ที่กรุงเตหะราน เมืองหลวงของอิหร่านตอนนี้มีหนึ่งแอพกำลังฮิต ชื่อว่า "Gershad" ที่ให้ผู้ใช้ร่วมกันบอกและแจ้งเตือนตำแหน่งของ Gesht-e Ershad หรือตำรวจศาสนา ผู้ดูแลความประพฤติ ที่กระจายอยู่ทั่วเมือง ผู้คอยดูแลผู้คนให้ปฏิบัติตามหลักการศาสนาอย่างเคร่งครัด เช่น การแต่งหน้ามากเกินไป หรือใช้ฮิญาบผิดประเภท ก็อาจถูกปรับและลงโทษได้
แอพแนว crowdsourcing แอพนี้ถูกดาวน์โหลดแล้วกว่า 16,000 ครั้งหลังจากเปิดตัวไปเมื่อสัปดาห์ก่อนบน Play Store (ยังไม่มีบน iOS) และมีคนเข้าไปรายงานแล้วกว่า 1,500 ครั้งครับ
ที่มา - The Verge
ผู้สร้างแอพ (นิรนาม) นี้ระบุว่า การที่ถูก Gershad จับเป็นเรื่องน่าอายและน่ากลัวไปพร้อมกัน ซึ่งคนเหล่านี้มักใช้อำนาจที่ตนมีสั่งตรวจค้นผู้คนอย่างล้ำเส้น ทั้งการกอดเพศตรงข้าม การเผยสรีระ การเจาะ ฯลฯ ด้วย ซึ่ง Gershad จะแฝงตัวอยู่ตามชุมนุมชน
เมื่อเห็นแบบนี้ ทางการอิหร่านก็ไม่นิ่งนอนใจ เว็บไซต์ทางการของแอพนี้ถูกบล็อคภายใน 24 ชั่วโมงแรกหลังเปิดตัว แต่ทีมนักพัฒนาก็ใช้เครื่องมือชื่อ Psiphon ในการมุดออกมาได้ และในขณะนี้นักพัฒนาก็กำลังปรับปรุงเรื่องความถูกต้องของข้อมูลอยู่ครับ
Comments
เป็นตัวอย่างให้แก่กะลาแลนด์ในเรื่องความกลัวทำให้เสื่อมจริงๆ
ทำไมต้องเรียกประเทศเราว่า กะลาแลนด์ด้วยครับ
เห็นผิดเป็นชอบ หลงไปกับความดีที่ไม่มีอยู่จริง รู้สึกว่าตนเป็นคนดีกว่าคนอื่น ฉลาดกว่าคนอื่น จ่ายภาษีมากกว่าคนอื่น จนคิดว่าตัวมีอภิสิทธิ์จนล้ำเส้นหรือละเมิดกฎหมายสูงสุดของประเทศได้
ถ้าจะด่าคนก็ด่าไปสิไปด่าประเทศทำไมครับ ผมก็ไม่ชอบหลายๆเรื่องในประเทศนี้ก็ยังไม่ด่าประเทศตัวเองเลย ทำไมต้องด่าประเทศด้วยครับ
ผมว่าเค้าด่าคนบางกลุ่มนะครับ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ผมก็รู้สึกว่าคนเรียกประเทศเราว่า กะลาแลนด์ คิดว่าตัวเองเป็นคนดีกว่าคนอื่น ฉลาดกว่าคนอื่น ถึงมาว่าคนอื่นว่าอยู่ในกะลา
+1ครับ
ผมว่า blognone ควรจะเริ่มพิจารณา การใช้คำพูด เหยียดเชื้อชาติ (ชาติเดียวกัน) แบบนี้ได้แล้วมั้งครับ
อคติบดบัง
ไอเดียแนวนี้ ภาครัฐน่าจะเอามาปรับใช้แจ้งพิกัดกลุ่มเด็กแว้นจัง
เหมือนในไทยมีเพจ มีด่านบอกด้วย
เห็นล่ะนึกถึงกลุ่ม "มีด่านบอกด้วย" ประมาณนั้นเลย แต่อันนี้เป็นระบบ มีแผนที่โชว์ แถมเป็น anonymous อีกต่างหาก *0*
บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P
อย่างนี้ให้ตำรวจรายงานมั่วๆ ทั่วพื้นที่เมือง ให้แอปไม่มีความน่าเชื่อถือได้ไหมครับ
เป็น crowdsourcing ... ไม่น่าจะทำใด้ครับ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
มันไม่เหมือนของไทยนะครับ
เนื่องจาก บ้านเมืองเค้า เอาหลักคำสอนไปตราเป็นกฏหมายนะครับ
ถ้า convert มาใช้ในบ้านเราคือ เอาศีลมาตราเป็นกฏหมายแล้ว
มีโทษเป็นจำเป็นหลัก ปรับเป็นรอง
เช่น ...
