เมื่อวันที่ 27 มกราคม ที่ผ่านมา คณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชน จัดแถลงข่าววิเคราะห์ร่างชุดกฎหมายเกี่ยวกับเศรษฐกิจดิจิทัล ขึ้นที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค พร้อมเสนอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณากฎหมายอย่างรอบคอบ และให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานรัฐ เพื่อสร้างหลักประกันให้แก่ผู้บริโภค รวมถึงเสนอให้มีมาตรการเยียวยาความเสียหาย
ทางด้านตัวแทนองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชนที่มาแถลงข่าว ประกอบด้วย จุมพล ชื่นจิตต์ศิริ รองประธานคณะกรรมการองค์การอิสระฯ, ชลลดา บุญเกษม กรรมการองค์การอิสระฯ, รุจน์ โกมลบุตร กรรมการองค์การอิสระฯ และ บุญยืน ศิริธรรม กรรมการองค์การอิสระฯ กล่าวโดยสรุปเกี่ยวกับร่างกฎหมายเศรษฐกิจดิจิทัลว่า ขาดมิติในการคุ้มครองผู้บริโภค เนื่องจากให้อำนาจกับเจ้าหน้าที่มากเกินไปในการเข้าถึงข้อมูล และควรจะใส่ไว้ในกฎหมายอาญาเกี่ยวกับเรื่องความผิดคอมพิวเตอร์มากกว่าที่จะนำมาใส่ไว้กฎหมายเศรษฐกิจดิจิทัล, มีการอธิบายความผิดไว้แบบกว้างและไม่ชัดเจน, ส่งผลให้ผู้ประกอบการไม่มั่นใจในการมาลงทุน เพราะมีความกังวลในความปลอดภัยของข้อมูล, เป็นการดึงอำนาจไว้ที่รัฐมากกว่า นอกจากนี้ถ้าเกิดกรณีมีนักธุรกิจเข้าไปมีส่วนร่วมในกระบวนการตรวจสอบข้อมูลของรัฐ ก็อาจเกิดการล้วงข้อมูลของฝ่ายตรงข้ามได้
โดยทั้งนี้ องค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชน ได้จัดทำข้อเสนอต่อคณะรัฐมนตรีและสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยระบุว่ากฎหมายดิจิทัลทั้งสิบฉบับเป็นการละเมิดสิทธิผู้บริโภค ไม่แก้ปัญหาผู้บริโภคที่เป็นปัญหาสำคัญในปัจจุบัน และขาดมิติการคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภค ซึ่งเป็นผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว โดยข้อเสนอดังกล่าวได้ระบุเหตุผล ดังนี้
การนำข้อมูลของผู้บริโภคไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นการละเมิดสิทธิของผู้บริโภค ดังนั้น ในกระบวนการออกกฎหมายดังกล่าว ขอให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชน เพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภค
ต้องให้ความสำคัญกับผู้บริโภคในฐานะผู้ที่ใช้บริการดิจิทัลต่างๆ ไม่ให้ถูกเอาเปรียบจากผู้ให้บริการดิจิทัล ซึ่งในกฎหมายหลายฉบับไม่มีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภค
ร่างกฎหมายทั้งหมดขาดกลไกคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคที่ชัดเจน อีกทั้งสัดส่วนของคณะกรรมการชุดต่างๆ ก็ไม่มีการรับประกันสัดส่วนจากผู้แทนด้านที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมจากภาคประชาชนและคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค จึงขอเสนอให้มีการเพิ่มตัวแทนของผู้บริโภคเป็นคณะกรรมการในร่างกฎหมายทุกฉบับ
