ซัมซุงเปิดตัว Galaxy Note 4 เมื่อเดือนที่แล้วและกำลังจะวางขายในประเทศไทยอีกไม่กี่วันข้างหน้า (ประเทศไทยถือเป็น tier 1) ล่าสุดซัมซุงส่งเครื่องมาให้ผมทดสอบ ในฐานะที่ผมใช้ Galaxy Note 3 เป็นเครื่องหลักอยู่ด้วย ก็จะรีวิวโดยเปรียบเทียบ Note ทั้งสองรุ่นควบคู่กันไปนะครับ เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า
หมายเหตุ: เครื่องที่ได้รับมารีวิวเป็นเครื่องรุ่นทดสอบ มีสัญลักษณ์เฉพาะบนตัวเครื่อง ซึ่งจะไม่มีในรุ่นที่วางขายจริง
Note 4 เต็มไปด้วยฟีเจอร์ใหม่มากมาย แต่การเปลี่ยนแปลงที่น่าตื่นเต้นที่สุดของ Note 4 คือดีไซน์ภายนอก
ซัมซุงโดนปรามาสไว้เยอะเรื่องวัสดุพลาสติกราคาถูก ดูไม่สมฐานะมือถือตัวท็อปราคาแพง ซึ่งในช่วงหลังบริษัทก็เริ่มปรับแนวทางการดีไซน์ตัวเครื่องภายนอกของตัวเองเสียใหม่ หันมาใช้วัสดุพรีเมียมอย่างโลหะบ้างเป็นบางส่วน การเปลี่ยนแปลงนี้เริ่มใน Galaxy Alpha เป็นรุ่นแรก (กระบวนการตัดโลหะ) ก่อนจะตามมายัง Note 4 หลังจากนั้นไม่นาน และเราก็คาดเดาได้ไม่ยากว่ามือถือรุ่นท็อปของซัมซุงจากนี้ไปจะอยู่บนแนวทางนี้
ถ้าดูแต่ภาพ หน้าตาของ Note 4 ยังเหมือนเดิมแทบทุกประการ มันยังใช้โครงสร้าง "แบบซัมซุง" ปุ่มกดด้านหน้า 3 ปุ่ม ฝาหลังถอดเปลี่ยนได้ ดูเผินๆ แทบไม่มีอะไรต่างจากของเดิม แต่ของแบบนี้มันต้องสัมผัสเองถึงจะรู้ครับ ความรู้สึกในการสัมผัส Note 4 เปลี่ยนไปจาก Note 3 อย่างมาก ชนิดว่าใครเคยบ่นซัมซุงไว้เรื่อง "พลาสติก" ควรไปลองจับด้วยตัวเองกันทุกคนเลยทีเดียว (ต่อจากนี้ไปจะล้อเรื่อง "พลาสติกก๊อบแก๊บ" คงไม่ได้อีกแล้ว)
ขอบของ Note 4 เป็นโลหะชิ้นเดียวกัน และเคลือบด้วยสีอีกชั้นหนึ่ง ผมไม่แน่ใจนักว่าซัมซุงใช้เทคนิคอะไรทำสีขอบเครื่อง แต่สัมผัสแล้วมันจะออกด้านๆ หน่อย ให้ความรู้สึกที่ดีกว่าของเดิมมาก (ขอบออกจะคมๆ เล็กน้อย ไม่บาดมือแต่จะไม่โค้งมนแบบรุ่นก่อนๆ)
เทียบกับ Note 3 ดูเผินๆ ไม่ต่างกันมาก แต่จับแล้วคนละเรื่องเลยทีเดียว
จุดที่ Note 4 แตกต่างจาก Note 3 คงเป็นแค่เรื่องวัสดุเท่านั้น การวางพอร์ตและปุ่มรอบเครื่องเหมือนกันทุกประการ
ปุ่มควบคุมด้านหน้า 3 ปุ่มยังเหมือนเดิม (ปุ่มซ้ายเปลี่ยนจาก Menu เป็น Recent ตามอย่าง Galaxy S5) ช่องเสียบปากกา S Pen อยู่ตำแหน่งเดิม
จุดที่ต่างไปจากเดิมมีเพียงแค่พอร์ต USB 3.0 ที่เป็นแบบสองช่อง ถูกเปลี่ยนกลับมาเป็น USB 2.0 ขนาดมาตรฐาน ตรงนี้ซัมซุงให้เหตุผลกับ Engadget ว่าคนใช้ USB 3.0 ไม่เยอะนัก ซัมซุงจึงต้องการประหยัดเนื้อที่ภายในเครื่องโทรศัพท์ โดยลดกลับมาเป็นพอร์ต USB 2.0 แทน
ในฐานะที่ผมใช้ Note 3 ซึ่งมาพร้อมกับ USB 3.0 ก็ไม่ค่อยเห็นประโยชน์จากมันมากนัก (แถมเสียบสายชาร์จยากเพราะต้องเล็ง) การเปลี่ยนกลับมาใช้ USB 2.0 จึงแทบไม่มีผลอะไร (เผลอๆ ดีขึ้นด้วยเพราะเสียบสายง่ายกว่าเดิม)
ฝาหลังของ Note 4 ยังเป็นพลาสติกลายขรุขระเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนลายไปพอสมควร ลายเยอะขึ้น ร่องลึกขึ้น และไม่มี "ตะเข็บ" เลียนแบบการเย็บหนังเหมือน Note 3 อีกแล้ว วัสดุโดยรวมมีความด้านมากขึ้น (แต่ไม่ให้ความรู้สึก "หนึบ" แบบ S5) ลื่นน้อยลงจาก Note 3
ลองแกะฝาหลังออกมา แกะได้ไม่ยาก (มีร่องให้แกะที่มุมซ้ายบนเช่นเดิม) การวางช่องเสียบซิมและ SD card ต่างไปจากเดิมโดยย้ายมาอยู่ด้านซ้าย (ของเดิมอยู่ขวา) แบตเตอรี่ผอมลงแต่ยาวขึ้น
