หลังจากวงการโน้ตบุ๊กดูจะหยุดนิ่ง ไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยนแปลงมาได้สักพักใหญ่ ช่วงต้นปีนี้ Dell ที่เงียบไปนานก็สร้างความฮือฮาให้วงการอีกครั้งด้วย XPS 13 รุ่นใหม่ มาพร้อมกับจุดขายขอบจอสุดบาง Infinity Display จนทำให้ยัดจอ 13 นิ้วลงมาในบอดี้โน้ตบุ๊กเกือบ 11 นิ้วได้
Blognone เคยโพสต์บทความ ลองจับ Dell XPS 13 มาก่อนแล้ว ซึ่งหลังจากนั้นไม่นาน Dell Thailand ก็ส่งเครื่องมาให้เรารีวิวแบบละเอียดครับ
Dell XPS 13 รุ่นปี 2015 ใช้รหัสรุ่นว่า 9343 โดยรุ่นที่ขายในสหรัฐอเมริกา ทุกตัวใช้ Intel Core 5th Gen (Broadwell) และ SSD 128GB โดยมีสเปกให้เลือกหลายระดับ เริ่มตั้งแต่ Core i3-5010U, แรม 4GB, SSD 128GB ในราคา 799 ดอลลาร์
หน้าจอของ XPS 13 มีให้เลือก 2 แบบคือ Full HD 1920x1080 แบบไม่สัมผัส และจอสัมผัสความละเอียดสูง UltraSharp QHD+ 3200x1800 ความละเอียด 276 ppi ถ้านับจำนวนพิกเซลแล้วเยอะกว่า Full HD ถึง 5 เท่า
รุ่นที่ Dell ประเทศไทยส่งมาให้รีวิวเป็นตัวท็อปที่สุดคือ Core i7-5600U 2.6GHz, แรม 8GB, SSD 256GB จอสัมผัส 3200x1800 ครับ (สเปกละเอียดบนเว็บ Dell Thailand) ราคาอย่างเป็นทางการอยู่ที่ 62,999 บาท
Dell XPS 13 ใช้ดีไซน์ภายนอกเป็นโลหะอะลูมิเนียมตามสมัยนิยม ฝาด้านหน้าไม่มีอะไรเลยนอกจากโลโก้ Dell
ตัวเครื่องออกแบบเป็นรูปลิ่ม (แนวเดียวกับ MacBook Air) ตามสเปกบอกว่าด้านที่หนาที่สุด หนา 15 มิลลิเมตร ส่วนด้านแหลมหนา 9 มิลลิเมตร
พอร์ตเชื่อมต่ออยู่ข้างซ้ายและขวาทั้งหมด โดยฝั่งซ้ายเป็นสายชาร์จ, Mini DisplayPort, USB, ช่องเสียบหูฟัง และปุ่มกดเพื่อแสดงสถานะแบตเตอรี่
พอร์ตเชื่อมต่อฝั่งขวามีช่องเสียบ SD ขนาดเต็ม, USB, Kensington Lock
ด้านหลังเครื่องไม่มีอะไรเลย เป็นบานพับจอล้วนๆ
ด้านใต้เครื่องมีช่องระบายอากาศ และช่องปิดสำหรับถอดเพื่อใส่แรม (ช่องระบายอากาศยังมีซ่อนอยู่ใต้บานพับจออีกจุดหนึ่ง) อ่านข่าวการแกะเครื่องของ iFixit ประกอบ
เมื่อเปิดฝาจอขึ้นมาจะพบว่า ด้านในเครื่องใช้วัสดุที่แตกต่างจากฝาด้านนอก Dell บอกว่ามันคือคาร์บอนไฟเบอร์ที่ออกแบบให้สัมผัสนุ่มเล็กน้อย (soft-touch) ข้อดีคือทนทานไม่แพ้อะลูมิเนียม แต่เบากว่า และเย็นกว่าอะลูมิเนียม
ตัวคาร์บอนไฟเบอร์ทำเป็นลายคล้ายตาข่ายเหมือนฝาหลัง Motorola ตระกูล RAZR แต่จริงๆ ผิวมันเรียบนะครับ แค่ทำเป็นลายให้ดูสวยๆ
โดยรวมถือว่างานประกอบดีเยี่ยม วัสดุเจ๋ง จับแล้วรู้สึกพรีเมียมมากครับ
