GrabBike เพิ่มวิธีการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตและบัตรเดบิตแล้ว สามารถเรียกรถมอเตอร์ไซค์หรือส่งเอกสารได้โดยไม่ต้องใช้เงินสด
วิธีการใช้งานเพียงแค่เพิ่มบัตรไว้ในระบบเพียงครั้งแรกครั้งเดียว แล้วเลือกวิธีจ่ายเงินเป็น GrabPay ซึ่งสามารถใช้ได้กับทั้งรถลีมูซีน (GrabCar) และรถแท็กซี่แบบ 7 ที่นั่ง (GrabTaxi 7-Seater) และล่าสุดกับบริการเรียกรถมอเตอร์ไซค์ (GrabBike)
ในโอกาสที่ GrabBike เปิดให้ชำระค่าบริการผ่านบัตรเครดิตหรือเดบิต ทาง GrabBike จัดหนักมอบส่วนลดสูงสุด 100 บาทต่อเที่ยวให้ผู้ใช้ทุกคนทุกเที่ยวที่เรียก GrabBike ทั้งการโดยสาร (Ride) และส่งเอกสาร (Delivery) ระหว่างวันที่ 25 เมษายน - 1 พฤษภาคม 2559 ใช้กี่ครั้งก็ได้โดยไม่จำกัดจำนวนเที่ยว และไม่ต้องใส่รหัสโปรโมชั่น เพียงแค่เลือกวิธีการจ่ายเงินเป็น GrabPay เท่านั้น
วิดีโอสำหรับวิธีการใช้และวิธีการเรียกรถด้วย GrabPay
Comments
เคยใช้ Grabpay กับมอเตอร์ไซค์อยู่แล้วไม่ประทับใจเลยครับทั้งสองครั้ง
ครั้งแรก นั่งแล้วงงกับคนขับว่าตกลงต้องจ่ายอย่างไร บนแอพโทรศัพท์ก็เขียนไม่ชัดว่าต้องให้จ่ายเป็นแบบไหน ทำให้ต้องเสียทั้งเงินสด และถูกตัดบัตรในเวลาเดียวกัน แต่ยังดีเมล report แล้วตอบกลับคืนเงินมาให้
ครั้งที่สอง เรียกมาแล้วระหว่างรอ จู่ๆ ก็ขึ้นว่าขอบคุณที่ใช้บริการและให้เรทติ้งกับคนขับเฉยเลย (ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ขึ้นเลย) ไม่รู้ว่าคนขับกดมั่วหรือเปล่า แต่ว่าผมก็โดนตัดบัตรเครดิตไปอีกเช่นเคย ก็ report อีกทีแต่คราวนี้หายไปเลย
เงินไม่เยอะอะไรแต่มันเสียความรู้สึก ตอนนี้เลยไม่อยากเรียกเลยครับ ทั้งๆ ที่ตอนจ่ายเงินสดผมว่าโอเคครับ
จัดการกับคนขับด้วย เมื่อวานเรียกกดรับแล้ว โทรมายอกว่ารับที่ไหน???? บอกว่าดูสิรับที่ไหน ก็บอกว่าผมไม่มีแผนที่ เราก็ไม่กดยกเลิก รอไป ไม่มารับ โทรก็ไม่รับ สรุปมันกดยกเลิก เสียความรู้สึก เสียเวลา
blog
ฝาก รีวิว Grab bike ผมด้วยครับ
blog
ผมอ่านรีวิวแล้วเห็นข้อดีข้อเสียเลยครับ เขียนแบบนี้ชอบมากเลยครับ
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
บางทีคนขับก็ไม่สามารถดูตำแหน่งเราได้ทันทีนะครับ มอไซต์ด้วยคุณควรบอกเขาจุดสังเกตุให้เขานะครับ คุณไม่ผิดที่ไม่บอกแต่มันไม่ลำบากขนาดนั้นที่จะบอกว่าเขาควรไปรับที่ไหนครับเพราะเชื่อgps มากไม่ได้ ผมเคยวิ่งไปๆมาๆหาแท็กซี่เพราะแแพนี้เหมือนกันตลกดีจอดอยู่ใกล้ๆเดินไปไกลเลย
คือผมบอกแล้วครับ แต่โทรกลัลก็ไม่รับ สองครั้ง แล้วกดยกเลิก ไม่มีคำอธิบาย
blog
