ถ้าพูดถึงตลาดสมาร์ทโฟนช่วงต้นปี 2015 หนึ่งในสมาร์ทโฟนที่ได้รับความนิยมพอสมควรในตลาดคงจะหลีกเลี่ยง Samsung Galaxy S6 และ Samsung Galaxy S6 edge ไม่ได้ แต่ในเมื่อสิ่งที่มีอยู่กลับตอบโจทย์ลูกค้าได้ไม่ดีพอ การออกรุ่นเสริมจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่หลายๆ ผู้ผลิตได้นำมาเลือกใช้กัน ซึ่งซัมซุงเองก็ได้เลือกใช้แนวทางนี้ในการออกรุ่นเสริมของ Samsung Galaxy S6 เพิ่มอีกหนึ่งรุ่น และนั่นก็คือ Samsung Galaxy S6 edge+ ที่เปิดตัวไปพร้อมๆ กับ Samsung Galaxy Note 5 เมื่อกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานั่นเอง
การมาของ Samsung Galaxy S6 edge+ ทำให้เห็นได้ชัดเจนว่าซัมซุงต้องการบุกตลาดสมาร์ทโฟนจอใหญ่อย่างต่อเนื่อง (ไม่นับ Galaxy Note 5 ที่ซัมซุงจัดอยู่ในหมวด Phablet) หลังจากที่ก่อนหน้านี้ก็มี Samsung Galaxy Mega หรือ Samsung Galaxy A8 ที่เป็นรุ่นสำหรับตลาดกลางออกมาทำตลาดบ้าง แต่สำหรับครั้งนี้ เป็นการนำโมเดลตัวเรือธงมาตลาดกลุ่มจอใหญ่ และแยกตลาดออกจาก Samsung Galaxy Note 5 โดยชัดเจนกันเลยทีเดียว
สำหรับสเปคของ Samsung Galaxy S6 edge+ นั้น เรียกได้แรงพอๆ กับ Samsung Galaxy Note 5 กันเลยทีเดียว โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ครับ
เกริ่นมาพอสมควร ทีนี้เราลองมาดูตัวเครื่องจริงกันดีกว่าครับ
สำหรับตัวเครื่อง ก็ยังคงมีเส้นสายการออกแบบที่เหมือนกับ Samsung Galaxy S6 edge รุ่นเดิมอย่างไม่ผิดเพี้ยน ทั้งตำแหน่งการวางองค์ประกอบหลักๆ รวมถึงลักษณะของจอภาพที่เป็นแบบโค้งข้างทั้งสองด้านด้วย
ด้านบนของจอภาพจะเป็นที่อยู่ของลำโพง ไฟแจ้งเตือน เซ็นเซอร์รับแสง และกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล
ด้านล่างของจอภาพก็จะเป็นปุ่ม Home พร้อมตัวอ่านลายนิ้วมือ และมีปุ่ม Recent Apps และ Back เป็นแบบสัมผัส ซึ่งจะมีไฟติดขึ้นมาเมื่อสัมผัสไปที่ปุ่ม
หน้าจอของ Galaxy S6 edge+ ยังคงเหมือนกับรุ่นแรก แต่มีขนาดใหญ่ขึ้น กล่าวคือตัวจอมีความใหญ่ 5.7 นิ้ว บนความละเอียด QHD เท่าเดิม และตัวหน้าจอยังเป็นแบบ Super Amoled+ ให้สภาพสีที่สดใส และหน้าจอสว่างพอที่จะสามารถใช้งานกลางแจ้งได้สบายๆ
พลิกมาดูด้านข้างตัวเครื่อง ก็ยังคงวางตำแหน่งของปุ่มและพอร์ตต่างๆ เหมือนกับรุ่นเดิมเปี๊ยบ ไม่ว่าจะเป็นปุ่มปรับเสียงที่อยู่ด้านซ้าย ปุ่ม Power อยู่ด้านขวา ด้านบนเป็นถาดใส่ซิม (ใช้ Nano SIM) และไมโครโฟนตัวที่สอง ด้านล่างเป็นพอร์ตหูฟัง ไมโครโฟนหลัก พอร์ต Micro USB และลำโพงหลัก
ด้านหลังตัวเครื่องก็ยังคงเป็นกระจกอย่างดี เป็นที่อยู่ของกล้องหลัก 16 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED และเซ็นเซอร์อ่านอัตราการเต้นของหัวใจ
ในส่วนของซอฟต์แวร์ก็ยังคงเหมือนกับ Samsung Galaxy S6 หรือ Samsung Galaxy Note 5 อย่างไม่ผิดเพี้ยน แต่เปลี่ยนมารันบน Android 5.1 แทน แล้วครอบทับด้วย TouchWiz UX เวอร์ชันเดียวกับ Galaxy S6
สิ่งที่แตกต่างจาก Galaxy S6 edge รุ่นแรก คือ Galaxy S6 edge+ จะเพิ่มความสามารถในการหมุด Apps ไว้ที่ edge ได้ด้วย (ซัมซุงเรียกว่า Apps edge) นอกเหนือจากความสามารถในการหมุดรายชื่อผู้ติดต่อไว้ที่ edge screen
ในส่วนอื่นๆ ของซอฟต์แวร์นั้น แทบไม่ต่างจากรุ่นเดิมมากนัก สามารถอ่านรีวิว Galaxy S6/Galaxy S6 edge ประกอบได้ครับ
