เป็นเรื่องเป็นราวกันมาหลายวันหลายโพสต์ (1, 2, 3) ในที่สุด นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. ก็ยอมรับว่าได้ "ขออภัยบริษัทแอปเปิล" ในประเด็นที่เรียกมือถือรุ่นดังกล่าวว่า iPhone 6 โดยจะแก้ไขลบชื่อดังกล่าวออก
นอกจากนี้ นายฐากรยังบอกว่าได้หารือกับผู้บริหารบริษัทแอปเปิ้ล เซาท์เอเชีย ประเทศสิงคโปร์ และอธิบายกระบวนการทำงานของ กสทช. ในแง่การตรวจรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์แล้ว ซึ่งบริษัทแอปเปิลเข้าใจและยอมรับในมาตรการดังกล่าว และยินยอมให้ กสทช. เปิดเผยข้อมูล
ที่มา - ไทยรัฐออนไลน์
Comments
สรุปว่า Apple หลุดข้อมูลตัวเองเพิ่มอีกว่าอาจจะไม่ใช้ชื่อ iPhone 6
เป็นภาษาการตอบแบบไม่ตอบรับไงครับ คือใช้คำว่า"อาจจะ"ใช้หรือไม่ใช้ชื่อนั้น เพื่อลดกระแสข่าวลง ก็เป็นไปได้
ผมว่านี่คือความเป็นมืออาชีพของบริษัทระดับโลก แอปเปิลคงไม่พอใจเรื่องเปิดเผยข้อมูลหรอก โดยเฉพาะไม่ใช่ช่องทางที่ปกติเผยแพร่ แต่ทำอะไรเรื่องนั้นไม่ได้เพราะคงไม่ได้ผิดกฎหมายจังๆ แต่จะอยู่เฉยๆ ก็ไม่ดี เรื่องที่เอาผิดได้คือชื่อรุ่นซึ่งไม่เคยมียืนยัน และ กสทช เถียงไม่ได้ ออกมาเจรจาแบบนี้ มีคำขอโทษแม้จะเป็นเรื่องชื่อ ก็ถือว่ากู้หน้าได้ระดับหนึ่ง
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
การรู้จักยอมรับผิดจากสิ่งที่ตนกระทำแม้ตนไม่ได้คิดว่าผิด แต่สร้างผลกระทบสร้างปัญหาเป็นวงกว้าง เป็นสิ่งที่ผู้ที่เจริญแล้วควรทำครับ ดีแล้วที่ผิดแล้วรู้จักแก้ไข ไม่ใช่ผิดแล้วไปแถ ไปขู่เค้าด้วยตำแหน่งหน้าที่ของตน อันนั้นเหมือนเด็กไม่รู้เรื่องรู้ราว สร้างความขายหน้าให้คนไทยไปทั้งโลก
การเอาโซเชี่ยลมีเดียมาใช้มันมีความเสี่ยงสูงครับ เพราะมันสามารถออกผลกระทบได้ทั้งสองทาง เพราะคนหมู่มากจะมีทั้งชอบและไม่ชอบ การกระทำของท่านเลขาต้องการเอาใจแฟน Apple แต่มันไปกระทบกับบริษัท Apple ซึ่งเมื่อสร้างความเสียหายแล้วออกมาขอโทษ (ซะที) ก็ดีครับ ผมไม่อยากให้หน่วยงานราชการไทยเอาโซเชี่ยลมีเดียมาเล่นเลย เพราะมันเป็นหน้าตาของประเทศ เพราะทำอะไรออกมามันมีคนได้คนเสียจากการกระทำนั้น ๆ ตลอด การเป็นหน่วยงานราชการไม่ควรเลือกปฏิบัติอย่างนั้นครับ แถมเวลาเสียมามันเสียทั้งประเทศนะครับ
กว่าจะมายอมรับผิด ก็ดื้ออยู่หลายยกนะครับ
ผมเห็นต่างนะ ประชาชนควรเข้าถึงหน่วยงานราชการได้ง่ายและในทางกลับกันหน่วยงานราชการก็ควรสื่อสารกับประชาขนให้ทั่วถึงมากที่สุด หนึ่งช่องทางที่สำคัญคือ Social media ในเรื่องนี้มันไม่ใช่ว่าผิดที่เครื่องมือหรือเทคโนโลยี มันผิดตรงการนำเสนอและตรงตัวบุคคลมากกว่า ถ้ารู้จักจัดการดีๆ เลือกคนที่เหมาะสมมารับงานตรงนี้ มันจะเป็นอีกช่องทางที่มีประสิทธิภาพมาก
ส่วนเรื่องที่ว่า "การกระทำของท่านเลขาต้องการเอาใจแฟน Apple แต่มันไปกระทบกับบริษัท Apple ซึ่งเมื่อสร้างความเสียหายแล้วออกมาขอโทษ (ซะที) ก็ดีครับ" ผมไม่รู้จริงๆ ว่าเจตนาหรือความคิดในวูบนั้นตอนที่กดปุ่มทวีตของท่านนี้คืออะไร ถ้าคิดหรือไตร่ตรองกว่านั้นสักหน่อยก็อาจจะเปลี่ยนใจไปแล้ว เพราะมันเหมือนไม่ได้เป็นประโยชน์อะไรกับใครเลย