จุดที่เปลี่ยนแล้วไม่ดีเท่าไรนักคือลำโพง ถูกย้ายจากขอบด้านล่างของเครื่องกลับมาอยู่ที่ด้านหลังแทน (ในรูปตกขอบลงไป) ทำให้กลับมาเจอปัญหาวางเครื่องราบกับพื้นโต๊ะแล้วเสียงเบาอย่างที่แล้วๆ มา (ลำโพงค่อนข้างดัง แต่พอวางปิดช่องแล้วก็เบาอยู่ดี)
ตำแหน่งการวางกล้องคล้ายๆ ของเดิม แต่ Note 4 เพิ่มเซ็นเซอร์วัดการเต้นของหัวใจมาแบบเดียวกับ S5 โดยเซ็นเซอร์นี้สามารถวัดรังสี UV ได้ด้วยนะครับ (ต้องวัดผ่านแอพ S Health) ตรงนี้นอกจากเอาไว้วัดโชว์เท่ๆ แล้วคิดว่ายังไม่มีประโยชน์อะไรมากนัก
เทียบขนาดในบรรดาพี่น้อง Galaxy Note จะเห็นว่าขนาดของ Note 4 ใกล้เคียงกับ Note 3 โดยสูงขึ้นเล็กน้อย
วิวัฒนาการของฝาหลัง จากฝามันแผลบ มาเป็นฝาหลังลายขรุขระแบบใน Note 4 (สังเกตตำแหน่งของลำโพงจะกลับไปเหมือน Note 2)
วิวัฒนาการของขอบเครื่อง จาก Note 2 ล่างสุด มาเป็น Note 4 ที่อยู่บนสุด
หน้าจอของ Note 4 ใช้จอ Super AMOLED ตัวเดียวกับใน Galaxy Tab S ให้สีสันสดใส และคงข้อดีของจอ AMOLED มาอย่างครบถ้วน
สิ่งที่พัฒนาขึ้นจาก Note 3 คือความละเอียดของหน้าจอที่ขยับจาก 1920x1080 มาเป็น 2560x1440 (QHD) ละเอียดขึ้นจากเดิมมาก ในการใช้งานทั่วๆ ไปแทบไม่รู้สึก (เพราะพิกเซลมันเล็กมากเป็นทุนอยู่แล้ว) แต่ไหนๆ มีของให้ลองเปรียบเทียบเลยถ่ายภาพมาให้ดูกันครับ
จากภาพจะเห็นว่าฟอนต์ของ Note 4 เรียบและคมกว่า Note 3 ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจนัก ต้องย้ำอีกรอบว่ามันจะมองเห็นก็คือต้องถ่ายภาพแล้วมาซูมเปรียบเทียบกันแบบนี้เท่ากัน ในการใช้งานจริงแทบไม่เห็นความแตกต่างใดๆ
Note 4 รุ่นที่ได้มาทดสอบนี้เป็นรุ่น SM-N910C รุ่นขายทั่วโลก ซึ่งเลือกใช้ซีพียู Exynos Octa 5433 แปดคอร์ (1.9GHz+1.3GHz) มาพร้อมกับจีพียู Mali-T760 และแรม 3GB
สมรรถนะขนาดนี้เหลือเฟือสำหรับการใช้งานทั่วไป การตอบสนองทุกอย่างรวดเร็ว ฉับไว ส่วนผลการรันเบนช์มาร์คได้ 48354 คะแนน ดังภาพ (น่าจะเป็นมือถือสาย Android ที่แรงเป็นอันดับต้นๆ ในช่วงนี้)
ฟีเจอร์อื่นๆ ของฝั่งฮาร์ดแวร์คือปุ่มโฮมยังมีระบบตรวจสอบลายนิ้วมือแบบเดียวกับ S5 อย่างไรก็ตาม Note 4 กลับไม่กันน้ำแบบ S5 ด้วยเหตุผลที่ผมก็ยังหาไม่เจอว่าเพราะอะไร (ซัมซุงไม่ได้อธิบายไว้) ถือว่าน่าเสียดายครับ
แบตเตอรี่ของ Note 4 ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อยเป็น 3220 mAh โดยซัมซุงบอกว่าระดับการใช้งานแบตเตอรี่ดีกว่าเดิมเล็กน้อย แม้ว่าจอภาพละเอียดขึ้นเยอะ ซึ่งจากการใช้งานแล้วพบว่าแบตอึดในระดับเดียวกับ Note 3 (มีโหมด Ultra Power Saving แบบเดียวกับ S5 ด้วยแต่ไม่ได้ลองนะครับ)
ฟีเจอร์ที่ไม่ได้ทดสอบคือ Fast Charging ชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็ม 50% ภายในครึ่งชั่วโมง (เหมาะสำหรับเวลาแบตหมดแล้วต้องชาร์จแบบด่วนๆ เพราะต้องไปทำอย่างอื่น) เนื่องจากซัมซุงไม่ได้ให้สายชาร์จของ Note 4 ติดมาด้วยครับ
ซอฟต์แวร์ของ Note 4 แทบจะยกดีไซน์ของ Galaxy S5 มาเกือบหมด จุดที่ต่างไปมีแค่สีพื้นหลังของ widget ของซัมซุงเอง เปลี่ยนมาใช้พื้นหลังใสแทนทั้งหมด (ซัมซุงเรียกมันว่า Clear & Vibrant UX เพิ่มขึ้นจาก Vibrant UX เดิม) วัตถุประสงค์คงเพื่อการโชว์ภาพพื้นหลังของจอ Super AMOLED สีสดๆ ให้เห็นเด่นชัดขึ้นนั่นเอง
หน้าโฮมมาตรฐานของ Note 4 เตรียมมาให้ 3 หน้า โดยหน้าแรกเน้นวางไอคอนของกูเกิล (เหตุผลคงเป็นไปตามข่าวนี้) หน้าสองวาง widget ของ S Health และ S Note ส่วนหน้าที่สามเป็น widget สำหรับนำเสนอบริการออนไลน์ของซัมซุง (ที่ลดเหลือแค่ Galaxy Essentials และ Galaxy Gifts)
