LINE ประเทศไทยเผยสถิติการใช้งานตลอดปี 2015 ที่ผ่านมา มีตัวเลขน่าสนใจดังนี้
- ผู้ใช้งานในไทย 33 ล้านคน ถือเป็นตลาดใหญ่อันดับสองของ LINE เป็นรองแค่ญี่ปุ่นเท่านั้น ตัวเลขนี้ยังคิดเป็นสัดส่วน 83% ของผู้ใช้เน็ตผ่านมือถือในประเทศไทย
- มี LINE Official Account ทั้งหมด 228 บัญชี ส่วนผู้สร้างสติ๊กเกอร์มีมากกว่า 60,000 คน สติ๊กเกอร์ยอดนิยมอันดับหนึ่งคือ "แจ๊ส สปุ๊กนิค"
- ปี 2015 LINE เปิดบริการใหม่หลายอย่าง ได้แก่ การ์ตูนออนไลน์ LINE Webtoon, บริการเพลง LINE Music, บริการจ่ายเงิน LINE Pay, บริการแชร์ตำแหน่ง LINE Here
- ผู้เล่นเกม LINE เกมเศรษฐี 23 ล้านคน, ยอดดาวน์โหลดแอพ LINE Music 5 ล้านครั้ง, ยอดดาวน์โหลดแอพ LINE TV 7.2 ล้านครั้ง, ผู้ใช้งาน LINE Webtoon 1 ล้านคนต่อสัปดาห์, ยอดชมซีรีส์ Hormones ซีซัน 3 มากถึง 173 ล้านครั้ง
ที่มา - อีเมลประชาสัมพันธ์ LINE
Comments
คนไทยเนี่ยชอบสินค้าญี่ปุ่นจริงๆ ^^
..: เรื่อยไป
ไม่ใช่แค่นั้นหรอกครับ "ความง่าย" ของโปรแกรม Line บวกกับความเป็นส่วนตัวของเขาก็ดีครับ
Add เข้ามาอย่างไรก็ต้องถามความสมัครใจเจ้าตัวด้วย
Interface ใช้ง่าย ตัว Background ปรับได้ง่าย แม้แต่คนไม่ค่อยเล่นพวก Chat อย่างผมก็ยังชอบเลยครับ
ตกลง Line corp. นี่ของญี่ปุ่นหรือเกาหลี แต่เริ่มตั้งที่สำหนักงานที่ญี่ปุ่น แต่เหมือนจะเป็น บริษัทเกาหลีเหรือเปล่าอ่านประวัติก็งงๆ
The Dream hacker..
คือไม่ใช่ความชอบส่วนบุคคลครับ โปรแกรมสื่อสารเนี่ย ถ้าคนอื่นใช้อันเราก็ต้องใช้ตามครับ เช่นถ้าผมชอบwhatappsมากกว่า แต่ไม่มีใครใช้ตามก็ไม่มีประโยชน์
ไลน์จริงๆนี่ของเกาหลีนี่ครับ แต่ที่ไทยเราเขาพยายามโหมกระแสว่าเป็นของญี่ปุ่นก็คงเพราะคนไทยชอบสินค้าญี่ปุ่นเนี่ยแหล่ะ
ถ้าผู้ถือหุ้นใหญ่เค้าอยู่เกาหลี จะยึดเอาความเป็นเจ้าของแบบนั้นก็แล้วแต่ครับ ผมเซ็นสัญญากับไลน์ 2 ฉบับ (Line Camera และ Line Chat) เอกสารเป็นญี่ปุ่นหมดเลย แถมรายได้ต้องถูกหักภาษีที่ญี่ปุ่นครับ ;)
my blog
ถ้าดูจาก entity คู่สัญญา ก็คงพอบอกได้แต่ไม่ 100% นะครับ
เช่น สัญญาของ Apple (และ Google) บางอย่าง ก็ไปเซ็นกับ Apple Ireland ซะเยอะ เพราะมันเป็น tax haven ของเค้า
คงไม่มีใครคิดว่า Apple เป็นของ Ireland ใช่มั้ยครับ?
