Firewatch เป็นเกมใหม่จากค่ายใหม่ Campo Santo ที่เป็นการผจญภัยในป่าอุทยาน Wyoming ของสหรัฐอเมริกาปี 1989 ตัวเอกเป็นเจ้าหน้าที่ของอุทยานที่ต้องไปเฝ้าระวังไฟป่าในหอยามเพียงลำพัง เขาต้องผจญภัยในป่าและเผชิญกับ "เหตุการณ์ลึกลับ" เพียงคนเดียว โดยมีตัวช่วยเป็นเจ้าหน้าที่อีกคนที่สื่อสารกันได้ผ่านวิทยุเท่านั้น
เกมพัฒนาโดยอดีตทีมงานเกม The Walking Dead ของค่าย Telltale Games ผู้สร้างเกมแนวผจญภัยที่มาแรงในช่วงหลัง เกมลงทั้งบนพีซี (Steam) และ PS4 สำหรับเวอร์ชันที่รีวิว เล่นบน Steam for Mac ราคา 369 บาท (ราคาบนหน้าเว็บเกมคือ 19.99 ดอลลาร์)
เพื่อความเข้าใจที่ตรงกันก็ลองดูเทรลเลอร์กันก่อนครับ
เกมราคานี้ถือว่าเป็นราคาที่จับต้องได้ ไม่แพงมาก ราคาพอกับค่าอาหารในร้านฟาสต์ฟู้ดสักมื้อสองมื้อ คิดอย่างนี้ได้ ก็ทำใจจ่ายได้ง่ายๆ รูดบัตรปุ๊ป เสียเงินอย่างรวดเร็ว
ตัวเกมต้องการพื้นที่ในการติดตั้งประมาณ 2GB กว่าๆ สำหรับผมถือว่าเป็นเกมขนาดกลางค่อนไปทางเล็ก ถ้าความเร็วเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตเร็วหน่อย ดาวโหลดไม่กี่นาทีก็ได้เล่นแล้ว
ตอนแรก ผมเข้าใจไปเองว่า Firewatch เป็นแนว open world เพราะดูแนวจากเทรลเลอร์ข้างต้น บวกกับชื่อเกมว่า Firewatch น่าจะต้องเป็นอะไรที่อยู่ในป่า เดินไปเดินมา ป้องกันไฟไหม้ป่า ไล่จับคนหาของป่า ไม่ก็ช่วยสัตว์ป่า อะไรเทือกนี้แน่ๆ แต่ก็สงสัยอยู่ข้อเดียวว่าทำไมเกมมันขนาดเล็กจัง
พอศึกษาไปสักพักค่อยเริ่มเห็นแนวทางของเกมว่า ผู้สร้างต้องการให้ออกมาเป็นแนวผจญภัยมุมมองบุคคลที่หนึ่ง ที่มีการดำเนินเรื่องอยู่ในป่าอุทยานแห่งชาติ ไม่ได้เปิดกว้างให้เราทำอะไรที่มากมาย อย่างที่เรามโนไปเองในตอนแรก
พอติดตั้งเกมเสร็จก็เริ่มเล่น บอกตามตรงว่า ตอนเริ่มฉาก intro ของเกมยังงงอยู่เลยว่าซื้อถูกเกมหรือเปล่า? เพราะภาพหลังจากเข้า new game มันเริ่มมาเป็นบทบรรยาย (ตัวอักษรล้วนๆ ไม่มีเสียงพูด อ่านอย่างเดียวจ้า) เล่าว่าตัวเอกทำอะไรมาบ้าง มีทางเลือกให้เราเลือกตอบ (มีความรู้สึกว่าวิธีการนำเสนอเหมือนเกมจีบสาวที่เคยเล่นสมัย PS1 อยู่กลายๆ)
พอผ่านเวลาไปสักพัก ตัวเกมจะเริ่มตัดสลับให้เราได้บังคับตัวละคร ออกเดินทางเข้าไปในป่า สอนนู่นนี่ โอเค ค่อยเริ่มเข้าเค้าแล้ว
หลังจากผ่าน intro พอเข้าตัวเนื้อหาเกมหลัก พบว่าวิธีการบังคับเหมือนเกมแนว FPS ทั่วไป คิดว่าคนที่เคยเล่นเกมแนว FPS ในคอมพิวเตอร์มาก่อน คงจับจุดการบังคับได้ไม่ยากเย็นนัก
แต่เอาจริงๆ แล้ว ความเก๋ไก๋ของเกมนี้ที่ทำให้ผมติดอกติดใจ คือการได้พูดคุย ถามตอบกับอีกตัวละครหนึ่งผ่านวิทยุสื่อสาร (Walky Talky นั่นแหละ) ระหว่างเดินไปเดินมาอยู่ในเกม หากเราพบเจอสิ่งที่น่าสนใจ ตัวเกมจะขึ้นสัญลักษณ์ให้เราสามารถรายงานกิจกรรมหรือสิ่งที่พบให้ให้กับอีกตัวละครหนึ่งได้ แม้ตอนเล่นจะต้องเดินคนเดียวในป่าแต่ไม่เหงาเลยสักนิด
