ประชาสัมพันธ์ผ่านทาง Line Official Account ว่าขนะนี้ได้ติดตั้งและเปิดให้บริการ

ขนะนี้ => ขณะนี้

และจะต้องระวังทรัพย์สินของตนเองเพราะไม่มีตู้ล็อคให้

ล็อค => ล็อก

คนคิด คนอนุมัติโครงการ เนี่ยได้ใช้เองบ้างรึเปล่าครับ คิดเรื่อง usability บ้างรึเปล่า หรืออยากจะสักแต่ให้มีกับเค้าบ้าง

ผมว่า มีให้มันหลายๆที่ กระจายๆ โดยเฉพาะตามที่นั่ง น่าจะเป็นประโยชน์กว่านะครับ คือให้ยืนเฝ้ามือถือตัวเองชาร์จ 30 นาที+ ก็สนุกจนไม่อยากใช้

คือ จะว่าไงดี พวกท่านน่าจะเคยผ่านสนามบินที่เค้าจัดการได้ดีกว่าอย่าง Changi ที่สิงค์โปร์เป็นตัวอย่างก็ได้ครับ (ถ้าท่านๆ ไม่เคยกัน ก็ถือว่าผมเสนอสถานที่ดูงานให้พวกท่านแล้วนะครับ บินใกล้ๆนี่แหล่ะครับ ไม่ต้องไปดูงานที่ไหนไกลๆ เอาใกล้ๆ นี่แหล่ะครับ) เวลาเดินๆ ท่านสังเกตหน่อยก็จะเห็น ว่าที่นั่งก่อนเข้า Gate ใน Terminal 1 หลายที่ (ไม่เยอะมากแต่ก็น่าจะมากกว่า 12 ที่ทั่วสนามบิน) ก็มีปลั๊กไฟให้เสียบ คือนั่งเฝ้า/เล่นมือถือได้เลย พอเข้ามาที่นั่งรอก่อนขึ้นเครื่อง ก็มีที่นั่งจำนวนหนึ่งที่มีปลั๊กไฟให้เสียบได้

แถมสนามบินเค้ามีไวไฟฟรีให้ใช้ได้ทันทีเลย จบนะ

อ้อ ลืมไป พวกท่านๆทั้งหลาย เวลาเดินทางผ่านสุวรรณภูมิคงคนไปรองมือรองเท้า เดินขึ้นโซน VIP ที่นั่งอย่างดี สะดวกสบาย ผู้คนน้อยนิด มีปลั๊กไฟ ไม่ต้องแย่งกัน ไม่มีคนจ้องฉวยโอกาสหยิบฉวย ครั้นพอเดินทางกลับ ก็เดินชิลๆเข้าโซน VIP มีคนมารับกระเป๋าที่สายพานให้ท่าน ไม่ต้องไปแบกเอง ไม่เคยต้องมามีประสบการณ์มานั่งแกร่วรอแบบคนธรรมดาแบบนี้สินะ

ป.ล. ผมไม่เคยได้ยินว่าสนามบิน Changi เอาเรื่องจุดชาร์จไฟที่ใช้งานได้ง่าย(กว่าเรามาก) ไปโฆษณาเป็นจุดขายด้วยนะ

ตอนไปต่อเครื่องที่นาริตะ ผมเห็นที่ชาร์จเป็นเรื่องปกตินะครับ

ถึงกะเป็นข่าว แต่ผมว่าแค่เริ่มมีก็ดีแล้วครับ จะได้เหมือนที่อื่นเขา
ส่วนยืนชาร์จก็ดีแล้วฮะ มันมีบู๊ทน้อย เมื่อยแล้วคนอื่นก็จะได้ชาร์จมั่ง

หลายๆ สนามบิน ในหลายๆ ประเทศมีปลั๊กให้ใช้เป็นเรื่องปกติแล้วครับ ดีใจที่สุวรรณภูมิก็เริ่มให้บริการบ้างแล้วเหมือนกัน :)

คงใช้หลักปลั๊กมีจำกัด เลยต้องให้ยืนชาร์จน่ะครับ เป็นการเริ่มต้นที่ดี ระยะยาวจะเป็นตามที่นั่งก็ว่ากันไป นี่ยังดีนะครับเป็นแบบปลั๊ก/usb ถ้านาริตะ มีโทรศัพท์มือถือค่ายหนึ่งเป็นผู้สนับสนุนบู้ท ผลคือเป็นหัวชาร์จ micro usb ออกมาเลย และไม่รองรับ iOS (ฮา)