ต่อเนื่องจากข่าว วงการลิขสิทธิ์มึน ภาพถ่าย "ลิงเซลฟี่" ใครควรเป็นเจ้าของภาพ? ที่ยังถกเถียงกันไม่จบว่าควรลงเอยอย่างไร
สำนักงานลิขสิทธิ์ของสหรัฐอเมริกา (United States Copyright Office) ออก "ร่าง" เอกสารแนวทางปฏิบัติของสำนักงานฉบับปรับปรุงครั้งที่สาม (Third Edition) และเป็นการปรับปรุงครั้งใหญ่ครั้งแรกในรอบ 20 ปี (ลิงก์ดาวน์โหลด) โดยเอกสารฉบับใหม่นี้ระบุไว้ชัดเจนว่าสำนักงานจะรับรองลิขสิทธิ์เฉพาะผลงานที่สร้างโดย "มนุษย์" (human beings) เท่านั้น
ข้อความในเอกสารเขียนชัดว่างานที่สร้างโดยธรรมชาติ สัตว์ พืช รวมถึงงานที่อ้างว่าสร้างโดย "พระเจ้า" หรือ "สิ่งเหนือธรรมชาติ" นั้นไม่สามารถมีลิขสิทธิ์ได้ ในเอกสารยังยกตัวอย่างกรณีว่า "รูปที่ถ่ายโดยลิง" หรือ "ภาพที่ช้างวาด" ย่อมไม่มีลิขสิทธิ์ อย่างไรก็ตาม ในเอกสารไม่ได้เจาะจงถึงกรณีของ "ลิงเซลฟี่" ที่เป็นข่าว
ตอนนี้เอกสารยังมีสถานะเป็นฉบับร่างอยู่ระหว่างการรีวิวไปจนถึงเดือนธันวาคมนี้ ส่วนกรณี "ลิงเซลฟี่" ที่เจ้าของกล้องขู่จะฟ้อง Wikipedia คงต้องไปว่ากันในชั้นศาลครับ
Comments
ที่เถียงกันเพราะยังไม่มีร่างนี้ แต่ถ้าออกมารูปนี้แล้วก็เคลียร์ๆ กันไป
จบข่าว...
ธำรงค์ คนรักช้าง ...ถ่ายภาพ
ศิริพร ธรรมเดชะ ...รายงาน
...จากศูนย์ข่าวที่ 1 กรมประชาสัมพันธ์ครับ
บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P
ต่อไปเป็นข่าวในพระราชสำนัก
ทรท. ขอคั่นรายการด้วย คืนความสุขสู่ประชาชน
ทดลองติดตั้ง 3 OS | Windows Ubuntu Android
เราจะทำตามสัญญา~~~ (ตามสัญญา~~~ คอรัส) ขอเวลาอีกไม่นาน
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
อรุณเบิกฟ้า นกกาโบยบิน...
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
เข้ามาหัวเราะกับทุกเม้นอย่างบ้าคลั่ง ฮ่า ฮ่า ฮ่า
กำลังเบื่อๆ ที่ต้องมาทำงานวันเสาร์ ได้อ่านแล้วหัวเราะมีความสุขครับ
ย้อนหลัง ?