ถ้าเลื่อนไปทางซ้ายมือของหน้าโฮม เราจะพบกับแอพ Flipboard ที่ฝังมาให้เสร็จสรรพ คราวนี้ซัมซุงเลือกใช้แบรนด์ Flipboard ตรงๆ ไม่เรียกเป็นชื่ออื่นอ้อมค้อมอีกแล้ว ส่วนการใช้งานไม่ต่างอะไรจาก Flipboard เวอร์ชันปกติมากนัก
แอพที่พรีโหลดมาพร้อมกับเครื่องมีเพียงแค่ 2 หน้าเท่านั้น แอพของซัมซุงหลายๆ ตัวถูกตัดออกไป (อยากได้ต้องโหลดผ่าน Galaxy Essentials แทน) ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมาก
แอพแถมมากับเครื่องมีแค่ Flipboard, Dropbox, Evernote ที่อยู่คู่กับซัมซุงมานาน และมีแอพตัวใหม่คือ PEN.UP สำหรับแชร์ภาพวาดที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว
จุดที่ผมว่าน่าสนใจคือ Note 4 มาพร้อมกับแอพของ Facebook สี่ตัว (Facebook, Messenger, Instagram, Pages Manager) ตรงนี้ไม่แน่ใจว่าเป็นเฉพาะเวอร์ชันของซัมซุงไทยหรือไม่ ส่วน LINE ที่พรีโหลดมาด้วยก็น่าจะเอาใจผู้ใช้ในไทยเป็นหลัก
ในภาพรวมแล้ว ผมคิดว่า "ดีไซน์" ของ Note 4 ดีขึ้นกว่าของเดิมมากๆ ทั้งในแง่ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
ฟีเจอร์ที่ซัมซุงโฆษณาเยอะมากใน Note 4 คือ Multi Window หรือการแบ่งครึ่งจอเพื่อรันแอพสองตัวพร้อมกัน (เริ่มมาตั้งแต่ Note 2) ฟีเจอร์นี้ถูกพัฒนาขึ้นอีกขั้นใน Note 4
ปัญหาเดิมของ Multi Window คือมันไม่ใช่ฟีเจอร์มาตรฐานของ Android คนทั่วไปไม่รู้จักว่าใช้อย่างไร สมัยแรกๆ ซัมซุงใช้วิธีเพิ่ม floating toolbar ไว้ที่ด้านข้างของหน้าจอ (ซ่อนเอาไว้มีปุ่มโผล่มานิดนึง) เพื่อเรียกแอพอีกตัวมารันซ้อนกัน ซึ่งดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาติมากนัก (ใน Note 3 ผมปิดฟีเจอร์นี้ทิ้งไปตั้งแต่วันแรกๆ)
พอมาถึงยุคของ Note 4 ซัมซุงถือโอกาสที่ปรับปุ่ม Menu มาเป็นปุ่ม Recent Apps ให้สลับแอพได้ง่ายๆ เลยเพิ่ม "ปุ่มแบ่งหน้าต่าง" เข้ามาในหน้ารายการแอพด้วย ตรงนี้ช่วยให้การรัน Multi Window ง่ายขึ้นมาก
อย่างไรก็ตาม ฝั่งของแอพเองต้องรองรับการรัน 2 หน้าต่างด้วยจึงจะใช้งานได้ (จากภาพจะเห็นว่าแอพบางตัว เช่น Settings ไม่รองรับฟีเจอร์นี้) เมื่อเรียกแอพ 2 ตัวขึ้นมาทำงานพร้อมกันแล้ว เราสามารถเลื่อนปรับขนาดหรือสลับตำแหน่งของหน้าจอได้เหมือนในเวอร์ชันก่อนๆ
แต่เท่านั้นยังไม่พอครับ Note 4 ยังเพิ่มฟีเจอร์รันแอพแบบไม่เต็มจอด้วย (ย่อขนาดหน้าต่างลงมา โดยจะลอยทับแอพที่อยู่ด้านหลัง) วิธีการใช้งานคือลากนิ้วจากมุมขวาบนลงมาที่ตรงกลางของจอ แอพจะย่อขนาดลงมาเองตามนิ้วมือของเรา (จากภาพเป็นการรันแอพ S Note ทับบน YouTube) เนื้อหาภายในแอพจะถูกย่อขนาดลงโดยอัตโนมัติ
นึกภาพตามไม่ออก? ลองดูคลิปโฆษณาของซัมซุงน่าจะเข้าใจง่ายกว่า
ฟีเจอร์ Multi Window ยังรองรับการลากเนื้อหาข้ามหน้าจอเหมือนเดิม จากภาพตัวอย่างด้านขวามือ ผมลากภาพ thumbnail ของวิดีโอในแอพ YouTube (ที่ย่อเป็นขนาดเล็ก) ลงมาใส่ในแอพ S Note ได้อย่างไม่มีปัญหา (แต่ไม่ใช่ว่าเนื้อหาทุกอย่างบนจอจะสามารถลากได้ อันนี้เป็นข้อจำกัดที่น่ารำคาญพอสมควร)
โดยสรุปแล้ว Multi Window ของ Note 4 ถูกปรับปรุงให้ดีขึ้น เอื้อประโยชน์สำหรับคนที่ต้องทำงานบางอย่างพร้อมกันอยู่บ่อยๆ (กรณีที่ผมใช้คือนั่งดูคลิปเปิดตัว Note 4 อีกรอบแล้วจดประเด็นเพื่อมาเขียนรีวิวลงใน S Note) แต่ Multi Window ยังมีข้อจำกัดบางอย่างอยู่ เช่น