ส่วนตัวผมถือว่า Naver เป็นบริษัทเกาหลีนะ จากโครงสร้างภายใน คือ managers & middle managers ก็เป็นเกาหลี
และ expat จากเกาหลี ก็แทรกตัวอยู่ในหลายๆ ทีม และวัฒนธรรมองค์กรหลายๆ อย่าง จากปากคนใน ก็ดูไม่ค่อยเหมือนญี่ปุ่นเท่าไหร่
อันนี้ผมขอกล้าเถียงแบบฟันธงเลยครับ
ไลน์เป็นของญี่ปุ่นแท้ๆ เลย
ผลิตภัณฑ์พัฒนาโดยบริษัทที่ตั้งอยู่ในญี่ปุ่น โดยโปรแกรมเมอร์ชาวญี่ปุ่น ออกแบบโดยชาวญี่ปุ่น สติ๊กเกอร์มูน บราวน์ โคนี่ ก็ญี่ปุ่นแท้ๆ เลย ที่สำคัญ โฟลเดอร์ line ในแอนดรอยด์มันฟ้องชัดๆ เลยครับ jp.naver.line.android แบบนี้ยังเรียกว่าไลน์ไม่ใช่ของญี่ปุ่นได้อยู่มั้ยครับ?
เพียงแต่บริษัทที่ว่านี้ เป็นบริษัทลูก ซึ่งตัวบริษัทแม่เป็นของเกาหลีเท่านั้นเอง จริงอยู่จะเรียกเป็นบริษัทของเกาหลีก็อาจจะได้ เพราะลงทุนโดยเกาหลี แต่ถ้าถามว่าผลิตภัณฑ์นี้มาจากชาติใด โดยดูว่าผลงานมันเป็นผลผลิตและมันสมองจากชาติใด คำตอบมันก็ตามที่เห็นอยู่แล้ว
ยกตัวอย่าง บริษัทแม่ uniliver เป็นของอังกฤษ ถ้าเกิดว่าบริษัท uniliver thailand ในไทยออกแบรนด์ "คนอร์อร่อยชัวร์" แบบนี้เราถือว่า "คนอร์อร่อยชัวร์" เป็นสินค้าอังกฤษไหมครับ?
ถ้าจะว่าไลน์โหมกระแสญี่ปุ่นเพราะคนไทยชอบญี่ปุ่น ผมก็ว่าบริษัทแม่เองก็ตีเนียนโดยใช้สัญชาติบริษัทแม่มาอ้างถึงเช่นกัน ต้องให้เป็นอย่าง Kakao Talk ต่างหากล่ะครับ อันนั้นโปรแกรมเกาหลี พัฒนาโดยชาวเกาหลีแท้ๆ เลย
ความเป็นเจ้าของกับจ้างใครออกแบบผมว่ามันคนละเรื่องกันนะครับ
คนอร่อยชัวร์น่าจะเรียกว่าเป็นของยูนิลิเวอร์ไทยครับ สินค้าอังกฤษไหม?คงต้องแล้วแต่นิยามคำว่าสินค้าอังกฤษ แต่ไม่ใช่ของคนไทยแน่ๆ จริงไหมครับ
ถ้าบริษัท Naver ตั้งอยู่ในเกาหลี เกิดแนวคิดว่าอยากจะทำ Line จึงไปจ้างชาวญี่ปุ่นออกแบบและพัฒนา แล้วเผยแพร่แอพในนามของ Naver บริษัทแม่ที่เกาหลีเอง แบบนี้ผมก็นับว่าเป็นของเกาหลีแน่นอนครับ แค่จ้างคนอื่นออกแบบเอา
แต่กรณีของ Line ผมมองว่ามันต่างออกไปแบบคนละเรื่องเลย
บริษัท Naver ที่เกาหลี มาตั้งบริษัทลูกในญี่ปุ่น ชื่อ Naver Japan จดทะเบียนในญี่ปุ่น พนักงานก็เป็นชาวญี่ปุ่น ทำธุรกิจในญี่ปุ่น
อันนี้เคยอ่านมา ว่า line เป็นโปรเจกต์ที่เกิดจากไอเดียของคนใน Naver Japan เอง ที่อยากจะทำแอพแชทสำหรับชาวญี่ปุ่น ก็เลยพัฒนาออกมาเป็น Line ที่พัฒนาโดย Naver Japan เอง และเผยแพร่ในนามของ Naver Japan เอง (สังเกตโฟลเดอร์ในแอนดรอยด์ก็อย่างที่ว่า jp.naver.line) แล้วมันก็นิยมในญี่ปุ่นก่อนจริงๆ ก่อนจะแพร่ออกไปยังไต้หวันและไทย ก่อนจะไปทั่วโลก