ลองศึกษาคำว่า บุคคล ในความหมายทางกฎหมายดูก่อนนะครับ
เรากำลังพูดถึงกฎหมาย(ของมนุษย์) ไม่ใช่กฎของดาร์วินหรือกฎทางชีววิทยานะครับ
อีกอย่าง จีนัส Homo ไม่มีลิงแล้วนะครับ
http://en.wikipedia.org/wiki/Homo
เพราะงั้น คน != ลิง sapiens sapiens นะครับ
โอนเข้า Paypal ให้ลิงเลยใช่มั้ยครับ
แซวเล่นนะครับ ^^
ช้างวาดภาพไม่มีลิขสิทธิ์หรอ ทำไมไม่เป็นของหน่วยงานหรือสถานที่เลี้ยงช้าง หรืออะไรทำนองนั้นล่ะ
กฏหมายลิขสิทธ์ตามที่ผมเข้าใจมันไม่ได้เป็น international นะครับ ประเทศใครก็มีกฎแบบประเทศมัน
เกือบทุกประเทศจะพัฒนามาจากข้อตกลง Berne Convention ครับ หลักใหญ่ใจความเหมือนกัน รายละเอียดปลีกย่อยแตกต่าง
กฎหมายลิขสิทธิ์ไม่เป็น International ในแง่ของการบังคับใช้ครับ (ที่จริงๆ ก็กฎหมายแทบทั้งหมด) แต่เกือบทุกประเทศก็จะอ้างอิงจากอนุสัญญาจึงมีลักษณะคล้ายกันครับ
อืม นึกว่าจบไปแล้ว
พูดกันไปเยอะแล้ว
แต่ในกรณีนี้ผมเชียร์ เจ้าของกล้องครับ เพราะสิ่งที่ธรรมชาติ(หรือลิง)กระทำย่อมไม่มีลิขสิทธิ์ จึงควรตกทอดถึงเจ้าของกล้องครับ
เช่นกัน
ช้างวาดภาพ -> คนควบคุมช้างตอนวาดก็เป็นเจ้าของลิขสิทธิ
คนถ่ายรูปต้นไม้ -> ต้นไม้เจริญเติบโต โดยธรรมชาติ -> คนถ่ายรูปจึงเป็นเจ้าของลิขสิธ
คนถ่ายรูปต้นไม้อันนั้นก็เป็นลิขสิทธิ์ของคนถ่ายครับ ถ้าต้นไม้กดชัตเตอร์เองก็ว่าไปอย่าง
ถ้าผมตั้งกล้องไว้วัดแสงไว้อย่างเทพ และภาพนี้ต้อวถ่ายในนาทีนั้นเท่านั้น มีคนเดินมากด สิขสิทธิ เป็นของคนถ่าย -*-
เพราะถ้าไม่มีคนมากดถ่าย ภาพนั้นก็ไม่เกิดครับ 55 ;)
my blog
กรณีนี้ผมว่าเจ้าของกล้องก็ไม่ได้มีเจตนาให้ลิงเอาไปถ่ายนะ?
May the Force Close be with you. || @nuttyi
สงสารเบย กล้องพังไม่ได้ตังค์อีก
ผมสงสัยถ้าเราจ้างคนอื่นถ่ายรูปให้ คนกดเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เหรอครับ?
เข้าใจว่าน่าจะอยู่ที่ตกลงกัน แต่จ้างปกติจะตกลงกันว่าเราเป็นเจ้าของหนิครับ เราจ่ายเงินให้เค้าเพราะเราต้องการรูป
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ปัญหาคือมันไม่เอกสารรับรองหรือเปล่า แบบให้คนพนักงานร้านถ่ายรูปให้ อะไรแบบนี้ เช่นเดียวกับลิงบอกให้มันถ่ายรูปตัวเองแล้วจะเอากล้วยให้กิน(สมมติ)
กรณีจ้าง ตามความเห็นข้างล่างเลยครับ กฎหมายระบุไว้ เป็นของผู้จ้างยกเว้นระบุไว้เป็นอย่างอื่น กรณีให้ถ่ายให้ผมว่าได้เหมือนกันเพราะตามสามัญสำนึกเค้าให้ถ่ายรูปให้เพราะต้องการภาพ คนช่วยถ่ายให้รู้อยู่ก่อนแล้ว สัญญาไม่จำเป็นต้องมีเอกสารเสมอไปครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
อันนี้คนจ้างเป็นเจ้าของลิขสิทธ์ครับ เว้นแต่จะตกลงกันเป็นอย่างอื่น กฎหมายไทยเขียนไว้แล้วครับ
คาวมคิดเห็นที่ 9
http://topicstock.pantip.com/camera/topicstock/2009/06/O8023761/O8023761.html
