มีข่าวไม่ค่อยดีของวงการ Sharing Economy อีกเรื่อง เมื่อมีกรณีของสุภาพสตรีชาวเยอรมันรายหนึ่งพบว่ามีกล้องแอบถ่ายตนอยู่ในบ้านที่เช่าผ่าน Airbnb ในย่านเออร์ไวน์ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ ขณะที่ตนกำลังนอนหลับแบบเปลือย (เป็นปกติ) ซึ่งกว่าจะพบกล้องก็พักที่นั่นเป็นคืนที่สามแล้ว ตัวกล้องซ่อนอยู่ใต้กองเทียนไข เพื่อนของหญิงรายนี้เป็นคนสังเกตพบ
ทีมกฎหมายของสุภาพสตรีรายนี้ที่ยื่นเรื่องฟ้อง Airbnb ต่อศาลระบุว่าเธอกลัวภาพของเธอหลุดสู่โลกออนไลน์ และเกรงว่าจะถูกดักฟังบทสนทนาด้วย ขณะที่ Airbnb เองมี FAQ เกี่ยวกับการติดตั้งกล้องไว้เหมือนกัน (มีแปลไทยด้วย) ใจความว่าถ้าติดกล้องตรงไหนต้องแจ้งผู้เข้าพักก่อน แต่กรณีนี้ไม่มีการแจ้งล่วงหน้า และกรณีแบบนี้ก็เคยเกิดขึ้นก่อนหน้าแล้วที่แคนาดา เมื่อต้นปี
และ Airbnb ก็แถลงกับแหล่งข่าวถึงกรณีนี้แบบแบ่งรับแบ่งสู้ ยังไงขอแปะไว้ท้ายเบรกแล้วกันครับ
ที่มา - Mashable
Airbnb แถลงกับ Mashable ไว้อย่างนี้ครับ
“Though we do not comment on pending litigation we will defend it vigorously. Airbnb takes privacy issues extremely seriously. All hosts must certify that they comply with all applicable laws in their locations and are of course expected to respect the privacy of their guests. Airbnb warns hosts to fully disclose whether there are security cameras or other surveillance equipment at or around the listing and to get consent where required.”
Comments
กะแล้วต้องมีแบบนี้ ดีนะไม่มีแบบว่า เจ้าของเก็บกุญแจมาสเตอร์ไว้แล้วเข้าไปทำร้ายหรือข่มขืนผู้เช่าขณะนอนหลับ แต่อนาคตไม่แน่
ทำแบบนั้น ก็ คุกสิ พี่
แค่นี้ก็ผิดกฎหมายอาญาแล้วครับ
ดูแบบอูเบอร์สิครับ นั่นลากไปข่มขืนนะครับมันก็คุกเหมือนกัน เรื่องคุกไม่คุกไม่เกี่ยวครับ คนมันจะทำอะไรก็เกิดขึ้นได้ไม่งั้นก็ไม่มีคนแหก กฏหมาย หรอกครับโลกนี้
ปัญหาของแนวคิดพวก sharing economy นี่ผมว่าเป็นเรื่องมาตรฐานและความปลอดภัยนี่แหละเพราะเว็บเป็นแค่คนกลางไม่ได้ไปดูแลจริงจังแบบทำเอง ข้อดีก็คงเป็นเรื่องถูกกับมีตัวเลือกเยอะนี่แหละ
เห็นด้วยครับ
ถ้าไม่กลัวโทษตามกฎหมาย ก็ เหมือนไม่มีกฎหมาย
+1
Happiness only real when shared.
+1 ครับ
ยังไงต่อให้ผู้ให้บริการไปดูแลจริงจัง ก็ไม่มีอำนาจและเครื่องเท่ารัฐที่สามารถออกกฎเกณฑ์และมีหน่วยงานที่คอยควบคุมอยู่ดีครับ
เจออย่างงี้แล้ว ส่วนตัวผมไม่กล้าไปพักที่พักพวกนี้นะ ยิ่งถ้าไปกับแฟนแล้วทำอะไรกันเนี่ย ไม่อยากจะคิด...
