ข่าวดีสำหรับชาวเมือง Minneapolis ในรัฐ Minnesota เมื่อบริษัท US Internet ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตรายหนึ่งได้เสนอบริการ "อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงตามบ้านที่เร็วที่สุดในโลก" ด้วยความเร็ว 10 Gbps ทั้ง upload/download ในราคา $399 ต่อเดือน
บริการดังกล่าวให้บริการด้วยใยแก้วนำแสง ซึ่งหมายความว่าต้องเดินระบบสายในบ้านใหม่เป็นสายใยแก้วนำแสงด้วย นอกเหนือจากการเดินสายในบ้านแล้ว แม้ว่าจะอยู่ในพื้นที่ให้บริการ แต่หากจำเป็นต้องมีการเดินสายที่จำเป็นต้องมีการขุดพื้น (ก่อนถึงบ้าน) จะต้องรอจนกว่าจะถึงฤดูใบไม้ผลิ เนื่องจากในตอนนี้พื้นดินที่เมือง Minneapolis นั้นถูกแช่แข็งไปหมดแล้วนั่นเอง
ก่อนหน้านี้ในปี 2007 มีการทดสอบบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงถึง 40 Gbps ที่สวีเดน แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีการให้บริการด้วยความเร็วดังกล่าวอย่างเป็นทางการครับ
ราคาต่อระดับความเร็วที่มีให้บริการในตอนนี้ มีดังนี้ครับ (upload/download เท่ากันทั้งสองฝั่ง)
- 10 Gbps $399 ต่อเดือน
- 1 Gbps $65 ต่อเดือน
- 100 Mbps $47.95 ต่อเดือน
- 50 Mbps $39.95 ต่อเดือน
- 25 Mbps $29.95 ต่อเดือน
ที่มา - US Internet ผ่าน SlashGear
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
เมืองไทยขั้นต่ำก็ 599 แล้วครับ 5555
ดูราคาแล้ว บ้านเขา 1 Gbps เป็นอะไรที่คนธรรมดาเอื้อมถึงได้
้เปิดเบอร์เดี๋ยวหารกันใช้แบ่งกันจ่ายทั้งซอยตามสไตล์คนไทย นี่ฟินเลยครับ
ถ้าจะเอาสไตล์หาร 10 Gbps ให้จ่ายคนละ ~599 บาทแบบในบ้านเรา แบ่งกันได้ 22 บ้าน ได้ความเร็วบ้านละ ~450 Mbps เลยนะครับ (ถ้าวิ่งเต็มท่อกันตลอดเวลาแล้วจะแบ่งให้เท่าน่ะนะ)
แล้วความเร็ว 450 Mbps นี่เอามาใส่โปร 15 Mbps บ้านเราได้ 30 หลัง อ้อ ลืมไป นี่เฉพาะขาดาวน์โหลด ถ้าขาอัพโหลดใส่บ้านเรา (1.5 Mbps) ได้ 300 หลังเลยทีเดียว นี่ขนาดรวมแล้วแค่ 599 บาทนะ
ความเห็นนี้ทำให้เราเห็นภาพอะไรมากมาย บ้านเราเน็ตแพงสุดๆ ในสามโลก
ความเร็ว ตาม package เป็นความเร็ว แท้ ระหว่างการตรวจสอบเท่านั้น
ทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบใดๆ กรณี ความเร็วในการใช้งานจริงไม่ถึง,internet ล่ม,ปัญหาที่เกิดจากทางเทคนิค เช่น กรณี มีคนเปิดใช้ internet พร้อมกันจำนวนมากก็อาจทำให้ ความเร็วลดต่ำลงได้ แต่เราก็จะพยายามขยายฐานลูกค้าต่อไป ถึงจะรู้ว่า คนยิ่งใช้เยอะ ความเร็วยิ่งตกก็ตาม
เพราะตามทฤษฏีแล้ว ความเร็วต้องถึง หากต่ำกว่า เป็นปัญหาของผู้ใช้บริการเอง