ในกฎหมายหลายฉบับมีการให้อำนาจแก่พนักงานเจ้าหน้าที่รัฐมากเกินไป เช่น ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ใน มาตรา 35 ที่ให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่เข้าถึงข้อมูลการติดต่อสื่อสาร โดยไม่มีการตรวจสอบ ซึ่งอาจทำให้ผู้บริโภคในฐานะผู้เป็นเจ้าของข้อมูลอาจถูกละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัว ถูกดักฟัง ถูกดึงข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยไม่มีการคุ้มครองหลักประกันความปลอดภัยใดๆ สุ่มเสี่ยงต่อการถูกนำข้อมูลไปใช้ในทางมิชอบ
ในร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีเพียงการกำกับดูแล “ผู้ควบคุมข้อมูล” มิให้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล หรือนำข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไปใช้หรือเปิดเผย โดยมิได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล และยังมีหน้าที่ต้องดูแลรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้ปลอดภัย ซึ่งเป็นการช่วยคุ้มครองผู้บริโภคส่วนหนึ่ง แต่ยังไม่ครอบคลุมถึงบรรดาผู้ที่ส่งข้อความโฆษณารบกวน หรือ “SPAM” มาทาง SMS อีเมล หรือแม้กระทั่งสื่อสังคมออนไลน์อย่าง Facebook ซึ่งสร้างความรำคาญและเป็นการละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้บริโภค ดังนั้น คณะกรรมการจึงเสนอว่าควรมีการเพิ่มเติมเนื้อหาสาระของกฎหมายให้ครอบคลุม คุ้มครองสิทธิของผู้บริโภคในเรื่องดังกล่าว ดังนี้
5.1 การส่งข้อความโฆษณา ประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางสื่อสารใดๆ ที่ผู้บริโภคมิได้ร้องขอ ไม่ว่าจะเป็นการส่ง โทรสาร, e-mail, SMS, MMS ระบบโทรศัพท์อัตโนมัติ หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบต่างๆ จะกระทำมิได้ เว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากผู้บริโภคอย่างชัดแจ้ง
5.2 กำหนดให้ผู้ส่งข้อความโฆษณา ประชาสัมพันธ์จะต้องแจ้งชื่อ ที่อยู่ ที่ติดต่อให้ชัดเจน และการแจ้งชื่อหรือที่อยู่ปลอมถือเป็นความผิด
5.3 กำหนดให้ผู้ส่งข้อความต้องแจ้งให้ผู้รับทราบอย่างชัดเจนว่า ข้อความที่ได้รับนั้นเป็นการโฆษณาประชาสัมพันธ์
5.4 กำหนดให้ผู้ส่งข้อความต้องระบุวิธีการยกเลิก การบอกรับข้อความ ข้อมูล ข่าวสารเมื่อไม่ต้องการ ซึ่งต้องเป็นวิธีการที่ผู้บริโภคสามารถดำเนินการได้โดยสะดวก รวดเร็วและไม่เสียค่าใช้จ่าย
5.5 จำกัดจำนวนสูงสุดในการส่งข้อความ เช่น ไม่เกิน 2,500 ฉบับภายใน 24 ชั่วโมง
