เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา Sennheiser บริษัทหูฟังและไมโครโฟนชื่อดังจากเยอรมนี เปิดตัวหูฟังรุ่นใหม่ HD 630VB ในไทย และยังถือเป็นการเปิดตัวครั้งแรกในทวีปเอเชียอีกด้วย
รายละเอียดเบื้องต้นของ HD 630VB คือเป็นหูฟังสำหรับ audiophile ตัวแรกของ Sennheiser ที่ออกแบบสำหรับใช้งานอุปกรณ์พกพานอกสถานที่ จึงได้ออกแบบหูฟังเป็นแบบปิด เพื่อป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอก และมีความต้านทานต่ำเพียง 23 โอห์ม เพื่อให้สามารถใช้งานกับอุปกรณ์พกพาทั่ว ๆ ไป อย่างสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือเครื่องเล่นเพลงแบบพกพาได้
ทั้งนี้ทั้งนั้น HD 630VB ก็ยังไม่ลดทอนเรื่องของคุณภาพเสียงลง โดยใช้ตัวขับแบบไดนามิคนั้นมีความไวถึง 114 dB สามารถตอบสนองช่วงความถี่เสียงตั้งแต่ 10 Hz ถึง 42,000 Hz ซึ่งครอบคลุมความถี่ของเสียงความละเอียดที่ 96 kHz และมีความเพี้ยนของสัญญาณน้อยกว่า 0.08%
หมายเหตุ ผมได้เขียนบทความนี้ลงในบล็อกของผมเองด้วยครับ
โครงสร้างหลักของตัวหูฟังทำจากอะลูมิเนียม ที่มีการทำพื้นผิวแตกต่างกัน เช่น การชุบอโนไดซ์บริเวณคัพ แล้วขัดมันบริเวณขอบ หน้าตาโดยรวมออกไปทางแนววัยรุ่น ๆ มากกว่าหูฟัง audiophile ที่มีหน้าตาแนวสุขุม เป็นผู้ใหญ่
วัสดุตรงที่คาดหัวนั้น เท่าที่สังเกตดู น่าจะทำจากโลหะร่วมกับวัสดุที่มีผิวเหมือนยางแข็ง แต่ตอนใส่นั้นกลับสบายกว่าที่คิด เพราะมีส่วนที่สัมผัสกับศีรษะนั้นมีความนิ่มอยู่
ส่วนก้านสไลด์นั้น ทำจากอะลูมิเนียมเช่นกัน เวลาเลื่อนค่อนข้างฝืด ไม่ไหลไปมาง่าย ๆ
แพดหูฟังหุ้มหนังมีขนาดใหญ่และมีความหนาอยู่พอสมควร และวัสดุภายในแพดมีความแข็งพอดี ๆ ไม่นิ่มไป ไม่แข็งเกินไป โดยรวมแล้วเป็นหูฟังที่ใส่สบายอยู่
นอกเหนือจากคัพหูฟังที่สามารถหมุนได้ เพื่อให้มิติของหูฟังแบนลง ตัวหูฟังยังสามารถพับเก็บได้ด้วย แต่ถึงพับได้ก็จริง ขนาดที่ได้ก็ยังหนาอยู่ เพราะขนาดของตัวคัพเองก็ใหญ่อยู่
โดยรวมแล้ว ผมคิดว่าวัสดุและงานผลิตของ HD 630VB เอง ทำออกมาได้แข็งแรง แน่นหนา และดูแพงสมราคาค่าตัวมาก
จุดเด่นสำคัญของ HD 630VB ที่ทำให้แตกต่างจากหูฟังสำหรับ audiophile ตัวอื่น ๆ คือ Variable Bass Boost ซึ่งเป็นการเพิ่ม - ลดเสียงเบสในย่าน 50 Hz ได้ตั้งแต่ -5 dB ถึง +5 dB เพียงแค่หมุนวงแหวนที่ขอบของตัวคัพด้านขวา
นอกจากนี้ Sennheiser ยังได้ใส่ปุ่มควบคุม ปุ่มเพิ่ม - ลดระดับเสียง และไมโครโฟนให้กับหูฟังรุ่นนี้อีกด้วย ซึ่งปุ่มและไมโครโฟนดังกล่าวทำมารองรับทั้งอุปกรณ์ iOS และ Android โดยเลื่อนปุ่มบริเวณด้านใต้คัพ เพื่อเลือกประเภทอุปกรณ์ที่นำหูฟังไปต่อ