หน้าตาของคีย์บอร์ดและทัชแพดแบบเต็มๆ รุ่นที่วางขายในไทยสกรีนปุ่มภาษาไทยมาให้เรียบร้อย การวางปุ่มเป็นแบบมาตรฐานไม่มีอะไรพิสดาร ติดแต่ว่าไม่มีปุ่ม Home/End แยก ต้องกด Fn ตลอดเวลา ก็อาจพิมพ์ยากอยู่บ้างสำหรับบางคน
ปุ่มคีย์บอร์ดเป็นแบบ chiclet ตามสมัยนิยมเช่นกัน คีย์บอร์ดเป็นขนาดเต็ม (full-size) พิมพ์ได้สบาย ความลึกของปุ่มอาจจะน้อยไปนิดเพราะข้อจำกัดเรื่องความบางของเครื่อง
นอกจากนี้คีย์บอร์ดของ XPS 13 มีไฟ backlight ปรับสว่างได้ 2 ระดับ
ค่าดีฟอลต์ปุ่ม F1-F12 เป็นพวกปรับความสว่างจอ-ปรับระดับเสียง แต่สามารถแก้กลับได้ใน BIOS
ทัชแพดของ XPS 13 เป็นแบบกดได้ทั้งแผ่น แต่ Dell แก้ปัญหาหลายๆ อย่างของทัชแพดโน้ตบุ๊กสายวินโดวส์ โดยรองรับสเปก Precision Touchpad ของไมโครซอฟท์ที่เพิ่งออกมาในเร็วๆ นี้ ผลคือมันแม่นยำขึ้นมากทั้งในแง่การสัมผัส คลิก เลื่อนหน้าจอ (โน้ตบุ๊กวินโดวส์ทุกตัวควรทำได้ระดับนี้)
จุดเด่นที่สุดของ XPS 13 คือการยัดหน้าจอขนาด 13.3" ลงมาในบอดี้โน้ตบุ๊กเกือบเท่ารุ่น 11 นิ้ว โดย Dell เรียกขอบจอสุดบางนี้ว่า Infinity Display (ความหนาขอบจอลดลงเหลือแค่ 5.2 มิลลิเมตร)
หลังจากทดลองใช้งานจริงแล้วพบว่ามันเจ๋งมากๆ ทั้งในแง่ขนาดและคุณภาพการแสดงผลครับ ข้อเสียเดียวที่เจอคือขอบจอมันบางมากจนเลี่ยงไม่ให้ "นิ้วโดนจอ" เวลาจับขอบได้ยาก ตรงนี้ต้องขยันเช็ดกันสักหน่อยนึง
Dell อธิบายเรื่องนี้ในบทสัมภาษณ์กับ Forbes ว่าใช้จอ IPS ของ Sharp มุมมอง 170 องศา โดยนำเทคโนโลยีขอบจอบางจากจอทีวีมาใช้กับโน้ตบุ๊กด้วย เทคโนโลยี IGZO ของ Sharp ทำให้ช่วยลดอัตราการใช้พลังงานลงได้มาก
นอกจากจอสัมผัสความละเอียดสูง 3200x1800 แล้ว Dell ยังใช้กระจกจอ Gorilla Glass ครอบไว้อีกชั้นเพื่อความทนทาน โดยรวมแล้วจอของ XPS 13 ดีเยี่ยม แต่ก็ต้องแลกมาด้วยกับการสะท้อนแสงพอสมควร วิธีแก้ที่ช่วยได้คือปรับความสว่างสู้ (จอนี้ทำได้ 400 nit) ซึ่งก็ต้องยอมลดชั่วโมงการใช้แบตเตอรี่ลงมา
การที่ขอบจอมีขนาดเล็กเกินไป ส่งผลกระทบตามมาอีกอย่างคือ "กล้องหน้า" ไม่มีที่อยู่ ต้องหลบมุมมาอยู่ตรงมุมซ้ายล่างที่ขอบจอใหญ่ขึ้นมาหน่อย การใช้งานจึงดูแปลกๆ เพราะมุมกล้องกลายเป็นมุมเงยแบบเฉียงๆ แทน ใครที่ทำ video call ผ่าน Skype หรือ Hangouts อาจรู้สึกว่ามันตลกๆ อยู่บ้าง
เมื่อ Dell XPS 13 ชูจุดขายเรื่องจอใหญ่ในบอดี้เล็ก (the smallest 13-inch on the planet) เราจึงขอนำมาเทียบกับคู่แข่งอย่าง MacBook Air สักหน่อย เราพบว่าคู่แข่งที่เหมาะสมของ XPS 13 คือ MacBook Air รุ่น 11" มากกว่ารุ่น 13"
