Shuhei Yoshida หัวหน้าฝ่าย PlayStation ของโซนี่ ได้เข้ามานั่งคุยในรายการ Game Informer Show โดยเมื่อเขาได้รับคำถามว่า PlayStation 5 จะมีหน้าตาออกมาเป็นอย่างไร Yoshida กลับบอกว่าคำถามที่ถูกน่าจะเป็น “ถ้า” (If) มากกว่า
ท่าทีของ Yoshida และข่าวลือเกี่ยวกับ PlayStation 4K (หรือ PS4Neo) แสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมเกมคอนโซลในอนาคตอาจจะเปลี่ยนไป เนื่องจากเราเริ่มจะไม่เห็นความแตกต่างกันของเกมระหว่างเจอเนอเรชั่นอีกต่อไปแล้ว ต่างกับก่อนหน้านี้ เช่น สมัย PlayStation มาเป็น PlayStation 2 ที่เราเห็นความแตกต่างระหว่างเจอเนอเรชั่นค่อนข้างมาก
นั่นหมายความว่า PlayStation 4K ที่กำลังลือกันอยู่นี้ อาจจะเป็นอนาคตของอุตสาหกรรมวิดีโอเกมคอนโซล ที่ไม่ต้องมาทำแพลตฟอร์มใหม่ออกมาเรื่อย ๆ ทุก ๆ 5-10 ปี และเราอาจจะได้เห็น PlayStation 4.6, 4.7, และ 4.8 ต่อ ๆ ไป โดยที่ตัวเกมนั้นจะรองรับ PlayStation ทุกรุ่นย้อนไปกลับจนถึง PlayStation 4 รุ่นแรก
ทางฝั่งนักพัฒนาอาจจะต้องเสียเวลาพัฒนาเกมให้เข้ากับคอนโซลหลายรุ่นมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ต้องมาเสียเวลาเรียนรู้แพลตฟอร์มใหม่ ๆ เหมือนแต่ก่อนทุกครั้งเมื่อมีการเปลี่ยนเจอเนอเรชั่นของคอนโซล
ซึ่งนั่นก็แปลว่าเครื่องเกมคอนโซล ก็จะไม่ต่างกับเกมพีซี ที่รองรับเครื่องพีซีทุกเครื่อง การแสดงผลของเกมจะสวยงามกว่า ละเอียดกว่าหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสเปคของฮาร์ดแวร์ แต่ทุกสเปคฮาร์ดแวร์ ก็จะสามารถเล่นเกมเดียวกันได้
ทางด้านประโยชน์สำหรับผู้เล่นเกม ก็คือเกมเก่า ๆ ก็สามารถนำมาเล่นบนเครื่องคอนโซลใหม่ ๆ ได้เลยโดยที่ไม่ต้องรอเวอร์ชัน Remaster
อย่างไรก็ดี Yoshida ยังไม่ได้ออกมาให้ความเห็นอะไรในเรื่องนี้ และการพูดคุยกันครั้งนี้อาจจะเป็นเพียงแค่การหยอกล้อกันเฉย ๆ
ที่มา - Forbes Games
Comments
แต่มันก็ทำให้ผู้ใช้ตัดสินใจเปลี่ยนยากขึ้นเหมือนกัน เพราะรุ่นเก่าก็เล่นได้
โซนี่ก็หวังกำไรจาก HW ยากขึ้นนะ
เท่าที่ทราบ ทั้ง sony และ ms ต่างก็ขายเครื่องต่ำกว่าต้นทุนนะ (สมัยก่อน)
ปัจจุบันนี้เดาว่าคงกำไรต่อเครื่องดีขึ้นจากการใช้หน่วยประมวลผลจาก amd
