Western Digital กำลังพัฒนาฮาร์ดดิสก์ความเร็ว 20,000 รอบต่อนาที เนื่องจากโดนแรงกดดันจากเทคโนโลยี SSD ที่กำลังได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยๆ
นักวิเคราะห์คาดว่า SSD น่าจะถูกลงถึงระดับที่ใช้งานกันแพร่หลายภายใน 12-18 เดือนข้างหน้า ดังนั้นผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์อย่าง Western Digital จึงต้องรีบพัฒนาเทคโนโลยีเก็บข้อมูลที่ทัดเทียมกัน โดยอาศัยขนาดและราคาของฮาร์ดดิสก์ที่ดีกว่า แล้วเพิ่มด้านความเร็วในการอ่าน-เขียนข้อมูลขึ้นไปอีก
รายละเอียดของฮาร์ดดิสก์ 20,000 RPM ที่มีในตอนนี้คือ หน้าตาเหมือนไดรฟ์ VelociRaptor ที่ขายอยู่ในปัจจุบัน มีทั้งแบบ 2.5 และ 3.5 นิ้ว ที่น่าสนใจที่สุดคงเป็นตัวไดรฟ์จะเงียบมาก แม้ว่าหมุนด้วยความเร็วสูงก็ตาม กำหนดเปิดตัวและวางขายยังไม่ระบุครับ
ที่มา - bit-tech.net ผ่าน Engadget
Comments
"มีทั้งแบบ 2.5 และ 2.5 นิ้ว" ? 2.5 และ 3.5 ตามที่มาครับ
My Blog -> http://paiboonpa.wordpress.com
แก้แล้ว ขอบคุณครับ
อยากอยู่รอดต้องทำแบบนี้สิ ไม่ใช่ออกมาปิดถนนให้คนลำบาก
ผมพูดเล่นนะ - -''
@TonsTweetings
งง แล้วทำไมไม่พัฒนา SSD ล่ะ
ตอนนี้ SSD กำลังเข้ามาขอส่วนแบ่งการตลาด เจ้าที่ก็ต้องปล่อยของที่กั๊ก หรือว่าที่พัฒนาแล้วแต่ยังไม่ได้ใช้ออกมา ถ้าไม่รีบปล่อยเพื่อรักษาตำแหน่ง สิ่งที่คิดค้นไปก็เสียเปล่า เพราะปล่อยทีหลังก็สายไปแล้ว
อีกอย่าง เทคโนโลยีของ Hard disk มันต่างกับ SSD โดยสิ้นเชิง การที่บริษัท Hard disk ไปผลิต SSD เหมือน โตโยต้ามาทำมือถือ ต้องเริ่มใหม่หมด ตั้งบริษัทใหม่หรือแยกบริษัทย่อยออกมาจะง่ายกว่า
ยังไง Hard disk ก็ยังไม่ถึงทางตัน ยังเหลือทางให้สู้กับ SSD ได้อีกนานโขอยู่ เพราะเทคโนโลยีที่พร้อมแล้วแต่ยังไม่ได้เอามาใช้มีอีกเยอะ และยังไง SSD ก็ยังมีต้นทุนแพงกว่าไปอีกหลายๆๆปี และ Hard disk ก็จะอยู่คู่กันไป และแยกประเภทการใช้งานได้ชัดขึ้นครับ
เพื่อนกำลังเขวี้ยง SuperTalent 32G มาจากเมกา ไว้ลองแล้วจะมาบอกเล่ากันครับท่าน มันใช้แล้วบอกว่าเปิดปุ๊บติดปั๊บเลย (โปรแกรมนะ)
ขอบคุณครับ
ใช้เทคโนโลยี Direct drive เหมือนเครื่องซักผ้าป่าว ถึงได้เร็วและเงียบ หุหุ
จริงๆคงมีเทคโนโลยีตัวนี้ไว้แล้วละ แต่เก็บไว้เป็นไพ่เด็ด เอาไว้ใช้กับคู่แข่งรายอื่น
บังเอิญว่าเทคโนโลยี SSD มันไปไว เลยต้องงัดไพ่เด็ดออกมาใช้กู้สถานการณ์
ปล.แต่ในท้ายสุดแล้ว SSD ก็ต้องกลืน HD อย่างแน่นอน (หวังว่าคงแอบพัฒนา SSD เป็นของตัวเองเหมือนกันนะ ไม่งั้นคงลำบากแย่เลย)
อยากรู้ Interface แฮะ ถ้าเป็น SATA จะกิน SCSI ได้ไหมนะ ตอนนี้เท่าที่ทราบ HDD ฝั่ง SCSI จะเร็วสุด 15k ส่วน SATA 10k (คือ raptor นั่นเอง)
แต่ดูๆ แล้ว ถ้าจับกลุ่มผู้ใช้ทั่วไป ก็น่าจะเป็น SATA นะ เจ๋งๆๆ
---------- iPAtS
iPAtS
ค่อนข้างมั่นใจว่า SSD กลืนเร็ว เหมือนจอ LCD
งั้นแปลว่านานมากใช่ไหมครับ
LCD เริ่มผลิต ใช้กัน ปี 1970
http://en.wikipedia.org/wiki/LCD#Brief_history
http://tomazzu.exteen.com
ใช้ในเครื่องคิดเลขมาก็ไม่ต่ำกว่า 20 ปีแล้วนะครับ
