หลังจากที่ Blognone ครบรอบ 10 ปีไปหมาดๆ ข่าวในยุคตั้งต้นของ Blognone ก็เริ่มทยอยครบรอบ 10 ปีตามกันไป ดังเช่นบทความคนแก่เล่าความหลังที่พูดถึงการครบรอบ 35 ปีของอินเทอร์เน็ตไว้เมื่อ 10 ปีที่แล้ว
ต้นกำเนิดของอินเทอร์เน็ตนั้น มาจากการที่สหรัฐอเมริกาต้องการระบบเครือข่ายที่ไร้ศูนย์กลางอย่างแท้จริง เพื่อที่ในยามสงครามนั้นระบบจะไม่ล้มลงไปง่ายๆ แม้ว่าบางส่วนของระบบจะถูกทำลาย แนวคิดนี้ได้ถูกพัฒนาขึ้นมาจนได้ระบบที่นับว่าเป็นต้นตระกูลของระบบอินเทอร์เน็ตในปัจจุบันในชื่อว่า ARPANET
ภาพประกอบจาก kmhouseindia
ในเวลา 22:30 ของวันนี้เมื่อ 45 ปีที่แล้ว ARPANET ที่ได้รับการสนับสนุนจาก DARPA ได้ถูกเรียกให้ทำงานจริงเป็นครั้งแรก โดยเชื่อมต่อระหว่าง UCLA กับ SRI ในการเชื่อมต่อครั้งแรกนี้ได้วางแผนการทดสอบโดยให้ฝ่ายหนึ่งพิมพ์ว่า "login" แล้วดูว่าข้อความได้แสดงผลที่หน้าจอของอีกฝ่ายหนึ่งหรือไม่
บันทึกแรก อ้างอิงจาก History of the Internet & World Wide Web ที่อ้างถึง Vinton Cerf ผู้จัดการโครงการ ARPANET ในช่วงนั้น
1969: The first LOGs: UCLA -- Stanford
According to Vinton Cerf:
...the UCLA people proposed to DARPA to organize and run a Network Measurement Center for the ARPANET project...Around Labor Day in 1969, BBN delivered an Interface Message Processor (IMP) to UCLA that was based on a Honeywell DDP 516, and when they turned it on, it just started running. It was hooked by 50 Kbps circuits to two other sites (SRI and UCSB) in the four-node network: UCLA, Stanford Research Institute (SRI), UC Santa Barbara (UCSB), and the University of Utah in Salt Lake City.
Kleinrock, a pioneering computer science professor at UCLA, and his small group of graduate students hoped to log onto the Stanford computer and try to send it some data.They would start by typing "login," and seeing if the letters appeared on the far-off monitor.
"We set up a telephone connection between us and the guys at SRI...," Kleinrock ... said in an interview: "We typed the L and we asked on the phone,
"Do you see the L?"
"Yes, we see the L," came the response.
"We typed the O, and we asked, "Do you see the O."
"Yes, we see the O."
"Then we typed the G, and the system crashed"...Yet a revolution had begun"…
อย่างไรก็ตาม แม้การทดสอบในครั้งแรกจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่ในอีกไม่กี่ชั่วโมงถัดมาระบบก็ได้ถูกแก้ไขและทำงานได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ และการที่มันถูกวางตัวให้เป็นระบบเครือข่ายแบบไร้ศูนย์กลางที่ทนทานต่อการถูกทำลาย เป้าหมายจึงไม่หยุดอยู่ที่การเชื่อมต่อกันของ 2 จุด ในวันที่ 5 ธันวาคม ค.ศ. 1969 เครือข่ายแบบ 4 จุดได้เชื่อมต่อกันสำเร็จโดยการเพิ่มจุดที่ University of Utah และ University of California, Santa Barbara เข้าไป หลังจากนั้น ARPANET ก็ได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเพิ่มขึ้นเป็น 213 จุดในปีค.ศ. 1981 และมีการเพิ่มจุดอีกทุกๆ ประมาณ 20 วัน