ขออภัย หากบริการของเราแย่ เพราะไม่เน้นบริการ หลังการขาย เราอำนวยความสะดวกเฉพาะจุดจ่ายเงินเท่านั้น ที่คุณสามารถจ่ายที่ไหนก็ได้ หากคุณมีปัญหา คุณติดต่อเราไม่ได้หรอก
+E20
สหรัฐอเมริกา ค่าแรงขั้นต่ำเยอะกว่าประชาชนคนไทย ค่าครองชีพมากมายหลายอย่างแพงกว่าบ้านเรา แต่ค่าอินเตอร์เน็ตถูกกว่าบ้านเราเป็น 10 เท่า ประเทศไทย คนไทยเราทำไมได้ใช้แต่ของแพงคุณภาพห่วยแตกนะ
1000 เม็ก ของเค้า ราคารายเดือนเดือนละ 1950 บาท
3bb 30 เม็ก รายเดือนเดือนละ 1200 บาท เช่นเดียวกับ true เดือนละ 1290 บาท
วัดแค่นี้ เน็ตบ้านเราก็แพงกว่าเค้า 30 เท่าแล้วล่ะ
ค่าแรงขั้นต่ำบ้านเรา รายวันวันละ 300 บาท บ้านเค้าคิดเป็นชั่วโมง ชั่วโมงเดียวเค้าหาได้ 500 ค่าแรงเค้าแพงกว่าเรา 7-8 เท่า แต่ค่าเน็ตบ้านเค้าถูกกว่าเรา 30 เท่าตัว
เปรียบเทียบกันด้วยตัวเลขขนาดนี้แล้ว เห็นแล้วเราปวดตับ
คนไทยเห็นเน็ตวิ่ง 20-30-100 เม็ก ตื่นเต้น ตกใจ บอกจะเอาเร็วไปไหน เช่ามา 10 เม็ก ก็โหลดเร็วพอแล้วล่ะคลิกปุ๊บมาปั๊บ
ทำไมเราไม่แสวงหาเน็ตอะไรที่มันเร็วและแรงเท่าราคาประหยัดเท่าบ้านเค้าบ้างนะ ได้แค่ 10 เม็กก็พากันดีใจแล้วหรอ
ต้องเข้าใจครับเราอยู่กะลาแลนด์ มุมมองเราเลยจำกัดแค่ในที่ที่เราอยู่ ใครมาค้าขายกับเราเลยสบายเอาเปรียบได้เรื่อยๆครับบ เพราะสินค้ามีปัญหาเราไม่ก็ร้องเรียนไม่ค่อยฟ้องร้อง แต่ฟ้องไปก็ไม่คุ้มกฏหมายคุ้มครองพลเมืองเรามีไว้ให้คนไม่กล้าหือใส่คนตัวใหญ่กว่าเท่านั้นเอง เศร้าใจ
อ่านเม้นท์นี่แล้วอยากจะร้องไห้จริงๆ เลย
บางทีหน่วยงานภาครัฐ องค์กรอิสระ ก็พึ่งพาไม่ได้ด้วยนะครับ
ผสมๆ กันไป กลายเป็น โกโก้ครั้นช์
บางทีเราก็ต้องรู้จักพอ ในสิ่งที่เรามี
โปรดัก T ก็ 790.- 30/3 +โทร+เคเบิล นะครับ
ราคาก็พอพอกับนอก เว้นขาอัพ
Akamai state of the internet ของปี 2014 รายงานว่าความเร็วเฉลี่ยของ USA อยู่ที่ 10.5 Mbps ของไทยอยู่ที่ 5.2 Mbps ต่อให้มองโลกในแง่ร้ายจริงๆก็ต่างกันไม่เกิน 3 เท่าครับ
ถามว่าทำไม USA ไม่ได้ตัวเลขที่ดีกว่านี้ ก็พวก Gigabit ทั้งหลายให้บริการน้อยพื้นที่มากๆจนดึงตัวเลขขึ้นได้ไม่เยอะ เอาจริงๆเหมือนมา show off ศักยภาพของบริษัทมากกว่า พวกเจ้าใหญ่ๆยังตั้งราคาเดิม Comcast Infinity อยู่ที่ 40$ ได้ความเร็ว 25 Mbps มี data cap 300GB/เดือน (data cap = นรกของนักโหลด) AT&T U-verse อยู่ที่ $45 ได้ความเร็ว 18 Mbps มี data cap 250GB/เดือน แต่ข้อดีน่าจะเป็นที่ server ส่วนใหญ่ของ internet อยู่ใน USA อยู่แล้วไม่ต้องต่อออกนอกเหมือนของไทยเลยได้ความเร็วเต็มเม็ดเต็มหน่วยกว่า (อันนี้ผมมั่วนะ ไม่มีความรู้ด้านเทคนิคเลย)
