Huawei Ascend Mate 7 ถือเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงของ Huawei ที่เข็นออกมาในช่วงปลายปี จุดเด่นคงอยู่ที่หน้าจอใหญ่และมีขนาดที่บาง ตลอดจนถึงเรื่องของแบตเตอรี่ที่ใส่มาเยอะ ทั้งหมดมีการออกแบบที่ให้ความรู้สึก "พรีเมียม" อย่างมาก
เนื่องจากเคยมีลองจับไปแล้ว ในการรีวิวครั้งนี้จึงไม่เน้นตัวเครื่องมากนัก เท่ากับประสบการณ์ในการใช้จริง สเปคสามารถอ่านเอาจากข่าวเก่าได้ ถ้าพร้อมแล้ว เราไปอ่านกันเลยครับ
คำเตือน ภาพเยอะมาก โปรดใช้วิจารณญาณก่อนเปิดบนอุปกรณ์พกพา
หน้าตาของ Huawei Ascend Mate 7 เป็นไปตามสมัยนิยมของโทรศัพท์ในปัจจุบันที่เน้นจอใหญ่ ขอบเหลือน้อยๆ เน้นการออกแบบและใช้วัสดุที่ทำให้รู้สึกถึงความพิเศษ (premium) ของเครื่อง โดย Ascend Mate 7 (ในที่นี้จะย่อเป็น Mate 7 เพื่อความง่ายต่อการเข้าใจ) ใช้วัสดุเป็นเหล็กกล้า (stainless steel) ในการครอบเครื่อง ให้ความรู้สึกที่ดีในการจับเครื่อง (เช่นเคย ตามสมัยนิยม) ทั้งหมดมาพร้อมกับความบางที่บางมาก
ด้านบนของเครื่องเป็นไมโครโฟนและรูเสียบหูฟัง
ด้านล่างมีไมโครโฟนอีกตัวหนึ่งและช่อง Micro USB
ขวามือของเครื่องมีปุ่มเปิด/ปิด และปุ่มปรับเสียง
ด้านซ้ายเป็นช่องใส่ซิมและ microSD
ด้านหลังของเครื่อง มีกล้องและตัวอ่านลายนิ้วมืออยู่
ผมทำการวัดประสิทธิภาพของเครื่องด้วย Antutu Benchmark แล้ว ได้ผลออกมาตามภาพนี้
สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือ Mate 7 ใช้หน่วยประมวลผล Kirin ของทาง Huawei เอง ซึ่งมีหน่วยประมวลผลมากถึงแปดแกน
Mate 7 มาพร้อมกับ Android 4.4.2 ที่ถูกปรับแต่งและครอบด้วยส่วนการใช้งานที่เรียกว่า EMUI ซึ่งทาง Huawei ปรับแต่งจนทำให้ผมมึนงงไปชั่วขณะ เพราะวิธีการใช้งานรอมของ Huawei นี้ คล้ายคลึงกับ iOS อย่างมาก โดยเฉพาะแนวคิดการที่ไม่มี App Drawer หรือจุดรวมแอพ แบบเดียวกับ Android อื่นๆ (เวลาติดตั้งก็วางลงไปในหน้าจอเลย) นอกจากนั้นแล้วยังไม่สามารถใช้ Launcher ตัวอื่นแทนได้เลย ทำให้เป็นสภาวะกึ่งบังคับในการใช้รอมของทาง Huawei เอง
ด้วยความที่ Mate 7 มีขนาดใหญ่ ทำให้การใช้งานมือเดียวลำบาก ทาง Huawei จึงใส่โหมดการทำงานด้วยมือเดียวเข้ามา เมื่อผู้ใช้เปิดใช้งาน ถ้าสมมติต้องการทำงานอย่างเช่นพิมพ์ข้อความ หรือกดปุ่มเสมือนบนหน้าจอ ก็แค่ตะแคงเครื่องไปด้านที่ต้องการ ปุ่มและแป้นพิมพ์จะไปกองกันอยู่ด้านที่ผู้ใช้ถนัด (แต่ผมลองแล้วไม่ชอบ เลยปิดไป) นอกจากนั้นแล้ว ผู้ใช้ยังสามารถเปลี่ยนลักษณะของเครื่อง (theme) ได้ตามที่ต้องการด้วย