ผมคิดว่าการปรับปรุงข้างต้นดีขึ้นและเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้ แม้โดยปกติแล้วเราแทบไม่ได้รันแอพ 2 ตัวพร้อมกันมากนัก แต่เมื่อจำเป็นต้องใช้งาน มันก็ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นกว่าเดิม
จุดขายที่สำคัญที่สุดของ Galaxy Note ย่อมหนีไม่พ้นปากกา S Pen ซึ่งพอมาถึงยุคของ Note 4 ซัมซุงย่อมต้องเพิ่มความสามารถใหม่ๆ เข้ามาอย่างเต็มที่
ปากกา S Pen ของ Note 4 (สีขาวในภาพ) มีขนาดใกล้เคียงกับปากกาของ Note 3 (สีดำ) มาก โดยปากกา Note 4 จะสั้นกว่าเล็กน้อย ความหนาของปากกา Note 4 ก็หนากว่า Note 3 เล็กน้อย ในระดับที่จับแล้วไม่รู้สึก แต่เมื่อลองนำปากกา Note 4 ไปยัดในช่องของ Note 3 กลับไม่สามารถทำได้เพราะขนาดไม่พอดีกัน (แต่ในทางทำกลับกัน สามารถยัดได้)
ซัมซุงโฆษณาว่าปากกา S Pen รุ่นใหม่รองรับแรงกดมากถึง 2048 ระดับ (ของเดิมใน Note 3 คือ 1024 ระดับ) จากการทดสอบลองเขียนปากกาทั้งสองรุ่น (และสลับเขียนข้ามจอกัน) พบว่าเห็นความแตกต่างบ้างแต่ไม่มาก (ไม่ได้ลองวาดภาพนะครับ ถ้าเป็นคนวาดการ์ตูนน่าจะเห็นความแตกต่างได้ชัดกว่านี้)
จุดที่เห็นชัดกว่าคือความลื่นในการเขียน ปากกาของ Note 4 ดีกว่าอย่างชัดเจน (อันหลังนี่ไม่รู้จะถ่ายภาพมายังไง)
ฟีเจอร์ใหม่ของ S Note รุ่นนี้คือ "Smart Select" ซึ่งอธิบายง่ายๆ มันคือ clipboard ที่เก็บข้อมูลได้หลายชิ้นพร้อมกัน
วิธีใช้งานคือเปิดโหมด Smart Select ขึ้นมา (เลือกจากเมนูวงกลมขณะเรียกใช้ปากกา หรือกดปุ่มบนปากกาค้างไว้) แล้วลากพื้นที่ใดๆ บนหน้าจอที่ต้องการคัดลอกข้อมูลเอาไว้ เมื่อลากเสร็จแล้วจะมีปุ่มสีฟ้าเพิ่มเข้ามาที่มุมล่างขวาของจอ ให้เราเซฟเนื้อหาเก็บเอาไว้
เมื่อเราบันทึกเนื้อหาชิ้นแรก เนื้อหานั้นจะกลายเป็น thumbnail ลอยทับแอพบนหน้าจอ ถ้าเราต้องการเก็บเนื้อหาเพิ่มก็กดปุ่มบวก (+) สีฟ้าเพื่อคัดลอกเนื้อหาชิ้นต่อๆ ไป
เราสามารถกดที่ thumbnail อันนี้เพื่อดูเนื้อหาทั้งหมดที่เก็บไว้ได้ (ภาพซ้าย) หรือจะดูภาพขนาดใหญ่ก็ได้ (ภาพกลาง) การนำเนื้อหาไปใช้ก็เพียงแค่ลากมันลงไปยังแอพที่ต้องการ (ตัวอย่างตามภาพขวาสุดคือลากไปใส่ S Note)
ในกรณีที่เราตัดภาพของข้อความมา มันจะถูกแปลงเป็นข้อความให้ด้วยเวลา paste ลงไปยังแอพอื่น ทำให้การตัดเก็บข้อความจากแอพต่างๆ ง่ายขึ้นมาก
ฟีเจอร์ Smart Select นี้อธิบายเป็นข้อความได้ยาก ดูคลิปง่ายกว่าครับ
ฟีเจอร์ต่อมาในชุดของ S Note (ที่ไม่เกี่ยวกับ S Pen แล้ว) คือ Photo Note ถ่ายภาพกระดานหรือกระดาษโน้ต แล้วแปลงเป็นโน้ตบน S Note ให้ทันที
ความเจ๋งของฟีเจอร์นี้คือมันจะแยกแยะวัตถุต่างๆ ในภาพแล้วแปลงเป็นวัตถุที่เคลื่อนย้ายได้ด้วย จากภาพตัวอย่างข้างล่าง ผมลองถ่ายเอกสารของ IKEA (ภาพซ้าย) เมื่อแปลงเป็นโน้ตในภาพขวา ข้อความแต่ละย่อหน้าสามารถย้ายตำแหน่งได้อย่างอิสระต่อกัน สามารถลบออกได้ทั้งก้อน หรือจะแปลงมันเป็น "เส้น" แล้วลบออกด้วยยางลบของ S Note ก็ได้ (แต่ยังไม่ถึงขั้นแปลงภาพเป็น text ได้แบบ Office Lens ของไมโครซอฟท์)
ฟีเจอร์อย่างสุดท้ายในกลุ่มจดบันทึกคือการอัดเสียงด้วยแอพ Voice Recorder ที่ปรับปรุงขึ้นจากเดิมมากๆ
เนื่องจาก Note 4 ให้ไมโครโฟนมาถึง 3 ตัว ความสามารถด้านการอัดเสียงของมันจึงเพิ่มขึ้น ฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มมาคือโหมด Interview สำหรับใช้สัมภาษณ์คนในพื้นที่มีเสียงรบกวน (ช่วยแยกแยะเสียงได้ดีขึ้น) แต่ที่เจ๋งกว่าคือโหมด Meeting ใช้อัดเสียงในห้องประชุมที่มีคนพูดหลายคน โดย Note 4 สามารถแยกแยะคนพูดแต่ละคนได้ว่ามาจากทางไหน คนพูดคือใคร
