ในยุคที่คอนเทนต์ส่วนใหญ่ต่างก็อยู่บนอินเทอร์เน็ตกันหมดแล้ว บริการสตรีมเพลงผ่านอินเทอร์เน็ตอย่าง Spotify ก็อยู่ในช่วงขาขึ้นจากกระแสความนิยม รวมถึงฝั่งค่ายเพลงที่ยินดีร่วมมือเพื่อกระตุ้นตลาดจากที่กำลังตกต่ำให้มีชีวิตชีวามากขึ้น
แต่หลังจากผู้ให้บริการสตรีมเพลงหลายรายเริ่มปรับแนวทางการให้บริการใหม่ ด้วยการให้อิสระแก่ผู้ใช้งานแบบฟรีมากขึ้น และหันไปทำรายได้จากโฆษณาแทน ก็มีรายงานออกมาว่าบรรดาค่ายเพลงเริ่มตั้งข้อสงสัย และเริ่มกดดันบริการกลุ่มนี้มากขึ้น อย่างกรณีของ Spotify ที่เพิ่งถูกทาง Universal ต่อรองสัญญาฉบับปัจจุบันเสียใหม่ โดยให้ Spotify เพิ่มข้อจำกัดของผู้ใช้ฟรีให้มากขึ้น และสร้างความต่างให้ชัดเจนระหว่างผู้ใช้ฟรีกับเสียเงิน โดยหวังว่าจะมีผู้ใช้หันมายอมจ่ายมากขึ้นนั่นเอง เนื่องจากทางค่ายเพลงไม่คิดว่าการทำรายได้จากโฆษณานั้นจะทำให้เม็ดเงินหมุนเวียนในระบบอย่างเพียงพอ ซึ่งนอกจาก Universal แล้วก็มี Sony Music และ Warner Music ที่แสดงท่าทีสงสัยในเรื่องนี้เช่นกัน
จากที่บรรดาค่ายเพลงสนับสนุนบริการสตรีมเพลงอย่างดีในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องด้วยบริการกลุ่มนี้ดึงลูกค้า เข้ามาสู่อุตสาหกรรมที่กำลังตกต่ำลง แต่ทว่าแทนที่คนฟังเพลงจะอุดหนุนซื้อแผ่น หรือดาวน์โหลดเพลงดิจิทัลมากขึ้น กลับกลายเป็นบริการเสียเงินของการสตรีมเพลงที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นแทน ซึ่งทาง Spotify ก็เคยออกมาชี้แจงว่าบริการฟรีแบบที่เป็นอยู่นี้สามารถดึงลูกค้าให้จ่ายเงินได้จริง ซึ่งตรงนี้คงต้องไปต่อรองกับบรรดาค่ายเพลงกันต่อไป
ที่มา - Rolling Stone
Comments
กดดันให้บริการกลุ่มนี้มากขึ้น ?
ก็ดีนะครับ เดี๋ยวพอคนฟังฟรีลำบากเดี๋ยวเค้าก็กลับไปโหลดเถื่อน