ครับ การให้ข้อมูลก็เป็นเรื่องสำคัญ แต่ถ้าเป็นข้อมูลจากทางราชการควรจะมีหลักการหลาย ๆ ตัวกำกับ ไม่ควรเอาอ้างเล่น ๆควรจะมีผู้ชำนาญการเฉพาะด้านดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ เพราะมันเกี่ยวเนื่องกับความเชื่อมั่น ผมว่าท่านเลขาแกทำเป็นเล่นกับประชาชนเลยทวิชไปอย่างนั้น
คราวหน้าสงสัยเปิดตัวก่อนขออนุญาต อิๆ
ตอนทวีตก็ใช้แอคเคาท์ตัวเอง พอโดนด่าก็บอกเป็นเรื่องขององค์กร กสทช.เป็นองค์กรที่ห่วยแตกก็เพราะคนในนั่นแหละ ทำงานพลาดตลอด ยุบได้ก็ดีองค์กรห่วยแตกแบบนี้เปลืองเงินประเทศ
ส่วนที่ดีขององค์กรนี้ก็มีอยู่ครับ ยกตัวอย่าง เรื่องบอลโลก เปิดให้ฟรีทีวีดู
งานขององค์กรนี้ก็เยอะนะครับ บริหารคลื่นความถี่ เรื่องสื่อทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นมือถือ โทรทัศน์ วิทยุ หลายๆ คนอาจจะคิดว่านี่คือองค์กรเสือนอนกิน รับเงินประมูล ค่าปรับโน่นนี่ตั้งไม่รู้เท่าไหร่
ถ้าไม่มี กสทช มีหวังค่ามือถือเราแพงทะลุโลกแน่นอน รายการหลอกลวงเต็มไปหมด ช่องสร้างความแตกแยกเกลื่อนประเทศ
เรื่องนี้เลขาธิการกสทช ไม่เชิงว่าผิด แต่เหมือนเอาข้อมูลที่ทางบริษัทไม่อยากเปิดเผยมาเผยเชิงอวดๆ มากกว่า ก็รับเคราะห์กันไป โดนสังคมตัดสิน แล้วข้างในก็คงคุยกันเพิ่มแหละ ช่างมันเถอะครับ
ไม่ขายก็ไม่ต้องขาย
บอลโลกใช้เงินประชาชนนะครับ ไม่ใช่เงินพวกมัน
แล้วมือถือราคามันถูกจริงหรือครับ บอกสามจีจะลดทุกสันนีเมันลดไหม smsเถื่อนหลอกเงินชาวบ้านมันจัดการได้ไหม ทีวีก็โฆษณายาทาแล้วนมโต นกเขาขันไม่มีล้ม คลื่นวิทยุก็จัดสรรแต่บริษัทใหญ่ ทีวีดิจิตอลก็ปล้อยข่าวเรื่องคูปองพันบาทจนราคากบ่องเขยิบสูงไปหมดแล้ว ใช้เวินภาษีจ้างหนังสือมาถ่ายรูปตัวเองและสุัมภาษณ์ด้วย ชาวบ้านเขาเอืมระอากับหน่วยงานนี้แร้วครับ
อยู่ในความสุภาพด้วยนะครับ
ขออภัยครับ
ตั้งใจทำกระทบใครอ่ะป่าว ทำผิดแล้วรีบขอโทษ ไม่แถ ไม่โยกโย้
ใช่ๆ ได้รับSMSชวนเล่นการพนันทุกวัน ส่งSMSเสียเงินxบาทได้ลุ้นรับนู่นนี่นั่น
เรื่องบอลโลกผมไม่นับว่าเป็นผลงานนะ = ='
May the Force Close be with you. || @nuttyi
เห็นด้วย +10 ครับ
ผมคคนนึงน่ะครับที่ไม่ดูบอล มันเป็นประโยชน์แก่คนบางกลุ่มเพียงเท่านั้น
ผมเป็นคนที่ดูบอล แต่ก็ไม่นับว่าเป็นผลงานเหมือนกันครับ ยังคิดหาประโยชน์จากกรณีนี้ไม่ได้ ส่วนใหญ่ถ่ายทอดดึก ถ้าดูก็มีผลกระทบต่อเรื่องงาน อีกอย่างผมไม่มีทีวีดูด้วยครับ ฮา
ผมว่าความเห็นของคุณเป็นความเห็นที่ออกมาจากอคติครับผม ไม่ได้มีข้อเท็จจริงอะไรเลย แบบว่ารู้สึกเอาเองนะครับ
อคติยังไงครับ งง?
ผมแค่ไม่ชอบให้ด่าๆ องค์กรใดองค์กรหนึ่ง ด้านเดียว ไม่คิดถึงส่วนที่เค้าได้เปลี่ยนชีวิตเราบ้าง คิดถึงใจเขาใจเรา เวลาที่เค้าทำดีชมๆ ไปก็ลืม เวลาเค้าทำให้ตัวเองไม่พอใจก็ด่าเค้าเสียๆหายๆ เดือดร้อนแทนคนโน้นคนนี้ พูดจาไม่คิดถึงคนที่อ่านจะเสียกำลังใจ
แน่นอนว่าผมก็ไม่ได้รู้สึกดีกับทุกๆ อย่างที่ผมใช้ เรื่องของ กสทช เองผมก็ไม่ได้สนับสนุนให้ทวิตแบบนั้นอะไร แค่ผมมองแยกว่าเรื่องนี้คนผิด (ไม่สิ ประพฤติตัวไม่เหมาะกับ Norm ของสังคม) คนเดียว ไม่ใช่ทั้งองค์กร เอะอะด่าๆ ยุบๆ ไปมันสมควรแล้วเหรอครับ
ถ้าไม่มี กสทช วงการสื่อจะเละขนาดไหน นี่ขนาดมียังเละเลย คิดถึงว่าถ้าไม่มีสิครับ