ผมลองทดสอบแล้วพบว่าแยกแยะทิศทางของเสียงได้จริง แต่การแยกแยะเสียงคนพูดยังเพี้ยนๆ อยู่บ้าง การทดสอบตามภาพด้านล่างพูดในห้องที่มี 2 คน แต่แอพแยกได้ว่ามีคนพูด 5 คน
โดยรวมแล้วถือว่า Note 4 ปรับปรุงเพิ่มขึ้นอย่างมากในแง่ของการจดบันทึก ปากกา S Pen เจ๋งกว่าเดิม และแอพ S Note ก็มีความสามารถเพิ่มขึ้นหลายอย่าง บางอย่างอาจไม่ใช่ฟีเจอร์ระดับที่ไม่มีไม่ได้ แต่พอมีเพิ่มเข้ามาแล้วก็ช่วยให้การใช้งานสมบูรณ์มากขึ้น
นอกจากนี้ผมพบว่าระบบแยกแยะลายมือพัฒนาขึ้นโดยเฉพาะการเขียนภาษาไทย ที่เดิมทียังแยกแยะลายมือได้ไม่ค่อยดีนัก (ในกรณีของ Note 3 ผมเลยจดทุกอย่างเป็นภาพแทนเพื่อตัดปัญหา) เมื่อลองเขียนแบบเดิมกับ Note 4 รู้สึกว่าผิดน้อยลงจากเดิมมาก จนน่าจะอยู่ในระดับที่ใช้งานจริงได้แล้ว
กล้องของ Note 4 พัฒนาขึ้นทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ขอแยกเขียนถึงทีละส่วน เริ่มจากกล้องหลังก่อนครับ
กล้องหลังของ Note 4 ยังใช้ความละเอียด 16MP เหมือนเดิม แต่เพิ่มระบบกันสั่น OIS เข้ามา ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มือถือรุ่นท็อปของซัมซุงมีฮาร์ดแวร์ OIS
ผลของการมี OIS ทำให้ Note 4 ถ่ายภาพตอนกลางคืนได้ค่อนข้างดีมาก ดีกว่าที่คิดเอาไว้เยอะ (คลิกดูภาพขนาดใหญ่กันเอง)
ผมลองถ่ายช็อตต่อช็อตเทียบกับ Lumia 1020 เจ้าแห่งการถ่ายภาพยามค่ำคืน พบว่า Note 4 ยังเป็นรองอยู่เล็กน้อย แต่ก็ถือว่าให้ผลที่ดีมากแล้ว (ซ้าย Note 4, ขวา Lumia 1020) ภาพตัวอย่างนี้ซูมและตัดเฉพาะส่วนมาแสดง
ส่วนภาพถ่ายตอนกลางวันก็ออกมาดีเยี่ยม สีสันสวยงาม การโฟกัสทำได้รวดเร็วมาก
ฟีเจอร์เด่นอีกประการของ Note 4 คือโหมด Rich HDR ที่พรีวิวภาพจากการถ่าย HDR ให้ตั้งแต่ก่อนถ่ายเลย แถมการประมวลผล HDR ก็รวดเร็วมาก ไม่ต้องรอแถบสถานะการประมวลผลเหมือนแบบเดิมอีกต่อไป
ภาพตัวอย่างด้านซ้าย ปิดโหมด HDR และถ่ายด้วยโหมดออโต้, ภาพด้านขวาเปิด HDR
ส่วนของกล้องหน้าก็ปรับปรุงขึ้นอีกหลายจุด เอาใจคนชอบถ่าย selfie ของใหม่ประกอบด้วย
สรุปคือกล้องของ Note 4 ดีขึ้นจากเดิมมาก (น่าจะเป็นกล้องที่ดีติดอันดับต้นๆ ของ Android ในท้องตลาด) แต่เนื่องจากเราไม่ได้ถ่ายเทียบกับมือถือที่ออกมาในช่วงเดียวกันอย่าง iPhone 6 Plus เลยยังไม่สามารถบอกได้ว่าถ้ามาเทียบกับตรงๆ แล้วตัวไหนดีกว่าครับ
Galaxy Note 4 พัฒนาขึ้นจากเดิมในทุกๆ ด้าน ฟีเจอร์หลายจุดพัฒนาให้ใช้งานสะดวกกว่าเดิม เช่น S Pen, S Note และกล้องถ่ายภาพ แต่จุดที่สำคัญที่สุดคงหนีไม่พ้น "ดีไซน์" ที่ให้ความรู้สึกดีขึ้นจากเดิมมาก (ควรจะทำแบบนี้ตั้งนานแล้วนะซัมซุง!) ในภาพรวมแล้วจุดอ่อนหลายประการของมือถือสายซัมซุงถูกแก้ไขไปเกือบหมดในเวอร์ชันนี้
Note 4 ย่อมมีสถานะเป็นหนึ่งในแชมป์ Android รุ่นท็อปในครึ่งหลังของปี 2014 อย่างไม่ต้องสงสัย อย่างไรก็ตาม ด้วยค่าตัวที่แพงถึง 25,900 บาท ในยุคที่มือถือราคาเฉลี่ยลดลงเรื่อยๆ ทำให้เกิดคำถามว่าเรายังจำเป็นต้องซื้อมือถือรุ่นท็อปในราคาแพงขนาดนี้หรือไม่ (ถามมาหลายครั้งแล้ว ทั้งกับ Galaxy S5 หรือ iPhone 6) ซึ่งถ้าวัดจากฟีเจอร์เทียบกับราคาแล้ว มือถือสุดคุ้มในตอนนี้อาจเป็น Note 3 ที่ราคาลดลงไปพอสมควรแล้ว
อย่างไรก็ตาม ถ้ากำลังมองหา Android รุ่นท็อปใช้งานโดยไม่เกี่ยงราคา Galaxy Note 4 ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ด้านปากกาและจดโน้ต คงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้
ข้อดี
ข้อเสีย
Comments
gapgate มั้ยครับ?
