Wall Street Journal ออกมาเตือนว่าฟองสบู่สตาร์ตอัพในสหรัฐ กำลังจะแตกในเร็วๆ นี้ แถมตอนนี้ยังมีบริษัทระดับ Unicorn (มูลค่าเกิน 1 พันล้านดอลลาร์) หลายแห่งเริ่มทยอยปลดคนออกแล้ว
WSJ พูดถึงกรณี ไตรมาสแรกปี 2016 ไม่มีบริษัทขายหุ้น IPO เลย แต่ในช่วงไตรมาสเดียวกัน การระดมทุนจาก venture capital กลับเพิ่มสูงเป็นประวัติการณ์ โดยอ้างมุมมองของ Keith Rabois นักลงทุนจาก Khosla Ventures ที่เคยผ่านฟองสบู่ดอทคอมปี 2000 มาก่อน (สมัยนั้นเขาเป็นผู้บริหารของ PayPal) ว่าสภาพการณ์คล้ายกัน คือนักลงทุนจะมีช่วง "ปฏิเสธความจริง" อยู่ประมาณ 3-4 เดือน เมื่อหมดช่วงนี้แล้ว ภาวะตลาดแตกจะเริ่มต้นขึ้น
Rabois ยังบอกว่าภาวะการระดมทุนนอกตลาดครั้งใหญ่ในช่วงนี้ เป็นสัญญาณเตือนภัยว่าบริษัทสตาร์ตอัพกำลังเร่งระดมทุนครั้งสุดท้ายก่อนฟองสบู่แตก (เขาใช้คำว่า Winter is coming) เพื่อถือครองเงินสดเอาไว้ก่อน ก่อนที่ฟองสบู่จะแตกและหาเงินลำบาก ตัวอย่างคือบริษัท Mixpanel เจ้าของระบบเก็บสถิติแอพ ระดมทุนมาได้ 77 ล้านดอลลาร์ แต่ใช้ไปเพียง 10% เท่านั้น เงินที่เหลือยังกองอยู่ในธนาคารด้วยซ้ำ
ที่มา - Wall Street Journal
Comments
หากแตกแล้วจะกระทบกับหุ้นอย่าง Google Facebook amazon ไหมนะ
3 รายที่คุณว่ามาตอให้รายได้เป็น 0 ซักปีก็อยู่รอดได้ครับ
มันมีค่าใช้จ่ายคงที่เยอะนะคับ ถ้ารายได้เป็น 0 ปีนึงเลย ผมว่าบริษัทล้มละลายได้เลย
โดยเฉพาะบริษัทที่ขายด้านบริการที่ส่วนมากจะมีรายได้แต่ละปีเยอะเกือบเท่าทรัพย์สินของบริษัท
อย่างเฟสก็มีทรัพย์สิน 1.7หมื่นล้าน มีรายได้ต่อปี 1.7 หมื่นล้านดอลเช่นกัน เป็นค่าใช้จ่ายซะ 1.35 หมื่นล้านดอล
นั่นแปลว่ารายได้เป็น 0 ไปปีนึงก็ปิดบริษัทได้เลย เพราะพวกทรัพย์สินถาวรมันเอามาจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายแล้วก็ไม่มีสถานที่ให้บริษัทรันต่อไปได้
ผมดันไปสับสนกับกำไร ซึ่งจริงๆ ผมจะบอกว่ากำไรเป็น 0 ครับ
winter is coming! ตามสมัยนิยมด้วยนะ ฮ่าๆๆ
มันจะกระทบมาถึงไทยมั้ยครับ?
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ไม่เหลือครับ ไปดูพวก MLM จะยิ่งหนักกว่านี้อีกครับ
ขยายเพดานหนี้ไปเรื่อย ๆ พิมพ์แบงค์ดอลล่าร์ออกมาเรื่อย ๆ ไม่มีวันเจ๊งหรอก
พูดแบบนี้ก็ไม่ถูกซะทีเดียวนะครับ ท่าทีของประเทศที่ไม่ใช่อเมริกาหลังหลังมาก็เริ่มระวังเงินยูเอสแล้ว ของที่มีมากมูลค่ามันจะลดลง ถ้าเมริกาผลิตแบงค์เข้าระบบมาเยอะจริงแต่ไม่มีทองหนุนเลยก็คงจะได้แต่เวลาแตกโป๊ะซะวันหละครับ
เหมือนยุคฟองสบู่ดอทคอมนั่นแหละ ทุ่มเงินลงทุนกับบ.ใหม่ๆเยอะ แต่สุดท้ายล้มหมดเหลือแค่รายที่แข็งจริงๆ
อย่างstartup ยุคนี้ หลายแห่งดูแล้วเป้าหมาย คือตั้งบ.ให้หวือหวา เปิดตลาดใหม่ๆที่ดูน่าสนใจ แล้วขายต่อแพงๆหรือเข้าตลาดหุ้น แต่ไม่ได้เน้นวางแผนดำเนินงานระยะยาวสักเท่าไร
Pebble?
น่าสงสัยอยู่เหมือนกัน เพราะช่วง2-3 เดือนนี้เห็น Pebble ปล่อยของทั้ง new ทั้ง refurbished ออกมาลดตัดราคาเยอะมากหลายระลอกจนน่าตกใจ ชนิดว่าถูกกว่าของมือ 2 ที่คนมาปล่อยขายอีก
ว่าจะสั่ง steel มาใส่เล่นสักเรือนแต่ดูอาการบริษัทแล้วกลัวจะไปไม่รอดจัง
ผมว่าก็สั่งไปสิครับ การทำงานนาฬิกามันไม่ได้ depend กับความอยู่รอดของบริษัทนิครับ อย่างมากสุดก็แค่โหลด watchface กับแอพใหม่ๆ ไม่ได้ก็แค่นั้น
อะไร ล้ำ ใน ตอนนี้ก็ จะหายไปอย่างรวดเร็ว ผม ชอบ นะ มีเยอะเกิน