อย่าง Internet true ผมก็เพิ่งมีปัญหา ก็โทรไป Call center เค้าก็แค่ให้ปกติ ถ้าผมนิสัยด่าๆ ผมก็คงจะด่าๆ บอกให้ยุบๆ ทรูไปไม่ต้องใช้กันอย่างนี้เหรอครับที่อยากได้ยิน อยากให้คิดถึงส่วนดีๆ ของเค้าบ้าง อย่างน้อยเค้าก็เป็นผู้บุกเบิก ADSL ให้กับประเทศ มีลิงค์ไปอินเตอร์เน็ตนอกประเทศ ทำโน่นทำนี่อำนวยความสะดวกสบายให้กับเรา ไม่ในทางตรงก็ทางอ้อม ปิดทองหลังพระ เอาความดีมาหักลบกับความผิดพลาด หยวนๆ กันไปบ้าง
คุณเลขาธิการเค้าผิดพลาด ก็แสดงความเห็นกันไปให้รู้ว่าคนทั่วไปเค้าคิดยังไง แล้วก็ให้อภัย สังคมจะได้ไม่ต้องมีความขัดแย้งอะไรมาก เอาเวลาไปทำมาหากิน พัฒนาประเทศดีกว่าครับ เรื่องทวิต iPhone6 นี่มันเรื่องหยุมหยิม อย่างน้อย Impact ที่คุณเลขาธิการมีต่อประเทศนี้ก็เยอะกว่าคุณหรือผมรวมกันซะตั้งเยอะ (ในทางดีทางชั่ว ก็ว่ากันไป ผมไม่ทราบตื้นลึกหนาบางขนาดนั้น)
ผมว่าองค์กรนี้มีก็ไม่ได้ปรับปรุงอะไรให้ประเทศนี้เลย ประมูลสามจีก็ได้ราคาน่าเกบียดมาก สามเจ้าให้เพิ่มเจ้าเดียว ทีวีก็ห่วยครับตอนก่อนบอลโลกก็ออกกฏต้องเอาเข้าฟรีทีวี พอแพ้คดีก็ใช้เงินประชาชนมาจ่ายแถมยังโดนRSหลอกเอาไปถ่ายที่ช่อง8 ซึ่งบางแห่งยังรับไม่ได้อีก แทนที่จะจัดการRSก็ไม่ทำอะไร เรื่องมือถือมีหัญหากันตลอดออกกฏอะไรค่ายมือถือก็ไม่ฟังอีก ถูกวิจารณ์มากๆก็ฟ้องดำเนินคดีกับนักวิชาการ แถมไปพูดว่าเขามาหาเพื่อยอมความแต่ก็โดนเขาปฏิเสธไป ถ้าคุณคิดว่าองค์กรนี้ดีก็แล่วแต่ครับ แต่ผมคนนึงละอยากให้ยุบกสทช.ทิ้งครับ
ความดีกับความเลวมันหักล้างกันได้เหรอครับ
ด่าในเรื่องควรด่า ชมในเรื่องควรชม มันจะสมเหตุกว่าไหม
หนับหนุนด้วย
เรื่องทวิต iPhone6 นี่มันเรื่องหยุมหยิม ?
แสดงว่าคุณไม่เคยทำธุรกิจและไม่รู้จักคนที่ทำธุรกิจใช่มั้ยครับ
ถึงไม่รู้ว่าเรื่องความลับของข้อมูลทางการค้านี่มีความสำคัญขนาดไหนต่อธุรกิจ
ผมว่าป่านนี้ Apple คงตั้ง war room รับมือเรื่องหลุดรอบนี้กันหน้าดำคร่ำเครียดเลยทีเดียว
ทำธุรกิจ เคยทำธุรกิจ และทำอยู่ครับ tweet iphone6 มันหยุมหยิมจริงๆ ใครๆ ก็รู้ว่าปีนี้มีออกมาแน่นอน แค่อีตาเลขาธิการนี่อยากอวดเฉยๆ สาวกเต้นกันจะเป็นจะตาย
ข้อมูลทางการค้า ความลับทางการค้า สำคัญขนาดไหนทำไมผมจะไม่ทราบ ความลับ ชั้นความลับ เรื่องของกฎหมาย พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ผมก็กำลังทำงานด้วยอยู่ หลายๆ เรื่องที่ผมรู้แต่ไม่ได้เปิดเผย (ความลับระดับประเทศ) ผมก็จับมาแล้ว (จับทั้งระบบด้วย) ผมก็ไม่ได้ไปป่าวประกาศผ่าน twitter facebook นี่ครับว่าผมไปรู้อะไรมาบ้าง อาจจะบ่นนิดๆ หน่อยๆ เรื่องระบบบ้าง อะไรบ้างเท่านั้นเอง แต่ตัวเนื้อข้อมูลไม่มีหลุดไปอย่างแน่นอน
พูดอะไรผมก็ระวังครับ ไม่ให้กระทบกับทุก Party ที่ทำงานด้วย Apple รับมือกับข่าวหลุดนี้ยังไงทำไมต้องไปเดือดร้อนอะไรมากมายครับ อย่ามาตลกกับผมครับ หาว่าผมไม่ได้ทำธุรกิจซะด้วย หึหึ
อคติตรงไหน
-บอลโลกได้ดูฟรี ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ กสทช. เลยถ้า คณะคสช. ไม่บังคับให้จ่ายเงินให้ได้ดูกัน กสทช. ก็ไม่ได้ทำอะไร แถมเอากฏ Must Have ที่ออกทีหลังไปบังคับใช้กับ RS อีกต่างหาก
-แล้วราคามือถือ จะแพงหรือไม่แพงทะลุโลก ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ กสทช. อีกเหมือนกันมั้งครับ มันเป็นเรื่องการตลาดและภาษีภายในประเทศ แล้วไหนจะราคาทำตลาดกลางอีก
ผมมองว่า อคติ หรือเป็นความคิดส่วนตัวของคุณเองคนเดียวได้หรือป่าวครับ?