edit: ไปค้นนิยามของคำว่า broadband ของ FCC มาเมื่อกี้พบว่าขยับเป็น 10/1 Mbps แล้ว ความเร็ว upload ของแพ็คเกจต่ำสุดของ 3bb ยังอยู่ที่ 512kbps อยู่เลย น่าจะปรับปรุงตรงจุดนี้มากกว่า
ลองออกมาอยู่ต่างประเทศดูครับ มันไม่สวยงามเหมือนที่คุณคิด
เจอค่าบ้านเข้าไป 60% ของรายได้ต่อเดือนหลังหักภาษีแล้วจะกระอัก
อินเตอร์เน็ตจำกัดโน่นนี่ บล็อคกระจาย บีบแบนวิธจนแทบใช้ไม่ได้ช่วงพรามไทม์
พังทีนึงโทรไปไม่สนใจ รอกันเป็นสัปดาห์กว่าจะซ่อม
ที่ผมอยู่นี่ 10Gbps = 1500, 30Gbps = 3500
ถูกใจครับ ผมก็ว่าแบบนั้นแหล่ะ
ในพันทิบเห็นกระทู้นี้มีเปรียบเทียบค่าครองชีพในไทยกับประเทศอื่นเห็นบางคอมเม้นท์บอกว่าค่าครองชีพในอเมริกาต่ำกว่าบ้านเราด้วย
"เช่น ใน 1 เดือน
รายได้ขั้นต่ำในประเทศไทย ได้ 1,000 บาท แต่ข้าวมื้อละ 20 บาท (ตัวเลขสมมติ) เท่ากับคนไทยซื้อข้าวกินได้ 50 มิ้อต่อเดือน
แต่
รายได้ขั้นต่ำในอเมริกา ได้ 10,000 บาท แต่ข้าวมื้อละ 100 บาท(มองเผินๆ จะบอกค่าครองชีพอเมริกาสูงจัง ข้าวแพง)
แต่เท่ากับว่า คนอเมริกาซื้อข้าวกินได้ถึง 100 มื้อต่อเดือน เลยทีเดียว
นั่นคือ ค่าครองชีพเมื่อเทียบกับรายได้ของคนไทย นั้นสูงมาก เมื่อเทียบกับต่างประเทศค่ะ"
ก็ใช่ครับ แต่อย่าลืมว่านั่นคือค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งหมายความว่าต้องได้งานที่ถูกต้องตามกฎหมายก่อนก่อนถึงจะมีค่าแรงนี้ด้วยนะ(ไม่นับแรงงานเถื่อน) ลองเทียบจำนวนคนว่างงานกันด้วยสิครับว่าต่างกันแค่ใหน มองแต่ค่าแรงขั้นต่ำเทียบกันอย่างเดียวไม่ได้หรอกครับ พอๆกับมอง Market share อย่างเดียวแล้วบอกว่า ดีนั่นแหล่ะ แทนที่จะมองกำไรกับอัตตราการการเติบโตของยอดขายมากกว่า
เสนอเหมือนเดิมครับ จะ 590.- ไม่ว่า แต่ขอ 5Mb ราคา 290.- และ 1Mb 99.- อะไรประมาณนี้ ไว้ขยายจำนวนผู้ใช้ แต่ก็อย่างว่าเดี๋ยวมีคนบอกไม่คุ้มค่าเดินสาย ดูแล งั้นผมขอ 10 Mb 299.- ครับ ประหยัดกระเป๋าตังส์คนใช้ เน๊ตบ้านเราจะได้ไม่ติดอันดับ 98 จาก 166 แพงอันดับโลก :)
ผมไปออสเตรเลียกับอเมริกา มีการจำกัดปริมาณ ข้อมูลเหมือนกับ 3G บ้านเรา ไม่ได้ปล่อยอัลลิมิตแบบบ้านเราครับ
ของออสเตรเลียที่ผมใช้ ให้ 2GB เอง ถ้าเกินโดนปรับ 90 เหรียญ หลังจากนั้นคิด GB ละ 59 เหรียญครับ โหดมาก ผมร้องไห้อยากหนีกลับไทยเลย
ออสเตรเลียนี่ขึ้นชื่อมากเลยครับ (- -)d ได้ยินชื่อเสียงด้านนี้มายาวนานทีเดียว
จริงเหรอครับ
โอยอยากจะร้องให้ ยิ่วกว่าเล่นเน็ตผ่านมือถือเสียอีก
เป็นผม ใจขาดตายแน่ๆ เลยถ้าจะมาลิมิตรกันแบบนี้
แสดงว่าประเทศนี้ เขาไม่ได้เล่นบิตกันสินะครับ?