ปกติเขาก็หวังจากส่วนแบ่งการขายเกมนี่ครับ พึ่งพากันทั้งคนขายเครื่องกับคนทำเกม
ถ้ามองในมุมของ PC ทุกวันนี้ก็จะมีคนพยามซื้อเครื่องใหม่หรือ upgrade อยู่เรื่อยๆ
เพราะว่าเครื่องเดิม performance ไม่ถึง
เกมใหม่ๆออกมาก็จะ "แดก" performance มากขึ้นๆ ถ้าอยากเล่นเกมใหม่ๆก็ต้อง upgrade PC ซะก่อน
PS ก็อาจจะมาแนวนี้ก็เป็นได้
PC ชัดๆ
หลอด Gaben มองข้ามช็อตไปแล้ว
เห็นจอยเกปแล้วขอบอกว่ามองไม่ขาดสักนิด
ถ้าอย่างนั้น Console จะต่างกับ PC ยังไง เพราะตอนนี้ Console ชูจุดเด่นตรงที่ ซื้อครั้งเดียวเล่นได้ภาพสวยๆ ในระดับนึงเลย ในขณะที่ PC ต้องจ่ายเงินแพงกว่า Console ถ้าต้องการภาพสวยเท่ากัน
ผมมองว่าคอเกมยินดีจะจ่ายแพงขึ้นเพื่อภาพที่สวยกว่าครับค่าเงินฝั่งเขาPS4ไม่แพงเลย แต่ที่เล่นกันน่าจะเป็นเพราะExculsive เหมมากกว่า ซึ่งxbox น้อยกว่าแถมบางเกมคลอสกับพีซีอีก คนที่เล่รอยู่แล้วก็ต้องเลือกพีชีที่ได้ภาพสวยกว่าต่อจอยได้อีกต่สงหาก
ผมว่ามันก็ยังเป็นแบบนี้ไปอยู่นะ
ลองคิดว่า PC มีเป็นพันเป็นหมื่น Config แถมมี Overhead มากมายทั้ง OS หนาๆ / Driver / ชุดคำสั่ง / Background Process / Service
ถ้าเทียบกับ Console นี่มี Config เดียว (ในแต่ละ Gen) สั่งทีเดียวผลิตทำเป็นล้านเครื่องขายราคาทุน แถม Setting แบบ Optimize รีดภาพมาขั้นสุดแล้ว (ไม่ต้องปรับ Setting) ยังไงก็คุ้มกว่าอยู่
เรื่องเกมนักพัฒนาอาจจะต้องรับภาระ Support หลายเครื่อง แต่เชื่อว่ามันมีอายุรองอยู่ รองรับเกมตั้งแต่ Gen แรก เพราะ Spec สูงกว่าเดิมไม่มีเหตุผลที่จะเล่นไม่ได้ ส่วนเกมใหม่ๆ อาจจะย้อนไปไม่เกิน 3 Gen (เพราะตกรุ่น)
ลองคิดว่าปรับ Life Cycle สัก 3 ปี ผมมองว่าโอเคนะ ไม่ต้องเปลี่ยน Gen แล้วล้มกระดานใหม่ไปเจอปัญหา "ไม่มีเกมลง" แบบเดิมๆ :)
+100 ตรง "ไม่ต้องเปลี่ยน Gen แล้วล้มกระดานใหม่ไปเจอปัญหา "ไม่มีเกมลง" แบบเดิมๆ :)"
ยังเป็นแพลตฟอร์มที่มี "ไม่กี่" เวอร์ชั่นครับ ต่อให้อัพเกรดทุกปีก็มีเครื่อง PS 4.0 4.1 4.2 4.3 ไปเรื่อยๆ ถ้าซัพพอร์ตย้อนหลัง 3-4 ปีก็มีเครื่องต้องทดสอบแค่ 3-4 รุ่นเท่านั้น
นึกภาพ iPhone vs. Android ครับ
lewcpe.com, @wasonliw