แล้วเค้าก็ไม่ได้ว่าอะไรเรื่องเอะอะด่า เอะอะยุบเลยนะครับ เค้าก็ด่ากันเป็นเรื่องๆ
ผมเข้าใจครับว่า ใครๆก็รู้ว่า iPhone6 เดี๋ยวมันก็ออก ออกกี่รุ่น แต่คุณเข้าใจคำว่า "เป็นทางการ" มั้ยครับ ไอ้ข่าวหลุดข่าวรัวมัน "ไม่เป็นทางการ" แต่การที่ท่าน เลขาฯ ออกมาพูดโดยที่ท่านสวมหัวโขนของ เลขาฯ กสชท. โดยคำพูดของตัวท่านนั้นมันสำคัญครับ มีผลต่อตลาดหุ้น หรืออะไรหลายๆอย่าง ถ้ามีหุ้น Apple หรือ Samsung ในไทย ป่านนี้คงมีการซื้อขายทำกำไรกันวุ่นแล้วครับ
บอลโลกไม่เป็นธรรมสำหรับคนไม่ดูบอลครับ
+10
999+
เอาเท่าที่ผ่านหูผ่านตามานะครับ ผิดถูกไงขออภัย
- ย้ายค่ายเบอร์เดิม
- ซิมเติมเงิน เติมเท่าไหร่ก็ได้ ได้วัน 30 วัน ทำให้ไม่ต้องเติมบ่อยๆ
- ประมูลคลื่น 2100 ทำให้มี 3G และ 4G ใช้
- ออก block spam SMS
- ประมูลคลื่นความถื่ทีวีดิจิตอล(มีซะที ทีวีดิจิตอล) ผมว่าอันนี้เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงเลยนะ ไม่มีสมัยไหนกล้าทำเลย เพราะอะไรก็รู้กันอยู่
- ออกกฏ must have แต่ไม่สำเร็จ แต่อันนี้ผมชอบ เหมือนประเทศอะไรสักอย่างที่ให้รับประกันสินค้า 2 ปีขั้นต่ำ แม้แต่ apple ยังต้อง 2 ปีเลย
- บอลโลก กสทช. ทำนะครับ แต่ คสช. เป็นคนให้นโยบายมา(สั่งให้ทำนั่นแหละ)
มาดูส่วนที่ด่ากัน
- ประมูลคลื่น 2100 ประมูลกัน 3 เจ้า แบ่งเท่าๆ กัน(จะประมูลทำไม)
- กล่อง set top box ยังไม่ถึงไหน เพราะกลัวจะมีคนโกง สวมสิทธิ์(รู้ๆ กันอยู่ คนไทย) ตอนนี้เลยหาข้อสรุปไม่ได้ซะที เลยกระทบช่อง พาลไม่จ่ายค่าไลน์เซ่นเลย
- บอลโลก คนดูบอลไม่ได้ผลประโยชน์ อันนี้ผมมองว่าใจดำไปหน่อยนะครับ การออกอะไรมาก็แล้วแต่ ไม่มีคนได้ผลประโยชน์ 100% หรอก เฉลี่ยๆ กันไปครับ คุณไม่ดูบอล แต่คุณได้ 3G, คุณเคยเปลี่ยนค่ายเบอร์เดิม คนต่างจังหวัดไม่ใช้เน็ต ไม่ได้ 3G แต่ได้ดูบอลฟรี อะไรอย่างนี้เป็นต้น
- ราคา 3G บอกว่าจะต่ำ อันนี้ต้องถามค่ายมือถือครับ ว่ามันต่ำตรงไหน เพราะ กสทช. ออกกฏมาแล้ว ซิกแซกๆๆๆ
ผิดถูกยังไงขออภัยนะครับ อยากให้ถอยออกมาสักสองเก้าแล้วค่อยมอง มันจะได้ระยะมุมมองที่ไกลขึ้นครับ
+1 ครับ เรื่องดี ๆ ก็มีเยอะ หลาย ๆ เรื่องถ้าไม่มี กสทช. ก็คงไม่เกิด
ส่วนเรื่องไม่ดีก็ตำหนิกันได้
เรื่องยุบไปเลยคบทำไม่ได้ เพราะจะไม่มี regulator มาคอยควบคุม
ปล. เรื่องบางเรื่องที่เราด่ากันก็ไม่อยู่ในอำนาจ กสทช. นะครับ อย่างวิทยุชุมชนนี่ก็ต้องมาขึ้นทะเบียนก่อน ถ้าไม่ขึ้นทะเบียนจะยังใช้กฎหมายเก่าคุม ซึ่งไม่อยู่ในอำนาจ กสทช. พวกโฆษณาทีวีดาวเทียมหลอกขายยาก็เป็นอำนาจ อย. ที่ต้องจัดการครับ กสทช. ทำได้แค่ประสานงานกับ อย. และไม่ต่อใบอนุญาติให้ คร่าว ๆ นะครับ มีอีกหลายเรื่องเลย ทั้งนี้เป็นเพราะการขาดความเป็นเอกภาพของหน่วยงานราชการมากกว่า
A smooth sea never made a skillful sailor.