คนจ้างเป็นเจ้าของสิทธิ์สิครับ แบบนี้ภาพงานของเราพวกตากล้องก็ไปเอาไปใช้ได้สิครับ กลับกันพวกงานถ่ายแบบที่พวกตากล้องจ้างนายแบนางแบบแบบนี้ตากล้องเป็นเจ้าของสิทธิ์แน่ เคยมีข่าวพวกนางแบบนู้ดบางคนเคยซื้อฟิล์มของตากล้องแพงกว่าค่าตัวที่ตัวเองรับอีกเพื่อไม่อยากให้รูปลงนิตยสาร
ถ้าตัดสินออกมาแบบนี้เจ้าของกล้องแจ้งข้อหาลิงได้มั้ยครับ ละเมิดทรัพย์สินของผู้อื่นโดยมิได้รับอนุญาต
ในทางกฎหมายไม่มองสัตว์เป็นประธานแห่งสิทธิครับ พูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือมนุษย์เท่านั้นมีสิทธิตามกฎหมาย และสัตว์จะได้รับการคุ้มครองสิทธิไปเฉพาะเรื่องครับ เช่น กฎหมายคุ้มครองสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ ฯลฯ
กรณีนี้ในทางกฎหมายไม่น่าเป็นประเด็นเลยครับ ไม่งั้นคงวุ่นวายโลกแตกในการไปคุ้มครองเหยื่อของสัตว์ป่าล่าเนื้อว่าเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ล่ามั้ย อะไรอย่างงี้เป็นต้นครับ
ส่วนประเด็นสัตว์ที่มีเจ้าของอย่างที่เค้ายกตัวอย่างช้างวาดภาพ ส่วนตัวผมมองว่าน่าจะให้ลิขสิทธิ์ตกแก่เจ้าของสัตว์ครับ เพราะสัตว์ถือเป็นทรัพย์เช่นเดียวกับอุปกรณ์วาดภาพทั่วไป เจ้าของก็ควรจะได้สิทธิไปนะครับ (แต่ในทางปฏิบัติอาจจะมีขั้นตอนเพิ่มขึ้นในการรับรองสิทธิว่ามากน้อยเพียงใด และคุ้มค่าพอที่จะรับรองสิทธินั้นหรือเปล่า)
กราบเรียนท่านศาลที่เคารพ ผมมีหลักฐานชัดเจนว่าสิงโตฝูงนี้ได้ก่อาชญากรรมโดยการพยามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน /หวั่งเฉา มาหั่น เบิกเครื่องประหารหัวสุนัข!!!
ถ้าผมฝึกให้ลิงไปแอบถ่ายชาวบ้านได้ละก็!! สุดยอดไปเลย
ถ้าคุณฝึกมัน ในกรณีนั้นจะถือว่า ลิงเป็นสัตว์เลี้ยงในความรับผิดชอบคุณครับ คุกแน่นอน ไม่ต่างกับสั่งหมาไปกัดคน
แบบนี้คงต้องจ่ายเป็นกล้วยแทนเงินสินะ ฮ่าๆ
ถ้าผมตั้งใจเอากล้องให้ลิง กเดชัตเตอร์เล่น
ถ้าผมตั้งใจเอากล้องให้เด็กที่ยังไม่เข้าอนุบาล กดชัตเตอร์เล่น
ภาพที่ได้เป็นของใคร
1) เป็นของคุณครับ (เหตุผลเรื่องประธานแห่งสิทธิด้านบน)
2) เป็นของคุณครับ เด็กทำการในฐานะตัวแทนของตัวการ (คุณที่ยื่นกล้องให้เด็ก) ครับ
แล้วทำไมช้างวาดรูปถึงไม่มีลิขสิทธิ์ละครับ ถ้ามองเป็นตัวแทนของตังการได้มั้ยครับ
ทดลองติดตั้ง 3 OS | Windows Ubuntu Android
ตรงนี้ผมมองค่อนข้างต่างจากข่าวนะครับ ไม่แน่ใจว่าช้างวาดรูปที่เขาหมายถึงนั้นมีเจ้าของหรือไม่ ถ้าเป็นช้างมีเจ้าของก็น่าจะได้ลิขสิทธิ์ไป
ส่วนเรื่องช้างเอาหลักตัวการตัวแทน (Law of Agent) มาจับไม่ได้ครับ ต้องคนกับคนเท่านั้น
จบข่าว ToT'' จริงๆอันนี้เราถือหางด้านเจ้าของกล้องนะ
เจ้าของกล้องไม่มีหางครับ ต้องเป็นอีกฝั่ง #หรือว่าที่คุณจับมันเป็น...
