงไม่ขาดสติขนาดไปไล่ข่มขืนสาว ๆ ที่ไหนหรอกมั้ง 555 เหล้ายังไม่กินเลย)

จากเหตุผลสองอันข้างบนผมสรุปได้คร่าว ๆ ว่า

  1. การเพิ่มระดับความรุนแรงของโทษนั้นไม่ช่วยให้อัตราการก่อการกระทำชำเราเพิ่มขึ้นหรือลดลง
  2. การเพิ่มระดับความรุนแรงของโทษนั้นก็ไม่ช่วยให้เหยื่ีอรอดได้มากขึ้นหรือน้อยลง เช่นกัน

สิ่งที่ได้จากการะเพิ่มโทษมีเพียงความสะใจของบรรดาคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีเท่านั้นเอง (รวมทั้งญาติใกล้ชิดของผู้เสียหาย) ผมไม่เชื่อว่าการลงโทษมันจะทำให้มีใครรู้สึกสบายใจได้


  • 9tawan.net บล็อกส่วนตัวฮับ
By: Patchan
iPhone
on 10 July 2014 - 22:32 #720847 Reply to:720835
  • 1 ผมก็คิดแบบนี้ครับ
By: HackKingSoft
iPhoneAndroidUbuntuWindows
on 11 July 2014 - 01:19 #720852 Reply to:720835
HackKingSoft's picture

งั้นลองจำคุก 1 เดือนดูสิว่ามันต่างกับประหารชีวิตหรือเปล่า แม้ไม่ทำการทดลองก็คงรู้ผลแล้วหล่ะครับ :P เอาเป็นว่าท้ายที่สุดการป้องกันห้ามมันเกิดขึ้นถือว่าสำคัญที่สุด แต่ที่สำคัญไม่แพ้กันคือการไม่ให้มันเกิดขึ้นซ่ำนั้นคือโทษที่เขาจะได้รับ แต่ละกรณีก็ไม่เหมือนกันอีก บางคนดีขึ้น บางคนไม่สำนึก บางคนแค้นสังคม เมื่อกลับเข้าสังคมอีกครั้งผลก็แตกต่างกัน ซึ่งผลนั้นก็คงจะเห็นข่าวบ่อยๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และบางที่เขาก็ตัดไฟตั้งแต่ต้นลมซึ่งบางคนไม่สมควรได้กลับเข้าสังคม

ซึ่งถ้าคุณบอกว่า "โทษมีเพียงความสะใจของบรรดาคน" คุณก็เข้าใจมันผิดมากๆ แล้วหล่ะครับ คิดได้แค่นี้ก็ไม่ต้องมีโทษกันแล้วคงต้องไปเรียนกฎหมายใหม่แล้วหล่ะ มันมีเหตุผลอยู่ 3 ข้อ

1.เพื่อป้องกันไม่ให้คนกระทำผิด ซึ่งถ้าบอกว่าข่มขืนจำคุก 1 เดือนคงมีคนข่มขืนกันเพียบเพราะมันไม่มีความน่ากลัว และคงไม่มี "ความสบายใจ" แน่ๆ แบบว่าคุณอยากอยู่ร่วมโลกกับคนแบบนั้นหรอ? ยกเว้นคุณเป็นแบบนั้น (ความแรงของโทษต่อการกระทำความผิด)

2.เพื่อทำให้เขาสำนึกผิด (ปรับ, จำคุก, ทั้งจำและปรับ)

3.บางครั้งเพื่อไม่ให้คนที่ไม่มีวันสำนึก (โรคจิตวิปริต) หรือมีความผิดแรงมากๆ ต่อหลักหลักมนุษยธรรมและสังคม ให้ไม่มีโอกาสได้กลับเข้าสังคม (จำคุกตลอดชีวิต, ประหาร)

By: plyteam
iPhone
on 11 July 2014 - 11:07 #720941 Reply to:720802

เล่นเหมารวมว่าคนคัดค้านโทษประหารนี่มีแนวโน้มจะไปข่มขืนชาวบ้านงี้เลยเหรอครับ งั้นต้องเรียกตัวมาปรับทัศนคติหมดทุกคนเลยมั้ยครับ

ประเทศที่เค้าไม่มีโทษประหารนี่เค้าอยู่กันยังไงครับ ประชากรเค้าจ้องจะข่มขืนกันทั้งประเทศมั้ยครับ