น่าจะเลิกใช้ปุ่มวงรีด้านหน้าได้แล้วนะ มันสกปรกง่าย ทำความสะอาดปุ่มยากกว่ามือถืออื่นๆที่ใช้ปุ่มแสง แล้วดูไม่หรูด้วย
แต่ด้านหลังยอมรับเลย ว่าสวยสุดๆ ดูไม่กิ๊กก๊อกแบบแซมซุงรุ่นอื่นแล้ว
เป็นรุ่นแรกที่น่ายินดีนะครับ เห็นหัวลูกค้าเรื่องการออกแบบเครื่องได้ซะที
โอ้ เห็นราคา 25,000 รู้สึกว่าแพงไป แต่พอได้อ่าน review ก็รู้สึกว่ามันก็สมราคาอยู่นะ
ผมเห็นเป็นราคา 26,000 บาท เลยยังรู้สึกแพงอยู่เลย 55
ราคาพิเศษ ซัมซุง โน๊ต4
24,90025,900 บาทเห็นด้วยที่ Samsung ทำการบ้านเรื่องดีไซน์มาอย่างดี ลบข้อครหาได้ดีเลยครับ
แต่ผมคิดว่าราคาค่อนข้างแรงอยู่นะ ถ้าเทียบกับคู่แข่งอย่าง Apple ที่ราคา iPhone 2 รุ่นใหม่ราคาไม่หนีห่างจากนี้มาก ตอนนี้ตลาดมือถือจอใหญ่ไม่เหมือนเดิมแล้วในเมื่อมีคู่แข่งอย่าง iPhone ร่วมวงด้วย
ผมว่าถ้า Note 4 ตั้งราคาให้เบากว่านี้ ผมว่าโอเคกว่านี้มากเลยครับ
มองแล้วดูเป็นเอกลักษซัมซุงดี แต่ "ฝาหลังก๊อบแก๊บ"
เพระ => เพราะ
Exynose => Exynos
ลงมที่ => ลงมาที่
"แผลบ" > "แผล็บ"
ผมชอบนะเครื่องดูแน่นหนาดี แต่ติดอย่างเดียว ตรงที่เป็น Samsung
555 เหมือนผมคิดกับ iPhone 6 เลย เพราะมันเป็น Apple
ความรู้สึกเดียวกันกะผมเลย
เพราะมันเป็น Samsung มันจึงดูแพง
ต้องบอกว่าเป็นอคติส่วนตัวที่ยังสลัดไม่หลุดครับเรื่องราคาไม่ใช่ประเด็นหลัก จากประสบการณ์ที่เคยใช้ผลิตภัณฑ์หลายอย่างของ Samsung ที่มีทั้งดีและไม่ดี เรื่องมือถือเรื่องทีวีเรื่องกล้องยังไม่ไว้ใจ Samsung ครับ ส่วนที่ประทับใจมากคือจอ CRT กับ SSD
+1
ตามที่ผมเข้าใจคือ ไม่ต้องกันน้ำก็ได้ครับ เพราะคนใช้ส่วนใหญ่ก็กันมือถือจากน้ำอยู่แล้ว (แม้จะใช้ S5 ก็เถอะ) พวกกันน้ำกันฝุ่นเหมาะกับพวก Wearable Device ทีเราต้องการให้กันเหงื่อของเรามากกว่า ^^
มือถือกันน้ำได้นี่สะดวกมากเลยนะครับ เวลาเผลอทำเลอะก็เอาไปล้างน้ำได้เลย (แล้วซับน้ำออก)
ใช้แล้วไม่พะวงน่ะครับ
จริงๆ ตอนนีัก็ใช้ล้างน้ำออกครับ สะดวกมาก :D
เพื่อนผมใช้ Moto Defy ครับ ฝนตกปรอยๆมันเอาเครื่องวางบนโต๊ะอย่างไม่แคร์ ผมสิตกใจเนื่องจากใช้ Note เคยโดนน้ำเข้าปุ่ม Home พังไปแล้ว กำลังจะเตือนระวังเปียก ใช้เวลาเสี้ยววิครับถึงนึกได้ว่าเครื่องมันกันน้ำ
โมโตเครื่องนั้นเคยมีประวัติถึงขั้นที่ว่าตอนไปสังสรรค์กันกับเพื่อนๆข้างสระน้ำ ก็ท้ากันว่าเครื่องกันน้ำขนาดใหน มันปลดล็อคเครื่องเปิดจอสว่างแล้วเขวี้ยงลงสระไปเลยครับ ตัวเครื่องนั้นกันกระแทกระดับหนึ่งด้วย ลงไปถึงก้นสระจอยังติดอยู่ด้วย แล้วก็สั่งคนท้าให้ลงไปเก็บ 555 แล้วมาเห็นประโยชน์จริงๆก็ตอนสงกรานต์ เดินไปในถนนข้าวสารพร้อมโทรนัดเพื่อน ประชาชนรายรอบพร้อมใจกันเล็งฉีดน้ำใส่มือถือกันใหญ่เลยครับ เจ้าตัวไม่แคร์ครับ ลุยได้ทุกสถานการณ์ เจ้าตัวบอกว่าซื้อเครื่องนี้เพราะเคยเผลอเอา ipod nano ใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงแล้วลงไปเล่นทะเลมาแล้ว เหมาะสำหรับคนขี้ลืมขาลุยจริงๆครับ
Z1 ผมก็ทำแบบนั้นมาแล้วครับ (แต่แค่หย่อนนะ 555)
ผมเคยลองฟังเพลงจากลำโพงของ Z ในน้ำด้วยครับ
เสียงทุ้มๆ ฟังไม่เพราะเลย
Note 1 ของผมลากยาวมาได้ 3 ปีแล้วยังไม่เจ๊งสักที แต่ตอนนี้คงได้เวลาต้องเปลี่ยนแล้ว เพราะเมม 16+32 ไม่พอ ตัวนี้ 32+128 น่าจะทำให้ผมพอใช้ไปอีกสักพักใหญ่
คิดเหมือนกันเลยครับ แต่ผมอาจจะรอซักหน่อย ไม่ได้รอรีวิวดูปัญหาจริงหรืออะไร แต่รอตังในกระเป๋ากับราคาเครื่องลดลงสักหน่อยครับ เพราะตอน Note 1 ซื้อตอน 23900 ใช้ไปไม่นานราคามันก็ลงให้เราเจ็บใจเล่น เลยใช้ยาวๆประชดรุ่นใหม่ที่ออกรายปีไปเลย
+1 หัวอกเดียวกันครับ ซื้อมาไม่นานราคาลง แต่ของผมโดนหนักเพราะช่อง usb ที่ชาร์จไฟเจ๊งด้วยหลังจากหมดประกัน
ทุกวันนี้มันยังไม่ตายแต่ใช้งานลำบากหน่อย ก็เลยใช้เป็นเครื่องสำรองไปครับ