...แขน
... ชาวไซย่า (ก็ไม่ใช่มนุษย์สิ ?)
สั้นแบบนั้นไม่ใช่หางแน่นอนฮิ
โอ้ยยย
กลับมาอ่านอีกทีขำก๊ากเลยฮะ แต่ละคน น่ารักจริง ฮ่าๆ
ปล. ผมไม่ถือหางแล้วก็ได้ ถือห....
.
.
.
.
หัว
ก็แค่เคลมว่ากดชัตเตอร์เองทุกอย่างก็จบ เพียงแค่ไม่ได้ story มาทำให้ภาพบูมเท่านั้น
แล้วรูปที่ถ่ายด้วยลิงหลังกล้องล่ะ
#ช่างภาพเซเลบชื่อดังไม่ได้กล่าวไว้ #เผ่น
แล้วช้างวาดภาพที่ มีควานบังคับงวงหละครับ?
ยังเชียร์ให้ฟ้องดู จะได้มีข้อสรุป
แล้วอย่างภาพสารคดีที่เอากล้องไปติดกับสัตว์ กับนก กับปลาวาฬ ก็ไม่มีลิขสิธิ์สินะ
ทดลองติดตั้ง 3 OS | Windows Ubuntu Android
ตัวภาพจากกล้อง (raw) ไม่มีลิขสิทธิ์ แต่ได้มาตอนตัดต่อเป็นหนังสารคดี :)
ปัญหาใหญ่กว่าคือ มันจะมีคนหัวหมอมาอ้างว่าเป็น public domain เอาบางส่วนไปทำใหม่แล้วทำออกขายพอโดนฟ้องอ้างว่าเป็น public domain จะทำอะไรก็ได้
ร่างตัวนี้ผมมองว่าสร้างความเสียหายมากกว่า และไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรให้สังคมเลย
เห็นด้วยครับ เพื่อให้เข้ากับ Blognone ผมว่าลองยกตัวอย่างเปลี่ยนเป็น วัสดุทุกอย่างที่ใช้ทำโทรศัพท์ล้วนแล้วแต่มาจากธรรมชาติและจักรวาลและการคำนวณต่างๆ เกิดจากความต่างศักดิ์ของกระแสไฟฟ้า เพราะฉะนั้นถือว่าเป็น Public domain ผมไม่ได้ลอกของคุณที่จดไว้นะ ผมแค่เอาของที่มีอยู่ทั่วไปมาทำเป็นมือถือที่เหมือนของคุณแค่นั้นเอง
จริงๆตัวอย่างนี้ผมไม่เห็นด้วยกับตัวอย่างที่คุณยกมานะ
แต่เคสนี้
ผมยกตัวอย่าง เช่น ผมมีกล้องตัวนึงผมไปเที่ยว ลิงขโมยกล้องผมไปถ่ายรูปมากมายมีรูปสวยๆด้วย
ถ้ามีร่างแบบนี้ออกมา สิ่งที่ผมจะทำคือเก็บไว้ดูคนเดียวครับ
ไม่มีเผยแพร่ต่อสาธารณะ เพราะเผยแพร่ปุ๊บมันมีคนเอาไปทำมาหากินโดยหัวหมออ้าง public domain ส่วนผมไม่ได้อะไรกล้องก็กล้องผม ไฟแบต mem ก็ของผม ถ้ารู้ว่ามันเป็น public domain ผมก็ไม่ปล่อยรูปครับตูดูคนเดียวดีกว่าประมาณนั้น
แล้วผลเสียตกกับใครครับ
ผลเสียตกแก่สังคมครับ วงการศิลปะ ไม่มีรูปที่สร้างสรรค์หลุดมาให้ดู
สื่อก็ไม่มีรูปมาให้ขายข่าว ระเบียบที่ออกมาทำลายสังคมแบบนี้เลิกๆไปเหอะ