สิ่งที่หงุดหงิดและน่ารำคาญของ EMUI ที่มาใน Mate 7 นอกเหนือจากการไม่สามารถปรับแต่งอะไรได้เป็นเรื่องเป็นราวด้วยการเปลี่ยน launcher แล้ว ยังเป็นเรื่องของการมีแอพที่ซ้ำซ้อน ตัวอย่างเช่นเว็บเบราว์เซอร์ที่มีทั้งของระบบและ Chrome สองอันอยู่ในเครื่องเดียว ซึ่งไม่มีความจำเป็น (และควรสามารถปิดการใช้งานตัวใดตัวหนึ่งได้ แต่ที่ทดสอบกลับทำไม่ได้)
นอกจากนั้นแล้วคงเป็นเรื่องของข้อความ SMS ที่เด้งขึ้นมาเป็น dialog ทับหน้าจอเอาไว้ ซึ่งน่ารำคาญมาก โดยเฉพาะในเวลาที่กำลังทำงานสำคัญ อย่างไรก็ตามก็มี dialog ที่ยังพอมีประโยชน์บ้าง อย่างเช่นเวลาปิด Wi-Fi ของเครื่อง แล้วจะไปใช้อินเทอร์เน็ตของโทรศัพท์ ก็จะมีขึ้นแจ้งเตือนว่าต้องการดำเนินการต่อหรือไม่
เรื่องของแบตเตอรี่ Mate 7 ถือว่าใช้งานได้ดีและยาวนาน (แต่ถ้าเล่นเกมหนักๆ อย่าง Ingress เครื่องก็จะร้อน) รวมถึงมีโหมดประหยัดพลังงานที่จะเปลี่ยนโทรศัพท์เป็นสีขาวดำ และทำงานได้ไม่ต่างจากฟีเจอร์โฟนทั่วไป ทำให้ยิ่งใช้งานได้ยาวนานมากขึ้น (ผมไม่ได้วัดจริงจังว่าเท่าไหร่ แต่ไม่ต้องชาร์จ 2 วัน ใช้งานปานกลาง สามารถอยู่ได้เป็นปกติ
นอกเหนือจากนั้น Huawei ยังใส่แอพต่างๆ เพิ่มเข้ามาอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งหลายอันก็มีประโยชน์ แต่หลายอันก็ไม่มีประโยชน์ในการใช้งานจริงมากนัก คงขอข้ามๆ ไปในที่นี้ อย่างไรก็ตาม Mate 7 มาพร้อมกับตัวอ่านลายนิ้วมือซึ่งสามารถใช้งานในการเปิดเครื่องได้ โดยไม่ต้องกดปุ่มเปิดปิดแบบ iPhone แม้แต่น้อย ถือว่าสะดวกมาก นอกจากนั้นแล้วยังสามารถใช้งานได้แทบจะทุกท่า กล่าวคือ ต่อให้วางนิ้วในตำแหน่งใด แค่ขอให้ลายมือตรงเป็นอันใช้ได้ (แบบเดียวกับ iPhone) ซึ่งถือว่าดีมากและใช้งานได้จริง รองรับสูงสุด 5 นิ้วด้วยกัน โดยสามารถตั้งค่าให้เข้าถึงส่วนแอพบางอย่าง หรือเนื้อหาส่วนตัวที่ไม่อยากให้ใครเข้าถึงก็ได้ (ตัวอย่างเช่น ข้อมูลหรือแอพทางการเงิน เป็นต้น)
โดยรวมๆ ถือว่าใช้ได้ดีครับ อย่างไรก็ตามเรื่องของซอฟต์แวร์ยังคงเป็นปัญหาชวนหงุดหงิด (มียัดมาให้เยอะ แต่ใช้จริงไม่น่าจะเกินครึ่ง)