เทียบขนาดกันแล้ว MacBook Air 11 เล็กกว่า XPS 13 อยู่นิดเดียว
เทียบความบาง พบว่า MacBook Air 11 ยังบางกว่า XPS 13 อยู่บ้าง
แต่เมื่อเทียบขนาดจอกัน ก็ชัดเจนว่า XPS 13 มีหน้าจอใหญ่กว่า MacBook Air 11 มาก ในขนาดเครื่องที่พอๆ กัน
ตรงนี้ต้องรอดูว่าแอปเปิลจะสามารถแก้เกมด้วย MacBook Air รุ่นใหม่ตามที่มีข่าวลือหรือไม่ แต่ ณ ตอนนี้ต้องบอกว่า Dell ชนะแบบใสๆ ครับ
สิ่งที่ XPS 13 ด้อยกว่า MacBook Air 11 คือน้ำหนัก ตามสเปกแล้ว XPS 13 รุ่นจอสัมผัสหนัก 1.26 กิโลกรัมครับ, รุ่นจอปกติหนัก 1.18 กิโลกรัม ส่วน MacBook Air 11 หนัก 1.08 กิโลกรัม, รุ่น 13 หนัก 1.35 กิโลกรัม
เทียบกันแล้ว XPS 13 เบากว่า Air 13 แต่ยังหนักกว่า Air 11 นอกจากนี้ผมรู้สึกว่า XPS 13 ยังเฉลี่ยน้ำหนักได้ไม่ดีเท่า ตอนถือเทียบกันแล้วให้ความรู้สึกว่าหนักกว่าพอตัว แม้ว่าเลขบนสเปกจะไม่หนีกันมาก
แต่ถ้าเทียบกับโน้ตบุ๊กทั่วๆ ไปแล้ว XPS 13 ถือว่าเบากว่ามาตรฐานแล้ว เมื่อเทียบกับฟีเจอร์ที่อัดมาให้ทั้งหน้าจอ คีย์บอร์ด และสเปกภายใน
สายชาร์จของ Dell XPS 13 มีขนาดค่อนข้างเล็ก ตรงหัวมีไฟแสดงสถานะการชาร์จให้เป็นลูกเล่นด้วย
Dell XPS 13 ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 8.1 ที่มีแอพ bloatware ติดมาด้วยน้อยมาก หลักๆ แล้วมีแค่ซอฟต์แวร์ของ Dell เองไม่กี่ตัว และซอฟต์แวร์ของ Intel (เช่น Rapid Storage หรือ WiDi) เท่านั้น
ซอฟต์แวร์ที่น่าสนใจคือ Dell Power Manager ที่ช่วยปรับแต่งการใช้พลังงานได้อย่างละเอียดมาก ถึงระดับกำหนดช่วงเวลาชาร์จไฟเพื่อรักษาอายุของแบตเตอรี่ และการควบคุมอุณหภูมิของเครื่อง เสียดายว่ามีเวลาทดสอบฟีเจอร์นี้กันน้อยไปหน่อยเลยไม่ได้ลองละเอียดครับ
Dell โฆษณาว่า XPS 13 มีแบตเตอรี่ที่อึดกว่าเดิมมาก เป็นเพราะเทคโนโลยีจอของ Sharp ร่วมกับ Core Broadwell ที่จัดการพลังงานดีขึ้น
ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่ Dell คุยไว้คือสูงที่สุด 15 ชั่วโมงสำหรับรุ่นจอ Full HD และ 11 ชั่วโมงสำหรับจอ QHD+
อย่างไรก็ตาม การทดสอบของเราในรุ่น QHD+ พบว่าแบตเตอรี่ของ XPS 13 ไม่ได้อยู่นานขนาดนั้น โดยพบว่าอยู่ได้ประมาณ 6-7 ชั่วโมงเท่านั้น ตรงนี้เท่าที่ผมเช็คจากรีวิวของเว็บต่างประเทศ พบว่าผลการรีวิวแตกต่างกันไปคนละทาง เช่น The Verge ทดสอบรุ่นจอสัมผัส QHD+ อยู่ได้ 6:40 ชั่วโมง, Engadget ได้ 7:36 ชั่วโมง ส่วน Ars Technica ทดสอบท่องเว็บได้นาน 9 ชั่วโมง