มันหมดยุคไปสักพักแล้วนะ มุกที่ว่า ซื้อครั้งเดียวได้เล่นภาพสวย
Console เดียวนี้หมดยุคแผ่นล่อแผ่นเทียมกันแล้ว ถ้าจะเล่นจริงๆต้องซื้อแผ่นแท้ พร้อมสมัครออนไลน์
ส่วน PC จ่ายแพงกว่า ตอนนี้คุ้มค่ากว่าแล้ว เพราะเกมแท้เริ่มถูก แถมไม่ต้องสมัครออนไลน์ เอาเงินส่วนนี้ไปอัพเครื่องระดับสูงได้
อีกอย่าง เดียวนี้ PC ไม่จำเป็นต้องอัพเครื่องระดับ Top นักก็ได้นะ เครื่องกลางๆเล่นได้ลื่นกว่า Console อย่างน้อยก็ระดับ 1080p ในขณะที่ Console สมัยนี้ยังแหงกอยู่ที่ 720p หลายๆเกม
แถมภาพก็ไม่แตกต่างกัน
สำหรับ Exclusive เป็นสิ่งที่ล่อใจ แต่ก็ล่อได้ไม่นานเพราะตอนหลังก็มาลง PC และเครื่อง console คู่แข่ง
@fb.me/frozenology@
ทางปฏิบัติจริงไม่เป็นเช่นนั้นนะครับ หลายคนย้ายมา PS4 เพราะเกมเดียวกันบน PC มี "บอท" เยอะ
@TonsTweetings
จริงๆอาจจะเป็นแค่การเลี่ยงตอบเรื่อง PS5 เฉยๆรึเปล่า เพราะ 4k ยังไม่ขาย และคนก็รู้แล้วว่ามันเป็นแค่ minor change ถ้าบอกว่า 5 ยังจะออกอีก คนก็ไม่ซื้อ 4k รอไปซื้อ 5 ดีกว่ามั้ย
+1
+555
ขี้โม้ มันต้องมี PS5 อยู่แล้ว
เปลี่ยนเป็น SonyTV และ cloud based gaming
Playstation กลายเป็นแค่ app ตัวนึง
The new PlayStation แน่ๆ
ผมว่างาน optimize จะทำได้แค่ไหนกัน ที่จะแคลมว่าสร้างเกมเดียมแล้วเล่นได้ทุกเครื่องเนี้ย ขนาด PC เกมใหม่ๆ เครื่องคอมแค่ปี2-3 ก็ปรับได้แค่ low ถึงจะพอเล่นได้ใน 30fps
The Dream hacker..
เปลี่ยนไปออกแบบ apple ออกทุกปีก็มีคนเปลี่ยนทุกปี
เกรงจะเป็นการผลักให้บริษัทเกมหันไปพัฒนาเกมลง PC มากขึ้นนะครับ โดยเฉพาะพวกบริษัทใหญ่ๆ ที่แข่งขันกันเรื่องเทคโนโลยี พวกกราฟฟิคและระบบต่างๆ ซึ่งถ้าบอกว่ามันจะไม่มี PS5 อีกต่อไปแล้วแต่เป็น minor change เกรงว่าบริษัทเหล่านี้จะไม่เอาด้วยเพราะการ optimize ลงมาให้คอนโซลแสดงผลได้อย่างที่ต้องการมันยากกว่าการทำลง PC ซึ่งสเปคไม่มีจำกัดมากๆ แถมเกมยังไงตอนทำมันก็ทำบน PC อีก (ทุกวันนี้คอนโซลก็ยังโดนลิมิตอยู่แค่ 30fps อยู่เลย)
เปลี่ยนไปออกแบบ apple ออกทุกปีก็มีคนเปลี่ยนทุกปี