ผมเริ่มต้นทดลองฟัง HD 630VB ด้วยการนำไปต่อกับ Walkman ZX1 ซึ่งถึงแม้ว่าตัวหูฟังเองจะมีความต้านทานต่ำ แต่ผมก็ต้องเร่งเสียงของ ZX1 ไปจนสุดระดับ AVLS ล็อกเอาไว้ ถึงจะได้ระดับเสียงประมาณเบอร์ 8 - 10 ที่ผมใช้งานประจำกับหูฟังของผม
ส่วนเสียงที่ออกมานั้น ยังคงแนวเสียงของ Sennheiser คือมีเสียงโดยรวมไม่ออกไปในทางแหลมมาก หรือที่ศัพท์คนเล่นเครื่องเสียงเรียกว่า "dark" ย่านเสียงกลางฟังดูไม่ค่อยเด่นมากนัก ส่วนเสียงแหลมนั้นมีความคมพอดิบพอดี หางเสียงลากไปได้ไกล การแยกรายละเอียดเสียงต่าง ๆ ทำได้อย่างชัดเจน
ผมรู้สึกว่าเสียงของหูฟังโดยรวมน่าจะยังออกมาได้อย่างไม่เต็มที่ เลยเอาแอมป์ PHA-3 มาต่อดู เสียงย่านกลางที่ฟังแล้วไม่ค่อยเด่น ก็กลับมาเด่นมากขึ้น ส่วนเรื่องมิติเสียงนั้น ฟังแล้วให้ความรู้สึกกว้างก็จริง แต่ส่วนตัวผมคิดว่ายังสู้ MDR-Z7 ตรงจุดนี้ไม่ได้
ในส่วนเสียงเบสของ HD 630VB ที่สามารถปรับได้นั้น ผมเริ่มฟังที่ตำแหน่งตรงกลางก่อน พบว่าปริมาณเบสนั้นมาไม่เยอะ เท่าหูฟังที่จับกลุ่มผู้ใช้ทั่วไปอย่าง Momentum แต่ยังรู้สึกถึงความลึกและแรงปะทะได้ พอผมเริ่มหมุนเบสไปยังตำแหน่งทางซ้าย ปริมาณเสียงเบสก็ค่อย ๆ หายไป จนทำให้ไม่รู้สึกถึงปริมาณเบสที่อยู่ลึก และทำให้หูไปโฟกัสที่เสียงแหลมแทน
จากนั้นผมก็ลองหมุนเบสไปยังตำแหน่งทางขวา ไปประมาณขีดที่ 5 กว่า ๆ ก็รู้สึกถึงความลึกของเบสและแรงปะทะที่มากขึ้น แต่ไม่ไปกวนเสียงในย่านอื่น ๆ ซึ่งผมคิดว่าเบสตรงตำแหน่งนี้ฟังแล้วโอเคที่สุด แต่ถ้าหมุนไปทางขวาสุดเมื่อไร จะได้ปริมาณเบสที่มากขึ้น ไล่ ๆ กับพวกหูฟังที่เน้นเสียงเบสทั้งหลาย เสียงเบสที่เพิ่มขึ้นนั้นยังฟังดูแน่น ไม่บวม ก็จริง แต่ก็ทำให้หูไปโฟกัสที่เสียงเบสแทน ซึ่งก็จะให้รู้สึกถึงมิติเสียงที่แคบลง
หลังจากฟังเสียงของ HD 630VB เสร็จ ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับทีมงานของ Sennheiser อยู่สักพักหนึ่ง และได้ถามว่าทำไมถึงได้นำ Variable Bass Boost มาใส่ในหูฟังที่ทำมาจับกลุ่ม audiophile ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ฟังที่ต้องการฟังเสียงแท้ ๆ จากอุปกรณ์ มากกว่าที่จะมาปรับแต่งเสียงให้ผิดแปลกไปจากเดิม
ทางทีมงานได้ตอบมาว่า เพราะต้องการให้หูฟังตัวนี้สามารถใช้ฟังเพลงได้หลากหลายแนว ถ้าหากต้องการฟังเพลงที่เน้นเสียงเบสมาก ๆ เพียงหมุนตัวปรับเบส ก็ได้ปริมาณเบสที่ต้องการได้เลย โดยไม่ต้องไปปรับ EQ ในเครื่องเล่นให้เสียเวลา