ผมลองรันโปรแกรม BatteryInfoView เพื่อดูสถิติ พบว่าเป็นแบตของ Sanyo ความจุ 52,000 mWh ถ้าเปิดความสว่างหน้าจอสูงสุดแล้วรัน Chrome มีอัตราการปล่อยประจุ (discharge rate) ที่ประมาณ 10,000 mW แต่ถ้าลดความสว่างหน้าจอเหลือน้อยที่สุด ตัวเลขจะลดลงเป็น 3000-5000 mW เท่านั้น ในการใช้งานจริงถ้าอยากประหยัดแบต การลดความสว่างหน้าจอลงเลยช่วยได้มาก
ระยะการใช้แบตของ XPS 13 ที่อยู่ราว 6-7 ชั่วโมงทำให้การพกพาออกนอกบ้านต้องพกสายชาร์จไปด้วย (ยังไม่ถึงขั้นยกไปทำงานตอนเช้า แล้วทำงาน 8 ชั่วโมงแบบไม่ต้องเสียบแบต) อันนี้ยังถือเป็นจุดอ่อนของ XPS 13 ที่ยังทำไม่ได้แบบที่เคลมไว้
Dell XPS 13 ถือเป็นโน้ตบุ๊กของปี 2015 ที่น่าประทับใจมากตัวหนึ่ง มันทำลายข้อจำกัดของโน้ตบุ๊กเดิมๆ ไปหลายเรื่อง ทั้งในแง่ขนาดและคุณภาพของหน้าจอ ถือเป็นการวางมาตรฐานใหม่ให้คู่แข่งร่วมวงการโน้ตบุ๊กพีซีต้องปรับตัวเองให้ดีขึ้น
ปัญหาที่สำคัญของ Dell XPS 13 คงเป็นเรื่องแบตเตอรี่ที่น่าจะทำได้ดีกว่านี้อีกหน่อย (ไม่รู้ว่ารุ่นจอ Full HD เป็นอย่างไรบ้าง) และสุดท้ายคือเรื่อง "ราคาในไทย" ที่พุ่งสูงเกิน 6 หมื่นบาทเพราะมีแต่รุ่นท็อปเข้ามารุ่นเดียว ในขณะที่ในสหรัฐมีรุ่นราคาถูกกว่าให้เลือกมากมาย และรุ่นถูกที่สุดราคาเพียง 799 ดอลลาร์หรือไม่ถึง 3 หมื่นบาทด้วยซ้ำ ใครที่อยากได้แต่งบน้อยคงต้องพึ่งเครื่องหิ้วอย่างเดียวครับ
ข้อดี
ข้อเสีย
Comments
ตรงปุ่ม Home/End เอาจริง ๆ ใช้ไปสักพักก็ชินนะ (จากประสบการณ์โดยตรงจากการใช้ XPS 15 ที่มีปุ่มแบบเดียวกัน) และก็ไปไม่เป็นเมื่อกลับไปใช้ปุ่ม Home/End จริง ๆ (ฮา)
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ไม่เคยชินจริงๆ แฮะ ผมเลยไม่เลือก notebook ที่เอาปุ่ม home/end ไปไว้แบบนั้น
อย่างน้อยก็อยากได้แบบกดได้ด้วยมือเดียวน่ะครับ
onedd.net
รอชม New Macbook Air
จอแจ่มแต่สะท้อนสุดๆ ถ้านั่งทำงานแล้วมีหลอดไฟดวงเล็กๆ อยู่ข้างหลัง สนุกแน่ๆ เลย
ติดฟิล์มด้านเลยครับ ไม่ได้กวนนะแต่ถ้าไม่ไหวจริงๆคงต้องยอมลดความสวยงามลง
ยกนิ้วให้เดลล์ประเทศไทยครับ (รู้นะว่านิ้วไหน แต่ไม่ใช่นิ้วโป้งแน่ๆ)
นิ้วที่คุณไลนัสเคยชูใส่ NVIDIA สินะครับ :v
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
62900 บาทไทย.... นี่คือเค้าตั้งใจจะขายจริงๆใช่มั้ยครับ .. (ผมประชด)
เห็นราคาแล้วผมสะอึกไม่หยุดเลยครับ ทำไงดี T_T
จำได้ว่าตอนเด็กๆแม่หลอกให้หายสะอึกโดยเล่านิทาน
ต้องทำโลโก้เรืองแสงด้วยครับ
สวยดี ๆ ตอนนี้ใช้ Dell Vostro 5470 ก็ว่าบางมากแล้วนะ แต่ตัวนี้ชอบตรงขอบจอเล็กลงนี่แหละ
