Ensogo เว็บดีลรายใหญ่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ก่อตั้งโดยคนไทย ภายหลังขายให้ LivingSocial ปัจจุบันกลายเป็นบริษัทในเครือ iBuy มีสำนักงานอยู่ที่สิงคโปร์ และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ASX ของออสเตรเลีย) ระบุว่าปลดพนักงานไปเกินครึ่ง จาก 600 คนเหลือต่ำกว่า 300 คน สะท้อนสภาวะการเงินที่ย่ำแย่ของบริษัท
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เพิ่งมีข่าว พ่อค้าบน Ensogo มาเลเซียโวย ไม่ได้รับเงินหลังขายสินค้าไปแล้ว ล่าสุด Ensogo ส่งงบการเงินต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ของออสเตรเลีย ระบุว่าไตรมาสแรกของปีนี้ มีรายได้ 22.6 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หักค่าใช้จ่ายแล้วขาดทุน 11.2 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ปัจจุบันบริษัทมีเงินสดในมือ 17.6 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ถ้าสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไป และบริษัทไม่สามารถระดมทุนเพิ่มได้ ก็คงอยู่ไม่รอดไปจนถึงสิ้นปี
ที่มา - Tech in Asia
Comments
กะตัวเลยครับ เมื่อ 2-3 วันก่อน พยายามซื้อดีลนึง ใช้บัตร citibank ต้องรอ OTP มาก่อน แล้วกรอกใน 20 วิ ทำอยู่ 4 ครั้ง ไม่ผ่านสักครั้ง ลงทุนเขียนเมลไปถามทีม Support เพราะก่อนนี้เคยซื้อได้ ทีมงานตอบกลับมารวดเร็ว แบบแห้งๆ ประมาณว่า ไปถาม citibank เอาเอง ... จบ ลา บาย ..
my blog
ตอนนี้ก็แทบไม่มีดีลอะไรน่าสนใจอะไรเลย มีแต่สินค้าจากจีนอะไรไม่รู้มาเต็มไปหมด
เมื่อก่อนซื้อดีลร้านอาหารบ่อยมาก
ผมเข้าไปดูปีที่แล้ว และดูฟีดแบคจากที่ต่างๆ ก็ไปในทางแง่ลบเสียมากกว่า
แปลกใจว่าทำไม เวลาสัมภาษณ์และออกสื่อต่างๆ อวยกันจังเลย
ensogo ออกดีลร้านอาหารเยอะครับ แล้วมันใช้ได้จริงๆ ด้วย ราคานี้มาแบบถูกลงไป 50% เลย ไม่แปลกใจเลยที่จะเจ๊ง
ตัวเว็บไม่มีต้นทุนราคาอาหารนะครับเขาหักหัวคิวเอากับราคาลด50%นั่นแหละครับ สิ่งที่ทำให้ ensogo และเว็บดีลอื่นๆกำลังจะเจ๊งคือความนิยมในการซื้อดีลที่ลดลงจากความก้าวหน้าด้านการโฆษณาผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตของผู้ประกอบการมากกว่านะครับที่มีทั้งพวกขายแบบ lazada ที่มีระบบซื้อขายดีกว่า การโฆษณาผ่านเฟซบุคของร้านที่ขายบริการ และคู่แข่งอื่นๆเช่น eatigo วงใน ทำให้เว็บดีลที่เคยหารายได้จากการเป็นพ่อค้าคนกลางของการค้าด้านสินค้าและบริการโดนลดความสำคัญลงอย่างมากครับ และแก้ยากมากด้วยเพราะโมเดลธุรกิจขายดีลมันไม่เวิร์คแล้วต้องปรับแบบพลิกตัวแบบ180° เลยมั้งครับถึงจะรอดได้ สมัยก่อนผมก็ซื้อดีลบ่อยนะครับโดยเฉพาะพวกอาหารแต่รู้สึกว่าคุณภาพไม่ดีอย่างที่หวังเลย โดยเฉพาะกับ ensogo เจอแย่ๆหลายครั้งเลย ซึ่งก็ไม่แปลกคุณไปให้เขาลดราคาตั้งครึ่งแถมไปหักหัวคิวอีก ร้านค้าบางทีก็คงไม่ค่อยเต็มใจ สุดท้ายก็เลิกซื้อไปเลย
ผมเคยเจอสองเคสครับ ซึ่งไม่บอกว่าเป็นของเจ้านี้หรือไม่
อันแรกต้องแจ้งสิทธิ์ให้ทางร้านก่อน (ร้านจะได้ไปลดคุณภาพอาหารหรือลดผักลดหมูก็แล้วแต่) จึงได้บริการเหมือนไม่ได้ดีล
อันที่สอง ซื้อดีลไม่สามารถคัดเกรดลูกค้า บางท่านได้ดีลดีๆ จากโรงแรมหรู แต่พอไปโดนสกรีน โดยบอกว่าหมดดีลหรือใช้ไม่ได้ตอนนี้ (เขามองการแต่งตัวและรสนิยมที่ดูแล้วอาจจะเสียภาพลักษณ์ต่อลูกค้าคนรวยๆที่มองมา เพราะคนได้ดีลบางครั้งไม่ได้เป็นกลุ่มเป้าหมายของทางโรงแรม) เสียความรู้สึก