+1 อีกเสียงครับ ยังไงก็ต้องหาทางป้องกัน
แต่ผมนอนใส่เสื้อผ้านะไม่ใส่คงรู้สึกหนาวๆแปลกๆ(แต่เห็นฟรี้ตี้หลายๆคนทำทำ ) XD
นอนใส่หรือไม่ใส่เสื้อผ้าคงไม่ใช่ประเด็นสำหรับคนทั่วไปเท่าไหร่มั้งครับ แต่เวลาอยู่ห้อง(โดยเฉพาะอยู่คนเดียว) มันก็คงต้องมีจังหวะ เช่น ตอนเปลี่ยนเสื้อผ้า ออกจากห้องน้ำ อะไรพวกนี้บ้าง
ยิ่งถ้ามาพักกันเป็นคู่แล้วทำอะไรกันโดยมีกล้อง แล้วถ้ากลับไปโดยไม่รู้ตัวนะ ไม่อยากจะคิดเลยว่ามันจะแพร่ออกไปที่ไหนบ้าง
ปกติงานบริการต้องออกมาให้คำตอบประมาณนี้อยู่แล้วครับ ออกมารับหน้าไว้ก่อนรับรู้ว่ามีปัญหาโดยที่ยังไม่ได้ฟันธงอะไรไปในทันที ต้องมีแถลงการณ์อีกทีหลังจากผ่านการสืบสวนไปแล้ว เพราะจริงๆ ปัญหาต่างๆ มันสามารถเกิดขึ้นได้จากทั้งสองฝั่ง เจ้าของบ้านอาจจะผิดจริงหรือทางผู้เข้าพักอาจจะสร้างเรื่องเพื่อฟ้องร้องก็ยังมีความเป็นไปได้เช่นกัน
ผมว่า ความเสี่ยงเรื่องนี้มันก็ไม่ได้ต่างจากเราไปพักโฮสเทล หรือแม้แต่ดรงแรมท้องถิ่น บทจะมีมันก็มีจนได้
ผมมองว่า อันนี้เรายังตามได้ว่ามาจาก แอปไหน
ถ้าเป็นแบบ walk in เข้าโรงแรมท้องถิ่น หรือจองผ่านเวบจองโรงแรม จะไปตามเอาผิดกับใคร
พวกนั้นเค้ายังมีมาตรฐานที่ขอใบอนุญาตค้ำคออยู่ด้วยไงครับ
ก็เอาผิดกับโรงแรมที่ไปพักไงครับ
ผมมองว่าโรงแรมหรือโฮสเทล ต่อให้ขนาดเล็กหน่อย เค้าก็ยังต้องมีการลงทุน ปรับปรุง ดูแล สร้างตึก รีโทเวท จ้างพนักงาน ถ้ามาติดกล้องแล้วลูกค้าจับได้ เสียชื่อเสียง มันไม่คุ้มค่ากับการลงทุนครับ
แต่ถ้าเปิดแบบ sharing พวกนี้ มันไม่ต้องลงทุนอะไรเลย มีห้องมีบ้านของตัวเองที่เดียวก็เปิดได้แล้ว โดนจับได้ก็เลิก ไม่เสียหายอะไร
มันแลกมากับราคาเฉลี่ยที่ถูกกว่าโรงแรมทั่วไป ซึ่งตรงนี้คนเข้าพักก็คงต้องทำใจยอมรับกับความเสี่ยงว่ามันยังมีช่องว่างตรงนี้อยู่นะ ถ้าซีเรียสเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยก็เลือกโรงแรมทั่วไปแทน
โมเต็ลผมไม่ชัว
แต่ม่านรูดบ้านเรามีทุกห้องครับ
สมัยก่อน แอบไปฆาตกรรมกันเยอะ
ถ้าใครคิดจะเข้าไปทำอะไร ก็เลือกที่
ไว้ใจได้หน่อยก็แล้วกันนะครับ
omg ไปจัดในม่านรูดมาหลายดอกเบย ดีนะไม่ใช่คนมีชื่อเสียง
อาจจะหลุดไปอยู่บนเว็บบิทแล้วก็ได้นะครับ..
จัด ดอกไม้ หรือครับ?
ว่าแล้วรู้สึกหน้าคุ้น 555