By: lew 
on 23 July 2014 - 22:56
Tags:
Topics:
ประกาศคณะรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร (อังกฤษ) ระบุฟอร์แมตไฟล์สำหรับการแชร์เพื่ออ่านอย่างเดียวเป็นฟอร์แมต PDF/A และ HTML ส่วนฟอร์แมตสำหรับการทำงานร่วมกับรัฐบาลจะใช้ฟอร์แมต ODF
การประกาศมาตรฐานนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการปรับตัวของหน่วยงานรัฐที่ต้องปรับให้รับส่งไฟล์ตามฟอร์แมตที่ระบุไว้ ยกเว้นงานเฉพาะทางอื่นๆ ที่ส่งด้วยฟอร์แมตเฉพาะ เช่น XML, CSV ก็สามารถใช้งานต่อไปได้
ตอนนี้ยังไม่มีแผนงานออกมาว่าหน่วยงานรัฐทั้งหมดจะต้องเปลี่ยนมารองรับฟอร์แมตตามประกาศนี้เมื่อใด แต่ระบุว่าจะมีประโยชน์ต่อการทำงานหลายอย่าง ได้แก่ ประชาชนจะไม่ต้องจัดหาซอฟต์แวร์เฉพาะมาทำงานกับหน่วยงานรัฐอีกต่อไป, การทำงานระหว่างหน่วยงานเอกชนกับรัฐจะสามารถใช้เอกสารฟอร์แมตเดียวกันได้ตั้งแต่เริ่มงาน ลดภาระการงานที่ต้องแปลงฟอร์แมตไปมา, และทั้งหน่วยงานรัฐและเอกชนจะสามารถเลือกซอฟต์แวร์ที่เหมาะกับตัวเองได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าอีกฝ่ายจะเปิดเอกสารไม่ได้
ผลบังคับของการออกประกาศครั้งนี้คือการจัดซื้อจัดจ้างต่อจากนี้จะต้องยึดตามฟอร์แมตไฟล์เหล่านี้ ส่วนรายละเอียดจะมีการออกคู่มือตามมาอีกครั้ง
ที่มา - GOV.UK, The Register
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Comments
MS Office นี่เซฟเป็น ODF ได้ไหมครับ ไม่รู้จริงๆ
2010 ได้ครับ ก่อนหน้านั้นไม่แน่ใจ
คุ้น ๆ ว่ามีปลั๊กอินสำหรับ 2007 ครับ
ms office 2007 sp1 มั้ง คือตัวแรกที่ save .odf ได้โดยไม่ต้องปลั๊กอิน แต่เท่าที่เคยลองสมัยนั้นเพี้ยนได้โล่ห์อยู่นะครับ ตอนนี่ใช้ 2010 ก็ save .odf ได้เลย และยังไม่เจอ format เพี้ยน(ซึ้งอาจจะเพี้ยน แต่ผมยังไม่เจอ)
Save ได้แล้ว มันจะเพี้ยนหรือป่าวครับ
เท่าที่ใช้ 2010 ขึ้นไปไม่ค่อยเจอเพี้ยนอะครับ มันอาจจะมีแหละแต่ผมคงไม่เจอ
ODF นี่มันเป็น OpenDocument แบบที่มีอยู่ใน openoffice & libreoffice ใช่ป่ะ
iWorks เปิด ODF ได้หรือยังครับ
ยังครับ
รบ. ไทย ควรเดินตามอย่างยิ่งนะ
รอถนนลูกลังหมดจากประเทศไทยก่อนครับ
+118 ขำแป๊ป ฮาๆๆๆ
น่าจะยากนะครับ แค่ซอร์ฟแวร์ทางเลือกสำหรับคนไทยอย่าง Suriyan (&Chantra) ยังถูกยุบ OpenTLE ยังถูกดอง หากถึงขั้นลดความจำเป็นของซอร์ฟแวร์เอกชนแบบนี้น่าจะยาก
ควรใช้ ODF มันทั้งอาเซียนเลย
ตอนนี้หลายหน่วยงานก็เริ่มใช้แล้วนะครับ สู้ราคา ms office ไม่ไหว แต่ละคนก็ต่างเวอชั่นใช้ร่วมกันยาก
แต่ office 365 ก็ไม่น่าแพงเกินไปนะครับสำหรับองค์กร
สำหรับผมว่าแพงเกินไปนะครับ เพราะผมมองว่า software เป็นทรัพย์สินที่ต้องจุดคุ้มทุน(มีค่าเสือมมูลค่าด้วย) และขายต่อก็ไม่ได้(ในOLP)
เช่น Office Home & Business 2013 ราคา 8,699 บาท (ระยะเวลาสนับสนุน 4 ปี และอายุ 9 ปี คิดเวลาปีนี้เป็นจุดเริ่มต้น)ดังนั้นมูลค่าเสือมคือ 2,175 บาทต่อปี(เพื่อเอาไปคิดค่าเสือมบัญชี) อายุการใช้งาน 967บาทต่อปี(การใช้งานจริง) ขณะที่ Office 365 สำหรับ 1 PC ราคา 1,899บาทต่อปี
ดังนั้นเวลาบริษัทผมคิดคือ 1,899 - 967 = 932 บาทคือมูลค่าระบบ Cloud ของ Microsoft ปีนี้ ซึ่งก็น่าสนใจ