มันออกร่างมาได้กวนมากๆ ทำลายสังคมชัดๆไม่ได้ดูเจตนารมณ์ของกฎหมายเลย ถ้ารูปมันทำมาหาเงินไม่ได้เขาจะปล่อยรูปออกมาทำไมครับถูกไหม นอนอยู่บ้านดูหนังสบายใจไม่เสียเวลาไม่เปลืองแรง จริงไหมครับ ฝรั่งน่ะเวลาเป็นเงินเป็นทองนะ แล้วคนมันก็มีทั้งคนดีคนไม่ดี ดันตั้งระเบียบให้คนเอาผลงานไปใช้ได้ฟรีโดยไม่ต้องออกแรง มันเอาอะไรคิด
ดูที่เขา comment นะครับ "All those National Geographic photos taken in remote places by animals tripping a shutter release are now public domain." ถ้าร่างนี้ใช้ได้ NG เจ๊งแน่ มีคนหัวหมอขโมยรูปไปใช้แน่นอน
ครับผมอาจจะยกตัวอย่างแบบหลุดโลกไกลจากเรื่องนี้ไปหน่อย แต่โดยหลักในเรื่องนี้ผมก็เห็นด้วยกับที่คุณกล่าวมาครับ จากในมุมมองของคนที่เคยแบก DSLR ปีนขึ้นเขาไปเก็บรูปมาหลายรอบ
ยกตัวอย่างกรณีนี้ "เปิดคำฟ้อง"วู้ดดี้"คดีนำรูปไปไม่ขออนุญาต ทำ"จักริน"คิดเลิกสอนถ่ายภาพ!"
การถ่ายภาพมันมีองค์ประกอบหลายอย่าง ไม่ใช่แค่การกดชัตเตอร์ มันมาจากทั้งประสบการณ์ การลงทุนทั้งอุปกรณ์และการเดินทาง การพาตัวเองไปอยู่ถูกที่ ถูกเวลา การรอจังหวะ ความอดทน และโชค
แต่ไม่ใช่คนหรือครับที่คิดเดินเครื่องหรือสร้างกลไลให้ถ่ายเองอัตโนมันเมื่อเป็นไปตามเงื่อนไงที่คนกำหนด
มันแตกต่างจากกรณีลิง นี่มากที่กล้องธรรมดา มีลิงกดปุ่มถ่ายเอง
ดูเป็นสงครามแย่งพื้นที่ข่าวขนาดย่อมซะมากกว่า
จริงๆเจ้าเอกสารนี้อ้างไม่ได้หรอกครับ
แนวทางปฏิบัติของ United States Copyright Office ไม่ถือว่าเป็นกฎหมายเลย เพราะมันมีคดีที่ United States Copyright Office แพ้คดีอยู่เยอะครับ คือแกเงิบมาเยอะ
สุดท้ายก็ต้องไปฟ้องกันในศาล เจ้าเรื่องภาพลิงเซลฟี่นี่ ศาลเวลาตัดสินเขาดูผลกระทบในภาพรวมด้วยครับ ไม่ใช่ว่า United States Copyright Office ออกระเบียบมายังไงเอาตามนั้นหมด
ถ้าบอกว่าไม่มีลิขสิทธิ์ นี่จบเลยครับเพราะต่อไปจะไม่มีใครคิดสร้างสรรค์ผลงานในแนวนี้ ไม่มีคนไปเข้าป่าแล้วให้ลิงถ่ายรูปตนเองเพราะถ่ายไปก็ไม่ได้ลิขสิทธิ์งั้นทำไปทำไมนอนอยู่บ้านดีกว่าเพราะถ้าไม่มีลิขสิทธิ์ใครก็เอาไปหาเงินได้ตนเองลงทุนลงแรง ลงค่ากล้องค่า mem ค่าไฟชาร์ทแบต แต่ไม่ได้อะไรเลยทำมาแจกคนอื่นฟรี มันขัดกับเจตนารมณ์ของกฎหมายตั้งแต่แรก ลิขสิทธิ์ทำมาคุ้มครองผู้สร้างสรรค์ผลงาน แต่ร่างตัวนี้ทำมาทำลายผู้สร้างสรรค์ผลงาน ผลสุดท้ายได้อะไรถ้าบังคับใช้ได้ คนก็แค่ไม่มีใครถ่ายรูปพวกนี้ออกมาอีกเลยเพราะถ่ายปุ๊บตกเป็นของสาธารณะปั๊บ แล้วจะเอากล้องไปทำไมนอนอยู่บ้านฟังเพลง มีประโยชน์กว่าไม่เหนื่อยและไม่เซ็ง