5.6 กำหนดโทษทางอาญาที่รุนแรง เช่น หากมีการกระทำฝ่าฝืนกฎหมาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (เช่นเดียวกับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ฝ่าฝืนมาตรา 26 ต้องรับโทษตามมาตรา 44 วรรคสอง)ในส่วนของร่าง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม ที่มีการแก้ไขเรื่องอำนาจหน้าที่ของ กสทช. เห็นว่า กสทช.ซึ่งมีบทบาทหน้าที่ในการกำกับกิจการควรคงความเป็นอิสระ การแก้ไขปัญหาต่างๆ ของ กสทช.ไม่ควรเป็นการเอากลับเข้ามาอยู่ในกำกับของรัฐ แต่ควรแก้ไขด้วยการเพิ่มกลไกการคุ้มครองผู้บริโภค กลไกการตรวจสอบ การประเมินประสิทธิภาพการทำงานของคณะกรรมการ กสทช.ทุกชุด รวมไปทั้งการแก้ไขการถอดถอนให้ทำได้ง่ายมากขึ้นหากพบว่าการทำงานไม่มีประสิทธิภาพและมีปัญหาเรื่องความโปร่งใส
แถลงการณ์ฉบับเต็มสามารถอ่านได้จากที่มา
ที่มา - ประชาไท
Comments
ล้วงข้อมูลฝ่ายตรงข้าม อันนี้เห็นด้วยอย่างแรงครับ
ผมสงสัยว่า ... ในยุคนี้เสียงของประชาชนยังมีความหมายอีกหรือ? ขอให้กำลังใจนะครับ
ผมว่ากฎหมายเพื่อคสช.มากกว่า ไม่ได้ทำเพื่อเศรษฐกิจอะไรนั่นหรอก
กสม. เงียบกริบ
อยู่ในช่วงงานยุ่งครับ :P
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน(ที่ไม่ทัดเทียม)แห่งชาติ(ใคร)
เค้าก็กำลังฟ้องเรื่องการชุมนุมที่รัฐบาลชุดก่อนจัดการกับผู้ชุมนุมไงครับ
น่าเห็นใจ กสม. เขานะครับ งานยุ่งทีเดียว
อย่าว่างั้น งี้เลย อะ คิดกันไปต่างๆ นานา มีสักกี่รัฐบาลที่ ราคาน้ำมัน วันนี้ เท่ากับเมื่อ 10 ปีที่แล้ว
ราคาน้ำมันลด เพราะอะไร ท่านลองอ่านข่าวดูก่อนดีไหม
มันเกี่ยวอะไรกับ กฎหมายเศรษฐกิจดิจิทัล ครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ไม่น่าเชื่อว่ายุคข่าวสารที่อยู่ที่ปลายนิ้วขนาดนี้ ยังมีคนที่คิดว่าราคาน้ำมันเป็นเรื่องของการเมือง
มีคนรู้จักหลายคนครับที่คิดว่าเป็นแบบนั้น
เฮ้ย คุณคิดว่าเป็นผลงานของรัฐบาลจริงดิ เป็นโจ๊กที่ฮามากๆสำหรับเช้าวันนี้ของผม
สมัครใหม่กี่รอบแล้วครับ
ผมว่าอย่าเอามาเกี่ยวกันดีกว่า น้ำมันราคาลงทั่วโลกครับ เป็นเรื่องระดับโลก ลองอ่านข่าวพวกบทวิเคราะห์จะรู้ว่าเกิดอะไร
ราคาน้ำมันโลกลงครับ รัฐบาลปรับราคาน้ำมันลงมีส่วนน้อยมาก
แนะนำให้แต่งหนังสือ Universe in a coconut shell แข่งกับ Stephen Hawking นะครับ ตรรกะแบบเดียวกันนี้ใช้กับ ราคายาง ราคาข้าว ด้วยมั้ยครับ
รวมถึงราคายางพาราด้วยหรือเปล่าครับถ้าใช้ตรรกะแบบนี้ Oops!!
"Those who make peaceful revolution impossible will make violent revolution inevitable." JFK.
พระเจ้าช่วย ผมเพิ่งรู้นะครับว่า คสช. หรือ รบ. ชุดนี้เป็นผู้กดดันอเมริกา ยูโรโซน กับเหล่าประเทศผู่ส่งออกน้ำมัน ให้ทำการถล่ม ศก. รัสเซีย จนรูเบิลอ่อน ราคาน้ำมันร่วงได้ ช่างเป็น รบ. มหาอำนาจของประชาชนโดยแท้ ทั่วโลกคงต้องหวั่นเกรงกับบลานุ๊บ๊าบ นี้เป็นแน่แท้
ไม่มีใครขวางท่านประยุทธ์ได้ครับ
แต่ว่าพวกรัฐบาล ก็พยายามประโคมข่าว ทำเหมือนเป็นผลงานตัวเองนะ ไม่แปลกที่จะมีคนเข้าใจผิด
ไปหมดละสมงสมอง
ทำอะไรโง่ๆเยอะๆก็ดีแล้ว คนจะได้รู้ว่าคณะนี้เป็นยังไง
เห็นด้วยอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการล้วงข้อมูลฝ่ายตรงข้าม
Get ready to work from now on.