เสรีภาพในการพูด ควรมีข้อจำกัด ไม่ใช้อยากพูดอะไรก็พูดได้
+1 เห็นด้วยอย่างยิ่ง บางทีปากคนเรา ก็ไวเกินไป
รอบหน้าตกไป second or third wave แหงม ๆ
มันแย่มากเลยหรือครับ เราแคร์บริษัทนี้มากเลยหรือ? บริษัทนี้มันมีความสำคัญ "ต่อชีวิต" พวกเรามากถึงขนาดนั้นเลยหรือครับ
ข่าวที่ผ่านๆ มาบอกตามตรงว่าผมรู้สึกหงุดหงิดกับประเด็นนี้มากๆ เพราะเห็นหลายคนมากๆ ที่วิตกกับเรื่องนี้ "เกินเหตุ" เรื่องที่พอมีเหตุการณ์นี้จะทำให้แอปเปิลเปิดตัวในบ้านเราช้า สังเกตว่าคนที่ด่า กสทช. ป่าวๆ ด่าเพราะ "กลัวแค่แอปเปิลจะเลื่อนขายในไทย" แต่ไม่ได้ด่าในสิ่งที่สมเหตุผลอย่างเรื่องการที่หน่วยงานบ้านเราต้องคุ้มครองความลับทุกบริษัทด้วย ...แต่ในข่าวนั้นผมไม่อยาก reply อะไร เพราะมันจะกลายเป็นความไม่สุภาพไปได้ง่ายๆ เลย เลยเลี่ยงไม่พูดอะไร
แต่ถามตรงๆ ว่า จะ 2nd หรือ 3rd wave เราจำเป็นต้องดิ้นกันขนาดนั้นเลยหรือครับ ถ้ามาช้า คนบ้านเราจะล้มหายตายจากกันขนาดนั้นเลยหรือครับ? ลงแดงขนาดนั้นเลยหรือครับ? ทั้งๆ ที่จะขายก่อน ขายหลัง ผลกระทบมันก็ตกอยู่ตัวบริษัทเค้าเองทั้งนั้น ขายเร็ว ก็ได้ขาย และได้ยอดเปิดตัวสูงๆ ขายช้า ก็อาจจะโดนคู่แข่งตัดหน้าไปก่อน กระแสเริ่มหาย ส่วนเราไปเดือดร้อนอะไรกับเขาด้วย ถ้าเขาขายช้าก็ทำตัวเขาเองทั้งนั้น
ผมชักไม่แน่ใจแล้วว่า ตกลงเราเป็นผู้บริโภค หรือตกเป็นทาสของบริษัทนี้แล้วกันแน่? อยากฝากทุกคนลองถามตัวเอง แล้วสะท้อนคิดออกมาครับ ผมขออนุญาตเตือนสติแล้วกัน ส่วนใครจะคิดอย่างไรก็สุดแล้วแต่ครับ
ถ้ามันเป็นยารักษา Ebola แล้วบ้านเราระบาดขั้นวิกฤติ ต้องรีบเอามาจำหน่ายโดยเร็ว นั่นก็ค่อยสมควรโวยวายครับ
สั้นๆ ครับ มันไม่สำคัญกับคุณเพราะคุณไม่ได้ใช้ iPhone ไงครับ
ความสำคัญในชีวิตคนเราไม่เท่ากัน อย่างผมจะดูบอลโลกฟรีหรือไม่ฟรี ก็ไม่เห็นต้องดิ้นอะไรเลย เพราะผมไม่ดูบอล แต่ก็ไม่ไปแหวะคนอื่นว่ามันไร้สาระ
ผมแคร์อย่างมากครับ อย่างน้อยเขาก็สร้างแรงบันดาลใจให้ผมนั่งทำงานได้จนสว่างจนกระทั่งอาบน้ำไปทำงานต่อ ไม่เกี่ยวกับไอโฟน ผมก็ไม่ได้ใช้ไอโฟน รุ่นต่อไปก็คงเป็นซัมซุง อัลฟาเพราะผมเขียนแอพแอนดรอนด์เป็นส่วนใหญ่ แต่แรงบันดาลใจมันมาจากแอปเปิ้ลนี่ล่ะครับ คนอื่นไม่แคร์แต่ผมแคร์ ลองคุณทำงานตามเจ้านายสั่ง นั่งทำงานไปได้แค่ 4 ทุ่มก็ตาลืมไม่ขึ้นแล้ว
ไม่น่าเกี่ยวกับ "ใช้ไอโฟน" นะครับ หลายคนที่ใช้ก็ไม่ได้เดือดร้อนกับการที่มันจะออกช้า (เผลอ ๆ ดีใจเพราะว่าของตัวเองไม่ตกรุ่นเร็วด้วย)
เม้นที่คุณ reply ที่เค้าตอบปกติเองนะ ผมไม่เห็นว่าเค้าแสดงเดือดร้อนเลย ก็แค่ให้ความเห็นว่าปีหน้าคงช้า ถ้าเก็บกดกับคำถามพวกนั้น ทำไมไม่ไป reply ที่คำถามพวกนั้นหละครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ผมไม่ได้แคร์บริษัท เพราะผมไม่ได้ใช้ iPhone เหมือนกันครับ แต่ผมแคร์ลูกค้าชาวไทยอยากให้ได้ของดีทันเวลา ไม่ใช่ต้องรอไปหลายเดือน เรื่องพวกนี้มันมีผลกระทบต่อลูกค้าผมไม่อยากให้เกิดเลย เพราะลูกค้าไม่ได้ทำอะไรผิด แต่เป็นเรื่องระหว่างกสทช. กับ Apple หวังว่าทั้งคู่จะเคลียร์กันได้โดยไม่มีปัญหาตามมา
ขายเร็วขายช้ามันบอกถึงอนาคตที่ Apple จะดูแลผู้ใช้ในเมืองไทย (ไม่รวมผมนะผม Anti-Apple) ซึ่งถ้า Apple มาเปิดร้านในไทยก็จะดีมาก ไม่ได้ดีกับผมเพราะไม่ได้ใช่ก็ดีกับญาติพี่น้องของผมที่ใช้สินค้า Apple ที่จะได้การบริการเทียบเท่าประเทศอื่น ๆ ซึ่งผมอยากให้เป็นอย่างนั้น เพราะเมื่อมีการแข่งขันด้านการบริการ บริษัทอื่นก็ต้องปรับตัวแข่งด้วย เป็นผลดีทั้งระบบมากกว่าผลเสียครับ