เป็นอีกครั้งที่ซัมซุงเน้นกล้องหนักพอสมควร ด้วยคุณสมบัติการถ่ายภาพที่ดีกว่า Galaxy S6 เพิ่มมากขึ้น ทั้งชัตเตอร์สปีดที่ไวขึ้น ISO ที่กว้างขึ้น รวมถึงเพิ่มความสามารถในการรองรับการถ่ายภาพแบบ RAW และเพิ่มลูกเล่นต่างๆ ในส่วนซอฟต์แวร์เข้ามามากมาย
สำหรับภาพที่ได้นั้นเรียกว่าดีขึ้นกว่ารุ่นเดิมพอสมควร ผมลองถ่ายในโหมด Pro และปรับค่าต่างๆ ให้เหมาะสม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ดังต่อไปนี้ครับ
หลังจากใช้งานมาสัปดาห์กว่าๆ Samsung Galaxy S6 edge+ ก็นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจพอสมควรในช่วงปลายปี ตอบโจทย์การใช้งานทั้งกล้อง และการใช้งานทั่วๆ ไป รวมถึงสเปคทางเทคนิคที่ให้มาแบบเหมาะสม เรียกได้ว่าลงตัวแทบทุกส่วน
แต่จะไม่สมส่วนเพียงอย่างเดียว คือราคาจำหน่ายที่แพงกว่า Galaxy Note 5 ที่มีสเปคทางเทคนิคเท่ากัน แถมมีลูกเล่นดีกว่าในบางจุด และความคุ้มค่าต่อราคาที่ซัมซุงไม่เลือกรุ่น 64 GB เข้ามาทำตลาด แต่ถ้ามองในมุมมองของตลาดสมาร์ทโฟนแล้ว ราคา 26,900 บาท เรียกได้ว่าเป็นราคาที่ค่อนข้างเหมาะสม และไม่แพงจนเกินไปด้วยนั่นเองครับ
ใครที่สนใจ สามารถหาซื้อ Samsung Galaxy S6 edge+ ได้แล้ววันนี้ที่ตัวแทนจำหน่ายของซัมซุงทั่วประเทศ และสามารถรับสิทธิ์พิเศษจากเครือข่ายที่ร่วมรายการเพิ่มเติมได้อีกด้วยครับ
Comments
งงว่าทำไมซัมซุงไม่แก้ปัญหา แรมmanagementซักที เปิดแอพสลับรีเฟรชตลอด หรือเป็นกลโกงที่จงใจให้เครื่องประหยัดแบทและแรม
ไปเล่น S6 EDGE มาไม่ถูกใจ เลยจัด iPhone 6s Plus 128GB ไปแล้ว
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
เรียกได้แรง => เรียกได้ว่าแรง
Marshmellow => Marshmallow
แพงครับแพง 555
LG V10 น่าเล่นกว่า
คุณ lew และ/หรือคุณ mk
ผมไม่เห็นเนื้อข่าวนี้เลยนะครับ เห็นแต่ Comments เท่านั้น (Refresh ดูแล้วครับ)
แจ้งเผื่อเป็น Bug ครับ
<<=== เพิ่มเติม ===>>
ผม View source ดู ก็พบว่ามี Content เลยลองเปิดข่าวนี้ด้วย Konqueror ดูก็พบว่าแสดงเนื้อหาได้
ดังนั้น เป็นเฉพาะบน Firefox ครับ (40.0.3 x86_64 บน Fedora 21)
Adblock Plus ?
อ้า จริงด้วยครับ ขอบคุณมากครับ เพิ่งลองติดตั้งดูเมื่อตอนอ่านข่าว Adblock ข่าวล่าสุด เป็นเรื่องเลย ปกติไม่ได้ใช้ครับเลยไม่รู้จักผลข้างเคียงนี้มาก่อน
ที่ block เพราะมี Tag Advertorial ครับ คือข่าวนี้บอกชัดเจนว่าเป็นโฆษณาครับ
รุ่น edge
-จับไม่ถนัด เผลอกางนิ้วออกตลอด ยกเว้นใส่เคสนอกหรือไป Note5 เลย
-ขอบโค้งทำให้ข้างจอดูแสงสีเพี้ยน
-หน้าตาซอฟแวร์โดยรวมมินำพาตามดีไซน์ฮาดแวร์ ขัดๆ ไม่น่าใช้ ไม่น่าหลงใหลมากนัก
-ดีไซน์ดูดีน่าหลงไหล ขัดตาแค่พอร์ต USB
-เป็นรอยง่ายมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
-ไม่มั่นใจการซัพพอร์ตอัพเกรดระยะยาว
-แพงขึ้นทุกปี
"สมาร์ทโฟนยอดนิยมแห่งปี 2015"
อ้าว...ผมเข้าใจผิด นึกว่า iPhone มาตลอด
สงสัยรวบทุกรุ่นรวมกัน ฮา...
รูปที่ 6 กับ 7 นี่เหมือนมาก แต่ไม่ใช่ประเด็น
ประเด็นคือรูปมันสื่อถึงการออกแบบและประกอบได้ไม่เนี๊ยบสมราคา เช่น เหมือนเอาฝาหน้ากับฝาหลังมากระกบกัน แล้วตรงที่ประกบทำมนไม่พอ กับสีและวัสดุที่ใช้ดูหม่นๆ
กลายเป็นกระทู้ ปะดะฉะ samsung ปะทะ apple ไปโดยปริยาย
แต่อย่างน้อยตอนนี้คนที่ถือ iPhone 6 รุ่นปลายปีก่อน จอแตกในฟิตเนสที่ผมเล่น
ก็เปลี่ยนมาใช้ galaxy s6 edge กันไปหลายคน เรื่องระบบแปลกใหม่คงไม่เท่าไหร่
แต่ยอมรับว่าเครื่องสวยกว่า iPhone 6 ครับ
ชอบที่เล่นหลายๆ หน้าจอ แบบ popup ได้สูงสุด 5 หน้าจอ
กล้องซูมไม่แตก แต่เสียเรื่อง focus ยาก