แต่เราก็ต้องดูปัจจัย และคุณสมบัติที่พบ ซึ่งกลับกลายว่าเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้
1.การ Upload ของ OneDrive เป็รู้สึกเหมือน Ftp ธรรมดาทำให้กิน bandwidth สูงเมื่อใช้จำนวนเครื่องที่เพิ่มขึ้น(และการ syn เกิดขึ้นบ่อยจากพฤติกรรมการใช้งานจริง) และ files ที่ Upload ไปแล้วเสียหายเปิดไม่ได้อยู่พอสมควร
2.การ Syn ยังทำได้ไม่ดีเพราะ การ Upload ที่เป็นเหมือน FTP ทำให้ชื่อไฟล์ที่เป็นภาษาไทยนั้นยาวกว่าที่ควรจะเป็น เกิน Limit Character path ที่ URL ทำให้หลายไฟล์ไม่สามารถ syn ได้แม้ว่าเราจะสร้างที่ Local Drive เราได้
3. ยังไม่ปลอดภัยเมื่อเชื่อมต่อกับระบบเดิม เพราะว่าเราไม่สามารถ Trust domain ของ Cloud กับ Local ได้ เนื่องจากเวลาเราใช้ Office 365 จะต้องสร้าง domain บน cloud ขึ้นมาเพื่อจัดการซึ่งองค์กรผมก็มี Local Active Domain อยู่แล้ว การที่ทั้ง 2 Trust Domain ไม่ได้ทำให้ผมต้องเปิดสิทธิ์เป็น everyone เพื่อให้คนที่อยู่บน Cloud มาใช้ทรัพยากรที่ Local ได้ ซึ่งไม่ปลอดภัยเลย (ปัจจุบันเลยยังไม่ใช้ office 365)
4. การติดตั้ง Office 365 ที่มี Office ตัวอื่นอยู่จะมีปัญหาบางโปรแกรม เช่นเดิมใช้ Office 2007 แล้วติดตั้ง Office 365 ลงไป โปรแกรม Outlook จะมีปัญหาในบางเครื่อง แต่ก็เป็นจำนวนที่รู้สึกได้เลยว่าทำไม่เยอะจังในขณะถ้าลงใหม่เลยไม่มี ปัญหาเรื่องการรับส่ง email
5. ถอนก็มีปัญหา เมื่อ Office 365 (อันนี้ตัวทดลอง 30 วัน) เลยถอนการติดตั้ง office 365 แล้วเราก็ลง Office 2007 เมื่อครบเวลา 30 วันมันขึ้นหน้าให้ต่ออายุ Office 365 แม้ว่าเครื่องนั้นจะถอนไปแล้วและลง Office 2010 อยู่ แก้ไม่ได้จนต้อง format เครื่องใหม่
6. ถ้า Office 365 หมดอายุเราจะเปิดใช้โปรแกรมไม่ได้ ทำให้มีปัญหาว่าจะเอา email ใน outlook ออกมาใช้ก่อนก็ไม่ได้ ลองเอา .pst file ของ outlook มาใช้ก็ไม่สมบูรณ์ หรือถูกlock เอาไว้ต้อง export ออกมา เมื่อโดนบังคับต่ออายุเลย ไม่แน่ใจว่า Access เป็นไหม (จากการตรวจดูพบว่าในเครื่องมี 2 lic. ทั้ง Office 2007 และ Office 365 ซึ่งถ้า Lic. Office 365 มีปัญหา(เช่นหมดอายุ)จะกระทบ Office 2007 ด้วย)
ของผมคิดว่า Format อะไรก็ได้ที่ Open ใครๆ ก็สามารถอ่าน แก้ไข ได้ฟรี แต่กำหนดตัวกลางมาเป็นแนวทางด้วยก็ได้ จะได้ไม่ต้องมาคิดว่าควรใช้อะไร
ว่ากันจริงๆ ทั้ง OOXML ของ Microsoft และ ODF ของ OASIS ก็เป็น Open Standard และ International Standard ทั้งสองตัว อยู่ที่ว่าจะใครจะใช้แบบไหนครับ
ฉะนั้น ไม่ว่าจะ Office 365 หรือ Open/Libre Office ก็น่าจะอ่านได้ทั้งสองตัวอยู่แล้ว
ปัญหาเอกสารหน่วยงานรัฐ นี่หนักนะ ฝั่งนึงใช้รุ่นนึง อีกฝั่งใช้รุ่นนึง ดีหน่อยเดียวนี้เอกสารเผยแพร่เป็น PDF
ผมว่า เอกสารทั่วไป Markdownก็น่าจะพอแล้วนะ
ทำไมพริ้นเอกสารราชการมันต้องเป๊ะๆแบบนั้นด้วยนะ เว็บราชการยังไม่เหมือนกันเลยแต่ละหน้า
ถ้าต้องเป๊ะแบบนั้น เขียนLatexไว้เลยได้ไหม ไม่ต้องมานั่งจัดหน้า เปลี่ยนฟอนต์โน่นนี่
เคยลองใช้ Libre/Open office นะ แต่ปัญหาคือติด Ribbon ของ MS Office ไปแล้วนี่สิ