มานั่งมองในมุมนึง ถ้า Sony จะคิดจะเป็นผู้นำตลาดยาวนาน โดยอาศัย exclusive games ก็ไม่ได้แย่ และมันคงมีเรื่อยๆ แต่คงคิดยาวต่อไปว่า เกมเก่าจะให้เกิด remastered เรื่อยๆ แบบเดิมก็คงได้แหละ แต่หากฝั่ง Microsoft กลับลำทำแทนไปแล้วมันโอเค ทุกคน win-win จะกลายเป็น Sony โดนโดดเดียวทันที เพราะคอเกมคงเทไปฝั่งนั้นแทน เพราะในมุมนึงก็เป็นเรื่องกำลังเงินคนที่เล่นเกมที่ไม่อยากต้องซื้อเกม remastered อีกหลายๆ รอบ Sony เลยต้องรีบจัดเรื่องนี้ออกมาก่อน เพราะ Microsoft ก็มีทุนในเรื่องพวกนี้อยู่เยอะจาก Xbox One เล่นเกม Xbox 360 ได้
ซึ่ง Sony คงมองว่าใช้ชุด Framework/SDK คล้ายๆ เดิม (อัพเกรดไปเรื่อยๆ) แต่ให้รองรับรุ่นใหม่ๆ ที่ออกมา แล้วสุดท้ายก็ปิด support รุ่นเก่าตาม life cycle ปรกติไปมากกว่า อาจจะไม่เหมือน PC 100% แต่ใกล้เคียงกับ iPhone มากกว่า คือทำ H/W สเปคเดียวมารุ่นนึง ออกทุกๆ 5-6 ปีแล้ว SDK ก็ support ตามไปจนกว่าจะ EOL ซึ่งกินเวลาประมาณ 10 ปี แทน
เอาจริงๆ ผมก็ไม่ชอบวิธีแบบนี้หรอก คือมันยุ่งยากตอนซื้อเกมมานั่งส่องเกมว่าตัวไหนรองรับรุ่นไหน แต่ถ้ามันไม่หลากหลาย 100 แบบพันรายละเอียด ก็พอรับได้ และเข้าใจเหตุผลเพราะถ้าไม่ทำคู่แข่งก็ทำ ซึ่งเสี่ยงต่อสถานะการเป็นผู้นำตลาด ณ ตอนนี้
ผมว่ามันไม่เหมือนระบบ Android/iOS เลยสักนิดเดียว
มันเหมือนรูปแบบเกมบน PC มากกว่า สมมติ PS ออกรุ่น 5,6,7..10 โดยปรังปรุง Hardware ทุกปี แต่ให้คง backward compatible เอาไว้ ภายในปรับปรุง CPU, VGA ให้แรงขึ้นเรื่อยๆ (บางทีอาจจะ upgrade ได้เองด้วย) มันก็จะเกิด platform เกมที่แข็งแกร่งขึ้นมา เกม gen4 เอาไปเล่นบน gen5 ก็ยังเล่นได้เหมือนเดิมไม่ต้องวิ่งผ่าน emu หรือเกมของ gen 5 เอามาเล่นบน gen4 ได้ แต่หน่วงนิดๆ หรือปรับความละเอียดได้ต่ำๆ ฯลฯ
ผมว่ามันเหมือน iOS มากกว่า Android (และเหมือน PC น้อยกว่าทั้งสองตัว)
ผมเห็นด้วยกับ lew ข้างบน (เอ๊ะ หรือ mk ขออภัยครับลืมกระทันหัน) ตรงที่ต่อให้มี PS4 ออกมาปีละรุ่น หรือสามปีรุ่น มันก็ยังมีจำนวนรุ่นน้อยกว่า Android ที่ใครจะสร้างก็สร้างได้ และน้อยกว่า PC ที่ผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนสเปคได้ตามใจตัวเองมาก ดังนั้นผู้ผลิตสามารถเลือกที่จะปรับตัวเลือกกราฟิคให้กับแต่ละแพลตฟอร์มได้เอง สามารถควบคุม UX ได้ ซึ่งนั่นดีกว่าผู้ใช้เลือก max ทุกอย่าง ภาพออกมาสวยงามแต่ทำงานได้ต่ำกว่า 1fps ทั้งนี้เฟรมเรตเป็นหนึ่งใน UX ที่ผู้ผลิตเกมจำเป็นจะต้องควบคุมเหมือนกัน รวมทั้งสามารถทีจะจำกัดเครื่องที่จะเล่นได้หรือไม่ได้ได้ด้วยเช่นกัน