หัวอกเดียวกัน ซ่อมที่ฟอร์จูนมาครับ 700 ร้านตั้งโต๊ะตัวเดียว แกะ บัคกรีไม่กี่ทีเหมือนใหม่ แต่ที่อื่นน่าจะมีถูกกว่า TvT)/
my blog
กล้องดูน่าใช้ดี ไมค์3ตัวก็น่าสนใจ
ยังเข็ดกับsoftware samsungอยู่
ที่จริงปากกา Note10.1รุ่นแรกก็เขียนลื่นปรื้ดติดหัวปากกามากๆแล้ว ถ้าไม่ใช้รอมศูนย์
ลายข้างหลังไม่สวย อยากให้เป็นpatternแนวเคฟล่าสักหน่อย
รบกวนถามให้ด้วยได้ไหมครับว่าชิพเสียง Wolfson หรือ Yamaha
มันดูยังไงอะครับ
มี 3 วิธีฮะ 1.ต้องแงะเครื่อง 2.รอ ifixit (คงได้แงะแต่เครื่อง Sanpdragon) 3.ถาม SAMSUNG เองเลยฮะ
เกรงว่าได้เครืองมารีวิวอย่างเดียว ไม่สามารถแกะได้ครับ สงสัยต้องรอ iFixit
ดูเจ๋งหลายอย่างเลยนะครับ ^^
อันนี้น่าจะข่าวดีพอสมควร วันก่อนผมไปลอง Note 3 หลังจากลอง Surface Pro 3 นี่รู้สึกว่าปากกาของ Note 3 มันหนึบมากเวลาเขียน
ว่าแต่ พรีโหลด Page Manager มาให้เนี่ยนะครับ - -"
ผมว่า design ไม่พัฒนาไปไหนเลย ที่ลูกค้าต้องการไม่ใช่เปลี่ยนจากฝาหลังมันแผล่บมาเป็นฝาพลาสติกทำร่อง แต่อยากได้การออกแบบด้านหน้าให้มันแตกต่างกันระหว่างรุ่นท๊อปกับรุ่นถูกมากกว่า ถ้าวางมือถือซัมซุงที่ขายในตลาดตอนนี้กับ note4 ผมว่าคนก็แยกไม่ออกเหมือนเดิม :-D
ที่ลูกค้าต้องการ?
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ครับ
ด้านหน้ามันดิ้นยากนะครับ เล่นเป็นหน้าจอไปเกือบหมด จะทำวงกลมรึสามเหลี่ยมก็นะ
ป.ล.
แต่จริงๆลองเอา i5 + i5s +i5c มาวางเรียงกันสิ เหมือนกันยังกับแพะ แหม่รุ่นพลาสติกก๊อปแก๊บกับรุ่นท๊อปนี่มันต่างกันจริงจริ๊งๆ
ลูกค้า < I don't see anyone blaming with the reason except you.
So now you're implying that you're Samsung's ลูกค้า?
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
+1
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
ผมเป็นลูกค้า Samsung ครับ
มั่นใจเหรอครับว่าผมเป็นคนเดียวที่บ่นเรื่องหน้าตามือถือ Samsung... ?
google is your friend
เหรอครับ? :)
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ด้านหน้าฉีกไปกว่านี้คงยากละครับ เพราะทุกแบรนก็มีหน้าตาของแบรนตัวเองกันหมด ลองเอา 5 5s 6 6 plus มาวางเรียงหรือถือเดิน มองผ่านๆก็ดูยากเหมือนกันนะครับ
อ่านจบแล้ว
- ชอบ Software
- ลังเลขอบ ท่าจะลอกง่าย
- ไม่ชอบฝาหลัง อยากได้เรียบ ๆ
- ติดราคา ไม่น่าแพงขนาดนั้น
- อยากได้ แต่คงรอให้เหลือ 18 กว่า ๆ ล่ะนะ
มันเป็นอลูทั้งกะบิ มันจะยังลอกอีกเหรอ ไม่ได้เคลือบทองเคลือบดำสักหน่อย
ขอบข้าง ทำสีขาวแน่นอนครับ (ตามรูป)
edit: ดูเครื่องดำก็ทำสีดำครับ
ขอบดูน่าจะลอกง่ายเพราะการทำสีจะคล้ายๆ ตอนที่ Apple เคลือบสีเหมือนตอน iPhone 5 สีดำน่ะสิครับ ลอกทุกเครื่องจนหลังๆ ต้องผสมสีไปในวัสดุแทน = =")
สวยขึ้นเยอะเลย ถ้าเทียบกับรุ่นเก่า ฝาหลังมองไปมองมาผมว่าก็ ok นะ 55
สำหรับผมไม่สนใจเรื่องการออกแบบเท่าไร เน้นฟีเจอร์และ Note ทุกรุ่น Samsung เรือธงทุกรุ่นก็ทำออกมาดี จัดเต็มเหลือเกิน จิตใจหวั่นไหวทุกตัว
ก็ได้แต่ท่องเอาไว้ ไม่เอา Samsung ไม่เอา Samsung
ตอนนี้ Note 4 มีผู้ใช้ในเกาหลีรายงานว่าพบปัญหาช่องว่างระหว่างจอมีมากเกินไปจนเสียบนามบัตรเข้าไปได้ น่าจะรีบผลิตเกินไปครับ
อันนี้ผมสงสัยว่าเพราะมันเป็นเรื่องปรกติที่จะแงะจอออกจากตัวเครื่องทางด้านหน้าเครื่องหรือเปล่าเลยทำให้มันมีช่องว่างขนาดนั้น อันนี้เดาล้วนๆนะครับ
โดน bendtest ป่าวครับ พองอแล้ว หน้าจอเลยหลุดออกจากกรอบ : P
หมดยุค Samsung ราคาถูกแล้ว
น่าสนใจมากๆ ตอนแรกเฉยๆ พอมาอ่านรีวิวแล้วมาคิดใหม่ (กะจะรอดู iPhone 6+ ด้วย)
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ
Ultra savemode ถูกเอามาใส่ใน note4 ใหมครับ
อ่านครบแล้วใช่ไหมครับ?