ผมเชื่อเรื่องการแข่งขันกันครับ ยิ่งแข่งยิ่งดี และผมไม่ชอบการกระทำของท่านเลขากสทช.เลยครับ เหมือนจะเอียงข้างโดยพยายามจะโฆษณาให้ Apple จ้าวเดียว ดูเหมือนจะไม่สนับสนุนการแข่งขันเสรี (ซึ่งผมไม่ชอบมาก ๆ เป็นข้าราชการควรจะเป็นกลาง) แต่เผอิญ Apple อยากทำเองมากกว่าก็เลยกลายเป็นเสียมารยาทไป ผมว่าท่านเลขาควรจะโฆษณาให้กับมือถือทุกรุ่นที่เค้าอนุญาตให้ทำด้วยนะครับ ถ้าเจ้าไหนไม่อนุญาตก็อย่าไปทำ ผมว่ามีมือถือจีนหลายจ้าวรอการโฆษณาฟรีจากท่านอยู่
การที่มาช้ากว่าชาวบ้านผมว่าหลายคนแคร์นะครับ เพราะที่ดู ๆ ใน blognone นี่ หลาย ๆ คนก็บ่นที่ Surface มันมาช้า
ถ้า iPhone มันมาช้าบ้างผมว่าไม่ต่างกันเท่าไหร่ครับ
ผมนี่สาวกอีกฝั่งเลยนะ ผมนี่สาย Android เลยยังรู้สึกกระทบเลยครับ
ผมว่าชีวิตของ Geek นี่ขอให้มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับเทคโนโลยี มันก็สะเทือนใจหมดนะ
มันคือโลกของเรา(ผม)นะครับ
ถ้าให้มองอีกกลุ่มนึงเช่น ถ้า SNSD กำลังจะมาไทยแต่ยังไม่ได้ประกาศ บังเอิญ รมต.ท่องเที่ยว เผลอทวีตว่า สาวๆจะเปิดคอนเสิร์ตไทย รอกันเลย แล้วทางต้นสังกัดเค้าไม่พอใจยกเลิกคอนเสิร์ต ติ่งๆโกรธ ผมว่าเรื่องมันก็คล้าย iPhone นะ (เรื่องสมมุตินะ)
ผมก็คิดประมาณนั้นครับ ให้คุณค่าของการโพสต์ทวิตเตอร์ในต้นเรื่องเท่าๆ กันกับเกรียนตามเว็บที่รู้สึกภูมิใจที่ได้โพสต์คอมเมนต์แรก เพราะโพสต์ที่ว่ามันไม่ได้ทำให้เกิดประโยชน์แก่ใครเลย ยกเว้นคู่แข่งของ Apple
ผมก็รู้สึกงั้นเหมือนกัน
ป.ล. ปีที่แล้วมีแบบ SNSD ที่สมมติเกิดขึ้นมาแล้วครับ แต่เป็นวง Metallica แห้วกันทั้งแผ่นดิน
รอบนี้ไม่แย่ครับ เพราะเพิ่งซื้อไป :) แต่ถ้าตรงกับรอบที่จะซื้อเนี่ย เข้าขั้นหงุดหงิดเลยละครับ รู้สึกอยากใช้ไวไว (ได้ไวไวจะได้ตกรุ่นช้า ๆ ไงครับ เพราะมันออกใหม่ทุกปี) lol
PS อย่าหงุดหงิดเพียงเพราะเขาไม่ได้คิดเหมือนกับเราดีกว่าครับ ชีวิตจะได้มีความสุข
มิน่าประเทศมันเลยโดนถ่วงแบบนี้ ตัวเองทำผิดใช้ทวิตเตอร์ส่วนตัวเผยความลับระหว่างองค์กร แต่พอจะรับผิดดันเอาชื่อองค์กรมารับผิดชอบ ผมว่าท่านเลขานี้ต้องรู้จักพิจารณาตัวเองนะครับ
อึ้งไปเหมือนกัน
ประเด็นที่พอจะเอาหน้า ก็เอาหน้าผ่านชื่อตัวเอง ได้หน้าไปเต็มๆ
แต่พอกระแสไม่ออกมาดังหวัง กลับอ้างว่า ที่ทำไปทำในนามองค์กรนะ ทำในนาม กสทช ไม่ใช่ในนามส่วนตัว
ทั้งๆที่หลักฐานมันก็มีอยู่ทนโท่ว่า ทวีตออกมาในนามส่วนตัวชัดๆ
ส่วนตัวแล้วไม่อยากให้ไทยได้ Tier 1 รอเปิดตัวก่อนค่อยส่งมา Approve ก็ได้ครับ
และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นการปิดตายความเป็นไปได้ว่า
จะไม่มี Apple Retail Store ในประเทศไทย อย่างแน่นอนด้วยเช่นกัน
ที่จริงควรปลดออก เพราะทุกบริษัทที่จะนำเข้า ถูกบังคับให้ต้องเปิดเผยสเปคของผลิตภัณฑ์เพื่อให้พิจารณา จึงเป็นหน้าที่โดยปริยายที่หน่วยงานและบุคลากรจะต้องถือข้อมูลดังกล่าวเป็นความลับ จะนำออกสู่สาธารณะอย่างที่กล่าวอ้างไม่ได้ จะเห็นได้จากการที่ไม่เคยมีหน่วยงานไหนของต่างประเทศ ออกมาทำอะไรเช่นนี้
.
การทำเช่นนี้เท่ากับแสดงให้เห็นว่าเป็นผู้ขาดวุฒิภาวะ ยิ่งประธานไม่ออกมาทำอะไรเลย ประธานก็ขาดวุฒิภาวะไปด้วย ควรปลดยกชุด
+1
เว้นคุณสุภิญญาไว้คนนึงเถอะครับ นอกนั้นเอาออกยกชุดไปเลย
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
หมอลี่ด้วยครับ
ถือเป็นความลับนี่ใครถือครับ บริษัทหรือคุณถือ?