สรุปว่าแอพนี้คิดค้น ออกแบบ พัฒนา และเผยแพร่ในนามของ Naver Japan และกลุ่มเป้าหมายดั้งเดิมก็คือตลาดญี่ปุ่นนั้นเอง
กรณีนี้ ก็อาจจะเทียบได้กับ AIS ว่าเรามองบริษัทนี้เป็นบริษัทสิงคโปร์ หรือบริษัทไทย แต่ส่วนตัวแล้วผมมองว่าเป็นบริษัทไทยแน่นอน ดูที่ภาพรวม การจดทะเบียนต่างๆ ไม่ใช่ดูที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ครับ ไม่งั้นแบงค์ต่างๆ ในไทย เราเรียกว่าแบงค์ไทยไม่ได้แล้ว เพราะตอนนี้ถือหุ้นโดยต่างชาติหมดเลย
ผมว่าเรากำลังคุยเรื่องคำว่า บริษัทของชาติ... จากคนละบรรทัดฐานกันอยู่ครับ
AIS เป็นบริษัทจดทะเบียนในไทย จริงอยู่ที่มีพนักงานเป็นคนไทยวิธีบริหารแบบไทยแต่คงไม่ใช่ว่าอยากจะทำอะไรก็ทำได้เลยโดยปราศจากการยินยอมจากผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งก็คือ เทมาเสค ดังนั้นผู้มีสิทธิ์มีเสียงกำหนดทิศทาง และ แนวทางทั้งหมด สุดท้ายย่อมเป็นเทมาเสคใช่ไหมครับ ที่สำคัญรายได้จากเอไอเอสก็แน่นอนส่วนนึงต้องส่งให้เทมาเสค แบบนี้แล้ว จะบอกว่า AIS เป็นบริษัทไทยในเครือภายใต้เครือสิงคโปร์ถึงจะถูกครับ ซึ่งคำว่าภายใต้..นี่ก็ให้คนอ่านไปคิดเอาเองว่ามันของใครกันแน่ แต่ในทางธุรกิจเขาก็วัดกันตามสัดส่วนผู้ถือหุ้นนะ อีกตัวอย่างแบบชัดๆเลยคือ วอลโว่ ครับ สมัยที่จีนเข้าเทคโอเวอร์วอลโว่ฝ่ายรถเก๋งทั้งบริษัท ประธานของวอลโว่เคยให้สัมภาษณ์ว่าจะไม่ใช่แนวทางแบบก๊อปปี้แบบของจีน เพราะมันไม่ใช่วิถีของวอลโว่ที่เป็นบริษัทสวีเดน แต่เมื่อนักข่าวไปสัมภาษณ์ผู้บริหารทางฝั่งจีนก็ได้แค่คำตอบสั้นๆว่า ไปถามเขาซิว่าใครเป็นเจ้าของเงิน? ผมพยายามหาซอสของข้อความนี้แต่มันเก่าแล้วหาไม่ได้ แต่ขอยกมาเพราะเป็นตัวอย่างสะท้อนได้ดีในเรื่องของการที่บริษัทที่ทำการอยู่ที่นึงแต่มีเจ้าของเงินทุนอีกแห่ง ยังไงก็ไม่มีใครเขาส่งเงินให้ใช้ทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจแน่ๆครับ
บางบริบท อย่างในบทความหรือนิตยสารเขาก็พูดกันให้เข้าใจง่ายๆว่า บริษัทสัญชาติ... แต่ถือหุ้นใหญ่โดย... แบบเนี้ยอ่ะครับ
จากบริบท
ผมว่าคำว่าสินค้าญี่ปุ่น ตรงกว่าสินค้าเกาหลีนะครับ เพราะคุณ btoy ไม่ได้กล่าวเชิงใครเป็นเจ้าของ แต่กล่าวเชิงใครเป็นคนทำ ทำในตลาดไหน และทำในวัฒนธรรมของใครมากกว่าครับ
ลองเปรียบเทียบกับทีมฟุตบอลนะครับ อย่างทีม Leicester City ที่มีตระกูลศรีวัฒนประภาเป็นเจ้าของอยู่ ก็คงไม่มีคนบอกว่าทีม Leicester City เป็นทีมฟุตบอลไทย หรือทีม Chelsea ก็คงไม่มีคนบอกว่าเป็นทีมรัสเซียใช่ไหมครับ?