ทำอะไรก็ต้องคิดถึงผลดีผลเสียครับ
"ร่าง"นี้บอกว่าสำนักงานจะรับรองลิขสิทธิ์เฉพาะผลงานที่สร้างโดยมนุษย์ แต่ยังไม่มีใครเอาไปอ้างนิครับ เรื่องยังไม่ถึงศาล ยังไม่มีข่าวว่าใครไปฟ้องหรือยัง และถ้าฟ้อง ก็ยังไม่รู้ว่าผลจะออกมาแบบไหน ส่วนถ้าศาลตัดสินตัดสินว่าไม่มีลิขสิทธิ์ ผลกระทบน่ะมีี (กฏหมายมักมีผลกระทบกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสมอ เป็นเรื่องปกติ) ถ้าช่างภาพจะเลิกถ่ายไปก็เรื่องของเขา เพราะมันมีวิธีรังสรรค์ผลงานให้ทำเงินได้อีกร้อยแปด
ปล. รบกวนยกตัวอย่างคดีที่สนง. นี้แพ้หรือ "เงิบ" "มาเยอะ" สักสองสามคดีครับ คงไม่ลำบากอะไร เพราะคุณบอกเงิบมาเยอะ แสดงว่าเยอะ ยกมาเป็นวิทยาทานให้หน่อย ความรู้ด้านกฏหมายผมน้อยครับ อยากเปิดหูเปิดตาครับ
http://www.justice.gov/osg/briefs/2000/2pet/6invit/1999-1489.pet.ami.inv.html
อันนี้พูดถึง ระเบียบของ United States Copyright Office ขัดกับกฎหมายสุดท้ายก็ต้องไปแก้
ตัวร่างตัวนี้ก็ เช่นกัน ที่บอกว่าแกเงิบบ่อยก็เพราะระเบียบตัวนี้โดนฟ้องก็ไปแก้ทีครับเป็นมานานหลายสิบปี
คือระบบพี่แกเป็นงี้ครับ พี่แกออกระเบียบมาที ใช้ๆไปสักพักคนไม่พอใจก็ไปฟ้องพอแพ้มาก็มาแก้
แล้วเปลี่ยนไปเรื่อยๆตามคำพิพากษาศาลครับ
ส่วน draft ที่ว่าก็ต้องรอว่าช่างกล้องแกจะฟ้องไหม ถ้าฟ้องชนะเจ้าระเบียบนี้ก็ต้องเปลี่ยนครับ คือระบบมันถูกออกแบบมาให้เงิบซ้ำซากแบบนี้แหละครับ เพราะปกติจะฟ้องลิขสิทธิ์ในอเมริกา ประกาศโฆษณาอย่างเดียวไม่พอต้องจดทะเบียนด้วย ไม่งั้นขั้นตอนการฟ้องจะลำบากหน่อย ในเมื่อหน่วยงานบอกจดไม่ได้ เขาก็ต้องฟ้องหน่วยงานว่าเขาจดได้
ผมพูดถึง common sense นะครับ ระเบียบของ United States Copyright Office ไม่ถือว่าเป็นกฎหมาย
มันเป็นระเบียบวิธีปฏิบัติของหน่วยงานหนึ่งว่าจะรับจดทะเบียนได้หรือไม่ เมื่อคนที่ไม่พอใจก็มีคนไปฟ้อง
แพ้ทีแกก็แก้ระเบียบทีแถมระเบียบตัวพี่แกก็แก้ไปเรื่อยๆ ผมไม่เอาระเบียบมาเป็นสาระสำคัญหรอกครับ