แล้วคอมเม้นอื่นๆเค้าก็พูดกันแล้วนะครับ ว่าถ้าข่มขืนแล้วโทษประหารเนี่ย เหยื่อยิ่งจะโดนฆ่าเพื่อปกปิดความผิด จากปัจจุบันนี่ข่มขืน โทษ 4-20 ปี แต่ถ้าฆ่าเพื่อปกปิดความผิดด้วยนี่ประหารชีวิตอยู่แล้วนะครับ ถ้าโทษรุนแรงทำให้คนกลัวไม่กล้าทำได้ เหยื่อคงไม่โดนฆ่าตายหรอกครับ

ผมคิดว่ากระบวนการยุติธรรมมีปัญหาจริงครับ แต่การเพิ่มโทษไม่เห็นจะช่วยอะไร เคยอ่านคดีผู้พัน ต. มั้ยครับ โดนตัดสินโทษประหารทั้งสามศาลแล้วแท้ๆ แต่ติดจริงอยู่แค่ 13 ปี ตอนนี้ออกมาแล้ว ปัญหามันอยู่ที่การอภัยโทษต่างหาก ที่ทำให้กฎหมายไม่ศักดิ์สิทธิ ถ้าจะค้าน ควรจะค้านให้ถูกจุด

ถ้าคิดแค่ว่าถ้าเราโดนจะรู้สึกยังไง นี่มันการแก้แค้นแล้วครับ ไม่ใช่กฎหมาย

ป.ล.คุณเรียนกฎหมายมาจริงๆเหรอ

By: rulaz07
ContributoriPhoneAndroidBlackberry
on 10 July 2014 - 13:01 #720666 Reply to:720658

เราควรมีโทษประหารเพื่อไม่ให้คนบางคนกลับมาอยู่ในสังคมอีกครับ แต่ผมกลัวอย่างเดียว คือ คนไทยส่วนใหญ่ไม่สามารถตัดสินอะไรด้วยความเป็นกลางได้ ถ้ามีผลประโยชน์ อารมณ์ ความเชื่อ อคติ แรงกดดันภายนอก เข้ามาเกี่ยว

By: mr_tawan
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 10 July 2014 - 14:46 #720697 Reply to:720666
mr_tawan's picture

มนุษย์​ใช้อารมณ์​ในการตัดสินใจ​ และใช้เหตุผลในการสนับสนุน​การตัดสินใจ​ครับ

จาก​ตำรา​ฝรั่ง​สักเล่มนึง


  • 9tawan.net บล็อกส่วนตัวฮับ
By: Jaddngow
AndroidUbuntuWindows
on 10 July 2014 - 17:16 #720745 Reply to:720697
Jaddngow's picture

ฟังดูหม่นหมองครับ แต่ผมก็ไม่อาจปฎิเสธ

By: akira on 10 July 2014 - 15:00 #720702 Reply to:720658

โทษประหารเขาเอาไว้ให้คนดีกลัวไม่กล้าทำผิด ส่วนที่คนที่เลวเกินจะแก้ไขโทษร้ายแรงกว่าโทษประหารเขาก็ไม่กลัว การแก้ไขปัญหาไม่ใช่แก้ไขเพื่อความสะใจ หรือแก้ตามกระแส เพราะยิ่งเต้นตามกระแส มันก็จะสร้างปัญหาอื่นๆ ในอนาคต การแก้ไขปัญหาต้องแก้ไขที่ต้นเหตุ และดูเป็น Long Term เพื่อให้ปัญหาลดลงในอนาคต

อย่าลืมคนเลว โทษประหารมันก็ไม่กลัว ตัวอย่างง่ายๆ ก็นักโทษคดียาเสพติด ก็มีโทษประหารเช่นกัน แต่ทำไมก็ยังมีคนอยากลอง อยากค้า แล้วก็ติดคุก รอประหาร ทั้งๆ ที่ก็มีตัวอย่างให้เห็นกันอยู่

By: toooooooon
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 10 July 2014 - 17:41 #720754 Reply to:720658

ถ้าคนเรามีอำนาจที่จะตัดสินให้ใคร "ตาย" ได้ ผมว่าโลกคงวุ่นวายน่าดู

ยังโชคดีที่เรามี ระบบ ยุติธรรม มีการสอบสวน ไต่สวน วิจัย วิชาการ มีคนสองฝั่งมาสู้กัน อีกหลายๆอย่างประกอบ แม้บางครั้งอาจจะทำงานไม่ถูกใจนัก แต่ยังดีกว่าที่จะให้ใครมาตัดสิย "ชีวิต" ใคร ด้วยความคิดเบ็จเสร็จในตัวคนเดียว