ตื่นเข้าไม่ตักบาตร จำคุก 1 เดือน ปรับ 20,000 บาท
วันพระ ไม่เข้าวัดปฏิบัติธรรม จำคุก 6 เดือน ปรับ 100,000 บาท
ของแบบนี้ เถียงไปก็ไม่จบครับ
เน้นสบายใจดีกว่า
เจอสุราเม.... วุ่นกันทั้งประเทศแน่ครับ
เคยมีฝรั่ง UK พกเหล้า เดินผ่านสนามบิน ในซาอุดิอาราเบีย
เรียบร้อยครับ เฆี่ยนไปเบาะ ๆ 500 ป้าบ สบายก้นไป
เหมือนครับ ไม่ต่าง ศาสนาอยู่บนความเชื่อ กฎหมายอื่นก็อยู่บนความเชื่อเช่นกัน ไม่งั้นกฎหมายของทุกประเทศคงเหมือนกันไปละ และทุกวันนี้การเถียงกันเรื่องกันหมายก็มีอยู่เรื่ิอยๆ ครับ เช่น ควรยกเลิกโทษประหารหรือไม่
จริงกฏหมายมีสองแบบครับ แบบคอมม่อนเซน กับตามจารีตครับ ง่ายๆคือ แทบทั้งโลกรู้ว่าการฆ่าคนอื่นมันเป็นเรื่องผิดเป็นต้น ที่คุณยกตัวอย่างคือวิธีการลงโทษครับ เมื่อทำผิดกฏหมายครับ
คอมมอนเซนส์ก็เป็นความเชื่ออย่างหนึ่งครับ และการฆ่าคนก็ไม่ใช่เรื่องผิดเสมอไป ขึ้นอยู่กับข้ออ้าง(เหตุผล)ด้วยว่าทำเพราะอะไร และวิธีการลงโทษก็คือกฎหมายครับ มีเขียนไว้ในตัวบทชัดเจน
ไม่เหมือน กฎหมายไม่จำเป็นต้องเชื่อ ถ้าผิดก็โดน
ผมว่าอาจจะคล้ายนะครับ อย่างเพจบอกด่านเนี่ยอาจจะเกิดขึ้นเพราะการรีดไถของตำรวจก็ได้ แอพนี้จุดกำเนิดก็น่าจะคล้ายกันคือไม่ชอบพฤติกรรมตำรวจ
กะลาแลนด์ เท่ากับ กะลา อุปกรณ์เครื่องใช้สำหรับทานอาหาร สมัยก่อนมีถ้วยชามกระเบื่อง (เป็นสิ่งที่บรรพบุรุษเราเคยใช้มาก่อน ประเทศเราเคยใช้กะลาในการใส่อาหารสำหรับทานมาก่อน จึงมีคนพูดติดปากว่า กะลา (แลนด์)ถ้าแปลเป็นภาษาไทย หมายถึง Land. ถ้าแปลเป็นภาษาอีสานหมายถึง การวิ่ง (ไม่ใช้การเดิน) กะลาแลนด์ หมายถึง ลูกมะพร้าวที่หล่นลงมาแล้ววิ่งไปที่อื่นไม่อยู่ข้าง ๆ ต้นมันเอง(เพราะที่มันชัน)
ปัจจุบัน เรียกว่ากระบวย เพราะภาชนะสิ่งของเครื่องใช้ในยุคคปัจจุบัน(ประเทศไทย)สามารถล้างและเก็บได้ง่ายโดยไม่ต้องตากแดดให้แห่งเหมือน กะลาสมัยก่อน
ดังนั้น
กระบวยแลนด์ เท่ากับภาชนะที่ใช้ดื่มน้ำของประเทศไทยตั้งแต่บรรพบุรุษจนถึงปัจจุบัน
กะลาแลนด์ เท่ากับภาชนะสำหรับใช้ใส่อาหารเพื่อรับประทานของบรรพบุรุษไทย
อีกอย่างหนึ่ง
กะลาแลนด์ หมายถึงประเทศไทยมีต้นมะพร้าวเยอะ จึงนิยมทำของหวานกิน(ใช่ไหมนี้) ดังนั้นเมื่อทานเนื้อหมด จึงเหลือแต่กะลา ไม่รู้จะทำอะไรก็เอาไปก่อไฟบ้าง ทำโทรศัพท์บ้าง ทำเสียงกระดิงบ้าง ทำดนตรีบ้าง ทำภาชนะเครื่องใช้บ้าง ทำเป็นระเบิดถ่านหินบ้าง ทำเครื่องประดับบ้าง ฯลฯ กะลา เป็นของดีงาม ถ้าไม่มีกะลาก็ไม่มีเนื้อมะพร้าว อาหาร ของหวาน ที่เกิดจากมะพร้าวที่มีกะลาหุ้มเนื้อมะพร้าวเอาไว้ให้่มีรสมันและมีน้ำหอมอร่อย เมื่อคนทานแต่เนื้อเว้นเสียแต่ทานมะพราวอ่อนถึงจะทานกะลาได้(ตำส้มมะพร้าว หรือแกงกะลามะพร้าว (อ่อน)) ได้ทอดทิ้งมัน จนกบ หรือเขียด ก็หรือคางคก จิ้งจก จิ้งเหลน ตะขาบ ฯลฯ เขาไปอาศัยอยู่ เพียงแค่หลบอันตลายจากอริศัตรูมิใช้เพราะความโง่เขลาเลย กะลามีคุณแม้ต่อสัตว์ตัวเล็กเช่นนี้ ข้าพเจ้าจึงคิดว่า คำว่ากะลาแลนด์ (ประเทศไทยมีต้นมะพร้าว)ทานเยอะจนมีกะลามาก น่าจะเอาไปทำประโยชน์ ได้มากกว่า การนำไปคิดเรื่องโลกแคบน่ะครับ