ถ้า dell utilities มาใช้ในเครื่อง รุ่นเล็กด้วย น่าจะดีนะ
ปัญหาทัชแพดแก้หมดยังเอ่ย
ที่เคยเจอก็ใช้ๆไปอยู่ๆ เคอเซอร์เด้งไปเด้งมาเอง, ปิดทัชแพดแล้วเปิดเอง
มีรุ่น Developer Edition ไหมครับ น่าสนใจมาก
ขอบจอบางสวยมาก
ขอบจอบางเหมือนจอเดลล์ที่บ้านเลย ใช้จอคอมของเดลล์ รุ่น u2414h ประทับใจมาก
"ทำลายข้อจำกัดของโน้ตบุ๊กพีซีแบบเดิมๆ" ผมยังไม่เห็นข้อนี้นะครับ ใครเห็นบอกที?!?
การที่ไม่มีขอบจอครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
จอ 13" ในขนาดบอดี้ 11" ไงครับ
ไปดูในเว็บ Dell ผมว่าจอ FHD / RAM 8GB ที่ $999.99 ราคากำลังดี
เสียดาย ไม่รู้ Dell Thailand คิดอะไรอยู่ =.=
suksit.com
สงสัยอยากจะโปรโมตจอ QHD+ (ซึ่งเอาเข้าจริง จากประสบการณ์ตรงที่ได้เล่น Dell XPS 15 มา การสแดงผลบนหน้าจอในบางโปรแกรมเช่น Origin, Adobe CS6 เรียกได้ว่าเล็กแทบมองไม่เห็นเลยครับ ยังดีที่ iTunes, Zune, Steam, Opera ปรับได้พอดี)
ผมเองก็ไม่รู้ว่าอยู่ดี ๆ นึกอุตริเอามาฟัดในราคาไฮเอนด์ ทำไมไม่เอารุ่นระดับราคาที่พอฟัดพอเหวี่ยงกับ MacBook Air แบบสบาย ๆ มาขาย =_=
Coder | Designer | Thinker | Blogger
เท่าที่ผมเข้าใจคือตลาดโน้ตบุ๊กราคาถูก-กลางของบ้านเรา แข่งเรื่องราคากันเยอะ เช่น ไม่รวมค่า OS ทำให้โน้ตบุ๊กเกรดค่อนข้างพรีเมียมหน่อยสู้ราคาตรงๆ ไม่ได้ เพราะผู้บริโภคบ้านเราเทียบสเปกในเอกสาร/ราคา โดยไม่สนปัจจัยอื่นๆ (เช่น ฟีเจอร์หรืองานประกอบ) น่ะครับ
เลยเป็นเหตุให้หลายๆ บริษัทเลือกเอาเฉพาะพรีเมียมตัวแพงเข้ามา เพราะลูกค้าตลาดนี้ไม่ price sensitive และมีกำลังจ่ายอยู่แล้ว (เท่าที่เคยได้ยินมา Surface Pro 3 ตัวท็อปก็ขายดีมากๆ ด้วยเหตุผลนี้)
dell power manager เป็น desktop app หรือ modern app ครับ
Desktop ครับ
lenovo thinkpad พอย้ายไป win8 นี่ ไม่เหลือ app ให้ใช้ซักอย่างเลยครับ powermanager accesconnection
desktop app ไม่มีให้ modern app ก็ไม่มีความสามารถอะไรเลย
สูญเสียความเป็น thinkpad ทั้ง hardware และ software
Power Manager สามารถโหลดของ Windows 7 แล้ว Setup แบบ Compatible mode : Windows 7 ได้ครับ
ผมเองก็ติดการมองไอคอนแบตฯ บน Taskbar ซึ่งผมใช้วิธีนี้ลงบน 8.1 ก็ไม่มีปัญหาเรื่องความเสถียรอะไรนะ (แต่เครื่องผมพึ่ง Clean installation) และยังใช้ฟีเจอร์ Dim on Startup ได้ตามปกติ