ส่วน Emulator ตราบใดที่ยังใช้ platform เดียวกันแต่อัพเกรดไปเรื่อย ๆ (โมเดลเดียวกับ A7, A8, A9, A9x บลาๆ) ก็ไม่จำเป็นต้องทำ Emulator
จุดแข็งเมื่อเทียบกับ PC คือ ผู้ผลิตสามารถที่จะ focus กับ platform ได้ สามารถที่จะออก console version ได้ทันทีหลังจากที่เกมเสร็จ แล้วค่อยเริ่มพัฒนาส่วน PC ที่ต้องการการทดสอบเยอะ ๆ ทีหลังได้ (ซึ่งหลาย ๆ เกมตอนนี้ก็ทำแบบนี้กันแล้ว)
ย่อหน้าสุดท้ายนี่กลับเห็นว่า คอนโซลจะเป็นภาระกับผู้ผลิตซะมากกว่านะครับ เอาเคสล่าสุดอย่าง FFXV ก็ได้ จาก FF Versus XIII ซึ่งแพลนที่ผู้ผลิตคิดไว้ติดข้อจำกัดเรื่องฮาร์ดแวร์บนคอนโซลจนทำให้ไม่สามารถสร้างออกมาได้ รอกันมาอีกนานจนรีบู๊ตใหม่เป็น FFXV ที่ฮาร์ดแวร์บนคอนโซลสามารถตอบสนองได้แล้ว แต่ก็ยังติดข้อจำกัดหลายอย่างจนต้องลดมาเป็น 30 fps แถม optimize อะไรต่อมิอะไรอีกวุ่นวายมากๆ ซึ่งถ้าทำบน PC มันแทบจะผลักภาระส่วนนี้ไปให้ผู้เล่นได้เกือบทั้งหมดเลย สำคัญกว่านั้นคือเกมมันพัฒนาบน PC ครับ การทดสอบความเข้ากันได้ทำได้ง่ายกว่าอยู่แล้ว ที่ผู้ผลิตยังกั๊กไม่ยอมหันมาเล่น PC เต็มตัวก็เพราะความไม่เชื่อมั่นในแพลตฟอร์มเฉยๆ นั่นล่ะ กลัววันดีคืนดีมันจะมี RELOADED เอาไปทำ crack ให้เสียรายได้ไป เทียบกับคอนโซลซึ่งระบบป้องกันตรงนี้แข็งมากแล้ว
PC มันมี fragmentation ที่สูงมาก สูงกว่า Android เยอะ แต่ iOS น่าจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดกว่าว่า Console กำลังทำตามแนวทางนั้น เพราะ H/W จำกัดรุ่นไว้ชัดเจนว่า เจนไหน ใช้ H/W โดยผู้ผลิตตัว platform เองทั้งหมด ในที่นี้ก็คือ Sony ซึ่งหากเปลี่ยนคำว่า Sony เป็น Apple ก็จะเห็นชัดว่ามันคล้ายกันมาก และการทำแบบนี้มันไม่ได้วิ่งผ่าน emu ครับ มันวิ่ง native หรืออย่างมากที่สุดคือทำงานบน VM แบบ Xbox 360 ทำงานบน Xbox One นั้นแหละ ซึ่งหาก PS4 จะเป็น platform เกมที่สร้างมาเพื่อขายเครื่องและเนื้อหาต่อไปยาวๆ การทำแบบนี้มันทำให้เจนต่อไปที่ขาย ขายออกได้ง่ายมากขึ้น เพราะไม่ต้องรอเกม remastered สร้างเครื่องมาขายถี่ๆ แทนได้ง่ายขึ้น
