ข่าวนี้ย้อนหลังพอควรนะครับ CodeIgniter ซึ่งเป็น PHP framework ที่ช่วยให้การพัฒนาเว็บแอพพลิเคชันเป็นเรื่องสะดวกและรวดเร็ว (rapid development) ได้ไปอยู่ในความดูแลของ British Columbia Institute of Technology (ขอเรียกว่า BCIT) หลังจากที่อยู่กับบริษัท EllisLab ที่เป็นผู้เริ่มต้นพัฒนามา 8 ปี
ย้อนหลังกลับไปวันที่ 9 กรกฎาคม 2013 ทาง EllisLab (ขอเรียกว่าบริษัทฯ) ได้ประกาศหาผู้รับช่วงดูแล CodeIgniter ต่อโดยให้เหตุผลว่าทางบริษัทฯ ไม่มีทรัพยากร (เวลา, บุคคล, (น่าจะรวมไปถึงเงินทุนด้วย, ความเห็นผู้เขียนข่าว)) เพียงพอที่จะดูแล CodeIgniter อีกต่อไป (อ้างอิง)
จนวันที่ 6 ตุลาคม 2014 ทางบริษัทฯ จึงประกาศว่า BCIT ได้ถือความเป็นผู้ดูแล (stewardship) คนใหม่ของ CodeIgniter แล้ว โดยบริษัทฯ ได้ให้เหตุผลรองรับว่าทางคณะ Computing and Academic Studies ของ BCIT สอน CodeIgniter ให้กับนักศึกษาปีละ 150 คนด้วยการให้นักศึกษาลงมือกับโครงการจริง (real world project)
นอกจากนั้นแล้วทาง BCIT ยังมี James Parry (ในหน้าบุคลากรบนเว็บของ BCIT ใช้ชื่อ Jim Parry) ผู้สอนที่ใช้ CodeIgniter มานาน ก็จะมาเป็นผู้นำโปรเจ็ค และจะอยู่ในคณะกรรมการกำหนดทิศทาง ร่วมกับสมาชิกของ CodeIgniter community คนอื่นๆ รวมถึงจะให้นักศึกษาที่มีความสามารถโดดเด่นเข้าร่วมคณะกรรมการฯ อีกด้วย
ผมเขียนข่าวนี้เพราะเห็นว่าการเรียนการสอนที่ให้นักศึกษาได้เรียนรู้จากงานจริงๆ เป็นเรื่องที่ควรจะนำมาใช้ในไทยมากๆ เพราะปัจจุบันตลาดโปรแกรมเมอร์ไทยประสบปัญหานักศึกษาจบใหม่ไร้คุณภาพครับ
ที่มา - Blog ของ EllisLab
Comments
แอพลิเคชัน => แอพพลิเคชัน
คุลาคม => ตุลาคม
บุคคลาการ => บุคลากร
เป็นเกียรติอย่างยิ่งครับ
หนีมาใช้ Laravel นานแว้ว แต่ก็เป็นครูเลยหละตัวนี้
Blognone = 138.1 news/w เยอะมากๆ
+1 Laravel
+1 เรียนจาก CI มาใช้ Laravel
:: DigiKin8 ::
แล้ว CI ก็จะกลายเป็นเฟรมเวิร์คเพื่อการศึกษา...
อยากให้เวอชั่นใหม่ เสร็จไวๆแฮะ ชอบ
ถือเป็นข่าวดีสำหรับวงการ Education เจริญตามรอยผู้นำ R&D ในโลกการศึกษาแบบ MIT
จริงๆ แล้วในที่มายังพูดถึงว่าที่คณะฯ ดังกล่าวใช้โมเดล Living lab ด้วยนะครับ
ซึ่งก็เป็นโมเดลที่เป็นที่รู้จักจาก MIT แบบที่คุณว่าครับ
ผมว่าตรงนี้สำคัญมากๆ ของวิธีการเรียน คือเอา CI มาเรียน MVC กับ development ส่วนคนที่ความสามารถไปถึงก็ยังสามารถเรียนรู้ "วิธีการคิดการวางแผน" ว่าคนใช้ framework มีลักษณะการใช้งานยังไง แล้วมันก็จะเกิด ecology สำหรับการเรียนรู้ที่ดีมากๆ ครับ (ผมอธิบายไม่เก่ง ขอพิมพ์สั้นๆ ละกัน)
ตัวผมเองจบจากบางมด แต่ต้องยอมรับว่ามีเพื่อนที่จบมาด้วยกันหลายคนเขียนโปรแกรมบรรทัดแรกไม่เป็นด้วยซ้ำ อาจเป็นเพราะเวลาจับกลุ่มทำโปรเจ็คมันเป็นกลุ่มใหญ่เกินมั้ง
เห็นด้วยครับ ให้อาจารย์และนักศึกษามีส่วนร่วมในการ Contribute Framework เพื่อที่จะเรียนรู้การทำงานในโลก Opensource จริงๆ เป็นการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยมากๆ ส่งผลต่อวิธีคิดการวางแผนจะค่อยๆซึมซับแบบค่อยเป็นค่อยไปและเป็นธรรมชาติ จนผลิตเป็นคนทำงานที่มีคุณภาพออกมาได้