ARPANET ได้ผ่านการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงมาอีกหลายต่อหลายครั้งจนกระทั่งมาเป็นอินเทอร์เน็ตที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน อินเทอร์เน็ตได้เปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ไปในหลายๆ ด้าน กลืนกินเทคโนโลยีอื่นไปอีกหลายส่วน การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นกับอินเทอร์เน็ตในเร็วๆ นี้คงจะเป็นเรื่องของ IPv6 หลังจากที่โลกประสบภาวะ IPv4 หมดโลกมาระยะหนึ่งแล้วครับ (บทความประกอบที่ควรอ่าน "จะเกิดอะไรขึ้นหลัง IPv4 หมดโลก")
Comments
ไม่มีอะไรจะกล่าว นอกจากขอบคุณมากจริงๆ
หากไม่มีเธอวันนั้น ก็ไม่มีฉันวันนี้
โอ้ นานๆจะเห็นลุงเขียนข่าว
ขอบคุณสำหรับบบทความครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ข่าวนี้นี่ ผมบันทึกลงปฏิทินตั้งเตือนไว้หลายปีก่อนเลยครับ ตั้งแต่ไปอ่านเจอบทความคนแก่เล่าความหลังนั่นแล
จริงๆ ช่วงนี้เลี่ยงเขียนข่าวเพราะมีงานที่ควรเอาเวลาไปลงจริงๆ อยู่จนถึงช่วงปลายปี แต่ไหนๆ เรื่องนี้ก็อุตส่าห์วางแผนมานานก็เลยไม่อยากพลาดน่ะครับ แต่ก็ด้วยเวลาที่จำกัดก็เลยได้มาสั้นๆ แค่นี้ (อยากใส่เยอะๆ (T^T) )
ข่าวนี้หมดเวลาไปกับการหาข้อมูลซะเยอะครับ เรื่องมันผ่านมานานแล้ว ข้อมูลเลยหายากหน่อย กระจัดกระจายพอสมควร แถมด้วยความที่มันเป็นประวัติศาสตร์เลยทำให้มโนเอาเองไม่ได้ด้วยครับ ปกติพวกรีวิว-เจาะลึกนี่มโนกันสนุกสนานเลย
/great เลยครับ คิดไว้แล้วว่าต้องหาข้อมูลยากแน่ๆ
แต่จาก comment ข้างล่างเหมือนจะโดนชุบมือเปิบอีกแล้ว(หรือลุงไปโพสเอง? ไม่น่าใช่เห็นใช้คำว่าค๊าา) - -" ไอ้เว็บพวกนี้นี่มันอะไรกัน
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ไม่ใช่ผมครับ - -" งงเลย แต่ก็อบแน่ๆ ครับ ต้นฉบับภาพไม่ได้ใช้ชื่อนั้น ผมมาตั้งชื่อภาพเองอีกที (จริงๆ ไม่ต้องดูชื่อภาพก็รู้นะครับ :p)
อย่าเลยครับ - -"
แต่นี่ขนาดเว็บเขาเองก็เป็นแบบนี้นะครับ
ฮาาา ผมล้อเล่นหน่ะครับ เผื่อคน copy จะเข้ามาอ่าน
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ตอนนี้ผมแก้ไขเรียบร้อยแล้ว รบกวนลบข้อมูลผมออกด้วยครับ อย่างไงก็ติดต่อกันได้ครับ ไม่น่าเอามาประจานกันเลย
ทาง F ลบข้อมูลออกให้แล้วครับ
เว็บท่านก็เป็น .org แล้วเป็น CC เหมือนกัน ต่อไปขอให้ระมัดระวังมากกว่านี้นะครับ ผมไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าแจ้งเตือน แต่คนอื่นหรือเว็บอื่นอาจไม่จบแค่นี้ได้ อะไรทำให้ถูกต้องได้ก็ขอให้ทำให้ถูกเถอะครับ
ขอบคุณครับสำหรับคำแนะนำ และประสบการณ์ครั้งนี้ ผมขอน้อมรับข้อผิดพลาดทั้งหมดเพื่อที่จะแก้ใขปรับปรุงต่อไป และผมจะได้ถือโอกาสนี้คุยกับทีมงานผม เพื่อทำความเข้าใจใหม่เกียวกับเรื่องลิขสิทธิ์แบบ Creative Commons
จุดที่ทำให้อินเทอเน็ตบูมสุดๆ น่าจะเป็น Google Search Engine ที่มาแทน Web Portal
ผมเห็นแย้งครับ
พอดีไปเจอมาครับ เหมือนเด๊ะเลย http://www.ineedtoknow.org/45-years-anniversary-of-internet/
เงิบเลยครับ ไหนจะ First LOGs นั่นอีก
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
ผมเป็นเจ้าของเว็บ ineedtoknow.org ครับ ผมต้องขอโทษด้วยแทนทีมงานด้วย ที่ไม่ได้ใส่ link ที่มา ปกติเราก็เน้นให้ใส่ตลอด ตอนนี้แก้ไขแล้ว ขอโทษจริงๆ ครับผม
ปกติเราก็เน้นให้ใส่ตลอด?
ทุกข่าวในเว็บคุณนี่ไม่เคยมีคำว่าที่มาเลยนะครับ นี่เน้นแล้วเหรอ? ผมย้ำคำว่าทุกข่าวนะ
นี่แค่ 4 ข่าว'ล่าสุด'นะ
copy blognone
copy siamphone
copy appdisqus
copy blognone again
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ ผมพร้อมน้อมรับและพร้อมแก้ไข เป็นประสบการณ์ที่ดีเลย
+1 เห็นชอบด้วยครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
คิดว่าจะเป็น
L
O
V
E
อิอิ
ระบบผิดหวังที่เจอตัว G แทน L สินะครับ