แอพพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนที่เกี่ยวข้องกับการนอนเท่าที่เห็นส่วนใหญ่นั้นสามารถตรวจจับ sleep cycle ได้ บันทึกเสียงขณะที่เรานอนหลับ หรือสามารถปลุกเราในช่วงที่ร่างกายกำลังตื่นเต็มที่ แต่ตอนนี้มีคนพยายามที่จะทำให้เรื่องของการนอนหลับเป็นเรื่องที่ซีเรียสกว่านั้นแล้วครับ
Sense เป็นโครงการบน Kickstarter ซึ่งจะช่วยให้การนอนหลับของเราดีขึ้นด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลการหลับของเรา รวมถึงสภาพแวดล้อมภายในห้องนอน การทำงานของ Sense สามารถแบ่งได้ตามอุปกรณ์ที่ต้องใช้ทั้งหมด 3 ตัวด้วยกัน
เท่าที่ผมอ่านดูแล้ว โครงการเพิ่งเปิดเมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมา ตอนนี้เหลืออีก 28 วัน แต่ยอดการสนับสนุนทะลุเป้าหมายจาก $100,000 ไปไกลถึงประมาณ $660,000 แล้วครับ ใครสนใจจะสนับสนุนโครงการก็สามารถเข้าไปได้ที่นี่ ส่วนวิดีโอแนะนำอุปกรณ์สามารถรับชมได้หลังข่าว
ที่มา Digital Trends, Kickstarter
Comments
ราคาดีมากเลยนะครับ ดูแล้วน่าจะถูกกว่าของ withings ด้วย //ขอบคุณสำหรับข่าวนะครับ
คนสมัยใหม่นี่มีปัญหากะการนอนมาก อย่างว่ารูปแบบสังคมมันเปลี่ยนไป ตัวผมก็เป็นนะ
เกือบดีแล้ว มาจบตรง Sleep Pill เปลี่ยนถ่านไม่ได้ - -'
มี Update #2 มาแล้วนะครับ กำลังทดลองแบบเปลี่ยนถ่านได้อยู่
https://www.kickstarter.com/projects/hello/sense-know-more-sleep-better/posts/926189
แนะนำให้เพิ่มความสามารถวิเคราะห์ตัวเลขจากความฝันแล้วเอามาขายในไทยรับรองขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ฟันธง!!
+inf. แล้วนำเข้าไทยก่อนเลย
ถ้ามีคู่นอน แต่นอนหมอนใบเดียวกันล่ะ!!!
ไอ้ที่หนีบหมอนคงไม่ได้ แม่ยายชอบเก็บกวาด เจออะไรที่ไม่รู้จักก็ทิ้งไว้ก่อน
โคตรเซ็ง
สมัยผมเรียน ได้ซื้อ เมาส์ปากกาแบมบู มาด้วยความที่กลัวว่าแกจะคิดว่าเป็นปากกาที่ใช้ไม่ได้
ต้องแนะนำให้แกรู้จักวันนั้นเลย นะกลัวว่าแกหยบเอาไปใช้แล้วเขียนไม่ได้เด๋วจะเอาไปทิ้ง
สมัยเรียนมีแม่ยายด้วยหรอครับ -..-
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ผมนอนแล้วหมอนไม่เคยอยู่หัวเลย บางทีตื่นมาตกอยู่ข้างเตียงด้วยซ้ำ 55
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
เดี๋ยวนี้ไม่ว่าอะไรก็ต้องพึ่งเครื่องมือกันแล้ว
ชีวิตง่ายขึ้น หรือซับซ้อนขึ้นกันแน่...
ชอบตัวนี้ตรงที่มีวัดฝุ่นได้ด้วยนี่แหละ น่าจะเหมาะกับคนเป็นภูมิแพ้
ผมว่าเทคโนโลยีพวกนี้ไม่ได้ทำให้ชีวิตคนเรายุ่งยากขึ้นนะ คือใครใคร่ใช้ก็ใช้ ใครคิดว่าไม่สะดวก แพงไป ยุ่งยากไป ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ แต่ลองคิดดู ถ้าเป็นแต่ก่อน การจะวัดประสิทธิภาพการนอนได้แบบนี้นี่ คือต้องไปนอนโรงพยาบาล ต่อสายระโยงระยางเต็มไปหมด ค่าใช้จ่ายก็ไม่ถูก แต่อันนี้คือเราสามารถวัดค่าที่ใกล้เคียงกัน (แน่แหละว่าคงละเอียดไม่เท่าที่โรงพยาบาล) แต่เราสามารถดูสถิติของเราได้ตลอด สำหรับคนใส่ใจสุขภาพ ผมว่าคุ้มครับ
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.