เห็นด้วยเป็นบางข้อ แต่บางข้อก็ไม่เห็นด้วยอย่างแรง แต่จะพูดว่าไม่ดี ก็เหมือนจะทำให้อีกฝ่ายดูเป็นคนดีขึ้นมา 55+
เพราะรัฐบาลชุดก่อน ก็หายนะพอๆกัน
พอๆกันนี่คืออย่างไงครับ อธิบายหน่อย
ถ้าเรื่องการล้วงข้อมูล กับ กม.ด้าน ict ผมไม่เห็น รบ. ก่อนจะมีนโยบายอะไรที่น่าเกลียดขนาดนี้นะครับ หรือคุณมีข้อมูลที่ผมไม่ทราบก็ช่วยให้ความรู้ทีครับ
ตอบทั้ง folkeza และ zerost เลยแล้วกันนะ
ผมหมายถึงการบริหารโดยรวมน่ะครับ
แต่เรื่องใกล้เคียง ก็จะมีการล๊อบบี้สื่อนี่เป็นทุกรัฐบาลครับ หรืออะไรที่เป็นหูเป็นตาของประชาชน มันจะต้องเข้าไปบดๆบังๆ
อันนี้เป็นทุกยุคสมัย
เรื่องการบริหารนี่ก็อีกเรื่องนะครับจริงว่าแย่
แต่เรื่องการปิดกั้นสื่อนี่ผมว่าอยู่ในระดับธรรมดาถึงน้อยกว่า รบ. หลายๆยุคด้วยซ้ำครับ ไม่งั้นออกมาชุมนุมกันไม่มหาศาลแบบนั้นหรอกครับ
ยิ่งมาเทียบกับ กม.เศรษฐกิจดิจิตัลฉบับนี้ยิ่งแล้วใหญ่
ขอพูดแบบดาร์กๆเลยนะ ผมคิดว่าไม่ว่าจะรัฐบาลประเทศไหนๆ ก็มีความพยายามจะล้วงข้อมูลของประชาชนทั้งนั้นแหละ (ดูจาก NSA) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น วิธีการที่จะได้ข้อมูลมา มันไม่ใช่การบังคับแบบโง่ๆว่า เรามีอำนาจในการดูข้อมูลของคุณนะ คุณห้ามขัดขืน แบบนี้มันบ้าไปแล้ว คงมีแต่ประเทศไทย ณ เวลานี้ กับผู้นำที่ไม่มีสมองเท่านั้นหละที่จะทำ
ของอเมริกาจะมีละครที่ซับซ้อนกว่าของไทยครับ ของไทยนี่เหมือนดูหนังพล็อตเดิมๆ เปิดมาฉากแรกก็เดาฉากจบออก ไม่ซับซ้อน
ส่วน NSA ก็จะมีหน่วยที่ตรวจสอบอีกที แต่จนแล้วจนรอด NSA ก็ยังทำแบบเดิมๆ แต่ใช้วิธีการใหม่ๆ
สิ่งสำคัญของอเมริกาคือ คุณตรวจสอบเค้าได้ คุณเปิดโปงเค้าได้ คุณฟ้องเค้าได้ คุณเรียกร้องให้มีการดำเนินคดีเค้าได้ โดยที่คุณไม่ถูกพาเข้าค่ายทหารอ่ะครับ
ขอแย้งตรงที่คุณเปิดโปงเค้าได้ ถ้าเปิดโปงได้ทำไม สโนวเดนต้องหนีไปรัสเซียล่ะครับ ถ้าไม่หนีตอนนี้ก็เรียบร้อยแล้ว
สิ่งที่ NSA ทำตามหลักการแล้ว มีกฏหมายรองรับครับ นั่นก็คือ FISA ซึ่งให้อำนาจในการสปายคนหรือหน่วยงานต่างชาติได้
จริงอยู่ที่ว่า Snowden ออกมาเปิดโปงเรื่องที่ NSA สปายคนในชาติเดียวกัน (ด้วยข้ออ้างที่ว่าเราไม่สามารถแบ่งแยกคนสองกลุ่มออกจากกันได้) แต่ในส่วนนั้นเองก็จำเป็นต้องเปิดโปงเรื่องอื่นๆ ที่ NSA ทำตามที่ FISA กำหนดไว้เช่นเดียวกัน เลยผิดกฏหมายไปซะงั้นครับ
เรื่องมันก็ซับซ้อนอย่างนั้นแล
จูเลียน อาสซานจ์ดัวยครับ โดนก่อนสโนว์เดนอีก
เอิ่ม ... my argument is so invalid.
