แจ็คพ๊อตเลย

รําไม่ดีโทษปี่โทษกลอง

แหม่แล้วตอนโนเกียครองโลกในยุคก่อนหละ

แบ่งๆกันรวยมั่ง

อาจจะเพราะโดนโทรจันก็เป็นได้นะ
อุ๊ย!!

จริง ๆ ต้องโทษไมโครซอฟต์นะ

จริง ๆ ต้องโทษตัวเองก่อนนะ

ไม่รู้จักปรับตัวเอง ช่วยไม่ได้

-แหม่! โมโตโรล่าคิดค้นและทำก่อนแต่โนเกียขายดีกว่าละยุคนั้น
- เล่นเปลี่ยนหน้าตาแล้วเปลี่ยนชื่อรุ่นล่ะ
- ดื้อดึงไม่ยอมทำฝาพับจนยอมกลืนน้ำลายทีหลัง
- Android มีไม่ยอมในตอนแรกทำดือดึงไปหาไมโครซอฟท์อีก และต้องกลืนน้ำลายอีกรอบแต่ก็ตามซัมซุงไม่ทันแล้ว(พวกสมาร์ตโฟนราคาถูก)

• ไอโฟนก็คงจะตามไปในไม่ช้าถ้ายังมั่นใจในตัวเองสูงแบบโนเกียแต่เริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงละ "เราทำตามฟีดแบคลูกค้า"

อ่านแล้ว ฟินเว่อร์ (ที่นายกประเทศอื่น ก็มีอะไรฮาๆ)

รัฐทมีมามีไป ยุคสมัยย่อมมีการเปลี่ยนแปลง เหมือนกรุงทรอยเลย เจอม้าไม้เข้าไป เมื่องแตก ตายเป็นหมื่น เจ็บเป็นล้าน

ความเห็นส่วนตัว Nokia ฆ่าตัวตายเองมากกว่านะ แบบว่าเอาศักดิ์ศรีผูกคอตายอะไรอย่างนี้นะ
ยึดติด Symbian ไม่ใช้ Android และรอบสองก็ยังจะยังไม่เลือกใช้ Android อีก
ถ้า Nokia เลือกที่จะใช้ Android พร้อมๆ กับที่ Galaxy S เกิด ก็คงไม่เละเทะจนทุกวันนี้หรอก

ฆ่าตัวตายเองมากกว่า

เมื่อก่อนเป็นที่ 1 ตอนนี้ขนาดแบรนด์ใหม่อย่าง Xiaomi ที่ก่อตั้งจาก 3 ทหารเสือของอดีตทีมงาน Google ยังแพ้เลย

มีม้าไม้มาอยู่ในบริษัทรึป่าวววววว..

ถ้า Nokia จับ Android ตั้งแต่แรกนะ ป่านนี้อาจจะเป็นเบอร์หนึ่งตลอดกาล อย่างที่ Apple ยังชิดซ้ายเลย

M$ ทำลาย nokia

ดีแล้วครับ
พนักงาน nokia ที่เคยทำงานหนัก ก็ได้พัก
ป่าไม้ ที่เคยถูกตัด (มาทำกระดาษ) ก็ได้ฟื้น

ฟินเลย...

เทหน้าตักกับ ms เยอะไป

รู้สึกเดจาวูแปลกๆ

ก็พูดแบบนักการเมืองพูด
ถ้าพูดแบบนักธุรกิจ ถือว่าเฟลมาก เหมือนพูดว่าเพราะมีคู่แข่งเราถึงได้เจ๊ง

ตลกดีนะ แปลกดีๆ 55+

มีคนให้ความเห็นเรื่องโทรศัพท์กันเยอะแล้ว

ผมออกความเห็นเรื่องธุรกิจกระดาษมั่งดีกว่า

ในการผลิตกระดาษทั่วไป เราจำเป็นต้องใช้ทั้งเยื่อแบบใยสั้นและใยยาวผสมกัน ซึ่งแบบใยสั้นนั้นบ้านเราก็หาได้ไม่ยาก อย่างที่นิยมใช้กันก็เป็นเยื่อใยสั้นจากยูคาลิปตัส (แต่ก็ผลิตจากชานอ้อย, หรือกระถินณรงค์ ฯลฯ ได้เหมือนกัน) หากแต่เยื่อใยยาวนั้นเราหาไม่ได้จากไม้ในประเทศเราเลย เพราะต้องใช้ไม้สนจากประเทศเขตหนาว (ก็แถวสแกนดิเนเวียนั่นแหละ)

ฟินแลนด์จึงมีธุรกิจอุตสาหกรรมกระดาษที่สำคัญทีเดียว เพราะเป็นประเทศที่มีไม้สนที่จำเป็นต่อการทำเยื่อกระดาษแบบใยยาวอยู่มากมายเต็มไปหมด ทุกวันนี้เยื่อใยยาวที่เราใช้ผลิตกระดาษในบ้านเราก็ต้องนำเข้าเยื่อส่วนนี้มาจากฟินแลนด์อยู่ไม่น้อย อันที่จริงแม้แต่ประเทศที่อุตสาหกรรมผลิตกระดาษแข็งแกร่งกว่าเราอย่างอินโดนีเซีย หรือใหญ่ขึ้นไปอีกอย่างจีน หรือแม้แต่เจ้าโลกแห่งวงการกระดาษอย่างบราซิล ก็ยังคงมีความต้องการใช้เยื่อใยยาวอยู่

พล่ามมายาวแล้ว เข้าเรื่องอีกที การที่อะไรก็เป็นเปลี่ยนเป็นดิจิทัล ทำให้ความต้องการใช้งานกระดาษเพื่องานเอกสารหรือสิ่งพิมพ์นั้นลดลง แต่ในความเป็นจริง วงการกระดาษมันไม่ได้ตายง่ายๆ ขนาดนั้นหรอก ทางออกหนึ่งที่เห็นคือเรื่องอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ที่กระดาษเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ตั้งแต่แทนการใช้ไม้จริง แล้วเริ่มได้แรงส่งจากกระแสลดโลกร้อน (พ่วงด้วยผลประโยชน์จากเงินเรื่อง carbon footprint) ทำให้หีบห่อกระดาษโตขึ้นมาก หากธุรกิจกระดาษฟินแลนด์ไปย่ำอยู่กับที่แต่รู้จักปรับตัวตามโลก (ว่าง่ายๆ อย่าตายสเต็ปเดียวกับ Nikia) ยังไงก็ไม่หายนะหรอก

ป.ล. บริษัทที่รับออกแบบและสร้างเครื่องผลิตกระดาษที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก็เป็นบริษัทฟินแลนด์นะ

ตอนที่จ๊อปส์ และ ทีมงาน ทุ่มเทเต็มที่ ทำงานกันหนักจนเปิดตัว iPhone ได้สำเร็จ ผมจำได้ว่าช่วงนั้นผู้บริหารและพนักงานของ Nokia ยังไม่กลับจากพักร้อนกันเลย