เออทำใหมผมไม่เห็นบันทัดนี้หว่า
แบตเตอรี่ของ Note 4 ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อยเป็น 3220 mAh โดยซัมซุงบอกว่าระดับการใช้งานแบตเตอรี่ดีกว่าเดิมเล็กน้อย แม้ว่าจอภาพละเอียดขึ้นเยอะ ซึ่งจากการใช้งานแล้วพบว่าแบตอึดในระดับเดียวกับ Note 3 (มีโหมด Ultra Power Saving แบบเดียวกับ S5 ด้วยแต่ไม่ได้ลองนะครับ)
S Note กำลังท้าสู้ OneNote กับ Evernote อย่างเต็มตัว
Jusci - Google Plus - Twitter
OneNote กับ Evernote มันได้ทุก OS ทุกแพลตฟอร์มเลยนะครับ
S Note ใช้วิธีจับมือกับ Evernote นะครับ แถม Evernote Premium สองปี ซิงก์อัตโนมัติ
ถ้าใครใช้ evernote premium นี่ก็เหมือนได้ส่วนลดไป 3000 เลยครับ
My Twitter
โอ้ ขอบคุณมากครับ ผมไม่รู้เลยอันนี้ เคยใช้แต่ Note 1 สมัยนั้นได้ Dropbox 50 gb ฟรีสองปีก็ดีใจจะแย่แล้ว (ไม่รู้ว่าตอนนั้นแถม Evernote premium หรือยัง)
ถ้าซื้อ Note ตอนนี้ นอกจาก Evernote ยังมีอะไรแถมอีกไหมครับ น่าสนมากๆ ผมดันใช้ทุกวันด้วย
มันจะอยู่ในชุด Galaxy Gifts น่ะครับ ส่วนใหญ่เป็นพวกหนังสือหรือแมกาซีน เพิ่งรู้ว่าซัมซุงไม่มีเว็บ Galaxy Gifts กลาง ลองดูของ S5 น่าจะพอเทียบเคียงกันได้ฮะ
ดูจากแนวโน้มมือถือมีแต่ราคาจะลดลง
Note4 ราคา 25,900 บาท ผมว่าแพงเกินไป(สำหรับผมเอง)
ขอรอราคาลงหน่อยดีกว่า
ดูจาก S5 เปิดตัวมาไม่ถึงปี ซื้อตอนนี้แถม Tab ฟรี
หรือถ้าซื้อจากเวปได้แค่ 15,xxx บาทเอง
เห็นว่ามีช่องว่างระหว่างขอบอลูมมิเนียม กับตัวเครื่อง
น่าจะเผื่อเอาไว้สำหรับทดสอบการดัดแล้วมันจะเข้าล็อคพอดีครับ #ห๊ะ
เรื่องกันน้ำ เคยอ่านเจอจากเว็บแอนดรอยด์ที่ไหนสักแห่งว่า S5 เน้นตลาด user ทั่วไป ใช้งานสมบุกสมบัน ส่วน note ผู้ใช้เป็นคนทำงาน ผู้บริหารอะไรทำนองนั้น คงไม่ไปตะลุยที่ไหน เลยไม่กันน้ำ (แต่ถ้า note 5 กันน้ำได้ เหตุผลนี้คงใช้ไม่ได้อีกต่อไป
Note 2 ยังโอเคอยู่เลย ยังคงไม่ซื้อใหม่ปีนี้ รอ Note5 เลยละกัน น่าจะอยู่ถึงนะ เหอๆ
ยอดขายในช่วงแรกน่าจะไม่สูงนักเห็นเพื่อน ๆ พี่ ๆ รอกันเพียบ (รอราคาลง) เอาอย่างนี้สิทำไงให้ราคาเสมอต้นเสมอปลายจนใกล้ออกรุ่นใหม่มาแทนนั่นละ
มีช่องระหว่างตัวเครื่องกับขอบ ว้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ดีกว่า iPhone 6 plus
ดูรีวิวแล้วยิ่งรู้สึกว่า Note จะกลายเป็น Flagship ตัวจริงแทนที่ S ไปแล้วนะครับ Samsung เองก็คงอยากให้เป็นอย่างนั้น
ไปลองจับมา ตัวเครื่องทำได้เนียนกว่าเดิมเยอะ
อ่านรีวิวแล้วอยากได้นะ Note 4 แต่เมื่อกี้ดูบอลจบเปลี่ยนใจละ ... >_<
+2
กำลังคิดเหมือนกัน
ซื้อ imobile เลยครับ ของไทยอะไหล่จีน
แฮะ ๆ ผมล้อเล่นนะ แต่ยังเคืองกรรมการไม่หายเลย ...
กาแฟพุ่งเลยครับ แอบอิน 5555
เริ่มลังเลระหว่าง Note 4 กับ iPhone 6 Plus ละ ขอบเครื่องกับด้านหลังมันสวยจริง ๆ
สรุป Gapgate ในแมนวลบอกว่าเป็นเรื่องปกติและจะขยายตัวขึ้น(เล็กน้อย)เมื่อใช้งานไป
A small gap appears around the outside of the device case
• This gap is a necessary manufacturing feature and some minor rocking
or vibration of parts may occur.
• Over time, friction between parts may cause this gap to expand slightly.
หน้า 180
http://downloadcenter.samsung.com/content/UM/201409/20140926113431077/SM-N910_UM_EU_Kitkat_Eng_Rev.1.0_140926.pdf
และทางโฆษกบอกเองว่า “ไม่ส่งผลต่อการใช้งาน”
Now, in a statement sent to TrustedReviews, Samsung has responded
to the Note 4 build quality concerns, dismissing the reports as an issue.
“The reported issue does not impact the functionality or quality of the Galaxy Note 4,”
an official Samsung spokesperson told us. “We assure our customers that all Galaxy
Note 4 units meet our strict manufacturing and quality control standards.”
http://www.trustedreviews.com/news/samsung-galaxy-note-4-launch-hit-by-build-quality-complaints#XMzZP4BJUsqorkTf.99