ผมเองก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าทำไมถึงไม่ทำ App ต่อบน Windows 7 แต่ผมก็ได้ยินว่าบน 8 มีการเปลี่ยนโครงสร้างของระบบ Power Management ซึ่งผมคิดว่าอาจไปกระทบฟีเจอร์อะไรบางอย่างของ Power Manager ครับ (ขนาด Hotkey Display ยังถูก Override ด้วยตัวของ Windows 8 เลย
ของผม t420 i7 2640m 2.8
ลองแล้วมันไม่ work slide ใน basic mode มันคุม mhz ของ cpu ไม่ได้เลย
วิ่งทะลุ 3ghz ตลอด กินแบทลากเลือด เลยขอยอมแพ้ ใช้ win7 ไปก่อน
คุมความถี่ของ CPU ผ่าน power option ของ Windows ไปก่อนแล้วกันครับ :P
เช็ค Power Management > Processor power management หรือยังครับ
Default บน Windows 8 เป็น 100% ทั้งแบตและ Plug
เครืองผม default max 100% min 5% อ่ะครับ - -"
กระแสรุ่นนี้แรงมาก แต่คนก็ซื้อกันไม่ได้เพราะดันเอามาแต่รุ่นท็อป ดีครับดี
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
Macbook Air 13" Core i7-4650U, Ram 8GB, SSD 256 GB ราคา 50,100 บาท
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ที่เหลือค่าจอ + น้ำหนัก + size ครับ
Broadwell ด้วยอีกอย่างนึงครับ
รอวันที่ notebook pc ขยับเข้ามาสูสีกับ macbook หลังจาก vaio ดู dell จะมีความหวังมากที่สุด
ไปหวังกับ lenovo บ่ได้แล้ว
สวยมากๆ ครับ
แต่ไหงข้อที่น่าจะเด่น เช่นขอบจอบาง กลายเป็นข้อด้อยไปได้ล่ะเนี่ย!?
อยากได้ Design อย่างนี้ แต่เป็นจอ 15 นิ้วแล้ว USB 3.0 ซัก 3 - 4 ช่อง เปลี่ยน Display port เป็น thunderbolt มีช่องอ่าน SD card ด้วย
กับ หม้อแปลง ที่มีช่อง จ่ายไฟ 5V 1.5 A เป็น USB เอาไว้ชาร์จโทรศัพท์
เพิ่มเงินอีก 4,000 ได้ MBP 15" Retina เลยนะ
ที่แน่ๆ จอคมกริบเลย ชอบมาก กลับมาเล่น notebook จอ 1366x768 แล้วรู้สึกว่าทำไมภาพมัน.... งี้
Vosrto ผมเกือบสั่นนะ
(ชอบตรงจอ กับความละเอียด)
รอจอ 15" ใน บอดี้ 14" ก่อน อิอิ
ในรูปตำแหน่งกล้องมันมุมซ้ายล่างไม่ใช่เหรอครับ
จริงด้วยครับ ทำไมไม่มีใครเห็นเลยนะ ฮ่า
Dell XPS 13 รุ่นปี 2013 ใช้รหัสรุ่นว่า 9343 โดยรุ่นที่ขายในสหรัฐอเมริกา
รุ่นปี 2015 รึเปล่าครับ?
อ๊าก ผิดอีกแล้ว
คำถามคือ ถ้าหิ้วเข้า เรื่องประกันเป็นอย่างไร และมาเดลรับเปลี่ยนคีย์บอร์ดไทยไหมครับ?
ดีไซน์ lenovo เด๊ะๆเลย
เพิ่งนั่งดูอันนี้ไปมาเห็นที่นี่พอดี ชอบขอบจอบางดี
ถ้า Dell มันหมุนได้ 360 องศา + ปากกาสักด้ามนะครับ...
#อาจจะเฉียดหกหลัก
สวยครับแต่ยังหนาไป หนากว่า MBA มากๆ โดยเฉพาะด้านหน้า
อ่านอย่างชื่นชมพอเจอราคารีบปิดอย่างไวเพราะสูงเกินงบ
ถ้าปิดแล้วจะมาถึงกล่องคอมเมนต์ได้ไงครับ ไม่เนียนนะครับ ไม่เนียน :P