หรือมีอีกหลายกรณีเช่น บางร้านอยากขายดี ก็ดีลเอาลูกค้า พอลูกค้ามาเยอะๆ ทำไม่ทัน ของหมด ก็เสียอีก
ธุรกิจดีลอาจจะดีในต่างประเทศ แต่บ้านเราอาจจะใช้ได้แค่ไม่กี่%
ถ้าประเทศไทย ต้องเรียนรู้จากอิชิตันในการเข้าถึงนิสัยคนไทย เขาทำได้ถูกจริตว่าต้องทำอย่างไร
ถ้าบุกไปเลยก็มีสิทธิ์ถูกปฏิเสธจริงๆ ครับ บางทีมันมีเงื่อนไขประกอบด้วยว่าห้ามใช้ในวัน.... พิมพ์ไว้ตัวเล็กๆ อ่ะ
สมควรเจ๊งไปนานแล้วครับ ควบคุมคุณภาพของดีลไม่ได้เลย ลูกค้ามีปัญหาในการใช้ voucher มากมาย เจอแย่ๆครั้งเดียวก็ลาดขาดแล้วครับ
ลาก่อย
ดีลก็ยังอยู่นะครับ เพราะล่าสุดผมเองเพิ่งได้รับสินค้า โดยปกติก็ซื้อดีลร้านอาหารเป็นประจำผ่านเว็บนี้ ยังเสียดายดีล maisen อยู่เลยซื้อสาขาสีลมไม่ทัน เท่าที่ผมใช้บริการมาดีลร้านอาหารก็เหมือนเดิม ซึ่งบางครั้งต้องโทรถามโทรจองครับ ส่วนสินค้าผมมองว่าเปลี่ยนไปจนสังเกตได้ จากเมื่อก่อนเหมือนเอ็นโซโก้จะเป็นคนขาย แต่เดี๋วนี้เหมือนเป็นระบบร้านค้าลงขายสินค้าเองคล้ายๆลาซาด้าเลย มีสินค้าจากต่างประเทศด้วย
สมควร น่าจะเจ๊งไปซะตั้งนานแล้ว สมัยยังรุ่งๆนี่โคดหยิ่ง เคยไปรับของที่ บ.มันครั้งนึง ต้องอย่างโน้นนะ อย่างนี้นะ ไปถ่ายเอกสารบัตรมานะ ไม่มีก็ไล่ส่ง คิวก็รอไปสิเป็นชั่วโมง ดีลของร้านก็ไม่มีระบบ ใช้แต่ละครั้งวุ่นวาย เชียร์ให้เจ๊งไปเร็วๆเลยดีแล้ว
1 ดอลลาร์ออสเตรเลีย = 25 บาท
ไตรมาสแรก
ขาดทุน 11 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย = ขาดทุน 280 ล้านบาท
อ้าวไม่ได้ขาดทุนอยู่แล้วหรอครับ
ทำคลินิกอยู่แล้ว มีensogo มาติดต่อ ชวนให้ไปลงดีลขาย
แต่ ensogo บัฃคับกำหนดราคา botox, filler มาให้เลย
ซึ่งราคาที่กำหนด พูดตรงๆ ว่าราคาต่ำกว่าต้นทุนยาอีก นี่ยังไม่รวมค่าหมอค่าพนักงาน ค่าเช่าที่ ต่างๆ
และทิ้งท้ายว่า ราคานี้ จะขอหัก commission อีก 45%
(คลินิกที่ขายโบทอก ผ่าน ensogo ได้ ผมกล้าพูดเลย ว่าฉีดน้ำเกลือให้มากกว่ายา แน่นอน)
ทีมเซลทีมา deal อ่อนประสบการณ์ไปครับ คือ มา fix ราคาต่ำๆ หักค่าคอมเรียกได้ว่าเกือบครึ่ง แต่ทิ้งท้ายว่าได้โปรโมตร้านบน Ensogo ประดุจดั่งเป็นของวิเศษ ใครก็คิดได้ ถ้าโดนกดราคาขาย โดนหักค่าคอม แบบคำนวนแล้ว ขาดทุน สู้เอาเงินไปโฆษณาเองไม่ดีกว่าเหรอ
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
เห็นเค้าให้ลงประกาศขายฟรีอยุ่3เดือน ก็ลงไปขาย แล้วก็ขายได้นะคะ(ค่อนข้างเยอะ) และก็จ่ายเงินตามปกตินะ แต่เห็นเค้าเริ่มเก็บเงินค่าขายสินค้าเมื่อไม่กี่วันมานี้เอง ต้องคอยดูต่อไปว่าจะยังไง
ในฐานะที่เราเป็นผู้บริโภค เราไม่ได้แคร์เรื่องของการขาดทุนของ ensogo เลย เพราะทุกวันนี้ที่เข้ามาซื้อดีลก็ได้ราคา
ที่ถูกกว่าหน้าร้านมากครับ เรามองในมุมผู้บริโภคนะ อันใหนถูกกว่าก็ซื้อ บริการดีก็ซื้อ
ส่วนเรื่องผลประกอบการ เราไม่รู้หรอกครับว่า ensogo วางแผนกลยุทธ์อะไรไว้ บริษัทออนไลน์สมัยนี้มีเยอะ คู่แข่งใหญ่ๆก็มีเยอะ
จะให้ได้กำไรกันทุกบริษัทเลยก็คงยากครับ ต้องใช้เวลา....รอดูกันต่อไปครับ
แต่ผมกลับมองว่าเว็บดีลตอนนี้แทบจะไม่มีเจ้าไหนที่เรียกว่าคู่แข่งใหญ่ๆ ได้เลยครับ ขนาดต้นตำรับอย่าง Groupon ยังพับฐานไปแล้ว
มีของมีคุณค่าแต่มำค้าขายไม่เป็นเอง