2 GB เอิ่ม ไม่มีคำบรรยายใดๆ
ห๊ะ! มือถือผมยังใช้เดือนละ 40 กว่ากิ๊กเลย
เน็ตเร็วๆแบบนี้เอาไว้ทำอะไรอะ ดูหนัง? เล่นเกม? ไม่น่าจะใช่่
เดี๋ยวนี้ Youtube 4K แล้วนะครับ เน็ตผม 10 mbps ดูที่นิโหลดช้ายังกะสมัยเปิด 1080p บนเน็ต 1 mbps
เน็ตทรูของผม 10mbps ดู 720p ยังกระตุกเลยครับ วันดีคืนดีเคราะห์หามยามร้าย 480p ก็ยังกระตุกด้วย...
ของผม 720p แทบไม่เจอรอโหลดเลยนะครบ 1080p นี่ไม่เคยลองเพราะไม่มีจอ - -" ไม่เคยกระตุกตั้งแต่ 10/1 Mbps (แรกติด) เลยครับ ตอนนี้มันปรับเป็น 15/1.5 Mbps แล้วก็สบายขึ้นอีกโข
จริงๆ bw เฉลี่ยออกนอกต่อผู้ใช้ของไทยนี่น้อยมากๆครับ ที่ดู youtube กันลื่นๆได้เนี่ยเป็นเพราะ transparent proxy มากกว่า อย่างผมที่ดู clip ที่ไม่ค่อยฮิตบ่อยๆเนี่ย 480p ยังโหลดแบบ realtime ไม่ต้องรอ buffer ไม่ค่อยได้เลยครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
นั่นสินะ ผมลืมไปเลยครับ
ปัญหาใหญ่ของผมเลยหล่ะครับ TT
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
เอาแบบญี่ปุ่นมั้ยครับ ?
2 GBit fiber ราคา พอๆกะ สหรัฐในข่าวเนี่ย แถม load data ก็มาแบบเต็มๆ
เพราะ load bit, เพลงก๊อบ, หนังก๊อบ, app เถือ่นไม่ได้
load เมื่อไหร่ เจอเตือนก่อน 1 ครั้ง ถ้ายัง load อีกก็ดำเนินคดี
ถ้าได้ผมก็ไม่มีปัญหาครับ (- -)d
เป็นผมคงเช่า VPS ไว้แล้วสำหรับโหลด Bittorrent แล้วค่อยดึงมาดีกว่าครับ :v
เน็ตบ้านเราผมว่าพัฒนามาพอสมควร ยกเว้นวันดีคืนดีมีคนไปตัดไฟ สนง.ใหญ่
HDD เขียนทันไหม
เอามาตั้ง IDC เองเลย
บ้านเราติด คนโหลดบิตสบาย คนทำงานแทบตาย เพราะทั้งไลน์ทั้งบิต
สมมุติว่าผม ลงทุนติดตั้ง Bluetooth hotspot เพื่อกระจายเนตขายในตลาดแถวบ้าน หมดไปหลายหมื่นบาท..
ต่อมา... เทคโนโลยี WiFi ที่ดีกว่าแรงกว่าเข้ามามีบทบาท ผมก็กลัวคนอื่นมาลงแข่ง จะเปลี่ยนเป็น WiFi กับเขาก็ไม่ไหว เพราะของเดิมก็ยังไม่คืนทุน
แต่ถ้าผมรู้จักคนใหญ่คนโตในระแวกนั้น ... ก็คงพอจะต่อชีวิตธุรกิจผมได้
เรื่องราวก็คงเป็นแบบนี้ มั้งง :(
"สบายล่ะ ทีนี้ก็โหลดไฟล์ใหญ่ๆ ได้แป๊ปเดียวเอง" แฮกเกอร์ผู้หนึ่งไม่ได้กล่าวไว้