รายชื่อสินค้าที่ได้รับการรับรอง "เป็นข้อมูลสาธารณะ" เปิดเผยในเว็บกสทช. จนทุกวันนี้ และต้องเปิดเผยด้วยเพราะหากคนไปซื้อแล้วเห็นสติกเกอร์หมายเลขได้รับอนุญาต ต้องตรวจสอบย้อนกลับมาได้ว่ามีขายจริงหรือไม่
ก่อนหน้านี้ข่าว Nokia X ก็ออกมาเพราะเป็นข้อมูลสาธารณะ
lewcpe.com, @wasonliw
ทำไมผมหารุ่นที่เป็นข่าวไม่เจอ -*-
เสริมอีกนิดว่า ของประเทศอื่นเขาก็มีการเปิดเผยข้อมูลลักษณะนี้เช่นเดียวกันครับ
(ส่วนเลขาคนที่ทำเรื่องนี่แค่ปากไวไปนิด)
ทางกสทช.แจ้งว่า
“จริงๆทางแอปเปิลแจ้งเข้ามาว่าเป็นความลับของบริษัท แต่กสทช.มองว่าการนำสินค้าเข้ามาขออนุญาตถือเป็นเรื่องที่เปิดเผยได้เพราะเป็นหน่วยงานของราชการ เมื่อมีการยื่นเรื่องเข้ามาก็พร้อมที่จะเปิดเผย แต่ทั้งนี้ก็ไม่มีให้ข้อมูลถึงสเปก และรายละเอียดต่างๆของเครื่องที่เป็นความลับไม่สามารถเปิดเผยได้”
ตามนี้
จริงๆน่าจะออกแบบ Nokia X ออกจะไม่มีใครว่าเลยนะ
ประเทศอื่นก็ไม่มีใครเขาทำกันนะ คนตรวจเอาข้อมูลมาออกทาง ทวิสเตอร์ เนี้ย
ใน link ทำไมหา apple ไม่เจอเลยอะ
เอาข้อมูลแบบนี้มาโพสต์ในทวีตเมืองนอกเขาฟ้องได้นะครับ
ผมมองว่าสิ่งที่เลขา กสทช. ทำมันไม่ใช่หน้าที่ครับยังงงว่าทำไปทำไม
เอาแล้ว.. iphone งอนไม่มาขายที่ประเทศไทยแล้ว (เดา)
เข้าทางกับเครื่องตู้ และ Samsung
บริษัท แอปเปิ้ล เซาท์ เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด สะกดมีไม้โทครับ >> https://www.apple.com/th/contact/
ผลกระทบมันไม่ได้จบแค่ Apple จะไม่ขาย หรือขายโทรศัพท์ในประเทศเราช้านะครับ
ธุรกิจอื่น ๆ ที่ต้องการมาลงทุนในไทยอาจจะชะงักหรือเปลี่ยนใจได้
เพราะกสทช. ซึ่งเป็นองค์กรใหญ่ของรัฐเสมือนเป็นตัวแทนประเทศยังทำซะขนาดนี้ แล้วองค์กรอื่นล่ะ จะเหลือเรอะ (ในสายตาชาวต่างชาติ)
หรือการทำงานข้ามชาติจะยากขึ้น เวลาบ.ต่างประเทศเห็นเรซูเม่ว่าผู้สมัครเป็นคนไทย
ก็จะคิดถึงเหตุการณ์นี้ว่าองค์กรรัฐของประเทศยังเอาข้อมูลมาเปิดเผย แล้วถ้าเราจ้างคนไทยมาเป็นพนง.ล่ะ? จะเก็บความลับของบ. อยู่เรอะ?
อะไรประมาณนี้
เห็นด้วยครับ มันจะไปสร้างภาพเหมารวมว่าคนไทย ปากสว่าง และ ไม่รู้จักมารยาทเอาของคนอื่นมาทำประโยชน์ให้ตนเอง เพราะหน่วยงานราชการมันต้องเป็นคนที่คัดสรรมาแล้ว ถ้ายังเป็นได้ขนาดนี้แล้วคนทั่วไปจะเป็นยังไง หวังว่าชาวโลกจะไม่มองคนไทยอย่างนี้นะครับ
ส่วนตัวแล้ว ผมไม่ได้มองว่าการที่ผมดีใจที่ทาง apple จะเข้ามาขาย tier แรก เป็นเรื่องของ "ทาสแบรนด์" หรือ "สำคัญต่อชีวิต" ครับ
แต่ผมมองที่ว่า บริษัทที่ใหญ่ระดับนั้น "เชื่อมั่น" "เชื่อใจ" และ "ให้ความสำคัญ" กับประเทศเล็กๆ ของเรา (ข้อนี้ยอมรับนะครับ? ว่าเล็กจริง) เชื่อมั่นว่าประเทศเราคุ้มค่าแก่การขายล๊อทแรก คุ้มค่าแก่การลงทุนต่อไปในอนาคต เชื่อใจว่าประเทศเราจะรักษา gimmick ของบริษัทเค้าได้ ทัดเทียมประเทศที่พัฒนาแล้วอื่นๆ ที่ทำตรงจุดนี้ได้
ผมดีใจในแง่นี้ครับ
แต่พอเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ความเชื่อมั่น เชื่อใจ ไว้ใจ ผมว่ามันถูกทำลายลงไปแล้ว
เค้าก็คงมองประเทศเราเป็นประเทศ "ด้อยพัฒนา" ที่ไม่สามารถรักษาความเชื่อใจ ความลับทางธุรกิจ ได้เลย
ความเห็นส่วนตัวครับผม
+1 ครับบางคนก็จะจ้องแต่จะเล่นประเด็นเรื่องแฟนบอย ถีบคนที่ออกมาแสดงความเห็นให้ไปเป็นพวก Apple fanboy ซึ่งผมว่าบางคนไม่น่าจะใช่แฟน Apple นะ แล้วก็เอามาเป็นประเด็นว่าแฟน Apple พากันดิ้น ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วเรื่องนี้มันมีผลกระทบที่กว้างมากกว่านั้น เพราะเรื่องนี้มันจะกลายเป็นบรรทัดฐานให้กับแบรนด์อื่นๆ ต่อไป