สรุปจากการทดลองฟังเบื้องต้น ผมคิดว่าเจ้า HD 630VB เป็นหูฟังจับกลุ่ม audiophile ที่แหวกแนวกว่าชาวบ้านเขา ทั้งหน้าตาที่ดูเอาใจเด็กแนวมากกว่าผู้ใหญ่ ทั้งการที่เป็นหูฟังแบบปิด และการสามารถปรับเพิ่ม - ลดเสียงเบสเองได้ในตัว คู่แข่งในกลุ่มที่พอจะเทียบกันได้ ก็น่าจะมีเพียง MDR-Z7 ของ Sony ที่ออกมาเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งหูฟังทั้งสองตัวก็มีแนวเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง ก็ขึ้นกับว่าใครจะชอบเสียงแนวไหนมากกว่ากัน
สำหรับคนที่สนใจหูฟังรุ่นนี้ ก็สามารถหาซื้อได้กับตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Sennheiser กันได้ สนนราคาอยู่ที่ 22,990 บาท พร้อมการรับประกันตัวหูฟังนาน 2 ปีครับ
Comments
สังเกตุ => สังเกต
อยุ่ => อยู่
รุ่นนี้ผมว่าถ้าเฮียมั่นไม่ดันนี่ขายไม่ออกแน่ ดูราคากับ design แล้วไม่น่าจะถูกใจขา audiophile เท่าไร
จะรอรีวิว HE1060/HEV1060 นะครับ
โหดฝัส
ส่วนตัวผมเท่าที่เคยฟังในงบราวๆ 2 หมื่น+- นิดหน่อย ยังมี Audioquest Nighthawk อีกตัว ซึ่งหลังจากที่ผมลองเทียบกับ Sony MDR-Z7 จะว่าไปก็แทบจะเลือกไม่ถูกเลยมันดีด้อยต่างกันคนละแบบ แต่ว่าตอนที่ลองผมไม่ได้ต่อแอมเพิ่ม ลองแค่ต่อตรงกับ Nexus 4 แค่นั้น เลยไม่รู้ว่ามันไปได้จริงๆ แค่ไหน
เห็น Senn เปิดตัวรุ่นใหม่แบบนี้อยากลองเหมือนกันแหะ (แต่คงได้แต่แค่ลอง T_T)
เอาจริงๆ ผมไม่กล้าลองพวกหูฟังระดับ1-3หมื่น เลยน่ะ
เพราะถ้าติดใจขึ้นมามันจะคิดหนัก เนื่องจากราคาช่วงไม่เกิน3หมื่น นี้มันเชื้อเชิญให้เสียเงินง่ายเหลือเกิน เก็บเงินปุ๊ปปั๊ปมันก็ซื้อได้แล้ว กว่าจะรู้ตัวอีกทีมันก็หายไปหลาย1-3หมื่นแล้ว ดีไม่ดีบินไปหลักหลายแสน
สบายใจใช้อีแก่ ตัวละ2,500ต่อไป เดี๋ยวพังค่อยซื้อใหม่
+1
บางทีก็รู้สึกว่าโชคดีที่หูไม่เทพ
ใช่เลย ผมก็ป้วนเปี้ยนแถวๆ นี้แหละ
และดีใจที่แยกไม่ออก
ถึงจะเคยลองหลักหมื่นของเพื่อนมาหลายอัน หลายคน
ก็คิดว่าแตกต่างนะ แต่ถ้าให้จ่าย ไม่เอา ฮ่าๆๆ
ดีครับ มีภูมิต้านทานดี
ให้ฟัง Bayer Dynamic DT770 Pro ก็เฉยๆ, HA-FX850 ชมว่า เบสเจ๋งดี แล้วก็จบ มีแต่ MDR-1R นี่แหละเนอะ ที่ผ่าน เพราะใส่สบาย 555
รูปข้างบน
หูฟัง Sennheiser HD 630VB + เครื่องเล่น Sony Walkman รุ่น ??? + แอมป์
ครึ่งแสนได้มั้ยค่ะนั่น
Sennheiser HD 630VB = 22,990 บาท
Sony NWZ-ZX1 = 21,990 บาท
Sony PHA-3 = 29,990 บาท
เซ็งหูฟังแพงตรงความได้สุนทรีย์เพิ่มขึ้นมาประมาณ 10 - 20% แต่ราคาขึ้นมา 4-5 เท่านี่แหละ 555
ราคานี้ อยู่กะ Ultrasone ต่อไป ดูหนังเสียงเทพๆ ราคา 7000
หูพลาสติก(รีไซเคิล)อย่างเราแค่ Sennheiser MX475 ก็หรูหราแล้วครับ
ไม่มีไม้ = ไม่สน
ใช้ JVC HA-FX850 ต่อไป หูฟังหลักพัน เสียงเทียบคู่แข่งหลายหมื่น