หรือแม้แต่ AIS เองที่ทำตลาดอยู่ในประเทศไทย สินค้าและบริการก็เป็นของไทยเหมือนกันครับ ไม่ใช่สินค้าและบริการของสิงคโปร์
แนวทางการบริหารแต่ละบริษัทเองก็แตกต่างกันนะครับ หลายๆบริษัทผู้ถือหุ้นแทบจะไม่เข้าไปยุ่งเลยด้วยซ้ำถ้า subsidiary ทำตัวเลขทางการเงินที่เป็นผลพอใจได้อยู่(@independent) ตัวอย่างที่ถึงแม้จะไม่ข้ามประเทศก็กรณี VMWare ครับ อันนี้ผมกล้ายืนยันว่าบริษัท software ในไทยหลายๆบริษัทที่เป็น subsidiary มีการบริหารแบบ independence ครับ
พูดถึงทางฝั่งจีน การที่จีนเองมีวัฒนธรรม'ควบคุมทุกอย่าง'แบบนี้ ทำให้หลายๆธุรกิจที่จีนเข้าไป take-over นี่แย่ลงอย่างเห็นได้ชัดเลยครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
อ่านใน Wiki เข้าใจว่าบริษัทแม่อยู่เกาหลีครับ แต่บริษัทไลน์เองอยู่ในญี่ปุ่น
ถ้าให้เลือกจริงๆผมชอบ สินค้าญี่ปุ่น ที่สุดครับ มันถูกจริตดี
แต่ติดที่อ่านภาษาเค้าไม่ออก เลยหันเหไปทางอเมริกาแทนเป็นตัวเลือกที่ 2
Line นึ่ใช้สื่อสารทางธุรกิจด้วยนะครับ ไม่ใช่แค่เอาไว้คุยเล่นๆ
ผมนี้ใช้ติดต่อกับ supplier หรือลูกค้าเยอะมากๆ
เวลาเจอคนที่คุยธุรกิจแล้วยึดการสั่งงาน สั่งออร์เดอร์ด้วยไลน์เป็นหลักแทบอยากจะร้องไห้ครับ
+1
+1 920 ของคุณแม่โหลดข้อความช้า คุณแม่ไม่พอใจมากค่ะ
The Last Wizard Of Century.
ไลน์ใน Windows phone ช้ามากๆ ครับ พอเจอข้อความเยอะๆ เข้า ทนไม่ไหวแน่ๆ ครับ
เพื่อนผมหลายๆ คนที่เคยใช้ WP หนีมาใช้ระบบอื่นกันหมดแล้ว เพราะทนไม่ไหวที่ line มันช้า
แม่ผมเองก็เคยใช้ Windows phone แล้วแทบไม่เล่น line เพราะมันช้ามาก ทนไม่ไหว พอเปลี่ยนมาใช้ Android กลายเป็นว่าติด line งอมแงม ส่งดอกไม้ทุกเช้าไปเลย
ผมเองก็เป็นคนนึงที่เคยเปลี่ยนจาก WP7 ตอนนั้นแล้วมาใช้ Android พูดเลยว่า line บน Android มันดีกว่ามากๆ เปลี่ยนแล้วชีวิตดีขึ้นเยอะเลย
อย่ากลับไปหาเขาอีกเลยถ้าเขาไม่ต้องการสิ่งที่เขาได้ทำมันเกินให้อภัย...
The Last Wizard Of Century.
มันจำเป็นน่ะครับ เพราะ line เป็น messenger ที่คนไทยใช้กันเยอะมาก
ตอนนี้คนที่ผมติดต่องานด้วย มีอยู่สองแบบคือ ใช้ Line กับไม่ใช้ Line (555)
พวกหลังนี่ไม่เสนอทางเลือกอื่นให้เลย นอกจาก โทรศัพท์กับแฟกซ์แบบเดิมๆ
เข้าใจเรื่องความจำเป็นนี่แหละครับ เลยรู้สึกอยากจะร้องไห้ มันลำบากมากเวลาที่จะสืบย้อนกลับมาหาข้อมูลเก่าๆ พยายามเอา Note ในนั้นมาช่วยก็พอช่วยได้นิดหน่อย เพราะยังลำบากในการสืบค้นอยู่ดี
ผมคนนึงไม่ใช่ line ติดต่องานเลย เพราะเวลามีปัญหาใช้เป็นหลักฐานได้ยากมาก เวลาค้นไฟล์แนบเยอะ ๆ เข้าย้อนไปหานี่แทบไม่ต้องเจอเลย สำหรับผมเมลล์อย่างเดียวเท่านั้น
ก็ลองให้accountเดียวใช้ได้หลายdeviceสิ
ยอดคงต่ำกว่านี้ครึ่งๆ
+LINE
xxx_ipad
xxx_iphone6S
xxx_iphone5
เคยเห็นเหมือนกัน คนที่ใช้แบบนี้เค้าไม่มีปัญหาแชตเครื่องนึงอีกเครื่องนึงคนทักมาเหรอครับ?