By: pawinpawin
Writer
on 10 July 2014 - 16:40 #720733 Reply to:720655

ไม่หรอกครับ สยามเมืองพุทธมีเคสแบบนี้เยอะแยะออก

By: iammeng
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 10 July 2014 - 16:55 #720738 Reply to:720655
iammeng's picture

อันนี้ถามจริงจังนะครับ (ขออนุญาต rep ตรงนี้)
ตามหลักพุทธศาสนา...ควรจะทำอย่างไรกับคนร้ายคนที่เป็นประเด็นในสังคอมอยู่ตอนนี้อะครับ

By: gunner09
Windows
on 10 July 2014 - 17:51 #720760 Reply to:720738

ตอบตามความเห็นของผมเอง

เป้าหมายหลักของศาสนาพุทธคือสอนให้พ้นทุกข์

คำสอนส่วนใหญ่จึงเกี่ยวกับการจัดการกับกิเลส และทุกข์ในตัวเรา

การจัดการเรื่องนี้จึงควรเป็นหน้าที่ของแต่ละสังคมมากกว่า

ได้แต่เสริมว่า การจะทำอะไรนั้นอย่าได้ทำเพราะมาจาก โลภะ(ความอยากได้) โทสะ(ความคิดประทุษร้าย) โมหะ(ความหลงผิด) ในตัวเรา

By: mr_tawan
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 10 July 2014 - 18:44 #720780 Reply to:720738
mr_tawan's picture

ผมว่ากรณีที่พอจะเทียบเคียงได้ก็น่าจะเป็น องคุลีมาล กระมัง

เราควรมีจิตเมตตาแม้แต่กับฆาตกรครับ แต่ไม่ได้หมายถึงให้ละเลยการดำเนินคดี/การลงโทษ หมายถึงควรลงโทษด้วยจิตเมตตาและด้วยวิถีทางที่จะไม่ทำให้เขาผิดซ้ำสองอีก

(ตอบแบบนี้จะมีดราม่าตามหลังมาไหมหว่า 555 ตอบยากจัง)

ถ้าเราลงโทษด้วยจิตอาฆาตแค้น ตัวเราเองก็ไม่ได้ต่างอะไรกับฆาตกรนั่นหรอกครับ เวลาเราคิดว่าไอ้หมอนั่นมันสมควรตายเนี่ย ... เรามีความสุขไหมครับ ? ลองคิดดูเล่น ๆ ก็ได้นะ

ปล. รู้สึกว่า Code Breaker รวมเล่มเล่มใหม่เล่นประเด็นคล้าย ๆ กันอยู่แฮะ (ให้คนหมู่มากโหวตวิธีการลงโทษอาชญากร)


  • 9tawan.net บล็อกส่วนตัวฮับ
By: -Rookies-
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 10 July 2014 - 12:27 #720656

โหดมาก คนติดเกมนี่มันน่ากลัวจริง ๆ (ต้องเตือนตัวเองไว้ว่าอย่านั่งเล่นเกมใกล้ลูก -*-)


เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!

By: thedesp
WriterAndroidWindows
on 10 July 2014 - 13:38 #720673
thedesp's picture

เกมส่งเสริมให้เกิดความรุนแรง ควรสั่งยกเลิกจำหน่าย

/..

By: kingrpg
AndroidWindows
on 10 July 2014 - 14:58 #720701

แบนเกมให้หมดเลย ตัดการเกิดปัญหา
(รอลดราคา)

By: neonicus
Android
on 10 July 2014 - 16:55 #720739

ฝั่งนึงก็อยู่ในกระแสเรียกร้องให้ประหาร
อีกฝั่งก็บอกว่าอีกฝั่งดัดจริต เห่อตามกระแสไม่คิด

แต่ไม่มีอะไรชัดเจนว่าอะไรจะแก้ไขได้ ก็ได้แต่หาเรื่องว่าคนอื่นสนุกปาก

By: nrml
ContributorIn Love
on 10 July 2014 - 17:22 #720748 Reply to:720739
nrml's picture

ผมว่ามีคนหลงประเด็นเยอะนะ คือโทษในคดีที่กำลังเป็นข่าวจริงๆ ก็คือประหารชีวิตอยู่แล้ว บางคนยังเข้าใจว่าคดีนี้ไม่โดนประหารชีวิต เพราะเอาไปรวมกันกับแคมเปญข่มขืน = ประหาร