ไม่ตายไม่เลิก
จริงๆ flash ก็อยู่กับเรานานมากแล้วนะครับ
ถ้านับพวก card ต่างๆ ด้วย ^^
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
LCD ทำมานานมากแล้ว แต่บูมช่วงหลังๆนี้เองครับ
สิ่งที่ทำให้รู้สึกว่าจอ LCD กลืน CRT และดูเหมือนพัฒนาได้อย่างรวดเร็วในช่วงหลังๆ โดยหลักๆ ไม่ใช่เพราะว่ามันดีกว่าครับ แต่เพราะว่ามันถูกกว่าเยอะ (ต้นทุนการผลิตนะครับ ไม่ใช่ราคาขาย) ตั้งแต่คิดวิธีทำ Mother Glass ขนาดใหญ่แบบก้าวกระโดดได้ ก่อนหน้านั้นมันแพงกว่า
สังเกตได้ว่าหลังจากทำ mother glass ใหญ่ๆได้ ทุก บริษัทที่ทำจอ พร้อมจะเปลี่ยนโดยรวดเร็ว แต่งงานบริษัทกันเป็นว่าเล่น แต่ SSD ยังไม่ถึงจุดนั้นครับ
การเพิ่มความจุของ SSD ให้เป็น 2 เ่ท่าคือการเพิ่มต้นทุนไปอีก 2 เท่า
แต่การเพิ่มความจุของ HDD แค่เพิ่ม Platter เข้าไปอีกแผ่นสองแผ่น ซึ่ง Platter ถูกกว่าเยอะ
SSD ต้องมีเทคโนโลยีการผลิตใหม่เข้ามาถึงระดับหนึ่งก่อนครับ ถึงจะเริ่มสู้ในเรื่องต้นทุน price/GB ได้ ที่เห็นเร็วๆนี้ก็ hynnix ที่ทำ triple level cell
อย่างที่บอกครับว่ามันจะพัฒนาไปคนละทาง HDD จะไม่แข่งเรื่องความเร็ว เพราะยังไงก็สู้ไม่ได้แน่นอน
ขนาด HDD SAS 15k rpm ยังสู้ SSD ที่ช้าๆไม่ได้เลยครับ
ในแง่ผู้บริโภค ที่บางทีใช้ความจุยังไงก็ไม่หมด price/GB อาจไม่เป็นปัญหา
เขาน่าจะยอมจ่ายเพื่อความเร็ว, การประหยัดไฟ, และน้ำหนักที่เบา นะคับ
ต้องดูความจุต่อราคาด้วยไหม?
SAS มีแบบ 15 krpm ดวย
ปีหน้าโรดแมปเครื่อง Server บางยี่ห้อจะบูทด้วย SSD แล้วนะครับ เพราะความจุประมาณ 32 GB ก็เพียงพอบูธ Server หลายๆประเภทแล้ว เมื่อถึงเวลานั้นแล้ว เครื่อง Server ีที่ใช้งานบางประเภทก็จะไม่จำเป็นต้องทำ Raid-0 เพื่อ Redundant อีก เผลอๆทำออกมาเป็น Slot SD Card ด้วยซ้ำอย่าทำเป็นเล่นไป ตอนนี้ VMware 3i ก็ใช้ Thumbdrive ขนาด 32MB ก็บูธได้แล้วนะครับ \(@^_^@)/ M R T O M Y U M
อย่างไรผมก็ยังมองมายังต้องมี RAID อยู่่่ครับ เพราะไม่มีอุปกรณ์อะไรที่ไม่เสีย ยิ่งถ้าการเสียหายเป็นส่วนที่สำคัญมากอย่าง OS ยิ่งต้องมีสำรอง และที่สำคัญแฟลชทุกประเภทมีข้อจำกัดเรื่อง write cycle ยิ่งเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสนใจกับงานที่ต้องมีการเขียนข้อมูลบ่อย ดังนั้นการยืดอายุการใช้งานต้องเป็นหน้าที่ของคอนโทรลเลอร์หรือระบบไฟล์
ไม่ตายไม่เลิก
ผมยังมองว่าความน่าเชื่อถือในการเก็บข้้อมูล SSD ยังสู้กับ HDD ไม่ได้ไปอีกสักพักใหญ่ ๆ ครับ HDD มีรองรับเรื่องการกู้ข้อมูลทั้งจาก Software และ Hardware ซึ่งบริษัทส่วนใหญ่ที่ใส่ใจด้านข้้อมูลก็จะใช้ HDD กันต่อไป และใช้ SSD ในด้าน OS หรือพวกระบบ Bootstraping แทนมากกว่า เหมือน Tape Backup ที่ยังมีใช้กันอยู่ในบริษัทขนาดกลาง-ใหญ่ ด้วยเหตุผลด้านการจัดเก็บและราคา Tape ที่ถูกกว่า HDD (อย่างบริษัที่ผมเพิ่งออกมาก็เพิ่งซื้อ Tape มาใช้ Backup ระบบ)
ผมมองว่ามันจะถูกเอาไปใช้ในที่ที่เหมาะสมกับตัวมันมากกว่าครับ
Ford AntiTrust’s Blog | PHP Hoffman Framework