สถิติโหดมาก เกือบครึ่งหนึ่งของประชากรประเทศไทยเราเลย
คำถามคือ 1 คนใช้กี่ device นี่แหละครับ ยิ่งมาแบบ 1 device 1 ID อีก อันนี้ชัดเจนเลย
เอาแค่ผมก็มีไลน์ ID 2 อันแล้ว (อันนึงแชท อันนึงเล่นเกม)
ไม่รู้ว่าจะมีการวิเคราะห์ก่อนหรือเปล่านะครับ
เช่น หัก account ที่ inactive ไปเพราะทิ้งไปกับโทรศัพท์เครื่องเก่า
หรือ รวบ account ที่สันนิษฐานได้ว่าเป็นเจ้าของคนเดียวกันแล้วนับแค่ 1
แต่คงไม่หักออกหรอก ตัวเลขสำหรับโฆษณาแบบนี้
ข้าพเจ้าใช้ 3แอคเคาท์
ดีกว่าไม่มี ใช้ นะ
ผมรีบเข้าไปหาเลย สติ๊กเกอร์ "แจ๊ส สปุ๊กนิค" คืออันไหน เข้าไปดูเสร็จ ก็ไม่คุ้น ไม่เคยเห็นใครใช้อยู่ดีแฮะ ???
ไม่ใช่ผมคนเดียวแฮะที่ทำแบบนี้
เราอาจไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายเค้าครับ อย่าลืมนะครับว่ามีคนใช้กว่า 33 ล้านคน
ก็อยากเล่นอันอื่นอยู่
แต่ที่ทำงาน เพื่อน เล่น ไลน์ กันหมด
ชอบ beetalk มากกว่า แต่เพื่อนไม่ใช้กัน
ภาพลักษณ์ของ beetalk ตอนนี้มันไปในแนวหาคู่นอนชั่วคราวมากกว่าครับเลยไม่กล้าใช้
ตอนแรกก็ไม่เชื่อนะ แต่มันเป็นเรื่องจริง ที่ทำงานผมพวกนักซื้อเค้าก็ใช้แอพนี้ซื้อกัน
ที่ไม่น่าเชื่ออีกอย่างคือ เพื่อนผญของแฟนผมมีสามีซ้อน จนบ้านแตกกันก็แอพนี้แหละ
พูดถึงในไลน์ก็คงมี แต่แอพนี้ภาพลักษณ์มันเป็นแบบนี้จริงๆ
beetalk มันคนละแนวกันแล้วครับ
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
ใช้ telegram ได้วันเดียวลบเลยฮะไม่มีคนเล่นด้วย
The Last Wizard Of Century.
33 ล้านคนใช้ ยากที่จะเปลี่ยนไปใช้ Chat เจ้าอื่นละ
ผมก็เคยคิดแบบนั้นกับ msn
May the Force Close be with you. || @nuttyi
+nudge กันเลยทีเดียว
5555
ผิดหวังใน App performance มานานแล้ว บวมมาก
ก็อยากให้ปรับปรุง Line ใน iPad หน่อย
เสียงจากผู้ใช้ Line คนหนึ่งในปนะเทศไทย
+1คน ครับ ;_;
ใช่ครับ บริษัทใหญ่แต่แอปออกมาแย่มาก ช้า UI เน่า บัก
จะโหลด line iphone ก็ไม่ได้อีกมันทับกับ มือถือ หงุดหงิดจริงๆ -*-
ได้ข่าวว่าทำเป็น universal app แล้วรึป่าวครับ
ตามนี้ครับ โหลดแอพ Line ปกติมาล็อคอินได้เลย มันนับเป็นไอดีรองเหมือนกับ Line for iPad แล้วครับ ทีเด็ดมาก
เปลี่ยน theme ได้ยังครับ
The Last Wizard Of Century.
มันก็ดีขึ้นเยอะแล้วนะ
ถ้า whatsapp มันให้เลือก add รายบุคคลได้ก็จะน่าสนใจมากกว่านี้ครับ นี่เล่นยกมาทั้งโขยง
line มันแย่ตรงที่ ค้นข้อความเก่าๆไม่ได้ เปลี่ยนเครื่องก็หายหมดต้องมาไล่เซฟทีละแชท account ผูกหลายเครื่องพร้อมกันไม่ได้ ตรงนี้ facebook chat ยังดีกว่าซะอีก
สรุปคือมีดีแค่สติ๊กเกอร์ กับคนใช้เยอะเลยต้องใช้ตาม
แอพ chat อื่น ไม่มีเพื่อนเล่นเลยครับ ตอนนี้มี fb กับ line เท่านั้นเอง
my blog :: sthepakul blog