กล้องของ Mate 7 ถือว่าถ่ายภาพได้ดีในหลายบรรยากาศ แม้อาจจะไม่ได้ดีที่สุดก็ตาม ผมไม่ได้ทดสอบโหมดภาพที่หลากหลาย (เช่นเคย มีเยอะมากจนปวดหัว) เลยได้แต่ถ่ายภาพตามการตั้งค่าอัตโนมัติของเครื่องมา ซึ่งคุณภาพทั้งในที่ร่ม และที่กลางแจ้ง ถือว่าทำได้ดี ยกเว้นในที่มืดซึ่งมีการเบลอและการรบกวนอยู่พอสมควร
ผมยอมรับว่า Huawei Ascend Mate 7 ถือเป็นสมาร์ทโฟนจอใหญ่ที่น่าสนใจ และให้ความรู้สึกที่ดีมากในการจับ ตลอดจนถึงการใช้งาน ความบาง น้ำหนักของเครื่อง และกล้อง ถือเป็นสิ่งที่ทำได้ดีอย่างมาก หน้าจอก็คมชัด และตัวอ่านลายนิ้วมือที่ใช้งานได้ดีมาก ไม่ต้องจับรูดขึ้นรูดลงที่ปุ่มโฮมให้วุ่นวาย โดยภาพรวมถือว่าในเชิงฮาร์ดแวร์ Ascend Mate 7 ทำออกมาได้ดีมาก
จุดตายของ Ascend Mate 7 กลับไปตกอยู่ที่ซอฟต์แวร์ซึ่งเน้นการใส่แต่สิ่งที่ไม่จำเป็น อีกทั้งมีแนวคิดในเรื่องของการจัดการแอพและการวางหน้าจอซึ่งไม่เหมือนกับสมาร์ทโฟนอื่นๆ ในท้องตลาด (อย่างน้อยที่สุดในฝั่งของ Android กระแสหลัก) ทำให้การใช้งานดูจะผิดแปลกไปจาก Android ที่คุ้นเคยมา ซึ่งถึงแม้ว่าหลายอย่างจะเป็นที่คุ้นเคย แต่กลับมีความแตกต่างอย่างมาก จนทำให้ผมรู้สึกว่าซอฟต์แวร์ที่มากับ Ascend Mate 7 นั้นเป็น "ของใหม่" ที่ต้องเรียนรู้ใหม่ มากกว่าจะใช้ความคุ้นเคยใน Android แบบเดิมได้
กล่าวโดยสรุปแล้ว Ascend Mate 7 ถือว่าทำได้ดีในฐานะสมาร์ทโฟนที่ดี แต่เรื่องของซอฟต์แวร์ที่ยังคงใส่ของที่ไม่ได้ใช้เข้ามาจำนวนมากจนเกินความจำเป็น ยังเป็นปัญหาอยู่ และหวังว่า Huawei คงปรับปรุงในจุดนี้ให้ดีขึ้นในรุ่นหน้า อย่างน้อยที่สุดก็ในเชิงความสามารถที่จะให้เปลี่ยน launcher เองได้ ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีแล้ว
ข้อดี
ข้อเสีย
หมายเหตุ สามารถดูภาพประกอบทั้งหมดได้ที่นี่
Comments
เปลี่ยน launcher ไม่ได้!! ทำไมกันครับ
ถ้าลงรอมโม/pure android ได้ผมก็โอเคแล้ว แต่โทรศัพท์จีนไม่มีคนทำรอมให้เลย คนรัสเซียซื้อใช้ตั้งเยอะทำไมไม่มีก็ไม่รู้
เดี๋ยวก่อน ไส้กรอกน่ากินมาก ที่ไหนครับ ไม่น่าใช่ nippon teiใช่ไหม
จริงๆ ไม่อยากตอบเลย (เพราะไม่เกี่ยวกับรีวิวโดยตรง) แต่ตอบสั้นๆ ว่า ไม่ใช่ ครับ
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
ไส้กรอกอีสาน อิอิ
ตกใจที่ยังใช้รุ่นเก่าอย่าง Android 4.4.2
แต่ปุ่มข้างล่าง กับ ui บางส่วนมาเป็น lollipop เลยครับ