แต่โดยส่วนตัวหลังจากอ่านเหตุผลของหลายฝ่ายที่บอกว่าทำไมถึงไม่ควรเพิ่มโทษเป็นประหารชีวิต ก็ทำให้ค่อนข้างเอนเอียงไปอีกด้าน แต่ที่แน่ๆ คิดว่าควรเพิ่มโทษและบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง รวมถึงหามาตรการปกป้องผู้เสียหายเพื่อให้ผู้เสียหายกล้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีมากยิ่งขึ้น

By: iamfalan
iPhoneAndroidWindows
on 10 July 2014 - 18:41 #720778 Reply to:720748

โทษจริงๆ ของกฏหมายบ้านเราในกรณีคดีอาญานั้น ผมว่ารุนแรงพอสมควรแล้วครับ
ข่มขืน (ไม่ฆ่า) ถ้าติดคุก 8-10 ปี ผมว่าเยอะอยู่นะ

แต่ปัญหาของบ้านเรา ศาลตัดสินจำคุก 10 ปี
ถ้าสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่ง (ไม่ค่อยเห้นกรณีแบบ ไม่ลดดทษ เพราะสารภาพเนื่องจากจำนนด้วยหลักฐานสักเท่าไหร่)
สุดท้ายติดจริงๆ ไม่ถึงที่ศาลตัดสิน ถ้า 10 ปี ก้จะเหลือแค่ 2-3 ปี

By: pepporony
ContributorAndroid
on 10 July 2014 - 19:42 #720801 Reply to:720778

อืม หลายๆเคสเท่าที่ผมเห็น โทษแรง แต่พอสารภาพปุ้ป ลดโทษไปกึ่งหนึ่ง เหลือนิดเดียวซะงั้น

บางคนสองต่อ กลายเป็นรอลงอาญาแทน

By: btoy
ContributorAndroidWindows
on 10 July 2014 - 17:37 #720752
btoy's picture

เศร้าอ่ะ เง้อ


..: เรื่อยไป

By: Holy
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 10 July 2014 - 19:10 #720789
Holy's picture

การเล่นเกมเป็นสาเหตุของพฤติกรรมก้าวร้าว แต่การไม่ได้เล่นเกมเป็นสาเหตุของพฤติกรรมก้าวร้าวกว่า....

/ไทยรัฐไม่ได้กล่าวไว้

By: grit
iPhoneWindows PhoneWindows
on 11 July 2014 - 06:07 #720915

ผมเข้าใจคนที่เรียกร้องโทษประหาร ผมก็เคยเห็นด้วย แต่ความคิดส่วนใหญ่มาจากอารมณ์อยู่เหนือเหตุผล และยังไม่มีโอกาสได้มองเห็นอะไรในหลายๆ มุม พอมีโอกาสได้อ่านคดีที่เป็นจุดเริ่มต้นให้ยกเลิกโทษประหารในอังกฤษก็เริ่มเข้าใจอะไรมากขึ้น ยิ่งได้ดูหนังเรื่อง Lincoln Lawyer ตอนที่สปอยล์ได้มีการเข้าไปหาคนในเรือนจำเพื่อถามย้อนถึงเรื่องราวในคดีที่เขาถูกตัดสินว่าผิดฐานฆ่าหญิงสาว(ไม่แน่ใจว่าข่มขืนด้วยหรือไม่)เนื่องจากข้อมูลเกี่ยวโยงกับคดีที่กำลังทำอยู่ ตอนที่เขาพูดถึงการต้องสารภาพในสิ่งที่เขาไม่ได้ทำเพื่อแลกกับโทษที่เบาลง ผมร้องไห้ตามเลย นักแสดง(Michael Pena)แสดงดีมาก เป็นเหตุผลให้ผมเข้าไปโหวต10คะแนนในimdbเลย ใครมีโอกาสก็ลองหามาดูนะครับ ผมไม่รู้ว่าคุณจะอินเหมือนผมรึเปล่านะ แต่อย่างน้อยก็น่าจะมองเห็นอะไรเพิ่มในอีกมุมนึง

By: Virusfowl
ContributorAndroidSymbianWindows
on 11 July 2014 - 18:04 #720998
  • ได้กระทำการฆ่าลูกสาวของต้นเองโดยการเขย่า << ต้นเอง => ตนเอง

@ Virusfowl

I'm not a dev. not yet a user.