ป.ล. ผมเป็นพวก Anti - Anti - Apple ครับ บางครั้งเลยอาจจะถูกมองว่าเป็น Apple fanboy ไปโดยปริยาย ซึ่งก็อาจจะใช่ตามแต่นิยามของแต่ละคน แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าผมไม่ชอบ Android นะ ผมชอบนวัตกรรมของ Android ผมใช้มือถือทั้งสอง OS ครับ
+6
เห็นด้วยมาก
ส่วนตัวค่อนไปทางแฟนแอนดรอยด์แต่ก็ดีใจที่แอปเปิลให้ความสำคัญกับประเทศเรา ซึ่งน่าจะส่งผลดีหลายๆอย่างกับวงการนี้ อย่างน้อยแบรนด์คู่แข่งก็ต้องเร่งทำตลาดแน่นอน
จริงๆแต่แรกมันผิดที่คนเดียว กสทช.น่าจะออกมาขอโทษแทนบุคลากรตั้งแต่เนิ่นๆ องค์กรก็ไม่เสีย
คราวนี้เลยโดนเหมาทั้งองค์กร ไม่คุ้มเลย
+1
+1
+1
หลายคนที่สนใจเรื่องจะได้ขายเป็นกลุ่มแรกหรือเปล่า ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ จริงๆ มันก็คือ gimmick ที่ช่วยสร้างคุณค่าให้กลุ่มผู้ที่ได้ใช้เป็นกลุ่มแรกๆ (ยังไงมันก็ออก ยังไงราคามันก็แพง แต่การเป็นกลุ่มประเทศแรกๆ คือ gimmick การได้ซื้อเป็นคนแรกคือ gimmick ก็รักษาสเปคและรูปร่างไว้ได้จนถึงวินาทีสุดท้ายคือ gimmick)
ซึ่งเรื่องนี้ Apple เป็นอันดับต้นๆ หรือเบอร์หนึ่งด้วยซ้ำ (แม้หลังๆ จะคลายมนต์ไปบ้าง) จึงไม่แปลกที่ทางแอปเปิลจะเต้นขนาดนี้
หน้าที่ของกสทช. เรื่องการคุ้มครองผู้บริโภคก็ส่วนหนึ่ง และต้องเป็นมาตรฐาน และอ้างอิงได้จากช่องทางที่เป็นทางการ (เช่น ท่านผู้หญ่ายยยยยยยท่านนี้เอาลิงค์หน้าประกาศอย่างเป็นทางการมาแปะ หรือมีคนไปพบที่หน้าประกาศรายชื่ออย่างเป็นทางการ) แต่การโผล่มาให้ข่าวเองแบบไม่เป็นทางการ และเลือกปฏิบัติเป็นยี่ห้อ ผมมองว่าเป็นเรื่องเสียมารยาทมาก และมองได้อย่างเดียวว่าอยากได้หน้า
หลายคนบอกสุดท้ายยังไงมันก็ต้องออก ผู้ประกอบการต้องบริหาร supply chain / stock turnover มาอยู่แล้ว ใช่ครับ แต่เมื่อสินค้ารุ่นหนึ่งจะออกทับอีกรุ่น รุ่นใหม่มันก็ต้องสร้าง gimmick เพื่อให้มีคุณค่ามากขึ้นให้มากกว่าแค่เป็นรุ่นใหม่กว่า สเปคดีกว่า แต่เพื่อให้ลูกค้าซื้อรุ่นใหม่มากกว่าแทนที่จะรอรุ่นเก่าที่จะลดราคาลดแน่นอน ทุกคนน่าจะรู้นะครับว่ามือถือรุ่นเรือธงมีกำไรสูงมาก และถ้าเปิดตัวได้ตื่นตาตื่นใจ จะช่วยสร้างยอดซื้อได้มากขึ้น เพราะกลุ่มแรกๆ จะซื้อเพราะ "คุณค่า" และความ "ตื่นตาตื่นใจ" มากกว่าประเด็นเรื่องราคาหรือสเปค (หรือสังเกตข่าวจากสำนักข่าว หรือรีวิวต่างๆ เองก็มักจะแย่งกันเป็นเจ้าแรกๆ เพราะคุณค่ามันอยู่ตรงนี้ ทุกคนอยากแสดงตัวว่าเป็นกลุ่มแรกๆ ที่รู้เรื่อง (และได้ใช้)มัน มันดึงความสนใจคนได้มาก blognone เองก็มีอัตราการเข้าถึงสูงเวลามีข่าวอะไรๆ โดยเฉพาะสินค้าของ Apple ช่วงเปิดตัว)
Apple อาจตั้งใจว่าจะให้ไทยเป็นกลุ่มประเทศแรกๆ ที่เปิดตัวไอโฟนรุ่นใหม่ ให้คนไทยได้รู้สึกถือความพิเศษที่ได้เป็นกลุ่มแรกๆ แต่การมีข่าวหลุดแบบนี้ ทำให้สูญเสียความน่าสนใจไปพอสมควรเลย
+1 คิดเหมือนผมเลยครับ อยู่ใน wave แรก เดียวกันกับ สิงคโปร ฮ่องกง .. คนที่ดู keynote เขาก็ต้องรู้สึกตามไปด้วยเลยว่า เออ ประเทศนี้มันคงเป็นประเทศที่มีดีอะไรซักอย่างแน่ๆ พอมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ คงยากที่จะอยู่ใน wave แรกในปีถัดๆไป เนื่องจาก ท่านผู้ใหญ่ของประเทศเราแถซะ ถ้าออกมาขอโทดง่ายๆตั้งแต่แรกคงจบปัญหา เหตุการที่เกิดขึ้นมาก้าวข้ามคำว่า fanboy ไปแล้ว แต่มันเป็นภาพลักษณ์ที่จะติดไปกับประเทศเราอีกนาน ถ้าไม่ทำอะไรซักอย่าง...
ส่วนตัวว่าไม่เหมาะสมที่จะมาทวิตส่วนตัวแบบนี้ ควรมีการจัดการช่องทางการประชาสัมพันธ์แบบเป็นทางการ ส่วนข้อมูลที่ราชการต้องเปิดเผยก็ควรทำตามขอบเขตที่กฎหมายบ้านเราได้ให้อำนาจไว้
+2