ภาพเยอะไม่เท่าไรครับ แต่คราวหน้า รบกวนเตือนด้วยว่า "ภาพอาหารเยอะ" TvT หิวเบยยย
my blog
ฮาาาา
ผมรู้สึกว่าเวลาคนนี้ review มือถือแกจะต้องไปรีวิวตามห้องอาหารหรือบุฟเฟ่ห์โรงแรมทุกทีเลย 555
อาจจะไม่ได้ไปตอนจะรีวิว แต่ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นเลยก็เป็นได้งนะครับ ;)
*หลายๆ ครั้งที่เห็นอาหารน่ากินนั่นคือทำเองก็มีนะครับ
ตึง..โป๊ะ เลยครับ :-D
เห็นมี ID1, ID2 นี่คือยังไงครับ? เผื่อใช้หลายคน? แล้วรองรับ ID ละกี่นิ้วครับ?
เป็นแต่ละนิ้วเลยครับ ID1 = 1 นิ้ว
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
ที่เปลี่ยน Launcher ไม่ได้ เพราะมี UI อีมุ้ย.. ครอบอยู่นี่เอง = =*
miui? ผมชอบมันมากนะ มีของที่ต้องใช้ครบถ้วนเลย เช่น call blocker , sms block
ชอบขนาด ต้องดูว่ารุ่นที่จะซื้อมีคนทำ miui rom รึเปล่า
Dream high, work hard.
ของเดิมมันคือ emotion ui ปะครับ
ลำโพง => ไมโครโฟน
ไม่ทำที่ แสกนนิ้วพร้อมกัน3นิ้วก็โอเครแล้ว อยู่หลังเครื่องซะด้วยออกแนวชูนิ้ว (แม้ว่าจะปลอดภัยมากกว่าแสกนนิ้วเดียวก็ตาม)
มีโฟลเดอร์ Baidu ไหมครับ
ผมไม่ได้ดูในส่วนนั้น ต้องขออภัยด้วยนะครับ
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
ผมละให้ตอนปลุกเครื่องใช้ได้เลยแบบนี้มั่งจังไม่ต้องกด 2 ทึ
GPS แย่ขนาดนั้นเลยหรอครับ เป็น defect รายเครื่องรึเปล่าหว่า อุตส่าห์สนใจมากเลยนะนี่ ถ้า GPS แย่จริงคงต้องคิดใหม่ทำใหม่ละ -_-
GPS แย่ครับ คือถ้าเอาแบบเส้นทางไปไหนมาไหนอาจจะยังพอให้อภัยได้ แต่ถ้าเล่นอินเกรสไม่ดีแน่ๆ ครับ
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
stainless steel ไม่ใช่เหล็กกล้าเฉยๆครับ ต้องเป็นเหล็กกล้าไร้สนิม
launcher เปลี่ยนได้ครับ
วิธีคือลง launcher ตัวอื่นก่อน แล้วค่อยเข้าไป clear default ของ launchet huawei ครับ
ผมทำแล้วไม่ได้ครับ ใช้ launcher อะไรก็ทำไม่ได้เลยครับ
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
เอ แปลกจัง ที่ผมลองคือลง nova เพิ่ม(ตัวฟรี) แล้วค่อยไปclear default ของ huawei ถึงจะใช้ launcher อื่นๆ ได้นะครับ
สงสัยตัว software ที่มากับเครื่องคงเป็นคนละเวอร์ชันกัน เพราะเครื่องนี้ทาง Huawei ส่งมาให้ทดสอบครับ
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.