หลังสำนักข่าว Reuters รายงานว่า พล.ต.อ. พิศิษฐ์ เปาอินทร์ สมาชิกสปท. และอดีตผู้บังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลมีแผนจะขอความร่วมมือกับเฟซบุ๊คและไลน์ ในการป้องกันและถอดเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม และเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ โดยรัฐบาลไทยเตรียมพบหารือกับผู้บริหารของทั้งสองบริษัท ภายในอีก 3 เดือนข้างหน้า ล่าสุดบริษัท ไลน์ ประเทศไทยออกแถลงการณ์รับทราบความเคลื่อนไหวนี้แล้ว
บริษัทไลน์ ประเทศไทยแถลงว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อใดๆ ทั้งสิ้น แต่หากได้รับการติดต่อ ก็พร้อมจะพิจารณาหามาตรการที่เหมาะสมภายใต้กรอบของกฎหมายไทยและมาตรฐานสากล โดยยืนยันว่ายังคงให้ความสำคัญกับการรักษาข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน
ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ คณะกรรมาธิการการปฏิรูปแห่งประเทศไทยเคยขอความร่วมมือกับ Google ในลักษณะนี้มาแล้ว
อัพเดต แก้ไขเนื้อหาแถลงการณ์ของไลน์ครับ
ที่มา - Reuters และ Taipei Times
Comments
ตอบแบบนี้คลุมเครือแฮะ
ถ้าให้ความร่วมมือจริงคงต้องพิจารณาเปลี่ยน IM
That is the way things are.
ผมนั่งอ่านฝั่ง Reuters อยู่หลายรอบก็ไม่เห็นคำแถลงของไลน์นะครับ
"With the first link, the chain is forged. The first speech censured, the first thought forbidden, the first freedom denied, chains us all irrevocably."
แก้ไขเพิ่มเติมแล้วครับ
โอเคครับ ในไทเปไทม์ชัดทีเดียวว่าก็ตอบแบบเดิม ช่วงลุงไร้ค่าเข้ามาใหม่ๆก็มีคุยไปรอบก็ตอบแบบนี้แหละ ไม่ผ่านกระบวนการศาลมาเค้าไม่ให้กันหรอกครับ (ขนาดผ่านมาแล้วถ้าเป็นคดีที่สากลโลกไม่ยอมรับเค้าก็ไม่กล้าให้กันอยู่ดี)
"With the first link, the chain is forged. The first speech censured, the first thought forbidden, the first freedom denied, chains us all irrevocably."
"ไม่ได้ทำผิดก็ไม่ต้องกลัวการตรวจสอบ" ¯_(ツ)_/¯
น่าเสียดายเราไม่รู้ว่ามันจะผิดเมื่อไหร่ครับ เพราะกฏหมายไทยมีผลย้อนหลังได้ ¯_(ツ)_/¯
"เพราะไม่ผิดนี่แหละครับ ถึงกลัวมาตรฐานการตรวจสอบแบบไทยๆ"
เพราะอยู่ๆ จะผิดขึ้นมาเมื่อไรก็ได้
รัฐบาลไม่ได้ทำผิดอะไรยังกลัวการตรวจสอบเลย
¯(ツ)/¯
ความไว้เนื้อเชื่อใจสร้างยาก แต่ถูกทำลายได้ง่าย
จริงๆ ก็ไม่มีอะไรให้น่าห่วงนะครับ แต่ก็นั่นแหละ รื้อ Telegram มาอ่านก็คงไม่มีอะไรให้ผิด ¯\_(ツ)_/¯
ปรากฎว่าอีกสักพัก Telegram โดนบล็อค
กว่าจะถึงตอนนั้น ผู้กระทำผิดอาจจะหลบหนีไปใช้ช่องทางอื่น ¯_(ツ)_/¯
รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์
เขาไม่ได้คิดเผื่อใช่มั้ยย ว่าโลกนี้ไม่ได้มีระบบ messenger ระบบเดียว
โลกนี้มีระบบปฏิบัติการ... อ้าวผิดคนหรอกรรมๆ โทษๆ
ชักอยากรู้แล้วว่าใครเป็นผู้ถือหุ้นของไลน์บ้าง...ไม่ใช่มีนอมินีของไทยไปถือหุ้นนะ
เห็นพยายามเหลือเกิน...ความมั่นคงของคนกลุ่มเดียวเท่านั้นจริงๆ
ประเทศจะหมดงบประมาณเท่าไหร่ก็ชั่ง...คนไทยอยู่ใช้เวรกรรมให้กับคนกลุ่มนี้จริงๆ.
ในครอบครัวใช้ Telegram
หรือนี่คือสัญญาณ...
ถึงเวลาแล้วรึยัง ที่เราจะรณรงค์ให้คนไทยสมัคร telegram เก็บไว้เผื่อฉุกเฉิน 555
ลงและสมัคร telegram สำรองเผื่อไว้ได้เลยครับ
ผมลงไว้แล้ว ใช้บ้างแล้ว
นึกถึง "ความรู้สึก" ดีๆ ที่มีต่อประเทศไทยด้วยนะ Naver #มิตรสหายท่านหนึ่งได้กล่าวไว้กับกูเกิล