วิธีการคุย แค่กดปุ่ม shift ด้านซ้าย แล้วเลือกคำพูดถามตอบส่งไป คล้ายๆ กับเรากด วอ คุยกับเพื่อนสมัยเด็กๆ การคุยกันผ่านวิทยุนี้เองที่ทำหน้าที่ค่อยไกด์ ค่อยๆ บอกเรื่องราว หรือจุดประสงค์ของเกมออกมาทีละนิดๆ ถือว่าผู้สร้างทำออกมาได้อย่างลงตัวและน่าติดตามทีเดียว
มีอยู่หลายครั้งที่เล่นไปสักพัก เราเริ่มเบื่อๆ ไม่รู้จะทำอะไร จะเผลอกดปุ่ม shift ด้านซ้าย พยายามหาเรื่องคุยให้ได้ (แต่บางครั้งก็ไม่มีเรื่องอะไรให้คุยอยู่ดี)
เนื้อเรื่องของเกมไม่ขอเล่า ไม่อยากสปอยล์ และคิดว่าเล่นแบบไม่รู้อะไรเลยแบบผมน่าจะสนุกกว่า
บอกตามตรงว่าเกมนี้ค่อนข้างสั้นถึงสั้นมาก เพราะระหว่างที่เดินเล่นเพลินๆ ในป่า เหตุการณ์ในเกมจะผ่านไปเป็น sequence ตามเหตุการณ์ที่สำคัญต่างๆ เล่าเรื่องเหมือนเป็น log ตามบันทึกของใครสักคน (ถ้านึกไม่ออกว่าเป็นแบบไหน ให้นึกวิธีการเล่าเรื่องแบบหนังเรื่อง Martian เพียงแต่ในเกมนี้เล่าผ่านบุคคลคนเดียว)
พอเล่นไปไม่นาน เผลอแป๊ปเดียวก็จบ เฮ่ย!!! จบแล้วเหรอ? เร็วจริงๆ ครับ
ผมเล่นวันแรกที่ซื้อมาตอนดึกๆ วันที่สองก็กลับมาเล่นหลังเลิกงานอีกชั่วโมง เวลาการเล่นรวมประมาณ 5 ชั่วโมงเท่านั้น
Firewatch ถือว่าเป็นเกมที่ "เพลิน" มากกว่า "สนุก" ใครที่คิดว่ามันจะหวือหวา มีแอ๊คชั่น มีอะไรให้ทำมากมาย คุณคิดผิดแล้วล่ะ
แต่ถ้าใครต้องการเล่นเอาเนื้อเรื่องที่ "คาดเดาไม่ได้" ว่าเกมกำลังจะเล่าเรื่องอะไรกันแน่ หรืออยากเล่นเอาความเก๋ไก๋ วิวสวยงาม วิธีการเล่นแบบชิลล์ๆ และที่สำคัญคือตัวละครไม่มีวันตาย คุณมาถูกทางแล้วครับ
ส่วนใครที่แพ้เกมแนวมุมมองบุคคลที่หนึ่ง (FPS) ที่เล่นทีไรวิ่งไปอ้วกตลอด ผมว่าเกมนี้อาจไม่สร้างปัญหาการเวียนหัวมึนหัวให้คุณขนาดนั้น อยู่ที่คุณบังคับหน้าจอมากกว่า
และสำหรับใครที่มองหาเกมที่ใช้วิธีการเล่าแบบนอกกระแสหน่อยๆ อินดี้นิดๆ ผมว่าเกมนี้คุณไม่น่าพลาด
ให้คะแนน
คะแนนรวม Firewatch - 7/10
Comments
ภาพสวยมาก
เล่นกะจอใหญ่ๆน่าจะฟิน
บุคคน => บุคคล
ผมว่าจุดเด่นของเกม นอกจากกราฟิกที่สวยใช้ได้แล้ว ก็คือบทสนทนานี่แหละครับ ผมว่าคนแต่งบทใส่รายละเอียดมาดี การพูดคุยผ่าน Walky-Talky กลายเป็นความเพลินอย่างนึงระหว่างเล่นเลย แถมยังอธิบายบุคลิกของตัวละครผ่านการพูดคุยได้ดีด้วย
ผมไม่ได้เล่น แต่ดู Cast ฝรั่งหลายคนหลายรอบมาก สนุก เพลินดีครับ (ส่วนตัวเล่นหรือดู FPS นานๆ ไม่ได้ปวดหัวจะอ้วก)
อาการเดียวกันครับ
อปวดหัวจี๊ดดด เล่นได้ไม่นานจริงๆ แต่อ้วกครั้งเดียว
สมัยเพลวันมีเกมส์นึงดูเพื่อนเล่นก็อ้วกแตกละ ทั้งๆที่เป็นบุคคลที่ 3 (แต่จอบุคคลที่ 1) 555+
คล้ายๆ the stanley parable?
ไม่เคยเลยครับ ตอบไม่ได้เลย
ถ้าไปดูในหน้า steam store page ของเกมจะเห็นเขียนไว้ง่ายๆชัดเจนครับ ขออณุญาตก๊อบมา
ต้องไปเล่น journey
สุดติ่งเลย ทั้งเกมไม่มีคำพูดอะไรเลย ดีไม่ดีตัวอักษรมีแค่ ชื่อเกมตอนแรก กับ credit อย่างเดียว