บางทีคนขับก็ไม่สามารถดูตำแหน่งเราได้ทันทีนะครับ มอไซต์ด้วยคุณควรบอกเขาจุดสังเกตุให้เขานะครับ คุณไม่ผิดที่ไม่บอกแต่มันไม่ลำบากขนาดนั้นที่จะบอกว่าเขาควรไปรับที่ไหนครับเพราะเชื่อgps มากไม่ได้ ผมเคยวิ่งไปๆมาๆหาแท็กซี่เพราะแแพนี้เหมือนกันตลกดีจอดอยู่ใกล้ๆเดินไปไกลเลย
ซ้ำครับขออภัย
ลองใช้ดูสี่รอบแล้วครับ ขอพูดตรงๆ เลยนะยอมรับว่าราคาถูกจริง แต่ปัญหาหลักๆ ของ GrabBike นี่ผมว่าเป็นที่คนขับเลย
คนขับนี่ฟีลลิ่งอารมณ์ประมาณวินมอเตอร์ไซต์นี่แหละครับ (ไม่ได้รู้สึกว่าต่างกันมากๆ แบบ taxi vs uberx) คือเห็นหลายคนละจะแนววัยรุ่นห้วนๆ แข็งๆ ที่คนในเมืองอาจจะรู้สึกไม่ชิน ซึ่งผมเข้าใจว่าหลายๆ คนเขาก็เป็นแบบนี้ตามสังคมที่เขาอยู่ แต่พอให้บริการแบบนี้มันก็ต้องปรับตัวนิดนึง และบางทีรู้สึกว่าคนขับดูเข้าใจยากนิดนึง ต้องพยายามอธิบายมากกว่าปกติหน่อย
ปัญหาใหญ่จริงๆ คือหลายคนใช้แอพและแผนที่ได้ไม่คล่องเท่าพวก Uber หรือแม้แต่ Grabtaxi คือบางคนไม่พยายามจะใช้ระบบแผนที่เลยด้วยซ้ำ คือจะใช้วิธีบอกพิกัดแบบปากเปล่ากันเหมือนเดิมซึ่งมันผิดพลาดได้ง่ายกว่า (และก็หลงมาแล้ว ไปรับผิดซอยเพราะเข้าใจเอาเอง ทั้งๆ ที่ผมบอกชื่อซอยถูกจริง) ที่กดปักหมุดไปนี่ไม่เป็นผลหรอกครับ เอาไว้คำนวณราคาเฉยๆ สุดท้ายคนขับก็โทรมาถามตำแหน่งคุณเอง ต้องมาพยายามอธิบายเส้นทางอีกทั้งๆ ที่สมัยนี้การบอกตำแหน่งผ่านพิกัดใน Maps มันแม่นและเร็วกว่ากันเยอะ
บางทีก็คิดถึงพวก Uber กับ GrabTaxi นะที่ปักหมุดชิลๆ แล้วคนขับก็ตามมารับถูกถึงที่ แต่สำหรับ GrabBike ไม่ง่ายอย่างนั้นเลย
มันก็จะต่างจากวินมอไซต์ปกติด้วย พวกนี้เค้าวิ่งเป็นถิ่นและชินทางอยู่แล้ว ระบบแผนที่ไม่จำเป็นเลย แต่กับ GrabBike ผมว่ามันจำเป็นต้องใช้แผนที่มาก คนใช้แอพนี่เรื่องการใช้แผนที่พวกนี้นี่คล่องอยู่แล้วแหละ ปักหมุกได้เป๊ะและคาดหวังว่าจะมารับถูก แต่พอคนขับไม่ดูแล้วโทรถามซะนี่ มันก็หงุดหงิดนะ
เข้าใจว่ามอ'ไซต์มันไม่เหมือนรถยนต์ตรงให้มือถือนำทางไม่ได้แบบพวก uber ซึ่งบางทีมันก็ไม่ต้องทำถึงขนาดนั้น แค่อ่านแผนที่ ตำแหน่งเป็น แล้วรู้ว่าอยู่ตรงไหน จะขับไปยังไง ผมว่าพอแล้ว
คนขับบางคน ยิงเบอร์มาให้โทรกลับก็มี....เอิ่มนะ คือผมไม่มีปัญหาหรอก โปรโทรออกเหลือเฟือ เข้าใจด้วยว่ารายได้เค้าไม่มาก แต่ของแบบนี้มันเป็นมารยาทครับ เรื่องนี้ผมถือนะ
สิ่งที่อยากให้ GrabBike ปรับปรุงคือให้มีการอบรมที่จริงจังหน่อย โดยเฉพาะการใช้แอพ และการใช้แผนที่บอกพิกัดให้เป็น โดยไม่ต้องโทรหาลูกค้าเพื่อให้ลูกค้าอธิบายพิกัดอีก และเรื่องมารยาท ความนุ่มนวล การสื่อสารโดยใช้คำที่เหมาะสม ก็เป็นสิ่งที่อยากให้มีการอบรมให้เป็นไปในแนวทางเดียวกันครับ