คือมันมีข้อมูลที่เปิดเผยได้ กับเปิดเผยได้แต่เป็นภัยต่อความมั่นคงทางประเทศน่ะครับ ในทุกประเทศมีความลับที่ไม่ควรถูกเปิดเผยอยู่นะครับ
ผมว่าถ้าท่านหมายถึงการไม่ปิดกั้นการนินทาหรือการออกข่าวโจมตี nsa ในสื่อหลัก เช่น นสพ. ข่าวทีวี มันก็ต่างอยู่ชัดเจนนะครับ
ขัอห้าผมเห็นด้วยมาก พวกส่งข้อความอีเมล แท๊ก ฝากร้านต่างๆนี่ทุเรศมาก แถมพวกsmsบางทีก็หลอกกินเงินคนอีก ค่ายมือถือก็บอกไม่รู้อะไร มันควรจะมีกฏหมายปกป้องสิทธิ์ส่วนตัว
คนร่างไม่ได้ให้เหตุผลเลย ว่าข้อที่มีปัญหาน่ะ ร่างเพื่ออะไร ความมั่นคงแบบไหน? อยากให้ออกมาตอบคำถาม ไม่ใช้เงียบๆแล้วแอบผ่านร่างกฏหมายไปเฉยๆ
ผมหมายถึง สมัย การบริหารครับ ไม่ใช่ ว่าใครทำไม่ทำ หรือทำ ผมหมายถึง จะมีสักกี่ รัฐบาลที่ราคามันเป็นแบบนี้ ไม่ได้หมายถึง ใครเป็นคนทำครับ (ขอโทษจริงๆครับถ้าทำให้เข้าใจผิดครับ)
แล้วสรุปมันเกี่ยวกับราคาน้ำมันยังไงล่ะครับท่าน - -a
ถ้าบอกว่า จะมีสักกี่รัฐบาลที่นายกชื่อประยุทธ์ หรือไม่ก็ จะมีสักกี่รัฐบาลที่นายกขี้โมโห เอ้ออันนี้สิผมว่าเกี่ยวกว่า
^
^
that's just my two cents.
คือมันก็ไม่น่าหยิบยกมาให้คนเขาตีความกันไปแต่แรกนะครับ ผมอ่านตอนแรกก็ตีความได้ว่าคุณพยายามจะโยงเรื่องราคาน้ำมันเป็นผลงานรัฐบาลเพื่อ defend กรณีกฎหมายเศรษฐกิจดิจิทัลเหมือนกัน
ว่าแต่ตกลงกฎหมายนี้มันเกี่ยวอะไรกับราคาน้ำมัน - -
ให้ผมเป็นนายกช่วงนี้ ราคาน้ำมันก็ลดครับ
ราคาน้ำมันอิงตามตลาดโลกเสมอ เข้าใจว่าคุณกำลังเปรียบเทียบกับสมัย $40 ต่อบาเรล(จำปีไม่ได้) แต่ตลาดน้ำมันในประเทศไม่ยอมลดตาม ถูกต้องไหม?
คำถาม1: รัฐบาลไทยมีอำนาจมากถึงขนาดที่สามารถควบคุมราคาน้ำมันทั้งโลกได้ขนาดนั้นเลยหรือ?
คำถาม2: เกี่ยวอะไรกับข่าวนี้
คำถาม3: คุณได้ติดตามข่าวหรือไม่ หรือติดตามเฉพาะฝั่งการเมืองที่ถูกจริตกับตัวเอง
ไม่เข้าใจว่าจะสื่ออะไร สรุปเข้าใจรึยังว่าน้ำมันลงเพราะอะไร แล้วเกี่ยวอะไรกับที่รัฐบาล คสช. มาบริหาร
แหม่ ยางไหม้เลยนะครับ
เพลงนี้ขึ้นเลย https://www.youtube.com/watch?v=iuJDhFRDx9M
คืนความสุข งดลงทุนต้อนรับ AEC!!! ฮาๆ
ชื่อดูคืนความสุขดี แต่เนื้อในก็ตามคาด