ปัจจุบันเทรนการเล่นเกมมันไปในทางออนไลน์เป็นส่วนใหญ่
การที่จะทำเกมให้ลงเฉพาะเครื่องนั้นจึงเป็นเรื่องที่เสี่ยงสูง
ผมก็พูดไม่ถูกว่าแนวทางของเกมเมอร์เดี๋ยวนี้จะเป็นแบบไหน
แต่หลักๆจะมาหากินเหมือนแต่ก่อนคงลำบาก
เกมเมอร์ที่ชอบเล่นออไลน์ส่วนใหญ่เขาไม่เล่นคอนโซลครับ แล้วคนเล่นคอนโซล์ส่วนใหญ่ก็ไม่เล่นออนไลน์ ชอบเล่นแบบเดี่ยวๆ เล่นในจบ ซึ่งเกมออนไลน์มันไม่มีตอนจบ คนไลน์คอนโซลหรือพีซีออฟไลน์ ส่วนใหญ่ก็เหมือนดูหนังสักเรื่อง เสพอาร์ท เสพเนื้อเรื่อง เสพความสนุก แต่เกมออนไลน์เน้นการแข่งขัน การเข้าสังคม การขึ้นไปเป็นแนวหน้าของสังคมเกม ซึ่งยอดขายเกมคอนโซลดังๆ ก็แตะล้านก๊อปปี้อยู่ตลอด
The Dream hacker..
แล้วแต่กลุ่มที่เจอนะครับ อย่างกลุ่มผมที่เล่น console ก็เล่นพวก FPS แบบ online กันเยอะ เล่นคนเดียวก็แป็บๆ คือเล่นเนื้อเรื่องกันจบก็เล่น co-op ผ่านมิสชั่น หรือ PvP ยิงกันเอง ทุกวันนี้บ่ายๆ เย็นๆ โดน invite ผ่านแอพ PSN ไปช่วยเล่นอยู่เรื่อยๆ ครับ ในกลุ่มก็ย้ายเกมไปมา ก็ไม่หนีจากแนวเดิม อย่าง Destiny เริ่มเบื่อๆ ก็มี R6 หรือ Division (หรือเกมแนวๆ นี้) มาแทรกให้เล่นกัน ก็ย้ายไปเล่นกันชักชวนไปก็เยอะ แต่ส่วนใหญ่คือมี co-op กันเพราะช่วยๆ กันยิง-ตีมอนกัน คอนโซนี่พอจับจุดหากลุ่มหาพวกได้ friend จะเริ่มมาครับ แรกๆ ก็เหงาๆ พอเข้ากลุ่มเท่านั้นแหละ มาเพียบครับ
ปล. ผมเล่น Destiny บน PS4 ในลิส friend เล่น FPS กันเยอะมาก
ปล2. ลิส friend ผมก็หลักร้อยกลางๆ อาจจะกลุ่มเล็กๆ แต่ก็พอเข้าใจบรรยากาศว่า co-op บน console คนเล่นมันก็พอสมควร หาเพื่อนยากช่วงแรกครับ เพราะไม่รู้จะเริ่มจากเกมไหนก่อน พอเริ่มหาได้นี่สบายครับ
ผมว่าแค่ประโยคแรกคุณก็ผิดแล้วนะ :p
@TonsTweetings
+1 ครับ
Console สายออนไลน์ก็มีครับ เยอะแยะ
Call of Duty Series, Battlefield Series, GTA Online, Need For Speed series, etc... almost games have multiplayer mode.
Get ready to work from now on.
และขั้นต่อไปของเครื่องเล่นเกม คือ แผ่น Blu-ray ที่ใหญ่ขึ้น เช่น 100 GB+ ครับ