ระเบียบตัวดั้งเดิมก็ไม่ได้เป็นแบบที่เราเห็นครับ คือพอมีคดีที่เกี่ยวข้องทีนึงพี่แกก็แก้ทีนึง
ปัญหาคือ act of nature ในระเบียบพี่แก ยังไม่มีคดีในศาล พี่แกก็ยัดเอาไว้ให้เจ้าหน้าที่ทำงานสะดวก
พอแพ้คดีทีพี่แกก็แก้ระเบียบทีนึง
ปล. คำถามแบบนี้ถือว่าแกล้งกันนิดๆครับเพราะกฎหมายค้นทีหมายถึงผมต้องอ่านทั้งเคสนะครับมันเหนื่อย
ปัญหาคือ ที่ระบุในร่าง ที่ขอจดไม่ได้ เช่นภาพที่ถ่ายโดยลิง นิยามของคำๆนี้คือ
ถ้าเป็นกล้องที่คนตั้งไว้จงใจให้ลิงขโมยหลอกล่อให้เกิดเป็นภาพ เข้าข่ายตรงนี้รึเปล่า
คำพิพากษามันละเอียดอ่อนมากครับต้องดูแบบ case by case แล้วจะได้ข้อสรุปออกมา
ผมยกตัวอย่างของคดีที่ศาลยกฟ้อง เพราะศาลดูผลกระทบภาพรวม เช่น คดีขายหนังสือมือสองอันลือลั่นของ คนไทยที่สะเทือนทั้งอเมริกา
คดีนี้เขาชนะเพราะศาลให้ความคุ้มครองกับพวกห้องสมุดครับ ถ้าให้เจ้าของลิขสิทธิ์ ชนะคนซวยคือห้องสมุด ครับมันไปกระทบกับส่วนรวม
แต่เคสลิงเซลฟี่เนี่ย ถ้าพิพากษาให้เป็นตามร่างที่ว่า มันกระทบในแง่ที่ว่าคนก็ไม่สร้างสรรค์ผลงานแบบนี้เพราะไม่คุ้มครอง แต่สังคมได้ประโยชน์อะไร ผมไม่เห็นประโยชน์อะไรจากการให้เป็น public domain นอกจากพวกหัวหมอได้ประโยชน์ครับ
เอาจริงๆ มันก็คือ เรื่องของคนที่อยากได้เงินค่าลิขสิทธิ์จากภาพที่ออกมาจากกล้องของเค้า กับ คนที่ไม่อยากจ่ายเงินค่าลิขสิทธิ์
อนาคตมันต้องมีการแบ่ง Ownership Right Level แน่ๆ
ดูคล้ายๆ กับมรดก ถ้าคนถ่ายไม่มีสิทธิก็คงต้องเป็นของคนต่อไป เช่น
seeking for New Frontier...
เรื่องนี้ไม่รู้ว่ามันเริ่มจากปัญหารูปลิงเซลซี่หรือเปล่านะ แต่ถ้าเป็นเพราะอย่างนั้นหน่วยงานทางภาครัฐก็มีการตอบสนองที่ดี
แต่กลับกันมาดูในประเทศเรา ก่อนหน้านี้ก็มีปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์รูปมาหลายครั้งแต่ไม่เคยเห็นหน่วยงานรัฐที่ดูแลเรื่องนี้มาให้ความกระจ่างหรือมาทำความเข้าใจเลย หรือว่ามันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบนอินเตอร์เนตนะ หรือว่ามันยังไม่เกิดกับคนดังนะ หรือทางหน่วยงานที่ดูแลเรื่องสิขสิทธิ์มองว่าไม่ใช่เรื่องของเค้าที่จะต้องมาทำให้คนเข้าใจเรื่องลิขสิทธิ์มากขึ้น